Ep.1052 - ยกระดับอย่างรวดเร็ว
Ep.1052 - ยกระดับอย่างรวดเร็ว
มนุษย์หมาป่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
มันไม่ควรตัดสินใจแวะมาดู มันไม่ควรโลภเลย เพราะตอนนี้มันตระหนักแล้ว ว่าตนดันเตะแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว!
แถมแผ่นเหล็กนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีเจตนาที่จะปล่อยคนที่ล่วงเกินตนให้จากไปแต่โดยดี
คราวนี้ฉินเฟิงกำหมัดแน่น ต่อยออกไปอีกครั้ง กำลังภายในอันทรงพลังแหวกมหาสมุทรพุ่งเข้าชนโล่พลังงานของเรือ โล่ป้องกันแหลกสลายทันที
ทั้งคนทั้งร่างของมนุษย์หมาป่าปลดปล่อยพลังงานออกมา เข้าต้านทานการรุกรานจากน้ำทะเลสีดำหมึกโดยรอบ
มันตัดสินจะแหวกว่ายไปยังทิศทางของมนุษย์กินคนอย่างบ้าคลั่ง หวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยชีวิต!
ทว่ามนุษย์กินคนเพิ่งเห็นความน่าสะพรึงของฉินเฟิงไป แล้วแบบนี้มันจะกล้ายั่วโมโหฉินเฟิงได้อย่างไร? เจ้าตัวเร่งหันหัวเรือ แล่นออกจากพื้นที่นี้ทันที
มนุษย์หมาป่าพอเห็นสถานการณ์ตรงหน้า มันจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? อีกฝ่ายทิ้งตนแล้ว! เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เจ้าตัวกัดฟัน หยิบของสิ่งหนึ่งออกมา อัดฉีดพลังงานในร่างกายลงไป มหาสมุทรทมิฬกับตนเอง ถูกแยกออกจากกันในพริบตา
นี่คือสมบัติลับมิติ มันคือสิ่งที่ช่วยชีวิตมนุษย์หมาป่าในครั้งนี้เอาไว้ เมื่อเปิดใช้งานสมบัติลับชิ้นนี้ เจ้าของจะสามารถพาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่มิติอื่นได้ชั่วคราว
แม้การกระทำเช่นนี้ตามปกติแล้วอาจดูโง่เขลา แต่ในกรณีนี้ ณ สถานที่แบบนี้ มันมีประโยชน์มาก เพราะพื้นที่มิติที่สร้างขึ้น มันสามารถแยกน้ำทะเลออกไปได้ หลังจากไม่มีรูนมืดเข้าแทรกแซง มนุษย์หมาป่าก็หยิบตัวเชื่อมมิติออกมา เตรียมฉีกความว่างเปล่าหลบหนีไปโดยตรง
เพียงแต่ว่า ก่อนที่มนุษย์หมาป่าจะทันได้ขยับตัว มีดคมๆก็เจาะทะลุพื้นที่มิติเข้ามา จ้วงแทงใส่หัวใจของมนุษย์หมาป่าในพริบตาเดียว
“อ๊อก ..!” มนุษย์หมาป่าเลเวล SSS เบิกตากว้าง ก้มลงมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แสงสีเงินสะท้อนวาบเข้ามาในสายตา --เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในพื้นที่มิติของตนได้อย่างไร?
แล้วมีดเล่มนี้มาจากที่ใดกัน?
อย่างไรก็ตาม ไม่รอให้มนุษย์หมาป่าวิเคราะห์หาข้อสรุปให้ชัดเจน ตัวมีดก็เลื่อนขึ้นราวกับไร้ซึ่งสิ่งใดกีดขวาง ตัดกวาดเป็นแนวนอน สะบั้นศีรษะทันที
ฉัวะะะ!
ร่างมนุษย์หมาป่าเกิดการระเบิด พื้นที่มิติส่วนตัวของมันล่มสลาย ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์ครามกลับมา ปลดปล่อยทักษะลับกลืนดาราดูดซับพลังงานเหล่านั้น ฟื้นฟูพลังงานที่เสียไปเมื่อครู่
“บังอาจมาใช้พื้นที่มิติต่อหน้าฉันงั้นเหรอ? .. เหอะ!” แม้ฉินเฟิงจะไม่เชี่ยวชาญในอักษรรูนมิติ แต่เขาอยู่กับไป๋หลีมานาน ดังนั้นพอมีความเข้าใจเกี่ยวกับพลังของมัน ไม่ต้องกล่าวถึงตัวมีดกษัตริย์ครามในมือเขา หนึ่งในวัสดุที่ใช้หลอมรวมมันคือแก่นอบิลิตี้ของแม่แมลงตั๊กแตนมิติ ดังนั้นหากคิดตัดมิติเป็นแค่เรื่องง่ายดาย
สิ่งที่มนุษย์หมาป่าตัวนี้ทำ จึงไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย
ฉินเฟิงสูบพลังงานจากเลือดเนื้อของศัตรู จากนั้นเริ่มขุดหาศิลาศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ในเวลานี้ ผู้ใช้พลังคนอื่นๆที่ออกสำรวจอยู่ใกล้ๆ ต่างรับทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน? นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? นายเห็นเหมือนกับที่ฉันเห็นไหม?”
“เขาแข็งแกร่งเกินไป แถมยังสามารถดูดซับได้อย่างรวดเร็ว แบบนี้ไม่ได้การแล้ว ถ้ายังปล่อยให้ทำต่อไป ต่อให้เป็นแกนกลางของมิติบาฮามุทก็คงรับไม่ไหว!”
“แล้วยังไงต่อ? พวกเราจะทำอะไรได้? นายจะฆ่าเขาหรอ?”
ช่วงเวลานี้ ผู้ใช้พลังหลายคนหุบปากลงไม่กล้าเอ่ยคำใด ฉินเฟิงแข็งแกร่งมาก หากพวกเขาเสนอหน้าเข้าไป นั่นเท่ากับส่งตัวเองลงสู่ความตาย
ดังนั้น คนเหล่านี้จึงเข้าใจโดยปริยาย ทั้งหมดไปกองรวมกันอีกซีกด้านหนึ่งของแกนมิติบาฮามุท เริ่มเก็บรวบรวมศิลาศักดิ์สิทธิ์ต่อ ส่วนครึ่งหนึ่งอีกฟาก ยกให้ฉินเฟิงทั้งหมด
อันที่จริงแล้วในวันนี้ พวกเขารู้สึกว่าการเดินทางในครั้งนี้มันประหลาดมาก ตอนแรกพวกเขามากันแปดคน แต่ปัจจุบันหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกหนึ่งเสียชีวิตลง ส่วนอีกหกล้วนตื่นตระหนกหวาดกลัว ทั้งๆที่พวกเขาเป็นผู้ใช้พลังเลเวล SSS แท้ๆ ขนาดตอนเจอจ้าวเหนือหัว พวกเขายังไม่ต้องระแวดระวังถึงขนาดนี้เลย
สถานการณ์ดังกล่าวกินเวลากว่าสามวันเต็ม ผู้ใช้พลังระดับสูงหลายคนไม่สามารถฝืนทนไหวอีกต่อไป พวกเขาไม่ได้มีพลังงานมากมายขนาดนั้น ไม่สามารถสนับสนุนเรือให้คงสภาพอยู่ได้ตลอดไป ดังนั้นเริ่มวางแผนแล่นเรือกลับ
แต่ก่อนออกเดินทาง คนเหล่านั้นเหลียวมองไปยังทิศทางของฉินเฟิง ทันใดนั้นพวกเขาถึงค่อยตระหนัก ว่าดาวเคราะห์ทมิฬขนาดใหญ่ดวงนี้ มีสภาพกลายเป็นวงรีไปไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
วิธีการที่ฉินเฟิงใช้กลืนกินแกนมิติดาวเคราะห์ดวงนี้มันโหดเหี้ยมเกินไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน ทำให้คนที่เหลือไม่กล้ายั่วยุฉินเฟิง เร่งแล่นเรือจากไป
ฉินเฟิงไม่มีความคิดที่จะหยุดพวกเขาเช่นกัน เพราะปัจจุบันไม่ใช่เวลามากังวลกับคนเหล่านี้
เมื่อคนเหล่านี้หายไป ฉินเฟิงก็สามารถออกแข้งออกขาได้อย่างอิสระกว่าเดิม
พลังพิเศษดูดกลืนรุนแรงขึ้นตามขนาดความใหญ่ของโคตรดาวเคราะห์ทมิฬ ตอนนี้ที่ฉินเฟิงทำ ก็แค่โจมตีดาวเคราะห์มืดไปเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังสมาธิของเขา ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดที่หลุดลอกออกมา ก็จะลอยเข้ามาในระหว่างคิ้วของเขาโดยอัตโนมัติ
ยังไม่พอ ระหว่างนี้พลังสมาธิของฉินเฟิงก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือมิติของจ้าวเหนือหัว พลังงานมีความบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ครอบครองอำนาจรุนแรงพอที่จะสังหารคนได้ แต่ฉินเฟิงกลับสามารถดูดซับมันตลอดเวลา พลังสมาธิของเขาเพิ่มพูนขึ้น เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน
จนครึ่งเดือนต่อมา
ท่ามกลางมหาสมุทรทมิฬ กลุ่มผู้ใช้พลังเลเวล SSS จำนวนเก้าคน ก็ได้เดินทางเข้าสู่ใจกลางมิติบาฮามุทอีกครั้ง
คนพวกนี้ ล้วนเป็นสมาชิกขององค์กรมืด และยังเป็นตัวตนทรงอำนาจที่จากไปครั้งก่อนอีกด้วย
ในครั้งนี้ มีสมาชิกใหม่เข้าร่วมอีกสองคน และทั้งสองเป็นมนุษย์
“อย่าให้ฉันได้เห็นเจ้ามนุษย์เวรนั่นเชียว สาบานได้เลยว่าฉันจะฆ่ามันทิ้งซะ!” พลังสมาธิของปีศาจเสพวิญญาณ ร้องคำรามอุกอาจ
มนุษย์กินคนพอได้ยินปีศาจเสพวิญญาณโวยวาย ก็แอบสาปแช่งในใจ จากนั้นตอบกลับไปว่า “ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก นี่ก็ผ่านมาได้ครึ่งเดือนแล้ว เขาคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานขนาดนั้น บางทีเขาอาจจากไปแล้วก็ได้ แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาขุดศิลาศักดิ์สิทธิ์ไปได้มากน้อยแค่ไหน พอคิดถึงมันฉันละอยากได้มาครอบครองบ้างจริงๆ!”
แน่นอนว่าคนอื่นๆก็เกิดความโลภเช่นกัน พวกเขาถึงขั้นเกิดความคิดว่าจะรวมพลังกัน สังหารเจ้าหมอนั่นเลยดีไหม
เพียงแต่ว่า ความคิดนี้ ไม่มีใครกล้าเสนอมันออกมา
“หือ? นี่ไม่ใช่มิติระดับสูงหรอกหรอ? ทำไมพลังงานโซนพื้นที่ข้างในถึงได้สงบแบบนี้? ไม่มีรังสีฆ่าฟันเลย” มนุษย์หน้าใหม่กล่าว
“ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก เพราะคราวก่อน เจ้ามนุษย์หมาป่าน่าโง่นั่นหนีไม่พ้น สุดท้ายเลยถูกพลังงานท่วมทับจนตาย!”
“ฉันไม่ได้โกหกนะ! พวกคุณก็ลองตรวจสอบพลังงานที่เสียไปกับโล่พลังงานดูสิ ไม่ใช่ว่ามันน้อยกว่าปกติหรอ?”
ชายคนนั้นก้มลงมองเรือสมบัติของเขา และพบว่าที่พลังงานที่สูญเสียไป มันน้อยกว่าที่คิดมากจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?”
“ช่างมันเหอะน่า แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง!”
เพียงแต่ว่า สถานการณ์นี้มีแค่มนุษย์สมาชิกใหม่สองคนเท่านั้นที่มีความสุข ในขณะที่คนอื่นๆเริ่มเกิดความไม่สบายใจ
และเมื่อคนกลุ่มนี้เข้าใกล้แกนกลางมิติ ความรู้สึกไม่สบายใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
ในช่วงเวลานั้นเอง กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวแผ่เข้ามาจากเบื้องหน้าพวกเขา
ผู้ใช้พลังเลเวล SSS ทั้งหมดต่างสั่นสะท้าน!
เพราะเบื้องหน้าพวกเขา แกนกลางมิติบาฮามุท ปัจจุบันหดลงเหลือแค่วงกลมเล็กๆ เส้นผ่านศูนย์กลางอย่างมากเหลือแค่ 20 - 30 เมตรเท่านั้น
และด้านหน้าของแกนกลางมิติบาฮามุท ยังมีชายผู้หนึ่ง ซึ่งตอนนี้กลิ่นอายของเขาน่าหวาดกลัวมาก พร้อมทั้งปรากฏโคตรดาวเคราะห์ทมิฬลอยอยู่ใต้ฝ่าเท้าเขา
และมันมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร
“จ้าว .. เหนือหัว?”
คำถามนี้ผุดขึ้นในใจของทุกคน เป็นไปได้ไหมว่าคนตรงหน้าพวกเขา กำลังจะตัดผ่านสู่ขอบเขตของจ้าวเหนือหัวที่นี่?
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ พลังสมาธิที่อีกฝ่ายเผยออกมา กลับเป็นกลิ่นอายของคนที่เพิ่งได้รับการยกระดับขึ้นเป็นเลเวล SSS เท่านั้น
แต่ผู้ที่เพิ่งได้รับการยกระดับใหม่ จะสามารถครอบครองแก่นอบิลิตี้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตรได้อย่างไร?
ยังไงก็ตาม นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
ฉินเฟิงที่กำลังเหยียบย่างอยู่บนโคตรดาวเคราะห์ทมิฬ กำลังลังเลว่าจะดูดซับต่อไปดีหรือไม่
อำนาจของพลังพิเศษดูดกลืนทรงพลังอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กระทั่งสัญชาตญาณของฉินเฟิงยังบอกว่า หากกลืนกินดาวเคราะห์มืดดวงนี้เข้าไป เขาจะได้รับพลังอันทรงอานุภาพอย่างหาผู้ใดเทียบ
เพียงแต่ว่า … ฉินเฟิงยังคงลังเล!