Ep.1058 - การไล่ล่าของจ้าวเหนือหัว
Ep.1058 - การไล่ล่าของจ้าวเหนือหัว
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เต่ายักษ์ที่มีรูปร่างใหญ่โต ตัวอื่นๆก็ดาหน้าเข้ามาหาเขาเช่นกัน พวกมันโผล่หัวจากกระดอง อ้าปากใหญ่เตรียมจะกัดฉินเฟิงจากเบื้องบน
ส่วนเบื้องล่าง รูนดินและรูนไม้จำนวนนับไม่ถ้วนถูกเปิดใช้งาน โจมตีฉินเฟิง
“อาละวาดกันครึกโครมแบบนี้ บางทีอาจปลุกจ้าวเหนือหัวให้ตื่นขึ้นมาได้ ต้องลากพวกมันออกไปจากที่นี่!” ฉินเฟิงกล่าว
“ไม่มีปัญหา!”
ไป๋หลีตอบรับ ทั้งสองวูบไหว ขยับห่างออกมา 10,000 เมตรทันที
แต่ระยะทางนี้ สำหรับเต่ายักษ์แล้ว มันห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าว
เต่ายักษ์ระดับเทวะหลายสิบตัวกำลังโกรธจัด พวกมันไม่ต้องการให้ฉินเฟิงหนีไป
เต่าเทวะเหล่านั้นไล่ตามอย่างแข็งขัน พากันออกจากดาวเคราะห์จ้าวเหนือหัว ถลำลึกออกมาในอวกาศ
ช่วงเวลานี้ ดวงตาของฉินเฟิงสว่างไสวขึ้นทันใด
เพราะดาวเต่ายักษ์ไม่ได้หยุดนิ่งเลย มันยังคงเป็นดาวเคราะห์ที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ราวกับไม่แยแสลูกบ้านตน ละทิ้งได้ทุกเมื่อ
นี่เท่ากับเป็นการส่งเต่าเทวะเข้าปากฉินเฟิง ปล่อยให้เขาลิ้มรสพวกมัน
ความสามารถในการต่อสู้ของฉินเฟิงมันได้ไปถึงจุดเดียวกับจ้าวเหนือหัวแล้ว ฉะนั้นต่อให้ศัตรูคือเต่าเทวะจำนวนมาก ก็ไม่คณามือเขา
อีกอย่างตอนนี้ ไม่ใช่แค่ฉินเฟิง แต่ไป๋หลีก็ลงมือเช่นกัน
“สะบั้น!” ไป๋หลีปลดปล่อยรอยแยกมิติ สัตว์ยักษ์มิติและสัตว์ยักษ์ดาราเข้าปะทะกันทันที ซึ่งแน่นอน ด้านพลังโจมตีย่อมเป็นฝ่ายสัตว์ยักษ์มิติที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า
ทางด้านฉินเฟิง เขาหยิบมีดกษัตริย์ครามออกมา ระเบิดรังสีคมมีดออกไป
“ล้านสับสังหาร!”
การเรียกใช้งานนางพญาดาราเกราะเหล็กมันกินพลังงานมากเกินไป ทว่าหากเป็นล้านสับสังหาร ที่ปลดปล่อยวิญญาณล้านดวงล่ะก็ มันไม่ได้ใช้พลังงานมากขนาดนั้น
กระบวนท่าวรยุทธนี้ ยามปลดปล่อยจะกินพลังงานเพียง 1 ใน 10 ของดารากำลังภายในหนึ่งดวงเท่านั้น
และสำหรับผู้ใช้พลังเลเวล SSS การปลดปล่อยดังกล่าวเทียบเท่ากับระเบิดกระบวนท่าวรยุทธที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง เพราะท้ายที่สุดแล้ว หนึ่งในสิบดารากำลังภายในหนึ่งดวงของฉินเฟิง มันรุนแรงเทียบเท่ากับการโจมตีของคนอื่นๆสิบเท่า ฉะนั้นศัตรูที่โดน ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
และด้วยดารากำลังภายในที่ฉินเฟิงมี เขาสามารถปลดปล่อยมันได้มากถึง 90 ครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ภูติผีวิญญาณนับล้านร้องโหยหวน โถมเข้าหลอกหลอนพัวพันกับเต่ายักษ์ตัวหนึ่ง
ร่างของเต่ายักษ์ใหญ่โตมาก กระดองของมันคือส่วนที่แข็งที่สุด แต่เพราะหัวของพวกมันโตเกินไป ทำให้ในสายตาของฉินเฟิง สังเกตเห็นช่องโหว่มากมาย
ภูติผีวิญญาณนับล้านตรงเข้ากัดแทะหัวเต่ายักษ์
เต่าเทวะส่งเสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด หดหัวเข้าไปในกระดอง ปรากฏอักษรรูนไม้นับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาช่วยปัดป้อง แต่ก็ไม่เร็วมากพอ ไม่ช้าทั้งหัวของมันก็ถูกวิญญาณกัดกิน
“พลังพิเศษดูดกลืน!” โคตรดาวเคราะห์ทมิฬผุดขึ้นใต้เท้าของฉินเฟิง มันเริ่มหมุนวน สร้างแรงดึงดูดอันน่าสยดสยอง เลือดและเนื้อของเต่ายักษ์ ถูกหลอมรวมเข้ากับโคตรดาวเคราะห์ จากนั้นส่งต่อให้ร่างกายของฉินเฟิง
ยังไม่พอ เนื้อที่ถูกดูดซับออกจากกระดอง ยังมีแก่นพลังงานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 10 เมตรรวมอยู่ด้วย
“พลังพิเศษดูดกลืน!”
พลังพิเศษเริ่มเขมือบแก่นพลังนี้ เปลี่ยนพลังงานจากมันเป็นกำลังภายใน นำไปสะสมในดวงดารา
“อีกครั้ง!”
ฉินเฟิงตวาดก้อง ระเบิดรังสีคมมีดอีกครา
“ท่าวิญญาณสะบั้น!”
“ท่าวิญญาณสะบั้น!”
“ท่าวิญญาณสะบั้น!”
ฉินเฟิงฟาดฟันหนึ่งคมมีดต่อหนึ่งสัตว์ยักษ์ ทยอยสังหารหมู่พวกมันทุกตัว
เลือดและเนื้อของเต่ายักษ์ผสมผสานเข้ากับร่างกายของฉินเฟิง แก่นพลังช่วยเติมเต็มพลังงานให้แก่เขา ทำให้ฉินเฟิงแทบไม่สูญเสียพลังที่ใช้งาน
ร่างกายของฉินเฟิง ยังคงพัฒนา ถูกเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง มันเร็วยิ่งกว่าในตอนที่เขาอยู่ในร่างของนางพญาดาราเกราะเหล็กเสียอีก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เต่ายักษ์เหล่านี้ไม่ใช่แมลง แต่มันคือสัตว์ยักษ์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานร่างกายอันแข็งแกร่ง
เมื่อพลังงานเหล่านั้นไหลเข้ามาหลอมรวมกับร่างมนุษย์ของฉินเฟิง จึงช่วยพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
ฉินเฟิงรู้สึกยินดีสุดแสน หากเขาไม่ยกระดับกำลังภายในและแก่นอบิลิตี้ของตนมาก่อน ทุกอย่างมันจะราบรื่นขนาดนี้ได้อย่างไร?
ตูมมม!
ตูมมมม!!
ตูมมมมม!!!
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงเลื่อนขั้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสังหารเต่ายักษ์ไปนับสิบตัว ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา ก็ได้มาถึงเลเวล SS9 แล้ว
แต่ในเวลานั้นเอง ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันเปี่ยมล้นของพลังชีวิต กวาดเข้ามาจากอวกาศอันไกลโพ้น
การดำรงอยู่ที่เสมือนมังกรและงู ฉกตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่หากลองเพ่งมองชัดๆ จะพบว่ามันคือหัวของเต่ายักษ์ที่กำลังยืดขยายได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นี่คือกลิ่นอายของพลังชีวิตที่ฉินเฟิงคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะเขาเคยเห็นมันมาแล้ว
--เป็นการโจมตีของจ้าวเหนือหัวที่แท้จริง!
“ระวัง!” ไป๋หลีร้องอุทานตื่นตระหนก รีบลากตัวฉินเฟิงถอยออกมาอย่างรวดเร็ว
ลักษณะทางชีวภาพที่เหมือนกับร่างพลังงานของมังกรและงูอ้าปากกว้าง กัดคราเดียวลง ครอบคลุมเต่าเทวะที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงห้าตัว จากนั้นร่างพลังงานราวกับเป็นช่องทางขนส่ง ชักนำเต่าเทวะเหล่านั้นกลับไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ร่างพลังงานของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวยังไม่จากไปในทันที มันมองฉินเฟิงจากนั้นบิดคอเป็นเกลียว ฉกตรงเข้าสังหารเขา
ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน มันน่าหวาดกลัวชวนให้ผู้คนรู้สึกผวา
อักษรรูนมิติท่วมท้นรอบกายไป๋หลี หมุนวนด้วยความเร็วสูง ทว่าร่างพลังงานของจ้าวเหนือหัวก็ใช่จะน้อยหน้า มันไล่ตามอย่างไม่ลดละ
แผ่นดินใหญ่ที่เดิมอยู่ไกลออกไป เวลานี้สามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ร่างจริงของจ้าวเหนือหัวย้อนกลับมาแล้ว!
ฉินเฟิงสังหารเต่าเทวะบนร่างมันไปมากมาย หากกลับกัน เป็นเผ่าพันธุ์ของฉินเฟิงที่อยู่บนร่างเขาถูกสังหารบ้าง ฉินเฟิงย่อมไม่มีทางให้อภัย
เขาได้สังหารเผ่าพันธุ์ สังหารลูกหลานของจ้าวเหนือหัวไป ไม่น่าแปลกใจที่เต่ายักษ์จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ วกกลับมาไล่ฆ่าฉินเฟิง
ถ้าฉินเฟิงสังหารแค่เต่ายักษ์เลเวล S ปัญหาเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย
แต่ในโลกใบนี้ไม่มีคำว่า ‘ถ้า’ ฉินเฟิงประเมินความอดทนของจ้าวเหนือหัวสูงเกินไป
จริงๆแล้วพอลองคิดดูดีๆ หากมีคนมาสังหารหลงถิงถึงหน้าบ้าน ฉินเฟิงก็คงโกรธเช่นกัน
“ดูเหมือนคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้เท่านั้น”
ฉินเฟิงพบว่าเมื่อจ้าวเหนือหัวใช้ความเร็วจริงๆที่มีนมี เขาไม่สามารถหลบหนีได้ เลยตัดสินใจไม่วิ่งอีกต่อไป
“เธอไปติดต่อจ้าวเหนือหัวคนนั้นซะ ฉันจะลองรับมือกับมันสักหน่อย”
“ระวังตัวด้วย!” ไป๋หลีผละมือจากฉินเฟิง ร่างเธอกระพริบไหวไปอีกทิศทางหนึ่งเพื่อส่งข้อความหาจ้าวเหนือหัว
ทางด้านฉินเฟิง พลังสมาธิของเขาระเบิดขึ้นทันใด โคตรดาวเคราะห์ทมิฬผุดขึ้นใต้เท้าเขา วินาทีถัดมา กระแสธารอันมืดมิดทะลักออกจากดาวเคราะห์ทมิฬ ก่อตัวเป็นสัตว์ยักษ์น่าสะพรึงกลัว
“เทคนิคจ้าวมังกรคำรน!”
บังเกิดเสียงคำรามกราดเกรี้ยว สะเทือนไปทั้งจักรวาล
“โฮกกกกกกก!”
ธารทมิฬปะทุออกมาอย่างดุเดือด ปะทะเข้ากับหัวมหึมาที่คล้ายมังกรและงู
ในอดีตทุกครั้งที่ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้นี้ออกมา ศัตรูของฉินเฟิง ทุกตนจมอยู่ในกระแสธารทมิฬ เลือดและเนื้อของอีกฝ่ายค่อยๆถูกลิดรอนพลังงาน ร่างกายเริ่มอ่อนแอลง
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ฉินเฟิงไม่รู้สึกว่าจะเป็นเช่นนั้นเลย ตรงกันข้าม มันให้ความรู้สึกเหมือนการห้ำหั่นกันระหว่างอักษรรูน หักล้างซึ่งกันและกัน
“ตูมมมม!”
พลังงานจากทั้งสองฝ่ายเกิดการระเบิด
ร่างของฉินเฟิงถูกเหวี่ยงด้วยแรงกระแทกมหาศาล ม้วนกลิ้งท่ามกลางอวกาศอย่างบ้าคลั่ง
“ฮึ่ม!”
ฉินเฟิงเปล่งเสียงอู้อี้ กลบความฝาดขมที่ไหลย้อนขึ้นมาในปากเขา ถ้าไม่ใช่เพราะการยกระดับที่เพิ่งผ่านมา อาการบาดเจ็บของฉินเฟิงคงสาหัสกว่านี้
โคตรดาวเคราะห์ทมิฬเริ่มแผ่วแสง
ร่างพลังงานของเต่ายักษ์จ้าวเหนือหัวก็เช่นกัน ทว่าไม่นาน มันก็ฟื้นฟูกลับมาสดใสดังเดิม ตรงเข้าบดขยี้ฉินเฟิงอีกครั้ง
