ตอนที่ 622 เหวินเป่ย นั่นกำลังจะพูดอะไรน่ะ?
เธอดูอ่อนหวานและน่ารักแบบที่ผู้ใหญ่ชอบ
นายหญิงเหมาอาวุโสชอบเธอมากขึ้นเพราะเธอเชื่อฟัง
ในห้องอาหาร
เฉียวเมียนเมียนนั่งข้างนายหญิงเหมาอาวุโสแทนเหมาเยซื่อ
อาหารจานโปรดที่เฉียวเมียนเมียนชอบถูกวางไว้ตรงหน้าเธอ เพื่อให้เธอได้ตักได้ง่ายตามคำสั่งของนายหญิงเหมาอาวุโส
เมื่อตอนมาบ้านตระกูลเหมาครั้งก่อนเฉียวเมียนเมียนพูดไปส่ง ๆ ว่าเธอชอบของหวานอะไรบ้าง มาดามเหมาอาวุโสจึงได้สั่งให้ห้องครัวเตรียมของหวานนั้นไว้ให้เธอทันที
มาดามเหมาอาวุดสให้ความสนใจเธอมากกว่าหลานชายทั้งสองคนของเธอเสียอีก
เหมาเยซื่อและเหมาซวีเสียไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้นัก
เพราะในบ้านมีแต่ผู้ชาย จึงเป็นเรื่องปกติที่นายหญิงเหมาอาวุโสจะทำเช่นนี้เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาอยู่ร่วมบ้าน
ครอบครัวเหมาทุกคนต่างรู้ดีว่า นายหญิงเหมาอาวุโสใฝ่ฝันอยากได้หลานสาว ทว่าเธอมีแต่หลานชายเพียงเท่านั้น
นายหญิงเหมาอาวุโสเองก็มีลูกชายสองคน
หลานของเธอที่เกิดจากลูกชายทั้งสองก็เป็นผู้ชายทั้งสิ้น
หน้าตาและนิสัยของเฉียวเมียนเมียนเป็นสิ่งที่นายหญิงเหมาอาวุโสต้องการจากหลานสาวของเธอ ดังนั้นเธอจึงปฏิบัติต่อหลานสะใภ้ของเธอเหมือนกับหลานสาวที่แท้จริงของเธอ
เหมาเยซื่อมีความสุขที่ได้เห็นคนอื่น ๆ รักใคร่ภรรยาของเขา
คนเดียวที่อึดอัดระหว่างร่วมโต๊ะอาหารก็คือนายหญิงเหมาคนปัจจุบัน
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เซินโย่วโทรหาเธอก่อนหน้านี้ ทำให้เธอหน้าซีดถึงกับโยนส้อมและมีดลงบนจาน
‘เกล้ง’
ในครอบครัวที่ร่ำรวยให้ความสำคัญกับมารยาทบนโต๊ะอหารอย่างมาก
ระเบียบพื้นฐานของพวกเขาคือไม่ควรส่งเสียงดังที่ไม่จำเป็นขณะรับประทานอาหาร
นายหญิงเหมาเติบโตในครอบครัวที่ร่ำรวยและรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เธอยังเด็ก
‘เกล้ง’ ทุกคนในโต๊ะอาหารหยุดสนทนากันหลังจากได้ยินเสียงดัง
ทุกคนหันไปมองเธอ
นายหญิงเหมาอาวุโสเลิกคิ้ว “เหวินเป่ย ทำอะไรน่ะ?”
“คุณแม่คะ” นายหญิงเหมาหยิบผ้าเช็ดปาก ขึ้นมาเช็ดปากเบา ๆ แล้วโยนผ้าเช็ดหน้าลงบนโต๊ะ
เธอมองไปที่เฉียวเมียนเมียนและพูดอย่างเย็นชา
“ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างที่ต้องพูดในตอนนี้”
“ถ้าจะพูดอะไร ท่านข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพูดก็ได้นี่” นายหญิงเหมาอาวุโสไม่พอใจกับการกระทำของเธอ เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
“จำเป็นต้องพูดในระหว่างมื้ออาหารให้ได้อย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อเห็นท่าทีของนายหญิงเหมาอาวุโส นายหญิงเหมาจึงไม่กล้าพูดต่อ
แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปที่ถึงเรื่องที่เซินโย่วพูดก่อนหน้านี้ เธอรวบรวมความกล้าและพูดอย่างเย็นชาว่า
“ฉันต้องพูดตอนนี้ ตอนที่ทุกคนอยู่ตรงนี้ ยังไงก็ต้องขอโทษที่รบกวนมื้ออาหารของคุณแม่ด้วยนะคะ แต่เรื่องนี้สำคัญมากจริง ๆ”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่านายหญิงเหมาหันมามองเธอ
เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นความรังเกียจและความโกรธในดวงตาของนายหญิงเหมา
เธอรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาเสียเลย
เธอรู้ว่าสิ่งที่นายหญิงเหมาต้องการจะพูดต้องเกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน
ขณะที่เธอกำลังคิดเรื่องนี้ นายหญิงเหมาถามอย่างเย็นชาขึ้นว่า
“เมียนเมียน คุณกำลังปิดบังอะไรเราอยู่หรือเปล่า?”
เฉียวเมียนเมียนวางน้ำผลไม้ที่เธอเพิ่งหยิบขึ้นมา
เธอหันหน้าไปนายหญิงเหมา พูดอย่างสุภาพว่า
“คุณแม่คะ กำลังพูดถึงเรื่องอะไรคะ”
นายหญิงเหมาอาวุโสวางตะเกียบของเธอลง
“เหวินเป่ย เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่?”