226 - อสูรสวรรค์คุ้มคลั่ง
226 - อสูรสวรรค์คุ้มคลั่ง
วัวศักดิ์สิทธิ์สีดำถูกสร้างขึ้นจากคลื่นเสียงของผู้อาวุโสคนนั้น แต่พลังทำลายล้างของมันก็มีมากมายอย่างน่าเหลือเชื่อ
สือฮ่าวเดินโซเซอย่างทรมาน เขาอ้าปากพ่นเลือดออกมาตลอดเส้นทาง สีหน้าของเขาซีดเซียวได้รับบาดเจ็บไม่เบา
“เจ้าเด็กชั่วร้ายเจ้าจะหนีไปไหน!” ผู้อาวุโสคนนั้นคำรามออกมาอีกครั้ง
สือฮ่าวหันกลับมามอง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกลียดชังใครบางคนอย่างถึงที่สุด
เขาอดไม่ได้ที่จะแผดเสียงออกมา“เจ้าคนทรยศที่ต่ำช้ายิ่งกว่าเดรัจฉาน หากข้ารอดไปได้ เจ้าคอยดูเถอะว่าข้าจะจัดการกับตระกูลของเจ้าจนไม่ให้เหลือแม้แต่สัตว์เลี้ยง!”
เขาไม่ค่อยด่าคนอื่นแบบนี้ แต่ตอนนี้เขากอดลั้นตัวเองไม่อยู่จริงๆ
ในเวลาเดียวกันสือฮ่าวได้เปิดใช้งานญาณวิเศษของจักรพรรดิสายฟ้า ยิ่งไปกว่านั้นยังแสดงสระสายฟ้าเพื่อเรียกทัณฑ์สวรรค์ลงมา
นี่คือสิ่งที่เขาใช้เพื่อต่อต้านความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ของวัวสีดำตัวนี้!
สิ่งนี้ได้ผลอย่างมาก แต่ก็น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถรวบรวมพลังมากพอ แม้ว่าจะมีสระสายฟ้าปรากฏขึ้นและยิงสายฟ้าลงมาจากทุกทิศทุกทาง แต่ก็ยังขาดพลังสังหารอยู่เล็กน้อย
สือฮ่าวเคยประสบความสำเร็จมาก่อน แต่ตอนนี้เขารีบร้อนเกินไปความรุนแรงของสายฟ้าในครั้งนี้จึงมีไม่มากเท่าที่ควร
“ เจ้าเด็กชั่วร้ายเจ้าจะเข้าใจอะไร? อนาคตของเมืองจักรพรรดิ์จะไปได้แค่ไหน มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ เจ้าแล้วพวกโง่เขลาเหล่านั้นจะถูกกวาดล้างไปจนหมดสิ้น
เก้าสวรรค์สิบพิภพถึงวาระที่จะต้องถูกทำลาย เราเป็นเพียงผู้ละทิ้งความมืดและมุ่งแสวงหาแสงสว่าง
ในเวลานั้นทุกคนในตระกูลจะขอบคุณพวกเราเพราะเราจะเป็นผู้ก่อตั้งยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่ พวกเราจะนำพาตระกูลมากมายก้าวเข้าสู่หนทางแห่งความเป็นอมตะมีความยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับบรรพบุรุษ!” ผู้อาวุโสคนนั้นตอบกลับอย่างเย็นชาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคุ้มคลั่ง
สือฮ่าวกล่าวอย่างโกรธแค้นว่า“ พวกเจ้าทุกคนคุกเข่าต่อหน้าสิ่งมีชีวิตต่างแดน เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกกระดูกอ่อนไม่มีความกล้า สำหรับพวกขี้ขลาดไม่ว่าพวกเจ้าจะพูดอย่างไรพวกเจ้าก็ยังคงเป็นพวกขี้ขลาดไม่สามารถสง่างามขึ้นมาได้?
พวกเจ้าคิดจะบรรลุความเป็นอมตะย้อนรอยของบรรพบุรุษ แต่พวกเจ้าลืมไปว่าบรรพบุรุษที่เป็นผู้อมตะของพวกเจ้าจะรู้สึกยินดีกับการกระทำของพวกเจ้าหรือไม่ พวกเจ้าทั้งตระกูลก็เป็นได้เพียงแค่เศษสวะเท่านั้น!”
“เจ้าหนูเราจะฆ่าเจ้าก่อนแทนที่จะปล่อยให้เจ้าพูดเรื่องไร้สาระที่นี่!”
สิ่งมีชีวิตต่างมิติเพียงตัวเดียวในกลุ่มนั้นกล่าว เขาคือคนที่เคยถูกฆ่าโดยอี้ฉวนและนอนอยู่แทบเท้าของสือฮ่าว
ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงเพื่อประโยชน์ในการดึงข้อมูลเพิ่มเติมจากสือฮ่าวเท่านั้น
เป็นเพราะหีบไม้ใบนี้มีความสำคัญมากเกินไป ผู้คนจากต่างมิติไม่ต้องการปล่อยให้เบาะแสหลุดรอดไปแม้แต่ชิ้นเดียวพวกเขาต้องการรู้ความลับทุกอย่างเกี่ยวกับของชิ้นนี้
“เต่าชราควรหุบปากซะ เจ้าลืมไปแล้วหรือไงว่าเมื่อกี้เจ้านอนอยู่แทบเท้าของข้าเหมือนสุนัขตายตัวหนึ่ง!” สือฮ่าวเยาะเย้ย
“เจ้า…” ใบหน้าของผู้บ่มเพาะจากต่างแดนมืดลง นี่เป็นครั้งแรกที่คนรุ่นใหม่กล้าทำให้เขาอับอายเช่นนี้
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่มาหลายชั่วอายุคน แต่เขาถูกเรียกว่าสุนัขตายโดยเด็กน้อยคนหนึ่งมันทำให้เขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริง
“ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าก็หนีไม่พ้นแน่!” ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ด้านหลังต่างแสดงพลังศักดิ์สิทธิ์ไล่ตามสือฮ่าวด้วยความเร็ว
“พูดสิเจ้ามาจากตระกูลอะไร” สือฮ่าวถามเด็กหนุ่มที่เขาหอบหิ้วมาด้วยเขาต้องการค้นหาว่าตระกูลใดที่ทรยศต่อเมืองจักรพรรดิ์
เขาไม่เชื่อคำพูดของอี้ฉวนจริงๆชื่อนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลอมตะ อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าผู้ที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้จะต้องสังกัดอยู่ในตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน!
ชายหนุ่มเม้มปากไม่พูดอะไรสักคำ
นิ้วของสือฮ่าวชี้ไปที่ช่องว่างระหว่างคิ้วของเขาทำการค้นวิญญาณอย่างรวดเร็ว ในที่สุดสัญลักษณ์ประหลาดก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียง ‘เป้ง’ หัวของชายหนุ่มคนนี้ระเบิดเหมือนแตงโมเลือดสีแดงและสมองสีขาวกระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
สือฮ่าวทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเขาเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายมีมาตรการป้องกันความลับรั่วไหล หากมีคนค้นวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาทะเลแห่งจิตจิตวิญญาณก็จะทำลายตัวเองโดยตรง
เป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ญาณวิเศษประจำตระกูลของพวกเขาถูกค้นออกไปโดยศัตรู
นี่ถือเป็นวิธีการที่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง
“เด็กน้อยข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหน!” ความเร็วของผู้ฝึกฝนเหล่ารวดเร็วเป็นอย่างมาก ระยะห่างของพวกเขาใกล้เข้ามาทุกที
สิ่งนี้ทำให้สือฮ่าวแตกตื่นตกใจ แม้ว่าเขาจะมีความเร็วของคุนเผิงและความสามารถของจักรพรรดิสายฟ้า แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะหลบหนีจากพวกเขา
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวก็ไม่กังวลเช่นกัน ภูมิประเทศแถบนี้ซับซ้อนและมีสถานที่อันตรายทุกประเภท อีกฝ่ายยังคงไม่สามารถตามเขาทันได้ง่ายๆ
ความบ้าคลั่งปรากฏขึ้นในดวงตาของสือฮ่าวเขาพูดกับตัวเองว่า “มาดูกันเถอะ! ว่าพวกเราใครจะตายก่อนกัน!”
เขาหันหน้าไปและตะโกนว่า“สุนัขเฒ่า พวกเจ้ามากันแค่นี้หรือ? มีน้อยเกินไปไม่เพียงพอให้ข้าสังหาร! กองทัพอันยิ่งใหญ่ของพวกเจ้าอยู่ไหน? ไปเรียกมันมาให้หมดแล้วข้าจะแสดงอะไรให้ดู!”
สือฮ่าวเริ่มที่จะปลุกปั่นศัตรูโดยต้องการดึงผู้ฝึกฝนจากต่างมิติทั้งหมดเข้ามาในป่าอสูรสวรรค์แห่งนี้
ในความเป็นจริงตั้งแต่ที่เขาเริ่มวิ่งก็มีสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นเข้าร่วมการไล่ล่ามากขึ้นเรื่อยๆ
ป่าอสูรสวรรค์เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายมีผู้คนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ!
เป็นเพราะเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาค้นพบสือฮ่าวจะมีคนที่คอยเปิดเผยเส้นทางการหลบหนีของเขาอยู่เสมอ
มันจะปลดปล่อยแสงแพรวพราวไปบนท้องฟ้าเผยให้เห็นตำแหน่งของเขา
โชคดีที่ป่าอสูรสวรรค์มีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ หุบเขาเดียวอาจทอดยาวหลายแสนลี้ สันภูเขาอาจทอดยาวถึงหลายล้านลี้ จึงเพียงพอให้สือฮ่าวสามารถหลบหนีได้ทั้งวันทั้งคืน
นอกเหนือจากนี้ส่วนที่สำคัญที่สุดคือสิ่งมีชีวิตสุดแสนอันตราย นั่นคืออสูรสวรรค์
ครั้งหนึ่งสือฮ่าวเกือบจะถูกจับได้แล้ว แต่ในที่สุดเขาก็กัดฟันวิ่งเข้าไปในถ้ำสัตว์ร้ายโบราณที่สามารถปลดปล่อยพลังแห่งความโกลาหลออกมา
มีอีกครั้งที่เขาเกือบจะถูกตัดศีรษะในท้ายที่สุดเขาก็ตกลงไปในบึงน้ำแห่งหนึ่ง ทำให้มังกรวารีที่อาศัยอยู่ในนั้นปรากฏตัวออกมาและกลืนกินผู้แข็งแกร่งอาณาจักรปลดปล่อยตนเองในครั้งเดียวถึงหกคน
เมื่อพูดในเชิงเปรียบเทียบสือฮ่าวยังอ่อนแอเกินไปจึงถูกอสูรสวรรค์เหล่านั้นมองข้ามไปอย่างง่ายๆ ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรปลดปล่อยตนเองที่ด้านหลังเขาต่างหากที่เป็นภัยคุกคามแก่พวกมัน
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ก็มีสามครั้งที่สือฮ่าวเกือบจะถูกอสูรสวรรค์กลืนกินและอีกนับไม่ถ้วนที่เขาเกือบถูกลูกหลงจากการเคลื่อนไหวของพวกมันสังหารไป
ในครั้งนี้เขาวิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด มันทำให้ป่าอสูรสวรรค์ทั้งหมดตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย!
สาเหตุเป็นเพราะมีคนเข้าร่วมการไล่ล่ามากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง!
“ขอรายงาน! เรากำลังจะล้อมฮวงไว้ได้เกือบสำเร็จแล้ว! อย่างไรก็ตามอสูรสวรรค์หกตัวก็ปรากฏตัวออกมาฆ่าผู้เชี่ยวชาญของเราอย่างต่อเนื่อง!”
ภายนอกป่าอสูรสวรรค์มีคนคอยรายงานสถานการณ์ให้บุคคลระดับสูงทราบเป็นระยะๆ
“ในขณะที่กำลังหนีอยู่ฮวงได้สังหารราชาหนุ่มของเผ่าพันธุ์เถาวัลย์โลหิตไปแล้ว!”อีกคนเข้ามารายงานด้วยแตกตื่นตกใจ
เถาวัลย์โลหิตเป็นเผ่าพันธุ์ราชาระดับบนสุดซึ่งมีชื่อเสียงด้านความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก บรรพบุรุษของพวกเขาอยู่ในระดับผู้ไม่ดับสูญซึ่งยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน
เมื่อไม่นานมานี้สือฮ่าวยังได้เห็นบรรพบุรุษตนหนึ่งของเผ่าพันธุ์นี้ซึ่งอาศัยอยู่ในเทือกเขายาศักดิ์สิทธิ์ สิ่งมีชีวิตตัวนั้นเป็นผู้สูงสุดของตระกูลนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจิตวิญญาณของมันถูกทำลายไปแล้วเท่านั้นเอง
“แย่แล้วปรมาจารย์น้อยจากตระกูลทัณฑ์สวรรค์ถูกฮวงฆ่าตายระหว่างทาง ร่างกายและวิญญาณของเขาถูกลบออกแล้ว!” เมื่อข่าวชิ้นนี้ถูกส่งออกมาก็เกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมาก
เป็นเพราะต้นกำเนิดของตระกูลทัณฑ์สวรรค์นั้นยิ่งใหญ่เกินไปจนเกือบจะกลายเป็นตระกูลจักรพรรดิในอดีต
นานมาแล้วพวกเขามีบรรพบุรุษที่ไม่มีใครเทียบได้ชื่อ เทียนอี สถานะของเขาเหมือนกับเฮ่ออู่ซวงในปัจจุบัน
ว่ากันว่าในการฝ่าทะลุขึ้นสู่การเป็นจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญของเขาล้มเหลว เขาจึงเสียชีวิตไปในตอนนั้น
อย่างไรก็ตามมรดกตกทอดของเขานั้นทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อจึง ทำให้ตระกูลของเขามีความแข็งแกร่งไม่เป็นรองตระกูลจักรพรรดิแม้แต่น้อย