ตอนที่ 205 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (1)
ตอนที่ 205 ความโกลาหลในทวีปฟาบีออส (1)
วิทยุที่ติดต่อเข้ามาหมายความว่าตอนนี้เช้าแล้ว สัญญาณคลื่นรบกวนหายไป ไนเรลยังไม่ได้เร่งรีบไปไหน แต่ทุกคนพักกันก่อน บางส่วนอย่างจอห์นก็จัดการเอกสารที่เป็นข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งพวกนั้นทิ้งเอาไว้
หลายอย่างถูกจดบันทึกไว้ในกระดาษแทนที่จะถูกเก็บเป็นไฟล์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ เพราะพวกเขาจะได้หยิบมาดูได้ตอนที่เกิดคลื่นสัญญาณรบกวนในตอนกลางคืน
ซึ่งมันทำให้ไนเรลและพวกใช้เวลาไม่นานก็เจอสิ่งที่ต้องการ “แผนที่” ในแผนที่เขียนไว้อย่างชัดเจนนั้นก็คือ ทวีปฟาบีออส
ทวีปที่กินเนื้อที่กว่าครึ่งบนโลกใบนี้ ทวีปที่มีผืนป่าซึ่งใหญ่และอันตรายที่สุด ทวีปที่มีความลึกลับมากที่สุดเทียบเท่ากับมหาสมุทรที่มืดมิด
ไนเรลคาดการไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องอยู่ที่ทวีปฟาบีออส
“ไม่คิดเลยว่าจะเคลื่อนที่จากทวีปเทียลันน่ามาที่ทวีบฟาบีออสในพริบตา ประตูวาบของอารยธรรมโบราณช่างน่ากลัวจริง ๆ”
ยิ่งไนเรลจ้องแผนที่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งคิ้วขมวด แผนที่นี้แม้มันจะไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของผืนป่าแห่งนี้ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เขาระบุตำแหน่งของตนเองได้
ทวีปเทียลันน่าคือที่ตั้งของ 4 ประเทศคือ จีนาส อามิวกัส ไทกีล่าและสุดท้ายคือ มิสทาลที่อยู่เหนือสุด แต่มิสทาลไม่ได้มีแค่นั้นเพราะเหนือสุดของมิสทาลมันยังติดกับทวีปฟาบีออส หรือจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือทั้งสองเชื่อมต่อกันบริเวณขั้วโลกเหนือของโลกใบนี้
ซึ่งตอนนี้ไนเรลก็อยู่ลึกเข้ามาในฝั่งของทวีปฟาบีออสไปประมาณสองแสนกิโลเมตร
มันถือว่าไกลเป็นอย่างมากไม่ต่างจากการข้ามประเทศไทกีล่าสองรอบเลยแม้แต่น้อย
นอกจากที่แผนที่สามารถระบุตำแหน่งได้แล้ว มันยังมีอีกสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ นั้นก็คือ ในแผนที่มีเครื่องหมายสามเหลี่ยมอยู่จำนวนมาก แค่นี้มันก็อาจจะไม่มีอะไร แต่ที่แปลกกว่านั้นคือ ตำแหน่งของสามเหลี่ยมพวกนี้ถ้าเขาเดาไม่ผิดมันคือแท่นบูชาที่เหมือนพีระมิด ซึ่งว่างถูกสร้างไว้ในตำแหน่งที่คล้าย ๆ กับใต้รอยแยก หรือก็คือประตูที่ส่งพวกเขามาที่นี่
ขนาดของมันนั้นเหมือนกับขยายใหญ่กว่าเดิมนับร้อยเท่าพันเท่าเลยกว่าได้
“ถ้ามันเป็นประตูแล้วมันจะพาไปที่ไหนกันแน่” ไนเรลรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้มาก
“ฉันต้องหยุดเอิร์ลดาโก้ให้ได้”
...
เวลาเกือบจะแปดโมงเช้าแล้วตามที่เครื่องที่ข้อมือบอกพวกเขา ไนเรลให้ทั้ง 8 รวบรวมของที่มีประโยชน์และแบ่งบางส่วนให้ทุกคนติดตัวไว้ในกรณีที่พลัดหลงกันพวกเขาจะได้รอดได้
ไนเรลไม่ได้เลือกที่จะบิน แต่กับใช้วิธีการเดินไปซึ่งจุดหมายของพวกเขาคือแทนบูชาที่ใกล้ที่สุด ซึ่งอาจจะมีคนของตนเองถูกจับไว้อยู่
เขาคิดว่าจะไปช่วยคนจากแทนบูชาที่อยู่ในทางผ่านไปถ้ำที่พวกนั้นพูดถึง เพราะหลังจากนี้คนพวกนั้นจะเอาคนของเขาไปที่ถ้ำที่ว่านั้น และไนเรลก็คิดว่าเอิร์ลดาโก้ต้องอยู่ที่นั้นและปู่ก็อาจจะไปที่นั้นด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ไนเรลกำลังเดินผ่านป่าที่เต็มไปด้วยหิมะสุดหนาวยะเยือก บริเวณที่เต็มไปด้วยเนินดินขนาดใหญ่ซึ่งปกคุมไปด้วยหิมะ เขาก็สัมผัสกับบางอย่างได้
“หยุดก่อน”
คนทั้ง 8 ต่างหยุดในทันที หนึ่งในนั้นที่มีความสามารถเพลิงก็รีบเก็บลูกไฟของตัวเอง
“เกิด...เกิดอะไรขึ้น” จอห์นถามด้วยเสียงที่สั่นจากความหนาว แม้จะทนได้ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ถูกกับความหนาวเย็นสักเท่าไหร่
กึกๆๆๆ
ปากของจอห์นสั่นไม่หยุด แต่แล้วเสียงที่ดังยิ่งกว่าปากของจอห์นก็ดังขึ้น
เมื่อเนินเขาดินจำนวนมากเริ่มขยับไปมา
“พระเจ้า มันไม่ใช่เนินดินที่มีหิมะปกคลุม แต่เป็นวาฬ”
“ฉันเจอวาฬบนบก”
ทุกคนต่างยื่นนิ่งมองดูพวกวานที่ใหญ่เหมือนเนินเขาเดินผ่านพวกเขาไป ใช่แล้วเดินผ่านไป เพราะพวกมันมีขา พวกมันพากันเดินไปอย่างช้า ๆ ปากก็ดูดกลืนหิมะรอบ ๆ เข้าไปราวกับเครื่องดูดฝุ่นมีชีวิต
“เราไปกันต่อเถอะ” ไนเรลพาคนของเขาออกไปอีกทาง ในตอนนั้นเองหนึ่งในวาฬที่อยู่ในฝูงหันมามองไนเรล ซึ่งไนเรลก็มองมันไม่ละสายตาเช่นกัน
มันคือวาฬระดับ 6 ขั้นกลาง
ไนเรลไม่ได้เข้าไปฆ่ามันมั่ว วาฬพวกนี้ไม่ได้มีนิสัยดุร้าย อีกอย่างเขายังไม่อยากจะสร้างเรื่องวุ่นวายตอนนี้ เพราะสิ่งที่สำคัญคือตามหาคนอื่น ๆ และไปที่ถ้ำคริสตัล
.....
ใช้เวลาไม่นานนักด้วยความเร็วของพวกเขาทั้ง 9 คนก็มาถึงแท่นบูชาอีกแห่ง ที่นี่ก็มีทหารจีนาสประจำอยู่เช่นกัน
ในนั้นไนเรลยังเห็นกลุ่มคนของสมาพันธุ์นักล่าอีก 15 คนด้วย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นนิเรีย เอวา และคนสนิทของเขา แต่ยังไงไนเรลก็ต้องไปช่วยคนของเขา
ไนเรลยังคงให้แผนเดิมคือเขาจะไปกวาดล้างพวกทหารจีนาสอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ช่วยคนอื่น ๆ ออกมาก่อนจะเดินทางกันต่อ
หลังจากนั้นไม่นานเสียงกรีดร้องหนีตายก็ดังขึ้นอีกครั้งมันแทบไม่ต่างจากครั้งก่อนที่เขาบุกไปช่วยคนอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย
ไนเรลและพรรคพวกอีก 23 คนเดินออกมาจากแท่นบูชา ขณะที่ทิ้งคราบเลือดไว้ที่ด้านหลัง
เขาให้เวลาอีกสองชั่วโมงกวาดล้างไปอีกสามแท่นบูชาช่วยคนของตัวเองกลับมาได้ 55 คน ซึ่งเป็นแค่จำนวนเพียงครึ่งเท่านั้น
ขณะเดียวกันเขาก็พบว่ามีหลายคนที่ตายไปเช่นกัน
ไนเรลกำลังจะมาถึงแท่นบูชาถัดไป แต่ก่อนที่จะได้ลงมือ ไนเรลก็ต้องแปลกใจ เพราะที่นี่มันถูกจัดการไปแล้ว โดยมะลิกับธีโอ ซึ่งยังมีจูเรียและหมอแฮรี่อยู่ด้วยกัน ทั้ง4 คนดูเหมือนจะเคลื่อนย้ายมาด้วยกัน
“แม้ววว...มิ้ว!” มะลิดีใจมากที่เจอกับไนเรล รีบกระโดดลงจากหัวของธีโอวิ่งเข้ามาหาเขาทันที
ไนเรลลูบหัวของมะลิตามปกติ จากนั้นก็เดินไปหาคนอื่น ๆ
“ยังเจอคนอื่นอีกไหม”
“ไม่เจอพวกเราก็พึ่งจัดการที่นี่ได้ จึงยังไม่ได้ออกไปไหน” จูเรียกล่าว
“ฉันฝากให้เธอดูพวกวิทยุพวกนั้นด้วยแล้วกัน ลองฟังดูเผื่อจะมีการเคลื่อนไหวจากทหารจีนาส” ไนเรลชี้ไปที่วิทยุที่คนของเขาขนมาด้วยด้านหลัง
“อืม” จูเรียเดินเข้าไปดูวิทยุพวกนั้น เนื่องจากที่แท่นบูชาแห่งนี้มีคนไม่มาก ดังนั้นจึงไม่ได้มีวิทยุอยู่มาก และหลายตัวก็พังไปแล้ว
ไนเรลยังเดินไปคุยกับหมอ แฮรี่ให้ช่วยตรวจคนที่บาดเจ็บอยู่ ซึ่งตอนนี้หมอแฮรี่ได้ทำหน้าที่ของเขาแล้ว
.....
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงทุกคนก็ออกเดินทางอีกครั้ง ไนเรลไม่ได้ไปที่อื่น ๆ แต่ตรงไปที่ถ้ำคริสตัลในทันที
ตอนนี้อยู่ห่างถ้ำคริสตัลไปประมาณ 500 กว่ากิโลเมตร บริเวณโดยรอบมันเต็มไปด้วยป่าสนกลายพันธุ์ที่สูงร้อยถึงสองร้อยเมตรเป็นอย่างต่ำวงรอบของต้นไม้ต้องใช้คนหลายสิบถึงจะโอบมิด พื้นด้านล่างปกคลุมด้วยหิมะสีขาว แต่มันไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางเลยแม้แต่น้อย
ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!
เสียงฝีเท้าของพวกเขาวิ่งกันต่อเนื่องเหยียบหิมะดังไม่หยุด พวกเขาพากันเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว แม้ในความคิดของไนเรลมันจะช้าอยู่มากก็ตามที เขาไม่ได้เก็บทุกคนเข้าไปในเงา การมีคนเข้าไปในเงามากเกินไปก็เป็นภาระต่อพลังงานของเขาเช่นกัน โดยเฉพาะการเดินทางแบบนี้
ไนเรลและคนทั้งหมดต่างก็พากันเดินทางกันอย่างรวดเร็ว
แต่แล้วในจังหวะนั้นเอง อยู่ ๆ ก็มีบางอย่างพุ่งลงมาจากต้นไม้ใหญ่ที่สูงกว่าร้อยเมตร
“ระวัง”
หนึ่งในนั้นร้องเตือนด้วยความตกใจ
เป้าหมายของมันไม่ใช่ไนเรลแต่เป็นคนที่อ่อนแอสุดนั้นก็คือหมอแฮรี่หมอแฮรี่หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจกลัว
แต่ก่อนที่มันจะถึงตัวหมอแฮรี่มันก็ถูกไนเรลจัดการฟันเป็นชิ้น ๆ ด้วยใบมีดวารีไปแล้ว
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ชิ้นส่วนของสิ่งที่พุ่งเข้ามาตกกระจายใส่ตัวของหมอแฮรี่จนเลอะไปทั้งตัว กลิ่นเลือดของมันเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
“มันคือตัวอะไร” คนอื่น ๆ รีบไปช่วยหมอแฮรี่ลุกขึ้นมาและบางส่วนก็เข้าไปดูซากนั้น
“ซอมบี้...ซอมบี้ปีก”
เมื่อมองดูดี ๆ หัวที่หล่นอยู่ใกล้ ๆ มันคือหัวของซอมบี้ปีก ระดับ 5 ซึ่งพวกเขาสามารถจำมันได้ทันที หนึ่งในนั้นเอาเท้าเขี่ยดู ปีกที่ยาวถึง 10 เมตรที่ยังเหลืออยู่ของซอมบี้ขยับเล็กน้อยก่อนจะนิ่งไป
ไนเรลไม่ได้เขาไปดู แต่มองไปรอบ ๆ แทน
“ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน ระวังหลังให้คนอื่น หมอแฮรี่ คุณไปหลบอยู่ตรงกลาง จูเรียไปด้วย ธีโอช่วยฉันดูพวกเขาที”
ทุกคนทำตามที่ไนเรลบอกทันที ธีโอก็เดินไปงับชายกางเกงของหมอแฮรี่ เป็นการบอกให้ตามมา
“มิ้ว มิววว... (แล้วมะลิละ)” แมวน้อยถามออกมา ขณะที่มันยืนด้วยขาทั้งสองข้าง
“เออ...มะลิไปช่วยธีโอก็แล้วกัน”
มะลิได้ยินดังนั้นก็กระโดดลงจากไหลของไนเรลลงพื้นหิมะด้านล่าง ซึ่งมันดูขัดกับบรรยากาศตอนนี้มาก เพราะด้วยตัวของมะลิที่เล็กและเป็นสีขาวมันจึงดูตลกพอสมควรที่มะลิพยายามวิ่งไปบนหิมะแม้หัวของเธอจะไม่พ้นหิมะก็ตาม
มะลิกระโดดขึ้นไปบนหัวของธีโอขณะที่ใช้อุ้งเท้าปัดหิมะบนหัวออก
ไนเรลกระทืบเท้าเปลวไฟก็เผาไหม้หิมะรอบตัวเขาจนละลายกลายเป็นน้ำ น้ำที่ละลายพวกนั้นไม่ได้หายไปไหน มันรวมตัวกันเป็นใบมีด 10 ใบรอบตัวไนเรลหมุนวนอย่างต่อเนื่อง
ทุกคนหันหลังเข้าหากันพร้อมกับหยิบอาวุธของตนเองออกมา และมองรอบ ๆ ด้วยท่าทีระวังอยู่ตลอด พวกเขาสามารถได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง ในทุก ๆ วินาทีมันช่างผ่านเชื่องช้ามาก
และในฉับพลันนั้นเอง หิมะบนต้นไม้ในป่าสนรอบตัวพวกเขาต่างก็ทยอยตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
มันไม่ใช่เพราะลมพัด แต่เป็นเพราะซอมบี้ปีกจำนวนมาก ที่น่ากลัวไปกว่านั้น พวกมันมีพลังไม่ต่ำกว่าตัวที่พึ่งโจมตีไปเมื่อสักครู่เลยแม้แต่น้อย
“กรรร!!! ฆ่ามนุษย์พวกนั้นซะ” บนยอดไม้ เสียงสั่งการดังออกมา มันรุนแรงมาก ซึ่งเป็นพลังที่โจมตีจิตใจโดยตรง