ตอนที่ 200 อ้วกแตก
ตอนที่ 200 อ้วกแตก
ทุกคนกลับมาที่ค่ายนั่งล้อมวงรอคอยให้จูเรียเปิดข้อมูลล่าสุดที่กู้มาได้ และก็รอไม่นานก็เจอเข้ากับบันทึกวิดีโอของกล้องวงจรปิดฉายออกมาเป็นภาพโฮโลแกรม
ในนี้มีกล้องอยู่ประมาณ 120 ตัวที่บันทึกภาพในสถานที่แตกต่างกันไปอยู่ หลังจากจูเรียไล่หาอยู่สักพักก็เจอกับภาพในห้องเก็บศพ
“นี่...” นิเรียเดินเข้าไปใกล้ ๆ ไนเรลเองก็จ้องภาพตรงหน้าตาไม่กะพริบ มันคือซากศพที่ผิวหนังไหม้เกรียม ร่างของเนโคที่โดนเก็บกลับมา
“เร่งความเร็วขึ้นอีก” ไนเรลบอกกับจูเรีย
จูเรียพยักหน้าจากนั้นก็เร่งความเร็วเป็น 12 เท่า ภาพผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่วิดีโอหายไปบางช่วงคือตอนที่เอิร์ลดาโก้ลบทิ้งไป
หลังจากนั้นภาพที่เรือบินมาถึงที่รอยแยก ตามด้วยทุกคนในเรือบินที่ดูจะรีบร้อนต่างพากันวิ่งออกไป ซึ่งหมายความว่าพวกมันลงไปที่รอยแยก ไปที่โบราณสถานกัน
หลังจากนั้นภาพทุกอย่างในเรือก็กลับมาเป็นปกติ เหลือคนที่ประจำอยู่ต่างพาเรือบินขึ้นไปบนฟ้า
“ถ้าอย่างนั้นร่างปู่หายไปไหน ใครจัดการเรือบินและขโมยร่างปู่ไป” นิเรียถามด้วยความสงสัย
คนอื่น ๆ ที่มองดูอยู่ก็สงสัยเช่นกันต่างพากันเปิดกล้องอื่น ๆ เพื่อหาความผิดปกติ และแล้วในจังหวะที่เรือบินกำลังลอยขึ้นสิ่งที่หน้าเหลือเชื่อก็เกิด
“ดูนั้นสิ” เอวาที่จ้องมองไปที่ภาพภายในห้องเก็บศพ
“นี่มันเป็นไปไม่ได้” หมอแฮรี่พูดออกมาด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น แฮรี่เป็นหมอดังนั้นจึงช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก
เพราะขณะนั้นศพของเนโคอยู่ ๆ ก็ขยับจากนิ้วมือไปแขน และจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง แม้มันจะช้าแต่ตัวของเนโคเคลื่อนไหวจริง ๆ
อ๊ากกก!!!!!!!!!!
เนโคร้องออกมาจากลำคอด้วยความเจ็บปวด เวลาที่เนโคยันตัวขึ้นเวลาที่ร่างกายสัมผัสกับเตียง ผิวหนังที่ไหม้เกียมจะลอกหลุดออกมา
มันไม่มีเลือดแต่สามารถมองเห็นเนื้อแดง ๆ ได้ เนโคร้องออกมาทุกครั้งที่ผิวหนังหลุดลอก
ในภาพเนโคพยายามลุกลงจากเตียง แต่เพราะความเจ็บทำให้ตัวของเนโคล้มลง
พอมาถึงตรงนี้นิเรียก็ยกมือปิดปาก ไนเรลกำหมัดแน่นกับภาพ ทุกคนที่เห็นภาพมีรู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหนกันแน่ แต่ถ้าเป็นพวกเขาที่เจอแบบนั้นคงจะสลบไปเพราะความเจ็บปวด
หลังจากเนโคลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก ในตอนนั้นเองเจ้าหน้าที่ซึ่งมาประจำที่ห้องนี้คนใหม่ก็เปิดประตูเข้ามาโดยที่ไม่ทันได้มอง แต่พอเข้ามาชายคนนั้นก็ตกใจที่เห็นศพไหม้เกรียมลุกขึ้นมาเดิน
“ซอม...ซอมบี้” ชายคนนั้นดูเหมือนจะคิดว่าเนโคเป็นซอมบี้ จึงพยายามหยิบ เหล็กแหลมที่อยู่ภายในห้องซึ่งมักจะใช้ในการแทงศีรษะของศพในห้องมาฆ่าเนโค
“แกตายไปแล้ว ตายอีกครั้งซะเจ้าซอมบี้” ชายคนนั้นยกเหล็กแหลมแทงใส่เนโค
แม้สภาพเนโคจะเป็นแบบนี้ก็ตาม แต่คนธรรมดาอ่อนแอแบบนี้ไม่มีทางเป็นภัยคุกคามเนโคได้
เนโคเบี่ยงตัวหลบอย่าง ๆ จากนั้นก็ยื่นมือไปกำคอของชายคนนั้นไว้
“ปล่อยสิวะ อย่า ๆ อ๊าก...!” เจ้าหน้าที่ห้องเก็บศพคนนั้นดิ้นรนไปมา แต่เนโคออกแรงกำคอชายคนนั้นจนหักดังกร๊อบ!
หลังจากนั้นพลังงานสีเทาก็ออกมาจากร่างของเจ้าหน้าที่คนนั้นเข้าไปในตัวของเนโค
“ต้องการอีก” เนโคโยนศพเจ้าหน้าที่คนนั้นไปหลังจากที่หยิบบัตรคีย์การ์ดมาแล้วเปิดประตูออกไปตามทางเดิน ในระหว่างทางเนโคเห็นใครก็จะตรงเข้าไปฆ่าทันที
โดยไม่สนว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือมนุษย์ชั้นสูงเพราะในความคิดตอนนี้คนพวกนี้คือพวกจีนาสที่ศัตรูของตนเอง
จากนั้นก็ใช้ความสามารถลึกลับอย่าง [สูบวิญญาณ S] จัดการสูบพลังงานสีเทาจากคนที่โดนฆ่าเข้ามาในร่างอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะมนุษย์ชั้นสูงระดับ สีน้ำตาลที่มีความสามารถควบคุมไฟ มนุษย์ชั้นสูงคนนั้นสร้างปลดปล่อยเปลวเพลิงจากมือทั้งสองข้างพ่นไฟเผาเนโค
ตัวของเนโคโดนเผาอีกครั้ง แต่เนโคเพียงยกแขนขึ้นมากันจากนั้นก็เดินเข้าไปหามนุษย์ชั้นสูงคนนั้นทีละก้าว ทีละก้าว
ชายคนนั้นรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก จึงใช้พลังทั้งหมด แต่มันกลับไม่ได้ทำให้เนโคช้าลงเลย เนโคตรงเข้าหาและต่อยด้วยหมัดเข้าไปที่หน้าอกดังปุ! จากนั้นเนโคก็ควักหัวใจที่ยังเต้นแรงและมีเลือดฉูบฉีดออกมาอย่างเลือดเย็น
มนุษย์ชั้นสูงระดับ สีน้ำตาลโดนฆ่าด้วยหมัดของเนโคทั้งอย่างนั้น
ไนเรลมองดูเนโคถล่มเรือบินจนเละ สัญญาณในเรือบินดังอย่างต่อเนื่อง ในห้องควบคุมผู้คนในนั้นพยายามติดต่อไปที่เอิร์ลดาโก้ แต่ก็ไร้การตอบกลับ
และเวลาไม่นานเคโคก็เข้ามาถึงห้องควบคุม หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ไนเรลเข้าไปเห็น ส่วนซอมบี้พวกนั้นที่ไนเรลเจอมันคือคนที่หนีตายไปหลบด้านล่าง
และพอเรือบินตกเส้นทางเข้าออกก็ปิดลง ด้านล่างมีคนตายไม่นานมันก็กลายเป็นซอมบี้และเกิดการฆ่ากันในความมืด
ส่วนเนโคนั้นภาพสุดท้ายที่จับได้คือผิวหนังที่ไหม้เกรียมถูกแทนที่ด้วยผิวใหม่ที่ฟื้นตัวขึ้นมา
“มนุษย์ชั้นสูงช่างมีพลังฟื้นตัวที่สุดยอด” แฮรี่พูดขณะมองดูภาพของเนโค
ไนเรลเห็นด้วยกับคำพูดของหมอแฮรี่ แต่เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
‘จากความสามารถสูบวิญญาณของปู่ที่เคยพวกมันถึงพลังงานจากคนที่ตายหรือจะเรียกว่าวิญญาณก็ได้ แต่แน่นอนว่าวิญญาณดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ในยุควิทยาศาสตร์แบบนี้ หลังจากนั้นพลังงานพวกนั้นก็จะไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ไม่รู้ว่าถ้าถึงระดับหนึ่งปู่จะเป็นอมตะเลยหรือไม่ถ้าสูบวิญญาณไปจำนวนมาก’ ไนเรลคิดว่าความคิดของเขาเป็นไปได้
“พี่ปู่ยังไม่ตาย”
“อืม...ปู่ยังไม่ตายและคงจะตามพวกนั้นเข้าไปในโบราณสถาน”
“ไปเตรียมตัวกันเถอะและพักผ่อนกันก่อน เราลงไปที่โบราณสถานข้างล่างรอยแยกในอีก 12 ชั่วโมง” ทุกคนพยักหน้ารับ นิเรียเองก็แยกไปทำความคุ้นเคยกับระดับ 5 ขั้นสูงที่พึ่งผ่านขั้นมา
แต่ก่อนออกไปไนเรลเดินเข้าไปหาหมอแฮรี่และหยิบบางอย่างให้
“นี่คือ”
“ผลคริสตัลวิวัฒนาการ และยายกระดับ”
“มันมากเกินไป”
“รับไว้เถอะ ไม่รู้ว่าด้านล่างจะเจออะไรบ้าง นายควรจะแข็งแกร่งขึ้นจะได้ทำหน้าที่ของหมอได้”
แฮรี่ลังเลอยู่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของไนเรลเขายืนมือไปรับมันมา จริงอย่างที่ไนเรลพูด ถ้าเกิดเจออันตรายอย่าว่าแต่จะช่วยคนอื่น ๆ เลย แม้แต่ตัวเองเขาก็ยังไม่รอดแล้วจะรักษษใครได้
หมอแฮรี่รู้ว่าสิ่งที่รับมานั้นมีค่า แต่ตัวเขาเองพึ่งมายังไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับไนเรล ดังนั้นเขาจึงสัญญากับไนเรลว่า “ฉันจะรักษาพวกนายอย่างเต็มที่”
“แต่ฉันหวังว่านายจะไม่ต้องรักษาพวกเรา” ไนเรลตอบแบบยิ้ม ๆ แฮรี่ก็หัวเราะออกมาเช่นกัน
......
เช้าวันต่อมาดวงอาทิตย์ขึ้นช้ากว่าปกติ หิมะตกหนักกว่าเมื่อวานและลมที่พัดแรงพอสมควร ทั้งกลุ่มออกเดินทางกันทันทีเมื่อถึงเวลานัดหมาย
ไนเรลนำหน้ากลุ่ม ด้านหลังตามมาด้วย นิเรีย เอวา เมสัน จูเรีย มะลิ หมอแฮรี่และกลุ่มโนเนทที่นำโดยชารอน ในนั้นยังมีเสือดาวสายฟ้าที่มีผ้าคลุมหนังสัตว์อยู่บนตัว ทำให้สาว ๆ กลุ่มโนเนทเดินหลบหิมะข้างมัน
และที่สำคัญสัมภาระส่วนใหญ่ถูกมันแบกไว้บนหลัง ยังมีหุ่นยนต์สี่ขาที่แบกเครื่องมือของเมสัน จูเรียและแฮรี่ตามมาด้วย ยกเว้นแค่ของไนเรลที่เขาเก็บไว้ในเงา
นอกจากนั้นยังมีคนที่มาพร้อมกับพวกเขา แต่หลังจากที่คุยกันแล้วไนเรลจังตัดสินใจว่าจะพามาแค่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น แค่ 100 คน ส่วนที่เหลือให้รออยู่ที่ค่ายกับโลแกนและกองกำลังหมาป่า
ทุกคนในที่นี้ต่างก็สวมชุดสูท M4 กันหมด ยกเว้นบางคนคือไนเรลคนเดียวเพราะด้วยร่างกายระดับสีม่วงของเขามันแข็งแกร่งและทรงพลังกว่าชุดสูทM4 ซะอีก
พวกเขามาถึงทางลงไปในรอยแยก แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจทำให้เกิดลมกระชากแรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิงทางลงไปที่ทั้งชันและอันตราย ในบางจุดเกิดจากการที่โลแกนส่งคนมาทำเส้นทางไว้จึงเชื่อมต่อเป็นทางเดินลงไปได้
ไนเรลเดินนำไปก่อนจากนั้นก็หันไปบอกกับทุกคนว่า “ฉันจะลงไปรอข้างล่าง พวกนายก็ค่อย ๆ เดินลงมาแล้วกัน”
พูดจบไนเรลก็คว้าตัวน้องสาวและกระโดดลงไปจากนั้นก็กลางปีกบินอย่างสบาย
เอวาก็กระโดดลงไปเช่นกันรอบตัวมีใบมีดสายลมหมุนรุนแรงยิ่งกว่าลมรอบ ๆ ซะอีก อีกอย่างเหมือนสายลมจะส่งเสริมพลังของเธอให้แข็งแกร่งไปมันจึงไม่มีปัญหากับการที่เธอจะกระโดดลงไปในรอยแยก
หลังจากทั้งสองคนกระโดดลงไปในรอยแยก มะลิที่ยืนอยู่บนหัวของธีโอก็ร้องเรียกจูเรีย
“มิ้ว มิววว.... (ขึ้นมา)”
“ให้ฉันขึ้นไปเหรอ” จูเรียหันไปมองมะลิที่เรียกตัวเองอยู่
มะลิพยักหน้า แต่เมื่อเห็นว่าจูเรียเพื่อนสนิทของเธอลังเลอะไรอยู่ มะลิก็ทำท่ายิ้ม ๆ จากนั้นก็บอกกับธีโอ ร่างของธีโอขยายใหญ่ขึ้นก็10 เท่าซึ่งพอให้จูเรียขึ้นมาขี่ได้
หลังจากจูเรียกระโดดเกาะหลังของธีโอและถามว่า “ธีโอบินไม่ได้ แล้วเราจะทำยังไง หรือว่าจะให้ธีโอวิ่งไปตามทาง”
“แม้ววว มี้! ม้าว เหมียว แม้วๆๆ ม้าว...มิ้ววว (เดี๋ยวก็รู้เอง มีมะลิซะอย่าง...ไปเลย)”
หลังจากสิ้นเสียงของมะลิธีโอก็กระโดดลงหน้ารอยแยกไปซะดื้อ ๆ จูเรียที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็กอดคอของธีโอแน่นพร้อมกับกรีดร้องสุดเสียง มะลิที่ตัวใหญ่กว่ากำปั้นไม่มากนักก็ใช้เท้าหน้าทั้งสองข้างเกาะหัวของธีโออย่างสุดชีวิตขณะที่ตัวเล็ก ๆ ทั้งสองเหมือนกับผ้าที่ผูกติดกับตัวธีโอปริ้วไปมากับลมไม่หยุด
“อ้าาา..............”
เสียงกรีดร้องของทั้งสองคนหายไปในรอยแยก เมสันและแฮรี่ที่ยืนมองหน้ากันอยู่ข้าง ๆ มองพวกที่กระโดดลงไปด้วยอารมณ์ที่ต่างกันออกไป
แต่ในใจของเมสันคิดว่า ‘บ้าเอ๊ยกลับไปต้องทำให้ชุดบิดได้ซะแล้ว’
หลังจากนั้นทุกคนก็พากันเดินลงไปในรอยแยกซึ่งมันก็ไม่ได้อันตรายมากอย่างที่คิดเมื่อพวกเขาใส่ชุด M4 จึงทำให้ต้านแรกลมได้
ขณะเดียวกันไนเรลที่ลงมาพร้อมกับนิเรียและเอวาก็มาถึงเกือบด้านล่างแล้ว แต่ในตอนนั้นเองอยู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากบนหัวของพวกเขา ไนเรลรีบบินหลบ เอวาก็เช่นกัน
ในสายตาของทั้งสามคนเห็น มะลิ จูเรีย กำลังเกาะตัวของธีโอโดยที่ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลออกมาจากการปะทะกับลมอย่างแรง
ไนเรลมองถาพตรงหน้าด้วยหนังตากระตุกเล็กน้อยกับการกระทำของพวกเธอ จึงรีบบินตามลงไป เพราะกลัวทั้งสามจะไปกระแทกกับพื้นจนเละเป็นเนื้อบด
แต่ดูเหมือนไนเรลจะกังวลไปเอง เพราะก่อนถึงพื้น 100 เมตร สนามพลังของธโอก็ขยายกว้างออกไป 100เมตร หิมะ ลม และทุกอย่างช้าลงอย่างรวดเร็ว
ไนเรลที่อยู่ในสนามพลังก็รับรู้ได้ถึงความหนืดมันเหมือนมีเส้นได้มาชุดเขาไว้ให้ลงไปในน้ำทำให้ความเร็วของเขาหายไปกว่า 50%
‘ถ้าฉันใช้พลังทั้งหมดคงจะหลุดออกจากสนามพลังนี้ได้’
‘ระดับของธีโอคือระดับ 5ขั้นสมบูรณ์สินะ ดูเหมือนที่ทั้งสองติดตามมาด้วยเพราะธีโอต้องการเลือนไประดับ 6 ส่วนมะลิก็ยังคงเป็นระดับ 4 อยู่เช่นเดิม’
ไนเรลใช่พลังทั้งหมดหลุดออกมาจากสนามพลังของธีโอ แม้มันดูเหมือนง่าย ๆ แต่อันที่จริงถ้าเขาตกอยู่ในสนามพลังนานกว่านี้สัก 1 ชั่วโมง มันคงพูดยากแล้ว เพราะสนามพลังของธีโอเหมือนกับยิ่งอยู่นานผลกระทบที่ได้รับก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไป
ธีโอกระโดดไปบนเกล็ดหิมะอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลงไปถึงพื้นอย่างง่ายดายจากนั้นก็กลับคืนขนาดปกติ
ส่วนสองคนที่อยู่ด้านหลังก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม มะลิเดินเซเล็กน้อย แต่พอเห็นไนเรลก็เชิดหน้าขึ้นมองด้วยความภาคภูมิใจที่ลงมาถึงเป็นคนแรกและกำลังพูดบางอย่าง
แต่แล้วทั้งมะลิและจูเรียต่างก็เอามือปิดปากรีบวิ่งออกไปหาที่อ้วกกันทันที มันทำให้ใบหน้าของผู้ชนะหายไปทันที
หลังจากทั้งสองปล่อยสิ่งที่กินมื้อเช้าจนหมดก็มานั่งหมดแรงอย่างข้าง ๆ กัน
“หมอ ฉันต้องการหมอ”
“มิ้ว มิววว.... (มะลิขอด้วย)”
มะลิและจูเรียพูดมาอย่างอ่อนแรง ขณะที่หน้ามืดตาลายจากการเมาพื้นที่ต่างระดับ เพราะลงมาเร็วเกินไป ขณะที่ธีโอหยิบใบไม้คริสตัลจากกระเป๋าด้านหลังออกมาเคี้ยวเล่น
ไนเรลที่ลงมาถึงพื้นถึงกับกุมขมับกับการกระทำของทั้งสอง