บทที่ 395
เสียงขลุ่ยและพิณดังขับขาน แสงไฟจากตะเกียงสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ผู้คนเริ่มทะยอยเข้าไปด้านในป้อมปราการขนาดใหญ่ของสำนักขลุ่ยสวรรค์ ใจกลางเมืองแน่นขนัดไปด้วยผู้คนชาวยุทธ์กลุ่มต่าง ๆ และชาวเมือง คนของสำนักขลุ่ยสวรรค์ต่างสวมชุดสีเขียวขลิบฟ้าปักขลุ่ยสีทองที่ชายเสื้อยืนปะปนกับชาวเมือง เวทีแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ทำมาจากหินสกัดสีดำตั้งเด่นอยู่ตรงกลาง ชั่วน้ำเดือดผู้คนทางขวามือแหวกทางเป็นช่องเพราะพลังปราณที่แผ่ออกมาจากชายฉกรรจ์ผมสีดอกเลาผู้หนึ่งสวมชุดเกราะพร้อมกับทหารนับร้อยติดตามมาจากด้านหลัง ผู้คนต่างเรียกขานเจ้าเมือง ไม่นานทางเดินซ้ายมือแหวกทางเป็นช่องเช่นกันชายชราผมขาวมัดผมหางม้าก้าวเดินออกมาพร้อมกลุ่มคนสวมชุดสีเขียวขลิบฟ้าติดตามมาด้านหลังชายชราถีบเท้าพุ่งทะยานขึ้นบนเวทีแปดเหลี่ยม
“ข้าหยางเทียนหลงเจ้าตำหนักหรือสำนักขลุ่ยสวรรค์ตามที่พวกท่านเรียกขาน ตัวข้ายินดีไม่น้อยที่พวกท่านตอบรับคำเชิญในครั้งนี้ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะคู่ควรกับสาวงาม”
สิ้นเสียงกล่าวของหยางเทียนหลงชายฉกรรรจ์ผู้หนึ่งถีบเท้าพุ่งทะยานขึ้นมาบนเวทีแปดเหลี่ยม เขาก้มศีรษะคารวะหยางเทียนหลง
“คารวะท่านพ่อ”
หยางเทียนหลงพยักหน้าตอบรับหันไปมองรอบด้าน
“เอาละคงถึงเวลาประลองแล้ว ข้ามีเวลาให้พวกท่านเพียงหนึ่งชั่วยามผู้ใดยืนอยู่บนเวทีแห่งนี้เป็นคนสุดท้าย หรือหากถึงยามจื่อแล้วยังไม่มีผู้ใดล้มหยางหยางบุตรชายข้าได้การประลองคงต้องยุติลง เพราะข้าคงไม่อาจรับลูกเขยที่ไร้ความสามารถเช่นกัน”
เมื่อกล่าวสิ้นเสียงผู้คนต่างเงียบเสียงจ้องมองมาที่หยางหยางอย่างไม่วางตา หยางเทียนหลงยกยิ้มถีบเท้าพุ่งลงจากเวทีไปยังกลุ่มของตนที่จัดเตรียมไว้นั่งข้าง ๆ กับกลุ่มของเจ้าเมือง เนี่ยฟงยืนนิ่งแผ่ลมปราณออกจากร่างเพื่อตรวจสอบโดยรอบไม่นานก็เอ่ยวาจาออกมาผ่านลมปราณให้แก่กลุ่มของเตียวมู่ถัง
“พี่ชายทุกท่านระวังกลุ่มคนสวมชุดสีดำทางขวามือให้ดี มีความเป็นไปได้ถึงแปดส่วนที่คนกลุ่มนี้จะเป็นคนจากลัทธิสวรรค์รอพวกนั้นลงมือก่อนก็แล้วกันขอรับ พี่ชายหยางจนกว่าจะมีคนจากกลุ่มชายชุดดำขึ้นประลองท่านพนันเงินทั้งหมดไปที่คุณชายหยางหยางเพียงผู้เดียว เห็นทีพี่ชายหยุยเหลยคงไม่ได้รวมประลองแล้วขอรับหรือรอจนกว่าคุณชายนั้นจะพ่ายแพ้”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงแสยะยิ้มแอบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังกลุ่มคนสวมชุดดำ ไม่นานการประลองก็เริ่มขึ้นเสียงเฮดังลั่นไปทั่วบริเวณ เกือบชั่วยามหยางหยางจัดการกับผู้ร่วมประลองเกือบยี่สิบคน ผู้คนทั้งหมดถูกหยางหยางจัดการอย่างโหดเหี้ยมมีบางคนอาการสาหัส ซินหยางและแป๊ะซือ หยางเทียนหลงหรี่ตามองไปที่กลุ่มคนสวมชุดดำเป็นระยะชั่วน้ำเดือดกลุ่มคนสวมชุดดำก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวชายผู้หนึ่งถีบเท้าพุ่งทะยานขึ้นบนเวทีแปดเหลี่ยม ซินหยางรีบเทหมดหน้าตักไปที่ชายสวมชุดดำ ไม่ถึงยี่สิบลมหายใจเสียงร้องโหยหวนดังลั่นมาจากบนเวที หยางหยางนั่งคุกเข่าใช้มือซ้ายกุมไปที่หัวไหล่ขวาจ้องมองแขนขวาที่ถูกกระชากโยนลงพื้น ตูม หยางเทียนหลงลุกขึ้นยืนพร้อมกับทำลายเก้าอี้ไม้ที่นั่งอยู่ ชายสวมชุดดำแสยะยิ้มใช้มือซ้ายคว้าจับไปที่ผมบนศีรษะจากด้านหลังกระชากอย่างแรง ใช้ฝ่ามือขวาซัดไปที่หัวไหล่ซ้าย เปรี้ยง! แขนซ้ายเริ่มมีน้ำแข็งเกาะกุมไม่ถึงสิบลมหายใจแขนข้างซ้ายก็แตกละเอียดชายสวมชุดดำยกมือขวาชี้นิ้วชี้ไปที่หยางเทียนหลงที่ยืนสั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ ซินหยางตะโกนเสียงดังลั่นออกมาพร้อมกับสะบัดมือขวาเก็บแหวนนับสิบวงจากการเดิมพัน
“หยางเทียนหลงหากไม่อยากไร้บุตรชายสืบสกุลจงมอบขลุ่ยล่าวิญญาณออกมาซะ”
หยางเทียนหลงหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เจ้าเมืองเองลุกขึ้นด้วยเช่นกันกันไปสั่งการทหารที่อยู่ด้านหลัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หากเจ้าต้องการขลุ่ยล่าวิญญาณเช่นนั้นเจ้าก็เข้ามาเอามันเองไอ้ลูกหมา”
หยางเทียนหลงแสยะยิ้มระเบิดพลังออกมา ตูม! เสียงสะบัดมือดังแว่วขลุ่ยหยกปรากฏที่มือขวาหยางเทียนหลงเพียงโคจรลมปราณไปที่ขลุ่ยหยกในมือปรากฏเสียงขลุ่ยดังแว่วออกมา ชายสวมชุดดำบนเวทีแปดเหลียมลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายใช้มือทั้งสองกุมไปที่ศีรษะพร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา หยางหยางกัดฟันลุกขึ้นยืนถีบเท้าพุ่งลงไปจากเวทีชายสวมชุดดำเหลือบตามองเห็นพอดีจึงสะบัดมือขวาออกไป แท่งน้ำแข็งสามเล่มพุ่งออกไปจ้วงแทงด้านหลังของหยางหยางร่วงลงพื้น
“บัดซบ!! ไอ้ลูกหมาพวกเจ้าเป็นใครกันบังอาจนัก”
หยางเทียนหลงสะบัดมือขวาชี้ขลุ่ยหยกในมือขวาไปที่ชายสวมชุดดำบนเวที เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นร่างกายค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นไม่ถึงห้าลมหายใจ ตูม! ร่างของชายสวมชุดดำระเบิดเลือดสีแดงสาดกระจายเศษชิ้นส่วนเกลื่อนพื้น ผู้คนต่างตกใจแตกตื่นพากันหลบหนีออกไปจากบริเวณหยางเทียนหลงพุ่งทะยานลงไปสวมกอดบุตรชายที่นอนลมหายใจรวยริน คนของสำนักขลุ่ยสวรรค์ต่างออกมายืนล้อมป้องกันหยางเทียนหลงและบุตรชาย ขวดยาสีขาวนวลถูกนำออกมาเม็ดยาสีทองถูกป้อนให้แก่หยางหยางสองเม็ด
“พวกเจ้าพาหยางหยางไปหาพ่อของข้าแจ้งไปว่าตอนนี้คนจากลัทธิสวรรค์บุกมาที่นี่เพื่อชิงขลุ่ยล่าวิญญาณ ส่งคนไปแจ้งแก่ลูกสาวข้าด้วยว่าอย่าออกมาจากที่พักโดยเด็ดขาด”
“ท่านพ่อ”
ทันใดนั้นเองหยางเทียนหลงก็ได้ยินเสียงเอ่ยวาจาดังแว่วมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองพบเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งสวมชุดสีฟ้าผมสีดำยาวไปถึงกลางหลังตัดกับผิวสีขาวมีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน ด้านหลังมีชายชราผู้หนึ่งติดตามมาด้วยเช่นกัน หยางเทียนหลงได้แต่ส่ายศีรษะไปมา
“คงไม่จำเป็นแล้วพวกเจ้าดูแลลูกข้าแทนก็แล้วกัน”
ชายฉกรรจ์สองคนเข้ามาประคองหยางหยาง เป็นช่วงจังหวะที่หญิงสาวและชายชรามาถึงพอดี
“เกิดสิ่งใดขึ้นเทียนหลง เหตุใดหยางเอ๋อถึงอาการหนักเช่นนี้”
ชายชราหันไปจ้องมองหยางหยางด้วยความเป็นห่วงหลานชาย หยางเทียนหลงยังไม่ทันได้กล่าวก็มีแผ่นยันต์นับสิบแผ่นปรากฏล้อมทั้งหมดเอาไว้ วูบ! ปราณดาบนับสิบเล่มออกมาจากแผ่นยันต์พุ่งเข้ามาชายชราระเบิดพลังปราณกระทืบเท้าขวาลงพื้น ตูม! เกิดม่านพลังพวยพุ่งออกมาต้านรับปราณดาบ เปรี้ยง! ตูม!! ฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
“บัดซบ!!!”
คลื่นพลังปราณแผ่ออกมาจากชายชราพัดฝุ่นควันจางหายชายชรากำชับทวนสีทองในมือแน่นพุ่งทะยานขึ้นมาบนเวทีแปดเหลี่ยมยกมือซ้ายขึ้นกวักเรียก
“พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเถอะข้าจะได้ไม่เสียเวลา”
ชายชราผมสีดอกเลาผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากกลุ่มชายชุดดำ
“เจ้ายังคงเลือดร้อนเช่นเดิม หยางสือเทียนคนเดิมไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย”
หยางสือเทียนถึงกับขมวดคิ้วก้าวเท้าขวาถอยไปข้างหลัง
“ฮวยโง้วกระบี่ปีศาจ บัดซบ! เจ้ายังไม่ตายหรอกรึ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้ายังคงจดจำเพื่อนเก่าเช่นข้าได้ ดี ถือว่าข้ามาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว อย่าให้ข้าต้องเอ่ยวาจามากความจงมอบขลุ่ยล่าวิญญาณออกมาซะ”
หยางสือเทียนได้แต่ถอนหายใจส่ายศีรษะไปมา
“พวกเจ้าคงต้องกลับไปมือเปล่า ขลุ่ยล่าวิญญาณตอนนี้สูญเสียพลังเป็นเพียงขลุ่ยธรรมดา”
ตูม! ทวนเหล็กถูกจ้วงแทงลงพื้นหยางสือเทียนสะบัดมือขวานำขลุ่ยหักสองท่อนออกมา
“ขลุ่ยล่าวิญญาณที่พวกเจ้าต้องการคือสิ่งนี้ใช่หรือไม่”
เมื่อกล่าวสิ้นเสียงหนางสือเทียนซัดขลุ่ยหักในมือลงพื้นแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ ฮวยโง้วยืนตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธ
“ตาแก่แซ่หยางเจ้าทำอะไรของเจ้ากัน”
ฮวยโง้วสะบัดมือขวาซัดบางอย่างออกไป
“ในเมื่อมาแล้วไม่ได้ของก็อย่ากลับมือเปล่า เช่นนั้นพวกเจ้าสังหารคนพวกนี้ให้หมด ล้างตระกูลหยางบัดซบนี้”
เปรี้ยง! เสียงดังสนั่นด้านหน้าหยางสือเทียนมีบางอย่างสกัดกั้นสิ่งที่ฮวยโง้วซัดเข้ามา ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งปรากฏด้านหน้าเป็นหยุยเหลยที่ยืนกำชับกระบี่ในมือแน่น
“คารวะผู้อาวุโส ข้าหยุยเหลยขอเข้าร่วมการปะทะครั้งนี้ได้หรือไม่ ข้ามีปัญหากับคนจากลัทธิสวรรค์ไม่น้อยเช่นเดียวกับเพื่อนของข้าหวังว่าท่านจะเข้าใจ”
หยางสือเทียนรู้สึกแปลกใจจึงหันไปมองโดยรอบมีชายฉกรรจ์หลายคนก้มศีรษะคารวะให้แก่ตน ฮวยโง้วแสยะยิ้มเช่นกัน
“ใครสังหารไอ้ลูกหมานั้นได้ข้าจะมอบรางวัลให้หนึ่งพันก้อนทอง”
ชายสวมชุดดำถีบเท้าพุ่งทะยานเข้าหาหยุยเหลย
“น่าเสียดายที่ชีวิตข้ามีค่าเพียงหนึ่งพันก้อนทอง”
กระบี่ในมือถูกชักออกจากฝักใบกระบี่สว่างวาบออกมา ชายสวมชุดดำสามคนถูกสังหารร่างกายขาดเป็นสองท่อนร่วงลงพื้น