228 - สัตว์ร้ายโบราณ
228 - สัตว์ร้ายโบราณ
ทุกคนตกตะลึงรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึง พวกเขาจ้องมองไปยังดินแดนต้องห้ามแห่งนี้!
แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้มาบ้าง แต่ก่อนหน้านี้มีกี่คนที่เห็นมันจริงๆ?
ทุกคนต่างทราบดีว่ามีสัตว์ร้ายโบราณตัวหนึ่งนอนหลับอยู่ในป่า อสูรสวรรค์ ความแข็งแกร่งของมันไม่มีใครเทียบได้ นี่คือการดำรงอยู่ระดับสูงสุดของสิ่งมีชีวิตในป่าอสูรสวรรค์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นชาวเมืองจักรพรรดิ์หรือสิ่งมีชีวิตต่างมิติก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ต้นกำเนิดที่แท้จริงของมัน
“อันดับสองภายใต้สวรรค์?!” ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา
สภาพแวดล้อมของภูเขาแห่งนี้แปลกประหลาดมาก แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความกลัว สาเหตุหลักยังคงเป็นเพราะสิ่งมีชีวิตตัวนั้น
ทุกคนก็เป็นเหมือนสือฮ่าวซึ่งตกตะลึงเล็กน้อย พวกเขายืนอยู่ที่นั่นมองไปยังภูเขาหินที่ไม่มีใบหญ้างอกเงยขึ้นมา
ตรงที่แห่งนั้นมีสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์นอนหลับอยู่กลางอากาศ ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเงินดูเหมือนกับตัวลิ่นและเหมือนจระเข้โบราณ
อย่างไรก็ตามมันยังแข็งแกร่งมากไม่มีทางเป็นลิ่นหรือจระเข้โบราณอย่างแน่นอน มีเขามังกรคู่หนึ่งอยู่บนหัวของมันและหัวของมันก็คล้ายกับมังกรที่แท้จริงอย่างมาก
มันไม่ใช่จระเข้หรือสัตว์ดุร้ายชนิดอื่น จริงๆแล้วมันคือมังกรชนิดหนึ่ง!
นอกจากนี้ยังมีปีกขนาดมหึมาที่ด้านหลังของมันซึ่งสามารถปกคลุมท้องฟ้าและปฐพีเพียงแค่มันถูกกางออกเท่านั้น
สิ่งมีชีวิตตัวนี้น่ากลัวจริงๆ รูปร่างของมันมีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ ปีกของมันเต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลอันน่าสยดสยอง
ปราณเซียนที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของมันทำให้แม้แต่อากาศก็ยังสั่นไหว!
นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างยิ่งเพียงแค่ลอยอยู่ที่นั่นตัวเดียวก็ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาไม่สามารถทนต่อพลังประเภทนั้นได้ มีผู้ฝึกฝนอาณาจักรปลดปล่อยตนเองที่ตัวสั่นจนถึงขนาดคุกเข่าลง!
นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยสิ้นเชิง
ต้องเข้าใจว่าดวงตาของสิ่งมีชีวิตนี้ยังคงหลับอยู่และร่างของมันก็ลอยอยู่กลางอากาศรัศมีพลังของมันจึงไม่รั่วไหลออกมา
กล่าวได้ว่าพลังของมันถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ ไม่เช่นนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องดับสูญไปทั้งกายและจิตอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งมีชีวิตชนิดตัวนี้คืออะไรกันแน่? พลังชีวิตของมันถูกยับยั้งราวกับว่ากลายเป็นหินอย่างสมบูรณ์ แต่ทุกคนรู้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน
มีผู้ฝึกฝนอาณาจักรปลดปล่อยตนเองหลายคนไม่สามารถยับยั้งความอยากรู้อยากเห็นจนต้องเข้าไปสำรวจมันใกล้ๆ
ปู!
ในชั่วพริบตานั้นผู้ฝึกฝนขอบเขตปลดปล่อยตนเองมากกว่าสิบคนล้มลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง
พวกเขามั่นใจในตัวเองเกินไปเพราะคิดว่าอาณาจักรปลดปล่อยตนเองคือขั้นพลังสูงสุดที่สามารถเข้ามายังดินแดนแห่งนี้
เมื่อพวกเขาขยับเข้าใกล้สิ่งมีชีวิตตัวนี้ มันก็เหมือนกับมีเตาหลอมขนาดใหญ่กำลังหลอมละลายเลือดเนื้อของพวกเขา
นี่จะน่ากลัวเกินไปแล้ว! เพียงแค่ใช้สายตาตรวจสอบสิ่งมีชีวิตตัวนี้ก็ได้รับการตอบสนองจนพวกเขาเกือบตาย โชคดีที่ไม่มีผู้ใดเผยเจตนาร้ายต่อมันไม่เช่นนั้นพวกเขาทุกคนคงตายไปแล้ว
ปูตง!
แน่นอนว่ามีหลายคนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จึงคุกเข่าลง นี่เป็นสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นการเคลื่อนไหวโดยสัญชาตญาณของร่างกายที่มีความหวาดกลัวต่อสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง
“ขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆอีกเลย!” มีคนพูดด้วยความตกใจรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น
“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?!” ในช่วงเวลานั้นผู้เชี่ยวชาญหลายคนเหงื่อแตก ราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับมหาเทพสูงสุดคล้ายกับว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างหน้านี้คือเทพมังกรที่แท้จริง
มีบางคนที่ต้องการต่อต้านไม่ต้องการที่จะก้มหัว
ปู!
ร่างของใครคนหนึ่งก็แตกสลายตกลงไปกลายเป็นบ่อเลือดเสียชีวิตทันที
มีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงยืนอยู่ แต่ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดขาวแสดงออกถึงความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“อย่ามอง! อย่าพยายามตรวจสอบอีกไม่เช่นนั้นพวกเราทุกคนจะต้องตาย!” บุคคลที่ทรงพลังคำรามออกมาเตือนทุกคน
ผู้ฝึกฝนจากต่างมิติต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มีใครคนหนึ่งในหมู่พวกเขาถึงกับถูกทำลายไปทั้งร่างกายและวิญญาณเพียงเพราะพยายามสำรวจสิ่งมีชีวิตตนนี้
นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวแค่ไหน?
ต้องเข้าใจว่าพวกเขาแค่มองไปเท่านั้นไม่ได้ดำเนินการลบหลู่ใดๆเลย แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายถึงขนาดนี้
“มันได้ปิดผนึกประสาทสัมผัสทั้งห้าและการรับรู้ทั้งเก้าไม่ให้พลังแก่นแท้รั่วไหลออกมา ถึงจะอยู่ในภาวะจำศีลแต่ก็มีลักษณะไร้เทียมทาน!” ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งกล่าว
ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถไล่ล่าสือฮ่าวได้อีกต่อไป พวกเขาทั้งหมดคิดแต่เรื่องการเอาชีวิตรอดเท่านั้น
ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาอันตรายถึงขีดสุด นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาไม่คาดคิดมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป แค่สิ่งมีชีวิตที่กำลังจำศีลตัวหนึ่งถึงกับสามารถทำให้พวกเขาเกือบถูกสังหารทั้งหมด
“เป็นไปได้อย่างไร? มันได้ปิดผนึกตัวเองอย่างสมบูรณ์แล้วเหตุใดจึงยังมีอันตรายต่อชีวิตของเรา?” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกรีดร้องออกมาอย่างไม่อาจยอมรับได้
นี่เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อจริงๆ
“แต่มันคือความจริง สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือพยายามหลีกเลี่ยงมันแม้แต่ในห้วงความคิดก็อย่าไปนึกถึง หากพวกเจ้าไม่เชื่อข้าจะลองดูก็ได้ แต่ว่าต้องให้ข้ากลับออกไปก่อน!”
เมื่อทุกคนตระหนักได้เช่นนี้พวกเขาก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เงาแห่งความตายคืบคลานออกไปจากพวกเขาแล้ว
นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายจริงๆ หากไม่ใช่เพราะมีคนที่ตระหนักรู้ได้ก่อนและตักเตือนพวกเขาทันเวลาก็อาจเกิดหายนะครั้งใหญ่ขึ้นก็ได้
ใต้ภูเขาแห่งนี้ร่างกายของสือฮ่าวเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาอยู่ห่างไกลจากผู้ฝึกฝนต่างมิติมาก
ตามเหตุผลปกติเขาควรไม่ได้รับอันตราย แต่กลับไม่ใช่เช่นนั้นตอนนี้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บจนเกือบตาย
แต่เมื่อเขาล้มเลิกที่จะสนใจสิ่งมีชีวิตตัวนั้น ความกดดันที่เขาได้รับก็ไม่ทราบว่าหายไปที่ใด
สือฮ่าวดื่มของเหลวสีทองสองสามคำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ นี่คือยาอายุวัฒนะล้ำค่าที่เขานำออกมาจากเทือกเขายาศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถช่วยเหลือเขาได้ในตอนนี้
….
“อาณาจักรบ่มเพาะของสิ่งมีชีวิตตัวนี้อาจอยู่ในจุดสูงสุดของราชาอมตะก็เป็นได้!” ผู้เชี่ยวชาญต่างมิติคนหนึ่งกล่าวขึ้น
แม่ว่ามันจะอยู่ในสภาพจำศีลและโลหิตแก่นแท้ของมันถูกปิดผนึกไว้จนไม่ต่างจากตายแล้ว ตามเหตุผลปกติมันควรไม่ต่างจากก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น
แต่ถึงกับสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย นี่ย่อมแสดงให้เห็นถึงอาณาจักรแห่งการบ่มเพาะที่ทรงพลังของมัน
“ถึงมันจะยังไม่ตายแต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก มันพยายามปิดผนึกโลหิตแก่นแท้ในร่างกายเพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานมากที่สุด” ใครคนหนึ่งวิเคราะห์ออกมา
“หวังว่ามันคงไม่ตื่นขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่มีใครสามารถทนกับแรงกดดันที่มันแผ่ออกมาได้ พวกเราจะตายกันหมด!” ผู้อาวุโสหัวหน้าหน่วยกล่าวออกมา
พวกเขาสงสัยจริงๆว่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตจากสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้ายที่ยังคงมีชีวิตอยู่และถูกปิดผนึกไว้ที่นี่
หรือบางทีมันอาจจะแค่กำลังรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองเท่านั้น!
ในระยะไกลเมื่อสือฮ่าวได้ยินคำพูดเหล่านี้คลื่นขนาดยิ่งใหญ่ก็พลุ่งพล่านอยู่ในใจของเขา หากสิ่งมีชีวิตตัวนี้ฟื้นขึ้นมาแม้แต่ผู้แข็งแกร่งในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองก็ยังไม่สามารถหนีรอด?
มันน่ากลัวเกินไป! มันทรงพลังแค่ไหน?
เมื่อสือฮ่าวคิดถึงสิ่งเหล่านี้ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีขาวไร้สีเลือด
เป็นเพราะเขาจำได้ชัดเจนว่าตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาในป่าอสูรสวรรค์เขาเคยได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่น่ากลัว ในเวลานั้นเขาเห็นสัตว์ร้ายโบราณตัวหนึ่งคำรามจากส่วนลึกของป่าเสียงอันทรงพลังของมันสามารถทำลายท้องฟ้าให้แยกออกจากกันได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นสัตว์ร้ายโบราณตัวนี้!
ในเวลานั้นแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างไกล และเห็นเพียงโครงร่างที่พร่ามัวของมัน แต่เขาก็มั่นใจว่าไม่มีทางดูผิดอย่างแน่นอน
“มันไม่ได้อยู่ในสภาพจำศีลตลอดเวลาเมื่อสองวันก่อนมันก็ยังเคลื่อนไหวอยู่! นั่นหมายความว่ามันอาจจะตื่นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ!” เมื่อสือฮ่าวคิดถึงสิ่งนี้เขาก็สั่นสะท้านด้วยความกลัว
“มันเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทไหนกันแน่?” เขาไม่กล้ามองไปที่มันอีกต่อไป เพราะความรู้สึกกดดันนั้นได้หายไปหมดแล้วในตอนนี้เขาจึงไม่อยากตอแยมันขึ้นมาอีก
เมื่อเห็นการแสดงออกของสิ่งมีชีวิตต่างมิติ สือฮ่าวก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง มันทำให้เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ถ้าสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังนี้ไม่ได้มาจากอีกด้านหนึ่งหรือมันมาจากเก้าสวรรค์สิบพิภพ?
หรือบางทีมันอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่กว่ายุคนั้นเสียอีก?
สิ่งมีชีวิตตัวนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนนี่คือสิ่งที่ทุกคนสามารถเห็นได้จากการมองเพียงครั้งเดียว
มันถูกมัดด้วยโซ่ที่น่าสะพรึงกลัวและล่ามมันไว้กับภูเขาขนาดใหญ่แห่งนี้จนไม่สามารถขยับตัวได้
อาวุธที่แทงเข้าที่หัวของมันคือหอกเซียนแม้ว่ามันจะขึ้นสนิมไปบ้าง แต่ก็ยังคงปล่อยปราณเซียนอันทรงพลังออกมาอยู่ตลอดเวลา