Ep.1062 - มหากาพย์วิญญาณสะบั้นที่แท้จริง
Ep.1062 - มหากาพย์วิญญาณสะบั้นที่แท้จริง
ในเวลานั้นเอง พลังสมาธิของจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ก็ถ่ายทอดออกไปทั้งจักรวาล
“ใครคือซวนเฟิง!”
แม้ไป๋หลีจะติดต่อกับเฉียนมู่ แต่เธอก็ยังใช้ชื่อจอมมารซวนเฟิงเพื่อช่วยปกปิดสถานะจริงๆของฉินเฟิง
“ท่านจ้าวเหนือหัว เป็นผมเอง” พลังสมาธิของฉินเฟิงถ่ายทอดออกไป จากนั้นเศษแผ่นดินใหญ่ที่ปิดกั้นสายตาของฉินเฟิงก็ถูกผลักออก เปิดเส้นทางให้เขา
ยักษ์เรืองแสงปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฉินเฟิง จะเป็นใครอื่นไปได้อีก หากไม่ใช่จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่
“ทำได้ดีมาก นี่คือรางวัลของเจ้า” เฉียนมู่เอื้อมมือออกมา ปล่อยวัตถุสองสิ่งลงในมือของฉินเฟิง
ไม่เพียงแค่นั้น สองสิ่งที่เขาได้รับมาดูเหมือนว่าจะมีขนาดใหญ่มาก
“เจ้าเก่งมาก หลังจากนี้ไปขอให้ช่วยงานข้าให้มากขึ้น นี่คือเหล็กตัดดารา มีคุณสมบัติพิเศษอยู่ข้างใน เมื่อนำมันไปหลอมรวมเข้ากับอาวุธ จะสามารถสร้างความเสียหายแก่สิ่งมีชีวิตที่เป็นพลังงานได้!”
หัวใจของฉินเฟิงเต้นครึกโครม
เพราะเหล็กตัดดาราชิ้นนี้ มีความสำคัญต่อเขามาก
ภัยคุกคามที่ฉินเฟิงกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ คือจ้าวเหนือหัวอันผิงเนื่องจากฝีมือของเส้าตงเฟิง ทำให้อันผิงหันมาเพ่งเล็งฉินเฟิง นอกจากนี้ฉินเฟิงเองก็คว้าแก่นพลังของนางพญาดาราเกราะเหล็กมาครอง ต่อให้จ้าวเหนือหัวอันผิงจะยังไม่รู้เรื่อง แต่ความจริงที่ว่าการกระทำนี้ไม่ต่างจากถอนเขี้ยวจากปากเสือก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาต้องได้เผชิญหน้ากัน และตราบใดที่มีจ้าวเหนือหัวอันผิงอยู่ ฉินเฟิงจะไม่สามารถเหยียบย่ำเข้าสู่อาณาเขตของพันธมิตรมนุษย์ได้
ทว่าตอนนี้ เมื่อได้รับเหล็กตัดดารามา มันก็ทำให้ฉินเฟิงเกิดความคิดใหม่
และเป็นความคิดที่อุกอาจมาก
“ขอบพระคุณท่านจ้าวเหนือหัว!” ฉินเฟิงกล่าว
แม้ในพันธมิตรองค์กรมืดจะมีคนชั่วร้ายอยู่มากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นคนไม่ดี ไร้บรรทัดฐาน บางครั้งก็แค่วิถีการดำเนินชีวิตแตกต่างกับพันธมิตรมนุษย์ เลยมาอยู่ฝ่ายองค์กรมืด
และอีกอย่าง บางครั้งที่พันธมิตรองค์กรมืดรักษาความสัมพันธ์กันไว้ เพราะอาจสร้างผลประโยชน์ให้แก่กันและกันได้ในอนาคต
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ย่อมกระจ่างแก่ใจ ว่าพลังชีวิตของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวตัวนี้ ตอนเขามาถึง มันอ่อนแอลงไปมากแล้ว นี่เองเป็นเหตุผลที่เขาเลยสามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย และทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้ฉินเฟิงตรงหน้าเขา
บุรุษเช่นนี้ อนาคตคงไม่มีใครฉุดรั้งเขาได้อีกแล้ว
ดังนั้น สำหรับองค์กรมืด บางครั้งมีสหายที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง ย่อมดีกว่ามีศัตรูอีกคนหนึ่ง ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า ระหว่างทั้งสองไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน ฉะนั้นจะตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อกันไปใย?
“เอาล่ะ หลังจากนี้ถ้ามีภารกิจอะไรอีก ข้าจะส่งให้เจ้า” เฉียนมู่โยนอุปกรณ์สื่อสารแบบพิเศษให้ฉินเฟิง จากนั้นฉีกอวกาศเปิดประตูมิติ ก้าวหายเข้าไป
เมื่อร่างยักษ์หายไป ห้วงอวกาศที่เหมือนกำลังถูกลุกไหม้แผดเผา ก็ค่อยๆมืดสลัวลง
ฉินเฟิงก้มมองวัตถุเบื้องหน้าเขา นอกจากเหล็กตัดดาราแล้ว ยังมีอีกชิ้นหนึ่ง ที่มีรูปร่างเหมือนยอดเขาเล็กๆ แต่แหลมคมมาก
มันคือหนึ่งในปลายยอดของกระดองเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัว!
เป็นวัตถุในระดับจ้าวเหนือหัว!
ไม่เพียงแค่นั้น แต่วัตถุนี้ยังถูกห่อหุ้มด้วยพลังงาน ทำให้มีสีสันโดดเด่น เป็นเขียวอำไพ ฉินเฟิงหันไปมองรอบๆ พบว่าเศษวัตถุที่ยังหลงเหลือ ทั้งหมดสัมผัสเข้ากับอวกาศตรงๆ ภายใต้การก่อกวนของพลังงานจักรวาลรูปร่างของมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
เลือดเนื้อบางส่วนผสานรวมเข้ากับอักษรรูนดิน แม้จะเป็นอักษรรูนดินเพียงเล็กน้อย แต่ก็มากพอที่จะขยับขยายเป็นแผ่นดินใหญ่อันไร้ขอบเขต
เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งที่ผู้ใช้พลังทั้งหมดควรทำ คือการเร่งไปคว้ามันไว้ มิฉะนั้นหากทรัพยากรที่แสนพิเศษเหล่านี้กลายเป็นแผ่นดินใหญ่ ถึงเวลานั้นต่อให้พวกเขายังสามารถได้มันมาครอง แต่คุณภาพก็จะลดลง
แต่วัตถุที่อยู่ในมือฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าเป็นเฉียนมู่ที่ช่วยใช้พลังห่อหุ้มเอาไว้ มิให้พลังงานจักวาลเข้าแทรกแซง
“ดูเหมือนจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ จะแสดงความเป็นมิตรกับฉันมาก”
จริงๆแล้วฉินเฟิงไม่ได้คาดหวังอะไรกับพวกองค์กรมืด แต่การที่จ้าวเหนือหัวมอบรางวัลให้ตามที่ตกลง แถมยังเป็นรางวัลที่ดีกว่าในข้อตกลง มันทำให้เขารู้สึกพอใจมาก
ฉินเฟิงใส่รางวัลลงในอุปกรณ์รูนมิติ การกระทำดังกล่าว กระชากสติผู้ใช้พลังทุกคนในที่นี้
จ้าวเหนือหัวได้จากไปแล้ว ตอนนี้ถึงตาพวกเขา ที่ต้องต่อสู้เพื่อช่วงชิงทรัพยากรมาไว้ในกำมือ มีอยู่หลายคน มองฉินเฟิงด้วยแววตาตะกละตะกลาม
“ฆ่าเขา!”
“รางวัลจากจ้าวเหนือหัว แกมีคุณสมบัติอะไรถึงได้รับมัน!”
“ตาย!!”
จ้าวเหนือหัวได้มอบรางวัลแก่ฉินเฟิง แต่ตอนนี้จ้าวเหนือหัวได้จากไปแล้ว ในพันธมิตรองค์กรมืด ไม่มีกฏถูกผิดเรื่องอาชญากรรม หนึ่งเดียวที่พวกเขายึดมั่นเชื่อถือ คือใครก็ตามที่ไม่อาจปกป้องสมบัติของตนเอาไว้ได้ นั่นแหละคือความผิด!
คนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าหาฉินเฟิงอย่างดุเดือด
คนส่วนใหญ่ไม่ได้ร่วมเดินทางมาในยานอวกาศลำเดียวกับฉินเฟิง พวกเขาไม่เห็นฉินเฟิงสังหารซามัว
แต่พวกเขารู้ว่าฉินเฟิงเป็นคนแรกที่ค้นพบเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัว มิฉะนั้นเฉียนมู่จะมอบรางวัลให้แก่เขาได้อย่างไร? แต่ก็นั่นล่ะนะ ไม่มีใครรู้หรอก ว่าในตอนแรก ฉินเฟิงคือผู้ต้านทานการโจมตีของจ้าวเหนือหัวได้หลายกระบวนท่า
ปัจจุบัน ในหัวใจของคนเหล่านี้ ได้คำตอบในใจแล้ว
วัตถุที่ฉินเฟิงเก็บลงในอุปกรณ์รูนมิติ มันไม่อาจรอดพ้นสายตาของพวกเขาไปได้
เหล็กตัดดารา! นั่นมันเหล็กตัดดารา!!
ทุกคนล้วนถูกดึงดูดโดยทรัพยากรระดับจ้าวเหนือหัว ความคิดละโมบถูกปลุกเร้าขึ้นในใจของพวกเขา
หากอยากได้มันมาครอบครอง วิธีการก็ง่ายๆ แค่ต้องฆ่าฉินเฟิง!
แต่เจ้าคนพวกนี้ ฉินเฟิงคร้านที่จะใส่ใจ
เพราะในเวลานี้ ฉินเฟิงต้องการเก็บรวบรวมทรัพยากรที่ลอยล่องอวกาศ อย่างน้อยขอแค่ได้เลือดของจ้าวเหนือหัวมาซักหนึ่งหยดก็ดี
“ไสหัวไปให้พ้น!”
ฉินเฟิงตวาดก้อง ระเบิดพลังงานออกมา โคตรดาวเคราะห์ยักษ์ผุดขึ้นใต้เท้าของเขา
ทันทีที่ดาวเคราะห์มืดอันน่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้น ทุกคนสะดุ้งตกใจ แต่ตอนนี้มีผู้ใช้พลังอยู่เป็นจำนวนมาก กระทั่งเลเวล SSS9 ที่ครอบครองดารากำลังภายในหรือดาวเคราะห์อบิลิตี้ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 90 เมตรก็ยังมี
ซึ่งคนเหล่านี้ ไม่หวาดกลัวฉินเฟิง
ดังนั้น พวกเขาจึงเข้าล้อมหน้าล้อมหลังฉินเฟิง
พลังอันรุนแรงร้ายกาจของรูนระเบิดขึ้นอีกครั้งในอวกาศ และครั้งนี้ แม้จะยังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นจ้าวเหนือหัว แต่ผลลัพธ์น่าหวาดกลัวกว่ามาก
ทุกคนที่ก้าวเข้าสู่เขตแดนแห่งความมืดของฉินเฟิง พลังชีวิตจะเริ่มอ่อนแอลง พวกเขา แต่พวกเขายังคงอาศัยความแข็งแกร่งที่ตนมี ร่วมมือกันสังหารฉินเฟิง
ส่วนเรื่องที่ว่าใครจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้หัวเราะ(หมายถึงชิงสมบัติมาได้) ทุกคนต่างคิดว่าย่อมไม่พ้นเป็นตนเอง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนกลุ่มนี้ ฉินเฟิงแสยะยิ้ม ชักมีดกษัตริย์ครามออกมา
“งั้นขอให้ฉันได้ลองพลังใหม่ของมีดเล่มนี้หน่อยเถอะ!”
ฉินเฟิงทิ้งโคตรดาวเคราะห์ทมิฬไว้ ให้คอยสกัดกั้นคนเหล่านี้ ส่วนไพ่ตายตัวจริง คืออาวุธในมือ
เป็นมีดกษัตริย์ครามที่กักขังจิตวิญญาณของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวเอาไว้!!
“มหากาพย์วิญญาณสะบั้น!”
ดารากำลังภายในหนึ่งดวงถูกรีดเร้นพลังงานของมันออกมาด้วยความเร็วสูง ขณะเดียวกัน กลิ่นอายบนมีดกษัตริย์ครามก็เริ่มก่อคลื่นกระแทกที่ให้ความรู้สึกคล้ายดาวเคราะห์ขนาดใหญ่
ตูมมมม!
คลื่นอัดกระแทกระเบิดกวาดไปทั้งจักรวาล
ผู้ใช้พลังทั้งหมดที่เข้าใกล้ฉินเฟิงและตกอยู่ภายใต้พลังงานนี้ ต่างถูกบดขยี้กลายเป็นขี้เถ้า!
คลื่นอัดอากาศนี้กินเวลายาวนานถึง 10 นาที หลังทุกอย่างสิ้นสุดลง รอบๆบริเวณนี้ก็ไม่เหลืออะไรอีกเลยนอกจากอุปกรณ์รูนมิติเท่านั้น!
เป็นการสังหารหมู่โดยสิ้นเชิง!
ชั่วขณะนี้ ห้วงจักรวาลกลายเป็นเงียบสงัด แต่ต้องรู้นะว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าไปปิดล้อมฉินเฟิง
“อึก ..!”
ก่อนที่ฉินเฟิงจะเริ่มโจมตี เฉียนหลานได้ถอยมาไกลแล้ว ถึงกระนั้น คลื่นอัดกระแทกนี้ก็ยังกวาดมาถึงตัวเขา ผลพวงจากมันยังคงร้ายแรง เจ้าตัวต้องรีดเร้นพลังงานมหาศาลออกมาต้านทาน
ขณะนี้ เมื่อเห็นว่ารอบตัวฉินเฟิง ไม่มีกระทั่งซากกระดูก เขาก็เผลอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงไปโดยไม่รู้ตัว
ความหวาดกลัวแพร่กระจายเข้ามาในจิตใจ