ตอนที่ 4 : การฝึกฝน
มาร์ธาจ้องมองไปที่เกรย์ ความสุขที่เห็นได้ชัดเจนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
"แม่นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
เกรย์ถาม
"เขาพูดถูก โชคดีที่เขาไม่ได้โกหกฉัน"
มาร์ธามีความสุขมากในตอนนี้
"แม่ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
เกรย์รู้สึกประหม่าเพราะพฤติกรรมแปลกๆของแม่เขา
"พ่อของลูก"
มาร์ธาพูดอย่างมีความสุข
"พ่อ?"
เกรย์เลิกคิ้วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขายังคงสับสนกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
"ใช่เกรย์ พ่อของลูกเขาบอกแม่ เมื่อลูกอายุ 12 ปี ถ้าลูกไปทดสอบมีความเป็นไปได้ที่ลูกจะไม่สามารถปลุกธาตุของลูกได้"
มาร์ธาอธิบายกับลูกชายของเธอช้าๆ
“เดี๋ยวก่อนพ่อรู้ว่าผมไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุอะไรเลยงั้นเหรอ?”
เกรย์ที่สับสนถาม
"ก็ไม่ได้ถึงขนาดที่สามารถพูดได้ว่ารู้หรอก แต่เขาคิดว่ามันจะเป็นยังงั้น และเขาก็บอกว่ามันจะต้องอยู่ข้างในตัวลูกจนลูกอายุครบสิบห้าปี"
มาร์ธากล่าวต่อ
“ข้างใน ผมไม่เข้าใจ เขาใส่อะไรไว้ข้างในตัวผมหรือเปล่า”
เกรย์ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
"ใช่ ในตอนที่ลูกเกิดลูกมีปัญหาสุขภาพมากมาย และไม่ว่าแม่จะพยายามยังไงลูกก็ไม่ดีขึ้นเลย ครั้งหนึ่งพ่อของลูกกลับมาจากการผจญภัยและเห็นว่าลูกร่างกายไม่แข็งแรงเลยเขาก็ลองทำทุกอย่างที่เขาทำได้ และเขายังพาลูกไปหาคุณหมอที่ดีที่สุดที่เขารู้จัก แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรที่จะสามารถรักษาลูกได้เลย”
มาร์ธาเริ่มอธิบายอย่างช้าๆ
“ถ้ายังงั้นแล้วผมกลับมาเป็นปกติได้ยังไงล่ะ?”
เกรย์ถามอย่างสงสัย
เขาไม่เคยรู้เลยว่าเขามีปัญหาสุขภาพเมื่อตอนที่เขายังเป็นทารกแรกเกิด
“ไข่มุก”
มาร์ธากล่าว
“ไข่มุกเหรอ ไข่มุกรักษาคนได้ยังไง?”
เกรย์ถามด้วยความสับสน
"แม่กำลังจะบอก"
มาร์ธายิ้ม และเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของเธอ
ในระหว่างการผจญภัยครั้งหนึ่งของพ่อ เขาบังเอิญไปเจอวิหารโบราณที่พังทลายแห่งหนึ่ง เขาเห็นไข่มุกที่มีสีสันมากมายหมุนช้าๆอยู่ตรงกลางห้องที่ถูกซ่อนอยู่ของวิหาร ภายใต้ไข่มุกที่หมุนอยู่คือคัมภีร์เล่มหนึ่ง หลังจากอ่านจบเขาก็รู้สึกประหลาดใจกับข้อมูลที่มีอยู่ในนั้นเป็นอย่างมาก เขาตัดสินใจเก็บไข่มุกและเทคนิคการฝึกฝนนั้นไว้อย่างรวดเร็ว ใช่เทคนิคการฝึกฝน สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นคัมภีร์คือเทคนิคการฝึกฝน
เขาจำความรู้สึกที่ได้รับจากไข่มุกได้และมั่นใจว่ามันไม่ใช่ของปลอม คำอธิบายของเทคนิคการฝึกฝนนั้นไม่เหมือนใคร มันระบุไว้ว่าเมื่อหลอมรวมกับไข่มุกแล้วหลังจากผ่านไปสิบห้าปี พวกเขาจะสามารถใช้ธาตุทั้งหมดได้
เมื่อเห็นแบบนี้ เขาจึงต้องการที่จะฝึกฝนมัน แต่ประการแรกไข่มุกสามารถถูกดูดซึมได้เฉพาะกับร่างกายที่ยังไม่ปลุกธาตุใดๆ และต้องใช้เวลาสิบห้าปีก่อนที่จะดูดซึมเข้ากับร่างกายได้สำเร็จ
เขาเก็บไข่มุกและเทคนิคการฝึกฝนไว้อย่างน่าเศร้าเมื่อเขารู้ว่าไม่มีทางที่เขาจะใช้มันได้ และเขาก็กลับมาที่บ้านหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เกรย์เกิด และเมื่อเขารู้ถึงสถานการณ์ของลูกชาย เขาก็พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แต่ก็ยังไม่มีทางช่วยเกรย์ได้ ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ไข่มุก
หากไข่มุกมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ มันที่สามารถทำให้ใครสักคนหนึ่งสามารถใช้ธาตุทั้งหมดได้ การช่วยชีวิตใครสักคนก็คงเป็นไปได้เหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่พ่อของเกรย์คิด
ตอนแรกมาร์ธาปฏิเสธความคิดนี้เมื่อเขาพูดถึงมันขึ้นมา เพราะไม่มีแม่คนไหนจะยอมให้ใส่ไข่มุกที่ไม่มีใครรู้จักใส่ลูกของตัวเอง
แต่หลังจากสามีของเธอเกลี้ยกล่อมเธอ และเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะช่วยเกรย์ได้เธอก็กัดฟันและยอมรับมัน สองวันต่อมาลูกน้อยของเธอก็กลับมาแข็งแรงอย่างที่ควรจะเป็น
แม้ว่าเธอจะยังคงพาเกรย์ไปเข้าร่วมการทดสอบ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะปลุกพลังธาตุของเขาได้หรือไม่ นอกจากนี้เธอยังหวังว่าจะมีความเป็นไปได้ที่เขาจะปลุกธาตุได้ แต่น่าเสียดายที่เกรย์ทำไม่ได้
ความคิดที่จะบอกเกรย์เกี่ยวกับเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเธอเมื่อเธอเห็นว่าเขารู้สึกหดหู่แค่ไหนหลังจากการทดสอบ แต่ถ้าหากหลังจากเขาอายุครบสิบห้าปีแล้วเขาก็ยังไม่สามารถปลุกธาตุใดๆขึ้นมาได้อีกครั้ง แล้วเธอจะบอกอะไรเขา? เขาจะยิ่งบอบซ้ำยิ่งกว่าตอนที่ไม่ได้ปลุกมันในตอนอายุสิบสองด้วยซ้ำ
แม้ว่าเธอจะเริ่มสูญเสียความหวังเมื่อไม่มีความแตกต่างใดๆเกิดขึ้นในตัวของเกรย์หลังจากที่เขาอายุครบสิบห้าปีได้ แต่ม้วนหนังสือระบุว่าเกรย์ควรใช้การออกกำลังกายเพื่อฝึกฝนร่างกายของเขาซึ่งเขาทำมาเกือบสามปีแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเธอเริ่มรู้สึกกลัวว่าเกรย์จะปลุกพลังธาตุขึ้นมาไม่ได้จริงๆ
เกรย์นั่งลงอย่างตกตะลึงกับสิ่งที่เขาได้ยิน
“แต่ทำไม แม่ไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้”
เขาถาม
“ตอนลูกอายุครบสิบห้าปี ลูกได้ปลุกพลังธาตุของลูกแล้วหรือเปล่า?”
มาร์ธาถาม
เกรย์ส่ายหัว
"แม่รู้ว่ามันดูเหมือนเป็นข้อแก้ตัว แต่ถ้าแม่บอกลูกว่ามีบางอย่างอยู่ในตัวลูก และลูกจะไม่สามารถปลุกพลังธาตุของลูกได้ตอนอายุสิบสองแต่เป็นตอนลูกอายุสิบห้าปี ลูกก็จะไม่เชื่อแม่ เพราะมันเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ว่า ทุกๆคนจะปลุกพลังธาตุของพวกเขาได้ตอนอายุสิบสองปี แม้ว่าจะมีเด็กบางคนที่ปลุกพลังช้า แต่ก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าพลังของเด็กพวกนั้นจะถูกปลุกขึ้นมาเมื่อไหร่ บางทีหลังจากจบการทดสอบลูกอาจจะเริ่มรู้สึกเชื่อว่าสิ่งที่แม่พูดเป็นความจริง แต่หลังจากที่ลูกอายุครบสิบห้าปีแล้วล่ะ? หากลูกยังไม่สามารถปลุกพลังของลูกขึ้นมาได้ แม่ก็เริ่มหมดความหวังเหมือนกัน”
มาร์ธากล่าวอย่างใจเย็น
เมื่อได้ยินคำอธิบายของมาร์ธา เกรย์ก็รู้ว่าเธอพูดถูก ไม่มีทางที่เขาจะเชื่อถ้าเธอบอกเขาว่าเขาจะไม่สามารถปลุกธาตุของเขาภายในอายุสิบสอง
เมื่อเขานึกถึงความเสียใจที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่พ่อแม่ของเขาต้องแบกรับจากการที่เขาไม่สบายและไม่สามารถหาทางรักษาได้ตั้งแต่ยังเป็นทารกแรกเกิด เขาก็รู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของเขามาก อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ยอมทิ้งความหวัง แม้ว่านั่นจะหมายถึงการฝากความหวังสุดท้ายไว้กับไข่มุกที่ไม่รู้ที่มาที่ไปของมัน แต่พวกเขาเพียงแค่ต้องการที่จะช่วยลูกของพวกเขาก็เท่านั้น
แม้ว่าความคิดที่ว่ามันอาจจะเป็นของปลอมและอาจจะฆ่าเขาได้ผ่านเข้ามาในใจเขา แต่เขาจำสิ่งที่แม่ของเขาพูดในตอนนั้นได้
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็นึกย้อนไปถึงสิ่งที่ได้ยิน
"ตอนนี้ผมสามารถเป็นผู้ใช้ธาตุได้แล้วงั้นหรอครับแม่"
เกรย์ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"ใช่! ไม่ใช่แค่ผู้ใช้ธาตุธรรมดา แต่เป็นผู้ควบคุมธาตุทั้งหมด"
มาร์ธากล่าวขณะจับมือเกรย์ด้วยความดีใจ
'ควบคุมธาตุทั้งหมด' มันยังคงดังอยู่ในหูของเขา
“จะมีใครที่จะสามารถควบคุมธาตุได้ทั้งหมดจริงๆหรอ”
เกรย์ถามด้วยความตกใจ
"แม่ก็ไม่รู้ลูกรัก แต่สิ่งที่แม่รู้ก็คือพ่อของลูกจะไม่โกหกแม่ และจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อลูกด้วย"
มาร์ธากล่าว
"รอที่นี่ เดี๋ยวแม่มา"
มาร์ธาวิ่งเข้าไปในห้องของเธอ และนำหนังสือโบราณออกมาเล่มหนึ่ง เธอมองไปที่เกรย์ก่อนจะส่งมอบให้เกรย์อย่างใจเย็น
"ศึกษามันให้ละเอียด"
เธอกล่าวขณะที่ยื่นหนังสือโบราณเล่มนี้ให้เกรย์
เกรย์หยิบหนังสือโบราณจากเธอโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมัน เขาดูมันใกล้ๆว่ามันคือหนังสืออะไรก่อนที่จะเปิดมัน จากนั้นเขาก็มองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าข้างในจะเขียนอะไรไว้บ้าง
หนังสือโบราณแสดงให้เขาเห็นถึงวิธีการฝึกฝนร่างกายที่แน่นอน หากไม่มีไข่มุกใครๆก็สามารถฝึกร่างกายแบบนี้ได้ แต่จะไม่สามารถฝึกฝนเทคนิคในหนังสือโบราณเล่มนี้ได้
ในที่สุดเกรย์ก็ทำให้ความคิดของเขาสงบลง
'ไม่น่าแปลกใจที่แม่มั่นใจมาก มันคุ้มจริงๆ' เกรย์คิดอย่างมีความสุข
เกรย์รู้สึกเหมือนได้อะไรบางอย่างกลับคืนมา มันเป็นความปรารถนาที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตั้งแต่เขายังเด็ก เขาอยากเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดมาตลอด แต่ความปรารถนานั้นก็ตายไปในช่วงทดสอบ แต่ตอนนี้ไฟในตัวของเขากลับมาลุกขึ้นทันที และไฟก็โหมไหม้รุนแรงกว่าที่เคยเป็นอีกด้วย
"ในที่สุดผมก็สามารถฝึกฝนได้ ผมจะฝึกฝนมันอย่างหนักแน่นอน"
เกรย์กำหมัดแน่น
เกรย์รีบไปที่ห้องของเขาทันที เพราะเขาไม่สามารถรออีกต่อไปได้แล้ว เขาต้องการเริ่มฝึกฝน เขารอมานานและตอนนี้ในที่สุดเวลาของเขาที่จะสามารถฝึกฝนได้ก็มาถึงแล้ว
มาร์ธามองไปที่เกรย์ที่รีบเข้าไปข้างในและไม่ได้ทำอะไรเพื่อหยุดเขา เธอรู้ดีว่าเขาอยากเป็นผู้ใช้ธาตุแค่ไหน เธอรู้สึกมีความสุขกับเขาในตอนนี้ เขาเริ่มก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดได้แล้ว เธอรู้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาจะต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่เธอเชื่อว่าเขาจะสามารถเอาชนะมันได้อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้เขาเอาชนะอุปสรรคอย่างหนึ่งในการเดินทางของเขาได้แล้ว และมันก็เป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ยากที่สุดด้วย
เกรย์เข้าไปข้างในห้องของเขา และพยายามเข้าสู่สภาวะเข้าฌานทันที เพราะเขาจะได้สามารถทำตามรูปแบบของเทคนิคในหนังสือโบราณได้อย่างชัดเจน
เขานั่งในท่าดอกบัวและนิ่งลงเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ หลังจากผ่านไป 10 นาทีในที่สุดเขาก็เข้าสู่สภาวะเข้าฌานได้ เขาทำตามคำแนะนำที่กล่าวไว้ในหนังสือโบราณ เขาพยายามค้นหาพลังงานในร่างกายของเขา และหลังจากที่เขาล้มเหลวหลายต่อหลายครั้งและใช้เวลาถึงเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าในการค้นหาพลังงานในร่างกายของเขาในที่สุดเขาก็หามันเจอ
"ได้แล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนที่สอง"
เกรย์ตื่นเต้นมากกับการค้นหาพลังงานภายในร่างกายของเขา
ขั้นตอนต่อไปคือการเคลื่อนย้ายพลังงานในรูปแบบเฉพาะในร่างกายของเขา โดยที่เขาจะต้องทำวนซ้ำ 10 รอบเพื่อให้ร่างกายของเขาคุ้นเคยกับมัน
ครั้งแรกที่เกรย์พยายามทำมันเขาล้มเหลวในการเคลื่อนย้ายพลังงานจากตำแหน่งปัจจุบันไปรอบๆตัวของเขา แต่ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้เพราะในตอนที่เขาพบว่าเขาไม่ความสัมพันธ์กับธาตุใดๆเลยเขาก็ยังไมยอมแพ้ แต่ตอนนี้เขากำลังฝึกฝนด้วยความสัมพันธ์กับทุกธาตุดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลที่เขาต้องยอมแพ้เลย
เขาพยายามอีกครั้งซึ่งก็ล้มเหลวเช่นกัน เขาพยายามทำมันต่อไปตลอดทั้งคืนโดยไม่มีอะไรคืบหน้า จนกระทั่งเกือบรุ่งสางเขาจึงทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเหนื่อยล้าและหลับไปตรงนั้น ร่างกายของเขาทรุดโทรมอย่างมากจากความพยายามที่เขาทำมาตลอดทั้งคืน
กว่าเขาจะตื่นก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว เกรย์รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกายและยังคงอ่อนเพลียจากการฝึกฝนของเขา ถ้าเป็นผู้ใช้ธาตุธรรมดาและลองทำในสิ่งที่เขาทำ พวกเขาจะไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เลยทีเดียว เพราะเทคนิคการฝึกฝนนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อร่างกายของมนุษย์ทั่วไป
“ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้ต้องมีการฝึกฝนร่างกายที่เข้มงวดก่อนที่จะฝึกฝนเทคนิคนี้ได้ เพราะถ้ามันเป็นร่างกายของฉันก่อนหน้านี้ ฉันจะลุกจากเตียงไม่ได้เป็นเดือนแน่ๆ”
เกรย์อุทานออกมาเพราะเขารู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งร่างกายของเขา
อาการปวดเมื่อยนี้ดำเนินต่อไปอีก 2 วันก่อนที่เกรย์จะเริ่มขยับตัวได้เล็กน้อย แต่เกรย์กลับมีความสุขมากที่เป็นยังงี้แม้เขาจะเจ็บแปลบไปทั่วร่างกายก็ตาม เพราะนี่ถือว่าเป็นความก้าวหน้าเล็กน้อยสำหรับตัวของเขา และมันยังแสดงให้เห็นอีกว่าร่างกายที่เขาฝึกฝนมาอย่างยากลำบากมันไม่ได้สูญเปล่า
หลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์เขาก็สามารถเคลื่อนย้ายพลังงานในร่างกายของเขาและวนซ้ำได้หนึ่งรอบ เกรย์รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อเขาจินตนาการว่าตัวเองกำลังใช้ธาตุที่แตกต่างกัน เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งบนเตียงของเขาแต่เขาก็ไม่สามารถหัวเราะได้เต็มที่เพราะความเจ็บปวดทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา
ในระหว่างกระบวนการของการเคลื่อนย้ายพลังรอบที่สอง เกรย์รู้สึกว่าความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เขาชินกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนี้แล้วเขาจึงทำมันต่อไป
หลังจากนั้นไม่นานความเจ็บปวดก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
"อ๊ากก!!"
เกรย์ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่การไหลเวียนพลังงานของเขาอยู่ที่ตรงกลางลำตัว
“ฉันทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้แน่ๆ ความเจ็บปวดนี้อาจจะคร่าชีวิตของฉันก่อนที่ฉันจะไหลเวียนพลังงานจนครบรอบ ฉันต้องหาทางลดความเจ็บปวดนี้ให้ได้”
เกรย์แทบจะทนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่ไหวแล้ว เขาต้องรีบคิดหาวิธีอื่นที่จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยให้กับร่างกายของเขา เพื่อที่เขาจะได้ฝึกการไหลเวียนพลังงานภายในร่างกายของเขาต่อไป
"ฉันออกไปฝึกร่างกายในวันพรุ่งนี้ดีกว่า ฉันไม่ได้ฝึกมานานแล้ว"
เกรย์กล่าว เขาเคยชินกับการฝึกฝนร่างกายในทุกๆวัน แต่ทุกวันนี้เขามุ่งเน้นไปที่การฝึกเทคนิคที่เขาเพิ่งได้รับมาอย่างเต็มที่ นั่นทำให้เขาไม่ค่อยได้ไปฝึกฝนร่างกายตามปกติทุกวัน
เกรย์หยุดการไหลเวียนของพลังงานแล้วเข้านอนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่จะตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปฝึกฝนร่างกายตามปกติที่เขาเคยทำ