Ep.1061 - ความแข็งแกร่งทางกายภาพเลเวล SSS
Ep.1061 - ความแข็งแกร่งทางกายภาพเลเวล SSS
เต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวสูญเสียพลังงานไปเป็นจำนวนมาก หากให้มันรับมือกับคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันในเวลานี้ จะอันตรายถึงชีวิต
ฝ่ายจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่เองก็ตกใจเล็กน้อยเช่นกัน เขาไม่คิดเลย ว่าพอได้พบเต่ายักษ์แล้ว มันจะตัดสินใจหลบหนีเช่นนี้
บอกตามตรงว่าแม้แต่เฉียนมู่เองก็ยังไม่มั่นใจว่าตนจะคว้าชัยชนะ แต่อย่างน้อยหากเขาสามารถสังหารลูกน้องเต่ายักษ์เลเวล SSS ของมันสักหลายตัว น่าจะได้ทรัพยากรมาพอสมควร
แต่ในตอนนั้นเอง ท่ามกลางช่วงเวลาฉุกละหุก เฉียนมู่คล้ายตระหนักได้ถึงบางสิ่ง --หรือว่าที่มันหนีเพราะสูญเสียพลังงานอยู่ก่อนแล้ว?
“เทคนิคคำสาปหยาง!”
ชั่วพริบตา ผู้คนเห็นจุดแสงที่ให้ความรู้สึกราวกับดาราสองดวง ปรากฏขึ้นในดวงตาของจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่
มันสาดประกายเจิดจ้า แทบจะในทันที รังสีสองดวงถูกปลดปล่อยออกไป
เต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวย่อมรับรู้ได้ถึงการโจมตีนี้ รูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกับดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ของมัน เริ่มสร้างร่างพลังงานในรูปแบบกระดองเต่าขึ้น
พลังงานทั้งสองปะทะกัน ตลอดทั้งห้วงจักรวาลราวกับถูกพลิกตลบ อุกกาบาตที่ลอยเคว้งในอวกาศ ถูกผลพวงจากแรงปะทะ บดขยี้และทำลายล้างไม่มีหลงเหลือ
ผู้ใช้พลังคนอื่นๆของพันธมิตรองค์กรมืด ทั้งหมดถูกพัดกระเด็นออกไป
ในระยะเวลาสั้นๆ การโจมตีระหว่างจ้าวเหนือหัวทั้งสองยังคงดำเนินต่อไป ต่อให้เป็นฉินเฟิงไป๋หลีก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เช่นกัน
แต่ในช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงได้รับชมการห้ำหั่นระหว่างจ้าวเหนือหัวได้อย่างเต็มตา นี่ไม่เหมือนกับกระบวนท่าก่อนหน้านี้ของจ้าวเหนือหัวอันผิง เพราะถึงอย่างไรครั้งนั้นที่อันผิงทำ ก็แค่ยื่นมือออกไปคว้าสมบัติในอวกาศ อีกอย่างฉินเฟิงในเวลานั้นยังอ่อนแออยู่บ้าง ดังนั้นเขาเลยไม่สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันได้เท่าที่ควร
ทว่าบัดนี้ เขาสามารถทำความเข้าใจมันได้มากขึ้นแล้ว
การต่อสู้ระหว่างเต่ายักษ์และเฉียนมู่นั้นรุนแรงมาก แต่ถ้าได้ลองจับตามองอย่างรอบคอบจะพบว่าพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากทั้งสอง แท้จริงแล้วไม่มากเท่ากับในตอนของฉินเฟิง แต่เป็นการยื้อกันไปกันมา
จนสุดท้าย หอกเปลวเพลิงที่เฉียนมู่ปล่อยออกมาสามารถแทงทะลุเข้าร่างของเต่ายักษ์ เต่ายักษ์มิอาจต้าทาน แม้ไม่ได้กรีดร้องออกมา แต่ในร่างกายมัน เริ่มสูญเสียพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว ในที่สุดหอกเปลวเพลิงก็ค่อยๆมอดลง และนั่นเป็นสัญญาณ--
“--ตาย!”
ดวงตาของจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่สาดประกาย ยกมือขึ้นรวบรวมพลังแห่งแสง ซัดมันลงบนกระดองเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัว
วินาทีถัดมา ร่างของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัว จากเดิมที่ทั้งตัวอยู่ในรูปลักษณ์ดวงดาว เวลานี้กลายเป็นร่างพลังงาน
ร่างพลังงานนี้โปร่งแสง ไม่ว่าใครที่ได้พบเห็น จะพบว่ามันมีร่างกายที่วิจิตรงดงามอยู่ในตัว นั่นคือแก่นพลังของจ้าวเหนือหัว
แก่นพลังนี้มีขนาดเพียง 120 เมตร เต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวตัวนี้อาจอายุมากแล้ว เลยมีขนาดร่างกายที่ใหญ่โต แต่เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งสามารถตัดผ่านเป็นจ้าวเหนือหัวได้ไม่นาน มิฉะนั้นคงไม่ตกเป็นเป้าหมายของเฉี่ยนมู่เช่นนี้
จ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ไม่คิดเลยว่าเขาจะสามารถโค่นเต่ายักษ์ได้ง่ายดายขนาดนี้ เจ้าตัวรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ เขากำแก่นเต่ายักษ์ไว้ในมือ เริ่มสูบพลังงานมหาศาลข้างในออกมา
“ฮู้มมมม ..” เต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวโหยหวนน่าสังเวช
เสียงโหยหวนนี้แสดงให้เห็นว่ามันกำลังเจ็บปวดอย่างแท้จริง เพราะเกิดความเสียหายลึกถึงขั้นจิตวิญญาณ
เวลานี้ต่อให้มันดิ้นรนขัดขืน ก็เปล่าประโยชน์
ก่อนหน้านี้พลังงานในร่างของเต่ายักษ์ถูกใช้ไปมากแล้ว เวลานี้เลยไม่สามารถต้านทานการทำลายล้างของเฉียนมู่ได้
ในที่สุด เฉียนมู่ก็กระชากแขนออก
ตูม!
วินาทีถัดมา ดาวเต่ายักษ์ก็เกิดระเบิดแตกกระจาย!
ฉากนี้มันเหมือนกับการระเบิดของนางพญาดาราเกราะเหล็กในตอนนั้นเลย
ทวีปขนาดใหญ่ถูกแยกออกจากกัน พังทลายทั้งผืนฟ้าผืนดิน ผู้คนจากพันธมิตรองค์กรมืดถูกแรงระเบิดนี้บดบังสายตา พวกเขาไม่สามารถมองจ้าวเหนือหัวเฉียนมู่ที่สูงนับพันเมตรจากด้านนอกได้
อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้สึก ว่าบรรยากาศของอวกาศแห่งนี้ มันไม่ใช่พลังงานที่รุนแรงอีกต่อไป แต่เป็นพลังงานหลังจากความตายของจ้าวเหนือหัว
ตูม ตูม ตูม!
ในที่เกิดเหตุ ผู้ใช้พลังหลายคนที่อยู่ไม่ไกลต่างได้รับพลังงานที่กระจายออกมา สามารถยกระดับได้ในสนามรบ สามารถตัดผ่านสู่ขั้นถัดไป
ทว่าคนเหล่านี้ พวกเขาเป็นแค่เลเวล S หรือ SS เท่านั้น ไม่มีเลเวล SSS
เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนกลุ่มหลังจำเป็นต้องใช้พลังงานมหาศาลในการเลื่อนขั้น
ขณะเดียวกันนี้ ฉินเฟิงลอบเข้าไปรอยแยกของแผ่นดินใหญ่ที่พังทลายลง โดยหลบเลี่ยงสายตาของผู้อื่น
วินาทีถัดมา ระหว่างคิ้วของฉินเฟิงก็เปิดออก โคตรดาวเคราะห์ทมิฬโคจรอยู่ข้างใน
ทันใดนั้นพลังชีวิตอันทรงพลานุภาพก็ไหลเข้าตามระหว่างคิ้วของฉินเฟิง พุ่งเข้าสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึก
เปรี๊ยะ!
ร่างกายของฉินเฟิง เริ่มเกิดกระบวนการยกระดับเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
เปรี๊ยะ!
ร่างกายเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง กระบวนการยังคงดำเนินต่อไป
ต้องรู้นะว่า พลังงานของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวทรงพลังอย่างแท้จริง อุดมไปด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพและพลังชีวิต
พลังงานนี้ ชวนให้หลงใหลมึนเมา
“อีกนิดเดียว!”
ฉินเฟิงเร่งเร้าความเร็วในการโคจรของดาวเคราะห์ทมิฬ พลังงานหลั่งไหลเข้ามาอย่างแรงกล้า กระทั่งเนื้อเต่ายักษ์บางตัว ยังถูกดูดซับเข้ามา สลายกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว
ภายใต้มวลมหาพลังงานนี้ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิง ในที่สุดก็ทะลุถึงในจุดที่น่าตื่นตะลึง
ตูมมมมมม!
ตัดผ่านเข้าสู่ขอบเขตเลเวล SSS!
ในที่สุด ณ ปัจจุบันนี้ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิง ก็ได้เลื่อนขั้นสู่เลเวล SSS เสียที หรือเรียกได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับจ้าวเหนือหัวแล้ว
เพราะเดิมที ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาอยู่ในระดับสัตว์เทวะ เกรงว่านับจากนี้ไป หากคิดหยุดหมัดธรรมดาๆของฉินเฟิง ผู้ใช้พลังเลเวล SSS คนอื่นๆ อาจถึงขั้นต้องปลดปล่อยกระบวนท่าวรยุทธหรือไม่ก็อบิลิตี้อย่างสุดกำลัง!
“ฟู่ว …”
ฉินเฟิงลืมตา กระแสวังวนที่อยู่ระหว่างคิ้วค่อยๆปิดลงเช่นกัน
แต่ในเวลานี้ มีดกษัตริย์ครามในมือของเขาเริ่มสั่นไหว เปล่งเสียงร้องครวญต่ำไม่หยุด
ร่างเงาบางอย่างที่มองไม่เห็น ถูกดึงดูดเข้ามา
เฝ้ารอจนกระทั่งการสั่นไหวของมีดกษัตริย์ครามหยุดลง ฉินเฟิงก็เผยรอยยิ้มออกมา
ในภารกิจนี้ ผลกำไรสูงสุดที่เขาเก็บเกี่ยวได้ มิใช่ความแข็งแกร่งทางกายภาพที่ตัดผ่านสู่เลเวล SSS แต่เป็นวิญญาณแห่งความตายที่ถูกดูดมาขังไว้ในมีดกษัตริย์ครามต่างหาก
แม้นางพญาดาราเกราะเหล็กจะมีพลังมาก แต่ถึงอย่างไรมันคือสิ่งมีชีวิตที่ก้าวสู่ขอบเขตจ้าวเหนือหัวเพียงครึ่งก้าว ยังไม่ใช่จ้าวเหนือหัวอย่างแท้จริง
แต่จิตวิญญาณของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวตัวนี้ นี่แหละของจริงแท้แน่นอน!
ฉินเฟิงทำกำไรมหาศาล คุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้ว
ในเวลานั้นเอง จู่ๆก็เกิดแสงสว่างสาดเข้ามา ภายใต้แสงนี้ ทรัพยากรทั้งหมดที่เกิดจากเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวพลันหายวับไป คาดว่าคงมีใครนำมันไปแล้ว
“น่าเสียดาย!” ไป๋หลีบ่นอุบ
เพราะครั้งนี้ทั้งสองทุ่มสุดตัวมาก เรียกได้ว่าเป็นคนหว่านแห แต่สุดท้ายเฉียนมู่กลับเอาปลาไป แม้พวกเขาจะได้ผลประโยชน์มาบ้าง แต่เมื่อเทียบกับศพขอจ้าวเหนือหัวแล้ว นี่ไม่ต่างจากได้ขนเพียงเส้นเดียวของวัว
“ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้พวกเราแข็งแกร่งมากพอ ค่อยมาเอาคืน!” ฉินเฟิงปลอบประโลม
“ก็ได้ ตอนนี้พวกเรายังไม่ใช่จ้าวเหนือหัว เลยยังทำอะไรไม่ได้ ต่อให้เราสามารถปราบเต่ายักษ์ลงได้ด้วยตัวเอง ก็ไม่มีทางได้สมบัติที่ดีที่สุดไปอยู่ดี”
แต่ฉินเฟิงก็เข้าใจเช่นกัน ว่าการลงมือของเฉียนมู่ในครั้งนี้ ทำให้ฉินเฟิงที่เฝ้ารับชมได้รับผลประโยชน์มากมาย
การต่อสู้ระหว่างจ้าวเหนือหัว ต่อให้มือหรือเท้าหักก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มีเฉพาะการโจมตีตรงแก่นพลังของจ้าวเหนือหัวเท่านั้น ถึงจะสามารถฆ่ากันได้จริงๆ
แต่ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง เขาสามารถกินได้แค่ร่างพลังงานแห่งชีวิตของจ้าวเหนือหัวเท่านั้น แต่ไปแตะแก่นพลังของจ้าวเหนือหัวไม่ได้เลย
และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะไม่มีวันสามารถสังหารจ้าวเหนือหัวลงได้