ตอนที่ 87 ทรยศ
ตามคำสั่งฉีกังเลี่ย ผู้อาวุโสทั้งเก้าดีดตัว แรงกดดันมหาศาลกดทับสองพี่น้องซ่งจนตัวแข็ง ไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย แต่จั๋วฝานกลับยิ้มขณะพลิกโต๊ะ
บูม!
ท่ามกลางผู้ที่กระโจนมา ไม่มีเงาของจั่วฝานอยู่เลย
ผู้อาวุโสกวาดตามองอย่างตื่นตะลึง
“ฮี่ๆๆ ข้าอยู่นี่!”
เสียงหัวเราะดังจากด้านหลัง พวกเขาไม่มีเวลาหันไปขณะที่กะโหลกของผู้อาวุโสคนหนึ่งระเบิดเป็นละอองเลือด
จั๋วฝานปัดมือ“คนแรก!”
ผู้อาวุโสพูดไม่ออกจากพลังที่จั๋วฝานแสดง เขาอยู่ระดับเดียวกับพวกเขาและโดนโจมตีจากทุกทิศทาง แต่ก็ยังฆ่าคนได้
“ข่าวลือเป็นจริง เจ้าเป็ฯสัตว์ประหลาด ไม่แปลกใจที่ผู้อาวุโสเจ็ดจะตายด้วยน้ำมือเจ้า”ดวงตาของฉีกังเลี่ยสั่นไหวขณะจ้องจั๋วฝานด้วยความกลัว
จั๋วฝานดูถูกเขา“และเจ้าก็ยังเลือกโจมตี!โหยวหมิงกู่ไม่สามารถรั้งข้าได้ และเจ้าก็คิดว่าเจ้าจะทำได้?”
“ฮี่ๆๆ โชคลาภเป็นของผู้กล้า ยิ่งอันตรายสูง รางวัลยิ่งสูง”ฉีกังเลี่ยแสยะยิ้มขณะพุ่งมาด้วยใบหน้าคลุ้มคลั่ง ภาพของเสือปรากฏด้านหลังเขา
“วิชายุทธ์ระดับจิตวิญญาณขั้นกลาง หมัดพยัคฆ์!”
โฮก!
ภาพของเสือสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของฉีกังเลี่ย แต่จั๋วฝานกลับยืนนิ่งแค่นเสียงและชกหมัดออกไป
ปัง!
เกิดเสียงดังทำร้ายหูและสองพี่น้องตระกูลซ่งก็ถูกบังคับให้ขดตัวกับพื้นขณะเอามือกุมหัว
เสือผลักจั๋วฝานไปไกลสิบเมตร ขาของเขาลากไปกับพื้นขณะที่ตัวเสือเองเปลี่ยนเป็นอนุภาคพลังงานสีทองและหายไป
จากนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขณะที่ฝ่ามือของฉีกังเลี่ยฉีกขาด
“ท่านผู้นำ!”ผู้อาวุโสร้องอย่างตื่นตระหนก แต่ผู้นำกลับจ้องจั๋วฝานด้วยความกลัว
[บัดซบ เขาเป็นตัวประหลาดอะไรกัน?ทำไมตัวเขาถึงแข็งขนาดนี้?]
จากการปะทะ เขารู้ว่าเขาได้เปรียบในแง่พลังปราณ แต่ร่างกายของจั๋วฝานแข็งเหมือนหินราวกับมันหอลมจากอาวุธจิตวิญญาณ!
“เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่?”ฉีกังเลี่ยหอบหายใจ“เจ้ามันไม่ใช่มนุษย์!”
จั๋วฝานแสยะยิ้ม“มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า”
จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้า ท่าเท้าวิญญาณลี้ลับ!
เขาปรากฏตัวตรงหน้าผู้อาวุโสสามคน โจมตีก่อนพวกเขาจะได้ตอบสนอง ฝังหมัดเขาลงหน้าอกทั้งสาม
ผู้อาวุโสยังสนใจสิ่งที่เกิดกับมือของผู้นำตระกูลพวกเขา แต่ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าปีศาจน้อยตัวนี้ไม่ใช่มนุษย์
มันจะไปหามนุษย์ที่สามารถชกทะลุตัวผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกสามคนได้จากไหน?
พี่น้องตระกูลซ่งตะลึงงัน แม้จะพอรู้ถึงความสามารถของจั๋วฝาน แต่นี่ก็เกินกว่าที่วาดฝันไว้มาก พลังของจั๋วฝานทำให้เขาเหนือกว่าแม้จะโดนยอดฝีมือล้อม แถมยังฆ่าพวกเขาเป็นเหมือนผักปลา
นี่คือพลังที่เหนือกว่าแบบสิ้นเชิง!
ทุกคนที่นี่ต่างมองเขาด้วยใบหน้าดำมืด
“จั๋วฝาน ข้าบุ่มบ่ามและมั่นใจเกินไป ได้โปรด ถือว่าเห็นแก่เฉียนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี่ ปล่อยเราไปเถอะ เรารับปากว่าจะไม่ไปยุ่งกับเจ้าอีก”
ฉีกังเลี่ยรู้ว่าเรื่องราวมีแต่จะแย่ลง แต่ทว่า จั๋วฝานไม่ใช่คนที่ยอมใจอ่อนตอนเป็นเรื่องการลงทัณฑ์ศัตรู เขาเยาะเย้ย“ผู้นำตระกูลฉี ข้าเตือนเจ้าสองครั้งติด และสำหรับสองคนนั้น”
จั๋วฝานหันไปมองสองพี่น้อง“ในเมื่อพวกมันทรยศ แล้วมันจะไปมีค่าอะไร?ฉีกังเลี่ย เจ้ากำลังดูถูกข้า เจ้าคิดว่าข้าจะห่วงใยสองคนนั้นมากหรือไร?”
ซ่งเฉียนกับซ่งอวี่รู้สึกเสียใจ
“ลั่ว อืม ไม่สิ น้องชายจั๋ว เราโดนบังคับ ได้โปรด..”
“หุบปาก!”จั๋วฝานพูดขัดซ่งเฉียนด้วยน้ำเสียงเย็นชา“การกระทำดังกว่าคำพูด ไสหัวไปซะ!อย่าให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก”
ซ่งเฉียนเม้มปาก ลดหัวลงด้วยความเสียใจขณะที่ซ่งอวี่ถอนหายใจ
ฉีกังเลี่ยเห็นว่าจั๋วฝานไม่เต็มใจประนีประนอมและระเบิดความโกรธ“จั่วฝาน เจ้าจะต้องเสียใจที่เอาตัวเองมาต่อกรกับทั้งตระกูลของข้า!”
“โอ้ ข้าอยากเจอ ไหน มีอะไรลองงัดมาสิ?”จั๋วฝานหัวเราะเยาะ
ใบหน้าของฉีกังเลี่ยสลับไปมาระหว่างเขียวกับขาว เขากัดฟันแน่น“ผู้อาวุโส ประสานพลัง!”
“ขอรับ ท่านผู้นำ!”
ผู้อาวุโสที่เหลืออีกห้ากระโดดใส่จั๋วฝานพร้อมกัน แต่ละคนเตรียมใจตาย ใช้กระบวนท่าที่รุนแรงสุดของพวกเขา
จั๋วฝานรู้ว่าพวกเขาอยากแลกชีวิต แต่มันไม่นับเป็นอะไร พร้อมกับเสียงเปรี้ยง สายฟ้าระเบิดออกมาและปีกของเขาก็สยายออก
กระบวนท่าของผู้อาวุโสทั้งห้ายังไม่ทันเสร็จก่อนพวกเขาจะโดนแยกเป็นสองส่วน ย้อมพื้นให้เป็นสีแดง
“ฮึ่ม ขยะ”จั๋วฝานแค่นเสียง
ซวบ!
ทันใดนั้น เส้นแสงสีฟ้าก็พุ่งใส่จั๋วฝาน
จั๋วฝานพบว่าฉีกังเลี่ยกำลังแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาใช้ผู้อาวุโสเป็นเหยื่อเพื่อปลดปล่อยกระบวนท่าสังหารที่แท้จริงของเขา นั่นคือมีดเล่มนี้
[เจ้าคิดว่าเจ้าจะล้มข้าได้ด้วยลูกไม้กระจอกพรรค์นี้?]จั๋วฝานแค่นเสียงขณะบิน แต่ตอนนั้นเอง เสียงร้องกลับดังขึ้นตามด้วยร่างบอบบางที่พุ่งมาตรงหน้าเขา
“ระวัง!”
จากนั้นเลือดก็สาดกระเซ็น และซ่งเฉียนก็ยืนโซเซขณะที่เลือดดำไหลออกจากปาก
“พี่!”
ซ่งอวี่ร้องคร่ำครวญขณะรีบวิ่งมารับร่างของนาง แต่ซ่งเฉียนกลับมองแค่จั๋วฝาน พยายามรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือเพื่อขอโทษเขา
“ขออภัยให้เราด้วย เราไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้!’
จั๋วฝานถอนหายใจ
“นังแพศยา เจ้าทำลายแผนของข้า!ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เมื่อแผนของเขาโดนขัดขวาง ฉีกังเลี่ยก็ระเบิดความโกรธและพุ่งใส่สองพี่น้อง
จั๋วฝานแค่นเสียง สะบัดปีกเหมือนดาบ
ในชั่วพริบตา ฉีกังเลี่ยก็หยุดและล้มลงเป็นชิ้น ๆ อวัยวะกับเลือดไหลทะลักออกมา
ยอดฝีมือตระกูลฉีแตกพ่าย!
จากนั้นจั๋วฝานก็เริ่มตรวจสอบแผลของซ่งเฉียน เขาสังเกตมีดที่ปัดบนไหล่นาง และเห็นเลือดดำไหลซึมออกมารอบๆใบมีด
เขาดึงมันออกมาและขมวดคิ้ว“มันมีพิษ”
“พิษ?”ซ่งอวี่เริ่มโวยวายและแทบร้องไห้“มันต้องเป็นหนึ่งในพิษประจำตระกูลฉี ข้าจะไปตรวจสอบคลังพวกเขาเพื่อดูว่าพวกเขามียาแก้พิษไหม พี่สาว ท่านต้องอดทน”
ซ่งอวี่ปาดน้ำตาและลุกขึ้น
“รอเดี๋ยว!”จั๋วฝานกระโดดขึ้นเพื่อหยุดซ่งอวี่แต่มีมือบอบบางจับแขนเขาไว้ เขาก้มมองซ่งเฉียนที่นอนหน้าซีด
“อย่าไป!”เสียงแผ่วเบาของซ่งเฉียนดังขึ้น
จั๋วฝานพยักหน้าและทำให้นางมั่นคงโดยวางฝ่ามือไว้บนหลังนาง“เอ่อ ข้าแค่อยากบอกน้องชายเจ้าว่าพิษนี้สามารถอนได้ด้วยพลังปราณ”
“ฮ่าๆๆ เขามักหุนหันพลันแล่น ไม่เหมือนเจ้า”
รอยยิ้มอ่อนประดับบนหน้าเสื่อมโทรมของซ่งเฉียนและมือบอบบางของนางก็แตะเขา ดวงตาวาววับคู่หนึ่งจับจ้องเขาด้วยสายตามุ่งมั่นที่ทำให้จั๋วฝานตกใจ เขารู้สึกราวกับว่าพวกเขากลับไปอยู่ในรถม้า
ด้วยความกังวลถึงสภาพของนาง เขาจึงรีบถอนพิษ
แต่ทว่า เมื่อปราณของเขาเข้าสู่ร่างกายนาง เขากลับพบปัญหา“ทำไมข้าถึงหาแหล่งพิษไม่เจอ?”
สิ่งนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้น ตามประสบการณ์ของเขา มีสองเหตุผล หนึ่ง เพราะนางไม่เคยได้รับพิษ และสอง พิษประเภทนี้ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยพลังปราณ
เขาพบว่าสภาพของซ่งเฉียนยิ่งย่ำแย่ลงและตัดสินใจ
ในเมื่อปราณไร้ประโยชน์ วิธีที่สองจึงเป็นการสกัดพิษออกมา
แต่ตำแหน่งของแผลอยู่ใกล้กับหน้าอกนาง ซึ่งทำให้ยากที่จะไม่ล่วงล้ำศักดิ์ศรีนาง
[นี่น่าอึดอัดชะมัด..]