ตอนที่ 2
หลังจากที่จีเจ๋อหยูหันหลังกลับและเดินออกจากห้องไป เขาก็ได้ทิ้งภาพลักษณ์ที่อ่อนแอและน่าสมเพชไว้ มุมปากของเขาโค้งขึ้นจนหยุดไม่ได้
ลู่หนานหยุนตะโกนอย่างโกรธเคืองไล่หลังเขา " ใครอยากจะเป็นเพื่อนกับนายบกัน นายควรอยู่ห่างจากฉันไปเลย!"
ประตูถูกปิดลง และลู่หนานหยุนก็โกรธมากจนเดินไปมาในห้อง
ตั้งแต่ลู่หนานหยุนเข้าร่วมการแข่งขัน เขาก็ถูกจีเจ๋อหยูรังควานเกือบทุกวัน แม้ว่าเขาจะอยู่ในคลาส A และจีเจ๋อหยูอยู่ในคลาส B ซึ่งทั้งสองไม่ได้อยู่ในหอพักเดียวกัน แต่จีเจ๋อหยูมักจะหาโอกาสเข้าหาเขา มาพูดคุยและเข้าถึงเนื้อถึงตัวเขาเสมอ
จีเจ๋อหยูทำราวกับว่าเขาเป็นฝ่ายผิด ไม่แปลกที่เขาจะโกรธมาก
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ลู่หนานหยุนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขาเคยได้ยินคนอื่นพูดมากกว่าหนึ่งครั้งว่าตระกูลจีนั้นไม่มีกฎอะไรสำหรับลูกชายคนสุดท้อง พวกเขามักจะปล่อยให้ตามใจตัวเอง และไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจใดๆของเขา แล้วแม่ของเขาจะส่งข้อความแบบนั้นมาได้ยังไง?
หรือจีเจ๋อหยูจะเห็นกล้องแล้ว?
ลู่หนานหยุนเหลือบมองกล้องที่ซ่อนอยู่ข้างเตียง มันดูค่อนข้างเป็นมิดชิด และไม่น่าจะมีใครเห็นได้ง่าย
เขารีบหยิบกล้องออกมาแล้วเปิดวิดิโอที่บันทึกไว้ และดูอย่างระมัดระวัง
เมื่อเข้ามาพักที่โรงแรมในตอนกลางคืน จีเจ๋อหยูก็ส่งข้อความถึงลู่หนานหยุนใน WeChat โดยเขาบอกว่าห้องอาบน้ำในห้องมันเสีย และต้องการมาอาบน้ำที่ห้องของเขา หลังจากที่ลู่หนานหยุนตกลงเขาก็ซ่อนกล้องไว้
ในวิดีโอจะเห็นว่าจีเจ๋อหยูถอดเสื้อและกางเกงออกอย่างตื่นเต้นและเขินอาย เขาพยายามอวดรูปร่างของเขา จากนั้นจึงค่อยๆเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างยั่วยวน แต่มันไม่สามารถกระตุ้นความสนใจของลู่หนานหยุนได้
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เมื่อจีเจ๋อหยูออกมาจากห้องน้ำ ดูเหมือนคนคนนี้จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถอ่านได้ และทุกการเคลื่อนไหวของร่างเพรียวก็ทำให้เขาสับสน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคำพูดของจีเจ๋อหยูกับลู่หนานหยุน " ตราบเท่าที่นายนอนกับฉันหนึ่งคืน ฉันรับประกันว่าตำแหน่งเซ็นเตอร์ของรายการจะเป็นของนาย" มันไม่ได้บันทึกไว้ เพราะมันอยู่ไกลเกินไป
ลู่หนานหยุนดูคลิปไปหลายครั้ง เมื่อจีเจ๋อหยูพูด มุมปากของเขาก็กระตุกและขยับอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมภายใต้ดวงตาของเขา พูดเสร็จแล้วก็มองมาทางกล้อง
ดูเหมือนว่ามันจะถูกเห็นแล้วจริงๆ
เป็นผลให้ครั้งต่อไปที่หากต้องการจะจัดการจีเจ๋อหยู มันจะยากขึ้นมาก
การแสดงออกของลู่หนานหยุนกลายเป็นเคร่งขรึม
อย่างไรก็ตาม ลู่หนานหยุนก็เชื่อว่าวันนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ และจีเจ๋อหยูจะทำอีกครั้งอย่างแน่นอนในอนาคต และเขาจะได้หลักฐานอย่างแน่นอน
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่จีเจ๋อหยูได้ออกจากห้องของลู่หนานหยุน เขาก็ได้รับข้อความอีกหลายข้อความทางโทรศัพท์จากพ่อแม่ของเขา ทั้งลุงและป้าอีกสองสามคน ทุกคนปลอบโยนเขาและบอกเขาว่าอย่าไปสนใจสิ่งที่คนอื่นพูดบนอินเทอร์เน็ต
จีเจ๋อหยูหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปพร้อมกับก้มหน้าพึมพำ " โดนด่าหลังจบตอนแรกนี่มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ ที่จริงมันไม่ควร..."
เขาไม่ทันได้สังเกตว่ามีร่างสูงกำลังเดินมา และบังเอิญไหล่ของทั้งสองชนกัน จนโทรศัพท์ในมือเกือบตกลงมา
จีเจ๋อหยูซึ่งอยู่ในวงการบันเทิงมาแล้วเจ็ดถึงแปดปี ให้ความสำคัญกับมารยาททางสังคมเป็นอย่างมาก และกล่าวขอโทษอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว " ขอโทษครับ...เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?"
เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นใบหน้าที่ไม่ด้อยกว่าลู่หนานหยุน ดวงตาสีดำบริสุทธิ์และไฝจางๆ ที่หางตาขวาของเขา ทำให้เขาดูแตกต่างกว่าคนอื่นๆ
เมื่อได้ยินคำขอโทษของจีเจ๋อหยูอีกฝ่ายก็ชะงักไปชั่วครู่ และการแสดงออกของเขาก็ดูแปลกไปเล็กน้อย
จากการแสดงออกของเขา จีซือหยูสามารถสรุปได้ว่าคนตรงหน้านั้นรู้จักเขาอยู่แล้ว
ส่วนตัวจีเจ๋อหยูนั้นไม่รู้จักลักษณะของตัวละครในนิยายต้นฉบับ และไม่สามารถเรียกชื่ออีกฝ่ายได้ชั่วขณะหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงเกาศีรษะและพูดกับเขาว่า " บังเอิญจริงๆที่เจอนายที่นี่"
" ใช่ " ชายหนุ่มตอบอย่างแผ่วเบา เขาจ้องมองไปที่จีเจ๋อหยู แล้วหันไปมองที่ประตูห้องของลู่หนานหยุน จากนั้นไม่นานเขาก็ถอนสายตากลับอย่างไร้ร่องรอย และจ้องตรงไปที่จีซือหยู ดวงตาของคนตรงหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เขาไม่เข้าใจ " บังเอิญจริงๆ "
“ฉีนไปก่อนนะ”
จีเจ๋อหยูปกปิดความขัดเขินของเขา แล้วพยักหน้าเก้อๆมองเขาจากไป
หลังจากกลับมาถึงห้องแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวเจี่ยหยุนก็โทรมาบอกกับจีเจ๋อหยู " เจ๋อหยู คืนนี้นายไม่ต้องเข้าไป Weibo นะ ในนั้นมีแต่ข้อความแย่ๆกับพวกขี้อีิจฉา พักผ่อนเยอะๆจะได้ตื่นแต่เช้า พรุ่งนี้มีงานรออยู่”
จีเจ๋อหยูตอบรับอย่างเชื่อฟังและวางสายไป
จากนั้นเขาก็เปิดเข้า Weibo อย่างรวดเร็วเพื่อค้นหาชื่อของเขา
ป้อนคำสามคำลงไป "จีเจ๋อหยู" ในช่องค้นหาของ Weibo และรายการที่เกี่ยวข้องเช่น "ความงดงามแห่งยุค" "ขี้หงุดหงิดแต่ใจดี" "ใบหน้าของรักแรก" โผล่ออกมาตามด้านหลัง
ดูเหมือนว่าบริษัทได้ล้างรายการไปแล้ว มิฉะนั้นตามการตั้งค่าส่วนตัวของจีเจ๋อหยูในนิยายต้นฉบับ คงจะมีแต่รายการสีดำที่โผล่ออกมาจากด้านหลังอย่างที่ควรจะเป็นเช่น " ขยะ" และ " รีบออกไป"
จีเจ๋อหยูเลื่อนดูผลการค้นหา และเป็นไปตามที่คาดไว้เห็น Weibo นับไม่ถ้วนสาปแช่งเขา
ชาวเน็ต 1: " เกิดอะไรขึ้นกับรายการ จีเจ๋อหยูทำได้แย่มากในรอบแรก แต่เขากลับได้ B นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน เขาคิดว่าคนดูตาบอดหรือไง?"
ชาวเน็ต 2: " ตอนแรกฉันว่าจะลงคะแนนให้ลู่หนานหยุน แต่พอฉันคลิกเข้าไปแล้วเห็นว่าจีเจ๋อหยูเสียอันดับที่เจ็ดของเขาแล้วก็ไม่มีใครลงคะแนนให้เขาในเลย"
ชาวเน็ต 3: " ช่วยด้วย ฉันพึ่งไปดูเรตติ้งอันแรกของจีเจ๋อหยูมา บริษัทเขาต้องดีกว่านี้แน่ๆถ้าไล่เขาออกไป ถ้าหากประธานของซิงหยูเอนเตอร์เทนเมนท์ชอบเขา ฉันคงคิดว่าสมองเขามีปัญหาแน่ๆ!"
และแฟนคลับพูดถึงจีเจ๋อหยูโดยไม่มีข้อยกเว้น หรือยกย่องรูปลักษณ์ของเขาโดยไม่เอ่ยถึงความแข็งแกร่งของเขา
พื้นที่แสดงความคิดเห็น Weibo ของจีเจ๋อหยูนั้นได้ถูกครอบครองโดยแอนตี้แฟนหลายคน
ความคิดเห็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ " มีใครบ้างที่ต้องการให้จีเจ๋อหยูออกไป?" จำนวนไลค์: 52,756 ไลค์
จีเจ๋อหยูหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกปวดขมับขึ้นมา
ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ได้เปิดแพลตฟอร์มวิดีโอและหาตอนแรกของรายการ "Star Way Shines" เข้าดูขั้นตอนการให้คะแนนครั้งแรกของจีซือหยู และพบว่าขมับของเขากำลังเต้นตุบๆอย่างอดทน
ซิงหยูเอนเตอร์เทนเมนท์เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยพี่ชายของจีเจ๋อหยู จีเจ๋อเฟิง และเขาได้ส่งคนคนหนุ่มอีกสี่คนให้มาร่วมทีมเพื่อช่วยเขา แต่ถึงอย่างนั้น…
ทั้งสี่คนก็ไม่อาจจะช่วยอะไรเขาได้
แม้ว่าทีมกรรมการจะพยายามจะให้คะแนนของจีเจ๋อหยูอยู่คลาส A แต่มันก็ทำไม่ได้จริงๆ ในท้ายที่สุดก็ทำได้แค่ให้ B เท่านั้น แต่ก็ยังทำให้เกิดความขุ่นเคืองในที่สาธารณะไปทั่ว
ในวิดีโอจะเห็นได้ชัดเจนว่าจีเจ๋อหยูทั้งตื่นเวทีและลืมท่าเต้น และเมื่อเขาเริ่มร้องเพลง เขาก็ดันมีเสียงที่แตกอย่างเห็นได้ชัด แถมยังลืมเนื้อเพลงอีก ราวกับว่าเขาซ้อมเพียงห้านาทีก่อนทำการแสดง
เนื่องจากซิงหยูเอนเตอร์เทนเมนท์บังคับรายการให้เรตติ้งของจีเจ๋อหยูต้องเป็นที่หนึ่งของทีม ส่งผลให้มีเพียงหนึ่งในสี่ของกลุ่มที่โดดเด่นเท่านั้นที่ได้รับมอบให้อยู่ในคลาส B และอีกสามคนถูก "จับยัด" และโยนเข้าไปอยู่ในคลาส C ทั้งหมด
จีเจ๋อหยูปิดวิดีโอ เขานั่งลงบนเตียงและความสับสนแบบเดียวกันก็ผุดขึ้นในใจของเขา ในฐานะชาวเน็ต: ความนิยมเขาอยู่ในอันดับที่ 7 ของรายการได้อย่างไร?
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงชีวิตก่อนของเขา เขาฝึกฝนอย่างหนัก แต่ทำได้เพียงทำหน้าที่เป็นพื้นหลังเท่านั้น เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดให้กับแต่ละการแสดง แต่เขาก็ไม่เคยกลายเป็นจุดสนใจท่ามกลางสปอตไลท์ได้เลย
สิ่งที่จีเจ๋อหยูหวงแหนคือทุกอย่างที่เขาฝันถึง
แม้แต่แอนตี้แฟนก็ยังดีกว่าไม่มีใครสนใจ
จีเจ๋อหยูนอนอยู่บนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ เขาจ้องมองไปที่ที่เพดาน ดวงตาของเขาค่อยๆชัดเจนและมั่นคงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสายตาของเจ้าของเดิม
ตอนนี้จีเจ๋อหยูเข้าใจถ่องแท้แล้วว่าเขาจะทำอะไรต่อไป เขาต้องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาในการแสดงความสามารถ และกำจัดสถานะที่เป็นอยู่ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด
สำหรับคนอื่นๆ นี่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับจีเจ๋อหยูที่เป็นเด็กฝึกมืออาชีพ เขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองถึงที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น ผู้จัดการส่วนตัวของจีเจ๋อหยูอย่าง เจี๋ยหยุน ก็มาที่โรงแรม ด้วยความห่วงใยจากใจของเธอ แต่เธอก็ต้องแปลกใจกับท่าทางของจีเจ๋อหยูนั้นดีมาก ไม่เหมือนกับคนที่ได้รับผลกระทบจากความคิดเห็นของสาธารณชนมาเลย
จีเจ๋อหยูนั้นอยู่ในชุดฟอร์มสไตล์อังกฤษของ "Stars Shining" เสื้อสีฟ้าอ่อนด้านนอก กับเสื้อเชิ้ตสีขาวบริสุทธิ์ข้างใน ขับเน้นผิวของเขาให้ขาวขึ้นไปอีก ผสมผสานความสง่างามและอ่อนเยาว์เข้าไว้ด้วยกัน
หากเพียงแค่มองใบหน้า คงต้องจัดไว้ให้อยู่ในสามอันดับแรกอย่างง่ายดาย
เจี๋ยหยุนพาจีเจ๋อหยูไปที่รถของพี่เลี้ยง ซึ่งมีคนนั่งอยู่ในรถก่อนแล้วคนหนึ่ง หนุ่มหล่อผมสีเกาลัดผิวขาวผ่อง ลักษณะที่ละเอียดอ่อน และเปลือกตาชั้นเดียวที่สวยงามช่วยเพิ่มสัมผัสของความเย็นชาให้กับรูปลักษณ์ของเขาได้อย่างดี
เมื่อเห็นจีเจ๋อหยูขึ้นรถ เด็กหนุ่มก็ทักทายเขาอย่างสุภาพ
จีเจ๋อหยูเค้นข้อมูลในสมองของเขาและคาดเดาว่าคนนี้น่าจะชื่อ ฉีอ่าวตง ซึ่งเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาห้าคนที่ถูกส่งมาจากซิงหยูเอนเตอร์เทนเมนต์ ถ้าไม่ใช่เพราะตัวถ่วงอย่างจีเจ๋อหยู เขาคงได้อยู่คลาส A แล้วแน่นอน
ในนิยายต้นฉบับ ฉีอ่าวตงนั้นไม่พอใจจีเจ๋อหยูมาก แต่เพราะแรงกดดันของบริษัท เขาจึงต้องก้มหัวให้กับเรื่องนี้ แต่ต่อมาเขาก็เลือกที่จะยืนเคียงข้างความยุติธรรมและเปิดเผยการกระทำที่ชั่วร้ายต่างๆของจีเจ๋อหยู
จีเจ๋อหยูทักทายเขาด้วยความรู้สึกผิด " อรุณสวัสดิ์นะอ่าวตง"
ฉีอ่าวตงสะดุ้งเล็กน้อย และเจี๋ยหยุนซึ่งนั่งข้างคนขับก็อดไม่ได้ที่จะมองจีเจ๋อหยูผ่านกระจกมองหลัง
จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจีเจ๋อหยูไม่เคยมองฉีอ่าวตงด้วยสายตาตรงๆมาก่อน เหตุใดทัศนคติของเขาถึงดีกระทันหันในวันนี้ได้กัน
" เจ๋อหยู วันนี้เธอดูเหมือนจะอารมณ์ดีนะ?" เจี๋ยหยุนเอ่ยอย่างแผ่วเบา “อดทนไว้แล้วก็ยิ้มให้มากหน่อยในงานวันนี้นะ”
เดิมทีการจัดการสีหน้าเป็นทักษะพื้นฐานที่สุดของไอดอล แต่เขากลับต้องถูกกำชับจากผู้จัดการส่วนตัว ทำให้จีเจ๋อหยูอดจะรู้สึกเยาะเย้ยไม่ได้
" ครับ รู้แล้วครับ" เขาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
มีอะไรบางหยางแวบผ่านดวงตาของเจี๋ยหยุน— อะไรกันที่ทำให้วันนี้เด็กนี่แปลกไป?
นอกอาคารสถานที่ถ่ายทำรายการ "Star Way Shining" นั้น แฟนคลับกำลังระงับความตื่นเต้นและรอการมาถึงของไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ
เมื่อจีเจ๋อหยูมาถึง ทันใดนั้นเสียงกรี๊ดจากพี่สาวและแฟนๆของเขาก็ดังกระหึ่ม
แม้ว่าจีเจ๋อหยูจะมีชื่อเสียงที่ย่ำแย่บนอินเทอร์เน็ต แต่รูปร่างหน้าตาของเขาดูดีมากจริงๆ และเขาก็ได้ถูกรีโพสต์ซ้ำๆกว่า 20,000 ครั้งด้วยรูปถ่ายเพียงรูปเดียวก่อนมีการแข่งขัน และมันก็ได้รับความสนใจจากแฟนๆเป็นจำนวนมาก
ไม่สำคัญว่าคุณจะจนหรือรวย ตราบใดที่คุณหล่อ คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแฟนคลับเลย
“เสี่ยวหยูหล่อมาก!”
“เสี่ยวหยู มองทางนี้ทีสิ!”
จีเจ๋อหยูถูกพัฒนาความสามารถในการจัดการสีหน้าอย่างแข็งแกร่งแล้ว เขารักษารอยยิ้มที่อ่อนโยนภายใต้แสงแฟรชมากมาย และเดินเข้าไปข้างในด้วยท่าทีสงบ ในทางตรงกันข้าม แฟนๆ ของฉีอ่าวตงนั้นน่าสงสารมาก
“นี่ จีเจ๋อหยูทักษะแย่มาก แต่เขายังได้อยู่ในคลาส B อีกนะ” แฟนคลับของเหว่ยอี้เฉินกระซิบในฝูงชน
เหว่ยอี้เฉินเป็นตัวเอกของนิยายเรื่องนี้ เขาและลู่หนานหยุนเคยเป็นเพื่อนห้องกันสมัยเรียน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ในบริษัทเดียวกัน แต่ทั้งคู่ก็มีการพูดคุยกันบ้างใน Weibo และได้มีแฟนคลับบางกลุ่มชิปคู่นี้กันไปบ้างแล้ว
ดังนั้นเหว่ยอี้เฉินจึงกลายเป็นตัวขวางหูขวางตาของจีเจ๋อหยู และตกเป็นเป้าหมายกลั่นแกล้งของเขา ทุกที่มักเกิดเบาะแสบางอย่างที่สามารถเห็นได้ในรายการ และทีมงานก็ออกมาพูดว่าทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน
ตอนนี้เหว่ยอี้เฉินอยู่ในอันดับที่หนึ่ง และยังเป็นเซนเตอร์คนแรกของเพลงธีมรายการ เขามีแฟนคลับมากกว่าจีเจ๋อหยู และแฟนๆของเขาก็รู้ดีว่าจีเจ๋อหยูนั้นรังแกเกอเกอของเขา รวมถึงแฟนคลับของทั้งสองคนก็ไม่ถูกกันอีกด้วย
โชคดีที่แฟนๆของจีเจ๋อหยูไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด ไม่เช่นนั้นแล้วคงเกิดการต่อสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
หลังจากจีเจ๋อหยูแต่งหน้าเสร็จ เขาก็เดินเข้าไปในที่ฉากและเห็นที่นั่งเป็นระดับขั้นกับเวที
ฉีอ่าวตงพบตำแหน่งมุมที่จะนั่งแล้วและดูเหมือนว่าเขาไม่ต้องการจะนั่งใกล้กับจีเจ๋อหยู
จีเจ๋อหยูมองไปรอบๆเพื่อที่นั่ง และก็เห็นที่นั่งว่างอยู่สองที่
ลู่หนานหยุนนั่งถัดจากที่นั่งว่างหนึ่งที่ จีเจ๋อหยูเหลือบมองที่เขาเล็กน้อยและเดินไปที่ที่นั่งว่างอีกทีแล้วนั่งลงอย่างไม่ลังเล
ลู่หนานหยุนไม่มีท่าทีอะไร แต่มีความรู้สึกแปลกๆ แวบผ่านดวงตาของเขา
หลังจากที่จีเจ๋อหยูนั่งลง เสียงทุกอย่างก็เงียบลงและสายตาของคนทั้งหมดก็จับจ้องมาที่เขา
ฉีอ่าวตงจ้องมองที่หลังของเขาเงียบๆ
ว่านหลงที่สังกัดเดียวกันกับลู่หนานหยุนกระซิบคุยกับหนานหยุนว่า " จีเจ๋อหยูกินยาผิดเหรอวันนี้?"
แต่จีเจ๋อหยูไม่ได้สังเกตว่ามีอะไรผิดปกติ หลังจากนั่งลงแล้วเขาก็พบว่าชายหนุ่มข้างๆเขาค่อนข้างคุ้นเคยกันดี ซึ่งก็คือคนที่ชนไหล่เขาเมื่อคืนนี้
“บังเอิญอีกแล้วเยอะ” จีเจ๋อหยูทักทายเขา “ฉันเจอนายอีกแล้ว”
ชายหนุ่มชำเลืองมองมาที่เขา ไฝที่หางตาดูวาววับ ริมฝีปากบางของเขาเปิดออกอย่างแผ่วเบา และเสียงของเขาก็เรียบนิ่ง " ใช่ บังเอิญจริงๆ"
จีเจ๋อหยูรู้สึกว่าผู้คนรอบตัวเขาอยากจะอยู่ห่างจากเขา และดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความอิจฉา มีเพียงชายคนนี้เท่านั้นที่ต่างออกไป เขาควรจะมาเป็นเพื่อนคนแรกของเขาที่นี่
“ทุกคนแทบจะรอไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” พิธีกรเดินขึ้นไปบนเวทีและเริ่มสร้างบรรยากาศ " โปรดรอสักครู่ ช่องทางถ่ายทอดสดของเราได้เปิดแล้ว..."
“ว้าว มันเริ่มถ่ายแล้ว” จีเจ๋อหยูแหย่เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขาด้วยข้อศอก " ทำให้ดีล่ะ "
ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากของเขาและพยักหน้าเบาๆหลังจากนั้นไม่กี่วินาที
หลังจากเริ่มเปิดรายการ พิธีกรก็แนะนำผู้สนับสนุนอย่างกระตือรือร้น ยกย่องการให้คะแนนของ "Stars Shine" และยกย่องนักเรียนคลาส A B ที่มาร่วมงาน
“ต่อไปเรามาเริ่มการแสดงความสามารถของเด็กฝึกกันเลยครับ” พิธีกรกล่าวขณะมองดูที่นั่งของผู้เข้าแข่งขันว่า " งั้นเราประเดิมคนแรกด้วยอันดับหนึ่งของรายการเลยแล้วกันครับ เหว่ยอี้เฉิน!"
มีเสียงปรบมืออย่างกระตือรือร้นจากผู้ชม และแฟน ๆ ของเหว่ยอี้เฉินก็เริ่มกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
จีเจ๋อหยูเองก็ปรบมือให้เช่นกัน แต่ในตอนนั้นเองเขาก็จำได้ว่าชื่อนี้ดูเหมือนจะเป็นชื่อของตัวเอกนิยายต้นฉบับ การกลั่นแกล้งครั้งแรกจากจีเกอหยูเป็นเรื่องที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง และเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ
เขาวางแผนที่จะดูว่าเหว่ยอี้เฉินเป็นใคร และต้องอยู่ห่างจากคนๆนี้ในอนาคต
วินาทีต่อมาเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆจีเจ๋อหยูก็ยืนขึ้น เขาโค้งคำนับให้ผู้ชมด้วยรอยยิ้มแล้วเดินช้าๆ ไปทางพิธีกร
การแสดงออกของจีเจ๋อหยูกลายเป็นหินในทันที
“อี้เฉิน คุณมีความสามารถพิเศษอะไรมาโชว์ครับวันนี้?” พิธีกรถาม
เหว่ยอี้เฉินยื่นมือไปถือไมโครโฟนและพูดขึ้นเบาๆว่า " ผมจะเต้นเพลงธีมรายการครับ "
“แค่เพลงธีมเหรอครับ?” พิธีกรเลิกคิ้ว “มันจะไม่ง่ายเกินไปเหรอครับ?”
“ถ้าอย่างนั้น... ผมขออาสมัครมาเต้นกับผมคนนึงได้ไหมครับ?” เหว่ยอี้เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม ไฝเม็ดเล็กที่หางตาของเขามีเสน่ห์อย่างมาก
“ได้เลยครับ” พิธีกรพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ผมขอเดาว่าคุณจะเลือกลู่หนานหยุน เห็นว่าพวกคุณเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน”
ตามนิยายต้นฉบับ เหว่ยอี้เฉินเลือกลู่หนานหยุน และทั้งสองก็ได้เต้นเพลงธีมด้วยกันจนทำให้จีเจ๋อหยูอิจฉาเป็นอย่างมาก
“คุณเดาผิดแล้วล่ะ” เหว่ยอี้เฉินยื่นริมฝีปากของเขาและมองไปที่ผู้เข้าแข่งขัน " ผมต้องการเลือก—"
สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใครบางคน
“จีเจ๋อหยู”
จีเจ๋อหยูที่เพิ่งกลายเป็นหิน กำลังรู้สึกว่าเขาถูกฟ้าผ่า
เต้นเพลงธีมรายการ? เขาไม่เคยได้ยินเพลงธีมเลย แล้วก็พึ่งเข้ามาแทนที่ ได้ดูรายการก็เมื่อวานเองด้วย ทำไม่ได้แน่! ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี? !