ตอนที่แล้วEp.1045 - ทำลายเผ่ามังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1047 - ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีที่สุด

Ep.1046 - ราชาไร้มงกุฎ


Ep.1046 - ราชาไร้มงกุฎ

ใบหน้าของไป๋หลีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าได้รับผลประโยชน์ที่ดี

เชลยคนอื่นๆพอเห็นไป๋หลี วิสัยทัศน์ของพวกเขาก็กลายเป็นพร่ามัว

เพราะรูปลักษณะของไป๋หลี งดงามปานล่มเมือง ชวนให้หลงใหล

แม้ในทวีของเผ่ามังกรจะมีสาวงามมากมาย แต่เมื่อยืนใกล้ไป๋หลี รัศมีของพวกเธอพลันหมองลง

อย่างไรก็ตาม ทุกคนได้สติอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ สิ่งที่ต้องกังวลคือการออกไปจากที่นี่ เพราะมิติของเผ่ามังกรกำลังล่มสลายลงแล้ว

และทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ ก็บังเกิดเสียงระเบิดดังสะท้อนออกมาจากทั้งสี่ทวีป แผ่นดินพลิกตลบ พลังงานกระจัดกระจาย ดาวเคราะห์เริ่มพังทลาย

สี่ทวีปที่เหลือเริ่มพังทลายลง กลายเป็นซากปรักหักพัง มนุษย์ที่เพิ่งหนีออกมา ทั้งหมดอ้าปากตาค้าง ไม่นึกฝันว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น

“จัดการเรียบร้อย ว่าแต่คนพวกนี้มาได้ยังไงกัน?” ไป๋หลีถาม

และนี่คือเสียงที่ส่งผ่านพลังสมาธิ ดังนั้นทุกคนได้ยินมัน

เรื่องที่ผู้หญิงคนนี้พูด มันหมายความว่ายังไงกัน? อย่าบอกนะว่าที่ทวีปทั้งสี่ล่มสลาย เป็นฝีมือเธอ?

“พวกเขาคือมนุษย์ที่หลบหนีออกมาได้ และต้องการอาศัยในมิติของพวกเราสักพัก อีกเดี๋ยวให้เธอพาพวกเขาไปยังมิติของพระเจ้า!” พลังสมาธิพูดออกมาอย่างนี้ แต่ในพันธสัญญากลับถ่ายทอดอีกอย่างหนึ่งให้ไป๋หลี ‘ส่งพวกเขาให้อยู่ห่างจากสถานชุมชน ถ้าให้ดีที่สุดนำไปปล่อยไว้ในอีกฟากของแผ่นดินใหญ่!’

ในมิติของพระเจ้าเองก็มีข้อดีในข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือพายุหิมะสามารถรบกวนพลังสมาธิได้ ต่อให้มีผู้ใช้พลังเลเวล SS ในคนกลุ่มนี้ ก็ไม่น่ากังวลอะไร เว้นเสียแต่ว่าภูเขาน้ำแข็งจะเคลื่อนตัวมาชนกัน รวมเป็นแผ่นดินเดียว ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะได้เจอกับพวกหูซาน

“โอเค เข้าใจแล้ว”

ไป๋หลีพยักหน้า สร้างประตูมิติขนาดใหญ่ ที่กว้างอย่างน้อย 30 เมตร สามารถให้คนเหล่านี้ก้าวเข้าไปได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเบียดเสียดกัน

“นี่มันอักษรรูนมิติ!” เซี่ยหมิงเสี่ยวตกใจเมื่อเห็นเทคนิคที่ไป๋หลีปลดปล่อยออกมา

เพราะรูนมิติมีเพียงสัตว์ยักษ์มิติเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ ท่ามกลางจักรวาลที่เต็มไปด้วยมิติและดวงดาวเช่นนี้ นับว่ายากนักที่จะพบเห็น

เซี่ยหมิงเสี่ยวกระจ่างทันที ว่าแท้จริงแล้วไป๋หลีคือสัตว์ยักษ์มิติในคราบมนุษย์!

เมื่อรู้แบบนี้ ฉินเฟิงในสายตาของเซี่ยหมิงเสี่ยวก็ยิ่งดูลึกลับ คาดเดาไม่ได้

ฉินเฟิงไม่ได้ปลดปลอยพลังอะไรอีกต่อไป แต่กลิ่นอายแห่งความมืดยังคงปกคลุมรอบตัวเขา เซี่ยหมิงเสี่ยวเลยไม่รู้ ว่าความแข็งแกร่งของฉินเฟิงอยู่แค่ในเลเวล SS1 เท่านั้น และเธอคงไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าฉินเฟิงมีเลเวลเพียงเท่านี้

“พวกคุณยังมัวยืนนิ่งอะไรอยู่? เข้าไปข้างในสิ” พลังสมาธิของไป๋หลีถ่ายทอดออกมา

“เจ้าค่ะท่านผู้ใหญ่!” เซี่ยหมิงเสี่ยตอบรับอย่างรวดเร็ว  หลังจากคาดเดาสถานะของไป๋หลี บวกกับการกระทำที่ทำลายทวีปทั้งสี่ลง เธอคงไม่พ้นเป็นสัตว์ร้ายในพันธสัญญาของฉินเฟิง

เซี่ยหมิงเสี่ยวอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี ดังนั้นมีความสามารถพอที่จะดูออกว่าผู้ใดสามารถล่วงเกิน ผู้ใดไม่สามารถ

ภายใต้คำสั่งของเซี่ยหมิงเสี่ยว มนุษย์คนอื่นๆเริ่มเข้าสู่มิติของพระเจ้า

จนเหลือเซี่ยหมิงเสี่ยวเป็นคนสุดท้าย ก่อนเข้าไปเธอหยุดฝีเท้า เห็นได้ชัดว่าต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

เพราะท้ายที่สุดแล้ว แผนการที่เธอวางไว้ ฉินเฟิงยังไม่ตกปากรับคำ

ฉินเฟิงเหลือบมองเซี่ยหมิงเสี่ยว เอ่ยอย่างไม่แยแสว่า “แม้ทรัพยากรในมิติแห่งนั้นจะอุดมสมบูรณ์ แต่สภาพแวดล้อมไม่ดีเท่าไหร่นัก หลังจากคุณไป ก็ขอให้ดูแลจัดการตัวเองให้ดี และหากอยากจากไปเมื่อไหร่ ก็สามารถทำได้ตามใจต้องการ”

เซี่ยหมิงเสี่ยวรู้สึกผิดหวัง เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงปฏิเสธที่ยอมรับเธอและเชลยคนอื่นๆเป็นลูกน้องของเขา

เซี่ยหมิงเสี่ยวหัวเราะเยาะตัวเอง ด้วยสถานะของเธอ และความแข็งแกร่งของเธอ ตั้งแต่เมื่อใดกันที่กลายคนไม่น่าสานสัมพันธ์เช่นนี้ สุดท้ายจึงยอมก้าวเข้าไปในมิติ

ไป๋หลีปิดช่องว่างมิติ จากนั้นกลบร่องรอยรูนมิติทั้งหมดในอวกาศ ไม่ใช่แค่รูนที่ใช้สู่มิติของพระเจ้า แต่รวมไปถึงมิติที่ฉีกขาดจากการโจมตีเมื่อครู่เช่นกัน ลบมันหายไปทั้งหมดทั้งสิ้น

เพราะประเด็นก็คือ แม้เผ่ามังกรในเลเวล S ขึ้นไปจะตายหมดแล้ว แต่บางทีอาจมีพวกอัจฉริยะเผ่ามังกรที่มีความรู้เรื่องพิกัดมิติ สามารถแกะรอยไปยังมิติบลูสตาร์อยู่ก็ได้ แต่ถึงรู้ไปก็เท่านั้น เพราะยังไงพวกมันก็ไม่สามารถทำลายกำแพงอุปสรรคของไป๋หลีได้

แต่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าต้องมาแก้ทีหลัง เผื่อไว้ในกรณีของจ้าวเหนือหัวมาตรวจดู --ร่องรอยมิติทั้งหมดถูกกำจัดออกไป

ณ เมืองหลวงมังกร ผู้ใช้พลังนับไม่ถ้วนกำลังวุ่น เนื่องจากการโจมตีก่อนหน้านี้ของเผ่ามังกรเลเวล SSS และรอยแยกมิติมากมายที่ปรากฏขึ้น ชักนำมาซึ่งกองทัพสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน ต่อให้ไป๋หลีช่วยปิดกั้นรอยแยกในภายหลังแล้วก็ตาม แต่สนามรบนับไม่ถ้วนยังคงเผชิญกับวิกฤต มีการติดต่อเข้ามาขอกำลังเสริมอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นพวกระดับสูงของพันธมิตรโลกมนุษย์ จึงเร่งรวบรวมข้อมูล และจัดการเรื่องราวต่างๆ

สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล SS พวกเขายังคงรั้งอยู่ในเมืองหลวงมังกร พร้อมกับทั้งหกพันธมิตรองค์กรมืดที่เหลือ ไม่มีใครกล้าจากไป

สีหน้าของคนพวกนี้ดูไม่ค่อยดีนัก แม้ฉินเฟิงจะเป็นคนช่วยมิติแห่งนี้เอาไว้ แต่ในใจของพวกเขา ยังเฝ้าหวังให้ฉินเฟิงตายข้างนอก

“กลับมาแล้ว! ช่องว่างมิติเปิดออก ท่านผู้ใหญ่ฉินน่าจะกลับมาแล้ว!”

“เยี่ยมจริงๆ ดูเหมือนจอมพลฉินจะกลับมาอย่างปลอดภัย”

“รอดมาได้ก็ดีแล้ว รอดมาได้ก็ดี เมื่อครู่เขาบุกต่างมิติเพียงลำพัง หุนหันพลันแล่นเกินไป”

แม้ฉินเฟิงจะแข็งแกร่งมาก แต่ไม่กี่ปีก่อนเจ้าตัวยังอยู่ในฐานะลูกรักของพระเจ้าอยู่เลย ในสายตาของหลายคนยังเผลอมองฉินเฟิงเป็นเจ้าเด็กขนยังไม่ขึ้น

กระทั่งเวลานี้ เลเวล S ของเมืองหลวงมังกร แม้ปากบ่นเกี่ยวกับความประมาทของฉินเฟิง แต่ในความเป็นจริง หากอยู่ต่อหน้าฉินเฟิง คนพวกนี้จะไม่กล้าพูดอะไร

เมื่อกลับมายังเมืองหลวงมังกร ก็ไม่จำเป็นต้องใช้พลังสมาธิในการสื่อสารอีก ไป๋หลีหันมองฉินเฟิง เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ตอนนี้กลุ่มเฟิงหลีกำลังขาดแคลนคน และผู้หญิงเลเวล SS คนนั้นความแข็งแกร่งก็ไม่เลว แต่ทำไมคุณถึงส่งเธอไป?” ไป๋หลีคิดว่าคนพวกนี้เหมาะสมมากที่จะให้เข้าร่วมกลุ่มเฟิงหลี แต่ฉินเฟิงกลับไม่พูดถึงเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เพราะยังไงซะพวกเขาเป็นแค่คนแปลกหน้า แม้จะถูกฉันช่วยชีวิตเอาไว้ แต่ความเมตตานี้ มันได้ผลกับคนที่มีมโนธรรมเท่านั้น ในขณะที่มนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ในกลุ่มนั้นอาจมีคนที่รู้สึกซาบซึ้งบุญคุณ แต่ก็อาจมีคนที่ลึกๆรู้สึกเกลียดฉันอยู่ก็ได้ ดังนั้นตอนนี้ปล่อยไปสักพักก่อน และถ้าพวกเขายังอยากติดตามอยู่ ฉันก็ยินดีอ้าแขนรับ”

คนที่อยากติดตามฉินเฟิงคงมีไม่น้อย แต่เรื่องที่ว่าพวกเขาเคยเป็นทาสยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีบางคนที่รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ผูกพันธุ์กับเผ่ามังกร

สำหรับคนประเภทหลัง ฉินเฟิงจะไม่รับไว้เด็ดขาด นี่เองคือเหตุผลที่เขาเลือกทำแบบนี้

“อย่างไรก็ตาม แม้คนพวกนี้จะแข็งแกร่ง แต่อาศัยอยู่ในทวีปมังกรมานาน ฉันกลัวว่าทัศนคติและความคิด จะถูกกลืนไปกับสภาพแวดล้อม คนประเภทนี้พวกเราไม่สามารถใช้งานได้ รอดูอีกสักพักเถอะ”

ฉินเฟิงกำลังขาดแคลนคนจริงๆ ประเด็นใหญ่ที่สุดก็คือ กลุ่มของเขายังไม่มีตัวตนทรงอำนาจ ดังนั้นฉินเฟิงไม่สามารถนำคนของเขาไปยังสำนักงานใหญ่ของพันธมิตรมนุษย์เพื่อช่วยทำการซื้อขายอุปกรณ์รูนมิติของระดับสูงเผ่ามังกรที่เพิ่งริบมาได้

เกรงว่าสมบัติเหล่านี้ หากนำไปขาย อาจสามารถแลกมิติระดับสูงกว่า 7 - 8 มิติมาครอบครอง

ซึ่งฉินเฟิงไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ และเขาไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว

“ดูเหมือนคงต้องไปถามซูซิงฝู ว่าเขายินดีที่จะไปแทนฉันรึเปล่า”

เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้ แต่ยังไม่ทันลงมือ ผู้คนก็เข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังเขา  หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าเป็นหลงกง กล่าวได้ว่าผู้ใช้พลังเลเวล SS ในตอนนี้ ทุกคนต่างนับถือฉินเฟิงในฐานะหัวหน้า

ถึงพวกเขาจะไม่ทราบว่าในมิติเผ่ามังกร ฉินเฟิงทำเรื่องสั่นสะเทือนโลกหล้าขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ พวกเขาเห็นภาพฉินเฟิงสะบั้นหัวมังกรเลเวล SSS

ตอนนี้ อีกฝ่ายกลับมาอย่างปลอดภัย จึงถูกยกให้เป็นราชาแห่งมิติบลูสตาร์ไปโดยปริยาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด