ตอนที่ 206 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (2)
ตอนที่ 206 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (2)
หิมะที่ค้างอยู่ตามใบสนหล่นลงดัง ตุบ! ไม่หยุด ตามมาด้วยการกระพือปีกของซอมบี้ปีกจำนวนมหาศาลพัดโหมกระหน่ำทั่วบริเวณที่พวกเขาอยู่
แรงลมทำให้ใจของใครหลาย ๆ คนหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่พอเห็นแผ่นหลังของประธานไนเรลแล้วพวกเขาก็รู้สึกว่าทุกอย่างจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน
ไนเรลที่ซึ่ง ณ ขณะนี้กำลังหรี่ตามองภาพตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร
“ซอมบี้ปีกระดับ 5 และดูเหมือนจะมีซอมบี้สติปัญญาอยู่ด้วย ไม่คิดว่าจะได้เจอกับซอมบี้สติปัญญาที่เกือบจะบรรลุระดับ 6 อยู่ ดูเหมือนมันจะออกล่ามนุษย์ชั้นสูงเพื่อเลือนระดับอยู่ แต่แกคงจะเป็นซอมบี้สติปัญญาที่โชคดวงไม่ดีเอาซะเลย...” ไนเรลมองมันด้วยสายตาที่เป็นประกาย
แม้คำบัญชาเผ่าพันธุ์ของเขาจะยกระดับเป็น S แล้ว แต่ก็ใช่ว่ามันจะยกระดับต่อไม่ได้ ถึงแม้แค่ซอมบี้สติปัญญาตัวนี้ตัวเดียวจะไม่พอ แต่ถ้ากินไปเรื่อย ๆ สุดท้ายมันก็จะเพียงพอเอง
ไนเรลไม่รีรอบินตรงเข้าไปกลางฝูงซอมบี้ปีกในทันที ซอมบี้ปีกที่บินเป็นฝูงหลายหมื่นปิดบนท้องฟ้าจนมืดมิดราวกับพายุ ตรงกลางพายุฝูงซอมบี้ปีกมีซอมบี้สติปัญญาอยู่
มันเองก็มีปีกอยู่บนหลังเช่นกัน
เมื่อมันเห็นว่ามีมนุษย์ที่กล้าท้าทายมันอยู่ก็สั่งให้ซอมบี้ปีกทั้งหมดตรงเข้าไปจัดการชายคนนั้นทันที
ไนเรลที่รอเวลาอยู่แล้วก็โบกสะบัดมือควบคุมใบมีดวารีเฉือนร่างหันปีกซอมบี้ปีกที่เข้ามาใกล้เขา
ตัวไหนที่ฆ่าไม่ได้ ไนเรลก็จะทำให้มันบินไม่ได้ ซึ่งก็ได้ผลทำให้มีซอมบี้ปีกหล่นลงไปกับพื่นมากขึ้น
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะมีซอมบี้ปีกเยอะเกินไป แบบนี้เขาก็ต้องเสียเวลามากในการฆ่าพวกมันทั้งฝูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในป่าของทวีปฟาบีออสที่ไม่รู้ว่าจะมีตัวอะไรโผล่มาเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยหรือไม่
ไนเรลยืนมือเข้าไปในเงาหยิบบางอย่างออกมามันคือค้อนที่เขาเคยขอให้เมสันสร้างขึ้นมาจากโหนกบนหัวของนกชนหิน
ตัวค้อนขนาดมหึมาหลอมรวมกับด้ามจับโลหะพิภพที่ใหญ่เท่าท่อนขา ไนเรลจะจับมันได้ถนัดเขาจึงต้องเปลี่ยนร่างเป็นอมนุษย์จระเข้สายฟ้าเกราะเหล็ก สูง 6 เมตร และมีเกราะดำหุ้มอีกชั้น
มันถึงจะทำให้ไนเรลใช้งาน ค้อนชนหินนี้ได้ถนัด
“นั้นมันอะไรกัน” ซอมบี้สติปัญญาตกตะลึกกับอาวุธของไนเรล ตอนนี้มันเริ่มกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว
“โถมลงไปทีเดียวเลย จัดการฉีกมนุษย์นั้นซะ แต่อย่าให้เละเกินไปข้าต้องการกินเนื้อมัน”
“หึ แกประเมินตัวเองสูงเกินไป” ไนเรลออกแรงด้วยความพละกำลัง 50 เท่าเหวี่ยงค้อนชนหินเข้าฟาดใส่ฝูงซอมบี้ปีกที่หลับหูหลับตาบินเข้ามาตามคำสั่งของซอมบี้สติปัญญา
ฟีดดด…ปัง!!!
ค้อนชนหินที่เคลื่อนที่ผ่านอากาศจนเกิดเสียงฟาดเข้าใส่ร่างซอมบี้ปีกมากกว่า 100 ตัวแหลกเละ เหมือนแมลงเฝ้าที่ชนกระจกหน้ารถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
เลือดของซอมบี้ปีกกลายเป็นฝนโลหิตหยดลงจากท้องฟ้า ขณะที่คนของสมาพันธ์นักล่ายกมือขึ้นเช็ดเลือดออกจากหน้า และไล่ฆ่าซอมบี้ปีกที่ตกลงมาไม่ตาย
พวกเขายังระวังซอมบี้ปีกระดับ 5 ที่มักลอบโจมตีอยู่ด้วย ซึ่งส่วนใหญาจะโดนมะลิและธีโอจัดการ ทำให้ไนเรลไม่ค่อยเป็นห่วงคนข้างล่างมากนัก จึงสู้ได้อย่างเต็มที่
ไนเรลโจมตีด้วยค้อนชนหินใส่ซอมบี้ปีกจนฝูงของพวกมันที่ในตอนแรกเหมือนเมฆครึมตอนนี้ตายไปกว่าครึ่ง
ซอมบี้สติปัญญา เริ่มนั่งไม่คิดแล้ว ดูเหมือนมันจะดูถุกมนุษย์คนนี้มากเกินไป “ผู้สงสารที่กลับมาจากเมืองซอมบี้ที่ไทกีล่าบอกว่ามีมนุษย์คนหนึ่งที่มีระดับ 5 สามารถสังหารซอมบี้ข้ามขั้นได้ อีกทั้งยังเป็นผู้นำมนุษย์ นั้นคือเจ้าใช่ไหม”
“แกคิดว่ายังไงละ” ไนเรลมองไปที่มันราวกับว่ามองสิ่งที่ตายไปแล้ว แต่ในใจเขาก็พอจะเดาได้ว่าซอมบี้ตัวนั้นน่าจะเป็นผู้สงสารที่อยู่เมืองหลวงเก่าไทกีล่า
“บัดซบ ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ท่านจักรพรรดิบอกว่าถ้าสามารถฆ่าเจ้าได้จะได้รางวัลที่ไม่อาจจะจินตนาการได้ วันนี้เจ้าต้องตาย” ซอมบี้สติปัญญาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
มันสั่งให้ซอมบี้ปีกทั้งหมดจู่โจมไนเรล
ไนเรลตรงเข้าหาซอมบี้สติปัญญา โดยไม่สนใจซอมบี้ปีก แต่พอเขามาใกล้มันซอมบี้สติปัญญา กลับไม่ได้เข้ามาจัดการเขาอย่างที่มันพูด แต่มันกลับหันไปเล่นงานคนข้างล่างแทน
“ฮ่า ๆ ๆ เจ้ามนุษย์คิดว่าข้าโง่สู้กับเจ้าอย่างนั้นหรือ รอข้ากินพวกมันและเลื่อนเป็นระดับ 6 เสียก่อนเถอะและตอนนั้นข้าจะไปจัดการกับเจ้า” วอมบี้สติปัญญาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าขยะแขยง
ตอนนี้มันอยู่ด้านล่างเกือบที่จะถึงกลุ่มมนุษย์ชั้นสูง ส่วนไนเรลนั้นกำลังพัวพันต่อสู้อยู่กับซอมบี้ปีก
“เริ่มจากเจ้าก่อนเลยแล้วกันเจ้าสัตว์ตัวเล็ก” ซอมบี้ปีกยืนมือออกไปคิดจะคว้าตัวของแมวน้อยมากิน
“เมี้ยว...มี้ (ไม่...นะ)” มะลิก็ดูจะตกใจ
ในตอนนั้นเองซอมบี้สติปัญญาก็เห็นเจ้าคาปิบาร่าธีโอที่มีมะลิอยู่บนหัวถอยหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งอันที่จริงธีโอไม่ได้เร็ว แต่เพราะซอมบี้มันช้าเกินไป
แต่กว่ามันจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
ไนเรลปาค้อนใชฝูงซอมบี้ปีกจนพวกมันบี้แบนติดค้อนกระแทกลงดินเปิดเป็นช่องโหว่ให้ไนเรลตรงเข้าหาซอมบี้ปีกที่มีแต่สีหน้าแววตาหวาดหวั่น
มันไม่เข้าใจ และแม้แต่ตอนนี้ตอนที่ไนเรลจัดการกลืนมันเข้าไปทั้งตัวก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
มันระวังตัวมาก เพราะมันรู้ว่าไม่สามารถสู้กับไนเรลด้วยระดับ 5 ของมันได้ มันจึงคิดว่าจะพัฒนาไประดับ 6 ก่อน ซึ่งตอนนี้มันอยู่ห่างจากขั้นนั้นไม่มาก ขอแค่กินมนุษย์กลุ่มนั้นจนหมดมันก็พัฒนาระดับได้ทันที
และมันเลือกจะโจมตีเจ้าตัวที่น่าจะอ่อนแอที่สุด แต่ทำไมมันกับพลาดท่าตกอยู่ในสถานการแบบนี้ได้
ไนเรลที่กัดร่างของซอมบี้สติปัญญาด้วยฟันน่าสยดสยองของร่างจระเข้สายฟ้าเกราะเหล็กลงไปในท้องได้อย่างง่ายดาย
ร่างของซอมบี้ที่ทนทานมากจนเมื่อก่อนเขาต้องระเบิดพวกมันจากภายใน แต่ตอนนี้พอระดับของเขาสูงกว่าและเสริมด้วยความสามารถกลายร่างระดับสูงก็สามารถฉีกกระชากร่างซอมบี้สติปัญญาระดับ 5 ได้อย่างง่ายดาย
“จะโทษก็โทษที่แกตายแล้วไม่ยอมตายซะเถอะ พัฒนามาถึงระดับนี้ได้ คงมีมนุษย์หลายหมื่นโดนแกกินสินะ วันนี้ฉันจะกินแกทั้งเป็นเหมือนกับที่แกทำกับคนพวกนั้น”
เลือดเนื้อที่ถูกฉีกทีละชิ้นมันช่างโหดร้ายเป็นอย่างมาก พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนตายไปทั้งอย่างนั้นของซอมบี้สติปัญญา
ไนเรลอยากจะให้พวกซอมบี้ได้รับรู้ถึงความหวาดกลัวแบบเดียวกับมนุษย์ที่โดนพวกมันกินทั้งเป็น
อ๊ากกก อ๊ากกก....
เสียงร้องของซอมบี้สติปัญญาแหบแห้งจนค่อย ๆ หายไป ซอมบี้ปีกที่บนอยู่บนท้องฟ้าต่างก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น สำหรับพวกมันแล้วซอมบี้สติปัญญาเหมือนกับราชา
มันตรงเข้าหาไนเรลไม่คิดชีวิต แต่ไนเรลที่เต็มไปด้วยเลือดเหนี่ยว ๆ และเศษเนื้อทั้งตัว ซึ่งมาจากซอมบี้ ก็ตรงเข้าฆ่าพวกมัน
ซอมบี้ปีกพยายามใช้กรงเล็บแหลมคมจิกเฉือนไนเรล แต่มันก็ไม่สามารถผ่านเกราะดำเข้ามาได้ มันไม่แม้แต่ทิ้งรอยอะไรไว้เลย
ข้างบนโดนไนเรลฆ่า ตกลงมาโดนคนของไนเรลฆ่าทิ้งอีกเช่นกัน ชตากรรมของซอมบี้ปีกฝูงนี้จบสิ้นลงแล้ว แต่แน่นอนว่าไม่มีใครสงสารพวกมันแม้แต่น้อยโดยเฉพาะมนุษย์อย่างพวกเขา
ตอนนี้ไนเรลลอยตัวอยู่เหนือพื้นดินสองเมตรมองซอมบี้ปีกที่ตัวไหนยังไม่ตายก็จะจัดการยิงใบมีดวารีผ่าครึ่งพวกมันทันที
พื้นดินรอบระยะ 1000 เมตรแต่เดิมที่เป็นหิมะสีขาว ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีดำของเลือดซอมบี้ มีเศษเนื้อ อวัยวะกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
รอบ ๆ ยังมีซากต้นสนใหญ่ที่หักโค่นอยู่ให้เห็นจำนวนมาก คนของเขาบางส่วนเอาซากไม้พวกนั้นมาจุดไฟเพื่อไล่ความหนาวออกไป
ไนเรลหยิบแก่นพลังงานระดับ 5 ออกมาสามชิ้นกินลงไป แม้ฝูงซอมบี้พวกนี้จะจัดการได้ง่าย ๆ แต่การสู้เกือบ 1 ชั่วโมงเพราะต้องตามฆ่าซอมบี้ปีกทั้งฝูงก็ทำให้ใช้พลังงานเกือบครึ่ง
ในตอนนั้นเองก็เกิดเสียงดังฟึบ! พร้อมกับฝีเท้าเดินจำนวนมากเดินมาทางพวกเขา
ไนเรลหันไปมองด้วยดวงตาสีเหลืองของสัตว์เลื้อยคลาน ก็เห็นยักษ์เถื่อนใส่เกราะเต็มที่หลังมีผ้าคลุมหนังสัตว์ ในมือแต่ละตนถือดาบยาว ค้อน ขวานสองคม และแม้แต่หน้าไม้ก็มี พวกมันมีอยู่ 100 กว่าตนเห็นจะได้
ไนเรลแสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรออกมาในทันที
ทหารยักษ์เถื่อนพวกนั้นเมื่อเห็นไนเรลก็ดูจะระวังตัวกันขึ้นมาทันที ทั้งหมดยกอาวุธขึ้นมาเตรียมสู้กับไนเรล
แต่ในตอนนั้นสายตาของยักษ์เถื่อนกลุ่มนั้นก็หันไปเห็นคนของสมาพันธ์นักล่าก็หันไปพูดบางอย่าง ไนเรลรู้ว่าพวกมันพูดว่าอะไรก็ดูจพแปลกใจกับท่าทีของยักษ์เถื่อนกลุ่มนี้
ไนเรลจึงรอดูท่าทีของมันไปก่อน แต่เขาก็กวาดสายตาเพื่อหาว่ามีการซุ่มโจมตีจากอัศวินยักษ์เถื่อนระดับ 6 หรือไม่
“พวกเจ้าใช่คนของสมาพันธ์นักล่าหรือไม่” ทหารยักษ์เถื่อนตนหนึ่งที่มีรอยสักที่แก้มขวาก้าวมาข้างหน้าและพูดด้วยภาษายักษ์เถื่อน แต่เห็นท่าทีงงของมนุษย์มันก็หันไปมองยักษ์เถื่อนในกลุ่ม
“ดูเหมือนพวกเขาจะฟังที่พวกเราพูดไม่รู้เรื่อง”
“มนุษย์พวกนี้คงไม่รู้ภาษาของพวกเรา”
“ไปพามนุษย์พวกนั้นออกมาก็แล้วกัน”
พวกมันพามนุษย์สามคนออกมาจากกลุ่มซึ่งพวกเขาก็ กลุ่มโนเนทสามคนคือ วินเอล เวลด้า และสุดท้ายวินา
พวกเธอไม่ได้รับอันตรายอะไร แม้จะมีร่องรอยการบาดเจ็บบ้างก็ตาม
“พวกข้ามาเพื่อช่วยมนุษย์ของสมาพันธ์นักล่า พวกเราไม่ได้มาร้าย” ทหารยักษ์เถื่อนที่มีรอยสักที่หน้าพยายามชี้ไปที่สาว ๆ ทั้งสามคนและพูดอีกครั้ง
ไนเรลบินลงไปหยุดอยู่หน้าทั้งสาม วินเอลและเวลด้ามีทาท่กลัวไนเรลเล็กน้อย แต่วินากลับจำเขาได้ในทันที
“ท่านไนเรล”
เมื่อทั้งสองรู้ว่าเป็นไนเรลก็ไม่ได้กลัวไนเรลอีก ทั้งสามเดินเข้าไปรวมกลับกลุ่มคนด้านหลังโดยที่พวกยักษ์เถื่อนก็ไม่ได้ห้าม
ไนเรลเดินมาหยุดต่อหน้ายักษ์เถื่อนที่มีรอยสักบนใบหน้าและกล่าวว่า “ต้องการอะไร ทำไมถึงช่วยมนุษย์ของสมาพันธ์นักล่า”