Ep.1033 - นางพญาดาราเกราะเหล็ก
Ep.1033 - นางพญาดาราเกราะเหล็ก
ฉินเฟิงมิได้ต่อต้าน ตรงกันข้ามเขาใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ช่วยส่งร่างตัวเองลอยลึกเข้าไปในถ้ำ
ทักษะหมื่นคมดาบของจ้าวเก๋อแม้อลังการ แต่แท้จริงแล้วนั่นเป็นเพียงภาพลวงตา อานุภาพของมันเพียงสะกิดให้พวกฝูงดาราเกราะเหล็กรู้สึกจั๊กจี้้ สร้างความปั่นป่วนเท่านั้น ต่อมาก็ส่งฉินเฟิงลงสู่ความตาย
เพียงแต่ว่าดาราเกราะเหล็กเหล่านี้ พวกมันก็ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของฉินเฟิงอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่มีความคิดที่จะกำจัดดาราเกราะเหล็กในรังเหล่านี้
“เทคนิคซ่อนเงา!”
ทั้งร่างของฉินเฟิงผลุบหายลงไปในความมืดมิด ดาราเกราะเหล็กสูญเสียเป้าหมายในทันที หันกลับมาไล่ตามจ้าวเก๋อและคนอื่นๆแทน
ฉินเฟิงไม่สนใจคนพวกจ้าวเก๋อ เขายังไม่มีแผนที่จะจัดการคนเหล่านี้ พลังสมาธิกระจายออกไป กวาดสำรวจตามผนังถ้ำ และในไม่ช้าฉินเฟิงก็พบรอยร้าวที่มีลมพัดผ่านเข้ามา เจ้าตัวไม่ลังเล มุดเข้าไปทันที
เขาก้าวเข้าไปข้างในอย่างไม่ลังเล เสียงการต่อสู้ระหว่างจ้าวเก๋อกับดาราเกราะเหล็กค่อยๆจางลง ฉินเฟิงลอบดำดิ่งลึกเข้าไปในรัง
จ้าวเก๋อพร้อมจะวางกับดักเขาทุกเมื่อ ดังนั้นฉินเฟิงใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างในการจากไป
นอกจากนี้ หากนางพญาดาราเกราะเหล็กคือสัตว์เทวะเลเวล SS จริงๆ อาศัยความคมของมีดกษัตริย์ครามในปัจจุบัน บวกกับความแข็งของฉินเฟิงเพียงลำพัง ก็น่าจะเชือดมันได้ ถึงเวลานั้นผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
ฉินเฟิงเริ่มทำการสำรวจลึกลงไปใต้พื้นดิน
ผ่านไปสองชั่วโมง ฉินเฟิงก็พบกับทางตัน พลังสมาธิของเขาแผ่ออกรอบด้าน พยายามควานหาอุโมงค์ที่จะนำไปสู่รังใหญ่ของนางพญา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันถึงหาเส้นทางไปต่อไม่เจอ?”
แต่แล้วจู่ๆฉินเฟิงก็ฉุกคิดได้ถึงบางอย่าง เขาเพ่งมองผนังหินตรงหน้าด้วยสายตาแปลกๆ ตอนแรกคิดว่านี่คือหินทั่วไปที่พบได้ในใต้ดิน เพราะอย่างไรเสีย ที่นี่คือดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุ กระนั้น หินที่อยู่ตรงหน้า ฉินเฟิงกลับไม่สามารถใช้พลังสมาธิทะลุผ่านมันได้ นี่เองที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก
“เดี๋ยวก่อนนะ หรือว่านี่จะเป็น ..”
มือของฉินเฟิง แนบลงบนก้อนหิน โคตรดาวเคราะห์ทมิฬปลดปล่อยอักษรรูนนับไม่ถ้วน อักษรรูนได้ไหลไปตามมือของฉินเฟิง ตกลงบนหินก้อนนี้
หินเบื้องหน้าค่อยๆกลายเป็นสีดำสนิท จากเดิมแข็งกระด้างก็เริ่มอ่อนนุ่ม ภายในของมันถูกทำลาย ซึ่งหากเป็นแร่ธรรมดา มันจะไม่เป็นเช่นนี้ ดังนั้นหมายความได้เพียงอย่างเดียว --
--ว่าแร่นี้แท้จริงแล้วพวกมันมีชีวิต!
“ฮึ่ม!”
ฉินเฟิงสูดหายใจลึก จากนั้น พลังสมาธิของเขาขยายตัวอีกครั้ง แม้ว่าจะมีสิ่งกีดขวางจากแร่ดินอยู่ แต่พลังสมาธิของเขา สามารถใช้พลังการรับรู้ไปได้ไกลมากขึ้น พื้นที่โซนที่ไม่อาจสำรวจได้ ในที่สุดก็ค่อยๆเผยโฉมให้เห็น ภายในการมอง ‘เห็น’ ของฉินเฟิง ปรากฏพื้นที่เปิดโล่งกว้างใหญ่
“นี่ … ที่แท้รังนางพญาก็อยู่ตรงหน้าเรามาโดยตลอด!”
ฉินเฟิงไม่เคยเห็นนางพญาตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ชนิดที่ว่าเขารู้สึกได้ว่าทั้งใต้ดินนี้ ทั้งหมดคือตัวนางพญา ราวกับข้างใต้ดาวเคราะห์ดวงนี้ ได้ถูกนางพญากัดกินจนกลวงไปแล้ว
แม้การอธิบายนี้จะฟังดูเกินจริงไปบ้าง แต่นางพญาตัวนี้เป็นสัตว์ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ฉินเฟิงเคยเห็นมา ตัวของมันสามารถบดบังผืนฟ้าได้อย่างไม่ยากเย็น
เรียกได้เลยว่าเป็นสัตว์ยักษ์ของจริง
อย่างไรก็ตาม สัตว์ยักษ์ตนนี้ ความแข็งแกร่งของมัน แท้จริงแล้วอาจมากกว่าที่เขาประเมินไว้
แล้วมันแข็งแกร่งขนาดไหนน่ะหรือ?
นี่ไม่ใช่แค่สัตว์ยักษ์ในเลเวล SS หรือ SSS อย่างแน่นอน เกรงว่ามันอาจเป็นสิ่งมีชีวิตในระดับจ้าวเหนือหัว!
“เพื่อที่จะฆ่าฉัน เส้าตงเฟิงทุ่มเทถึงขนาดนี้เลยเชียวหรือ? เขามีอำนาจมากมายขนาดไหนกัน ถึงสามารถเดินเกมรุกยิ่งใหญ่แบบนี้ได้? ไม่สิ หรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้จะไม่ใช่เขา แต่เป็น …”
ชื่อๆหนึ่งวาบผ่านเข้ามาในจิตใจของฉินเฟิง
--จ้าวเหนือหัวอันผิง!
แต่การดำรงอยู่เช่นนั้น ฉินเฟิงในตอนนี้ยังไม่อาจต่อกร แม้ต้องการก็ไม่มีทาง
ปัจจุบัน สิ่งที่ฉินเฟิงต้องคิด คือจะหนีออกไปเลยดีหรือไม่
เพียงแต่ว่า พอฉินเฟิงได้ลองมองลอดเข้าไปในรูขนาดเท่าฝ่ามือที่เพิ่งฝ่อลงเบื้องหน้า เจ้าตัวพบว่ามันไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นี่ทำให้ในหัวใจเขาเริ่มเต้นแรง
มันเต้นแรงเพราะปรารถนาในพลังอันยิ่งใหญ่!
หากสามารถสังหารนางพญาในระดับจ้าวเหนือหัวได้ ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง จะต้องก้าวกระโดดขึ้นอย่างแน่นอน
ที่สำคัญก็คือ นางพญาดาราเกราะเหล็กมีขนาดมโหฬาร ภายใต้ขนาดตัวที่ใหญ่โตเช่นนี้ ร่างของฉินเฟิงไม่ต่างจากก้อนกรวด และคาดว่าความเสียหายที่เกิดจากฉินเฟิง คงไม่ต่างจากปรสิตที่แฝงตัวอยู่ในสัตว์ใหญ่ ไม่น่าจะสร้างผลกระทบมากเกินไปจนกระตุ้นความสนใจของมัน
สิ่งนี้ทำให้ฉินเฟิงย้อนนึกไปถึงตอนที่เขาสังหารเขมือบฟ้า
“อยากมั่งคั่งมันก็ต้องเสี่ยงกันบ้าง ยิ่งในทุกวันนี้ ฉันต้องเผชิญกับศัตรูมากมาย การดำรงอยู่ของฉัน มันไปล่วงล้ำผลประโยชน์ของผู้อื่น ดังนั้นถ้าอยากสยบทุกอย่าง มีแต่ต้องไปอยู่ในจุดที่แทบไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้โดยเร็วเท่านั้น!”
แววตาของฉินเฟิงสะท้อนถึงความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น มีดกษัตริย์ครามที่สะพายไว้เบื้องหลังพร้อมกับปลอกที่ได้รับการอัพเกรดถูกคว้ามายังเบื้องหน้า เวลานี้ฉินเฟิงกุมฝักดาบด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างค่อยๆชักมีดกษัตริย์ครามออกมาอย่างช้าๆ
มีดยาวสีแดงเลือดที่สามารถสะบั้นได้กระทั่งความว่างเปล่า ปรากฏอยู่ในมือเขา รอบตัวมันยังสาดรังสีแสงสีเงิน อันเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงถึงรูนมิติ
ฉินเฟิงแทงเข้าไปในผนังถ้ำด้วยคมมีดเดียว
มีดกษัตริย์ครามคมมากก็จริง ทว่าเวลานี้กลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกต่อต้านอย่างรุนแรง ทุกๆการกรีดตัดเพื่อมุ่งไปหน้า เป็นไปอย่างยากลำบาก
ต้องไม่ลืมนะว่านี่คือผิวหนังของนางพญาในระดับจ้าวเหนือหัว ถ้าไม่ใช่เพราะนางพญากับมิติแห่งนี้หลอมรวมเข้าด้วยกัน แค่มันพ่นลมหายใจทีเดียว ก็มากพอแล้วที่จะบดขยี้ผู้ใช้พลังเลเวล SSS จนตาย
ขณะเดียวกัน การโจมตีจากภายนอกของฉินเฟิงมีขนาดแค่รูขุมขนของมัน ดังนั้นนางพญาจึงไม่ทันรู้สึกตัว หรืออาจเรียกว่ามันไม่สนใจก็ได้ และฉินเฟิงจะคว้าโอกาสจากสถานการณ์นั้นเอาไว้
มีดกษัตริย์คราม ค่อยๆแงะเกราะเหล็ก พาฉินเฟิงเข้าไปข้างใน
กระบวนการนี้ยาวนานยิ่ง ฉินเฟิงขะมักเขม้นค่อยๆทำมันทีละน้อย เวลาทั้งวันไหลผ่านไป แต่ฉินเฟิงยังไม่สามารถไปได้ไกลถึง 200 เมตรด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ เขายังไม่พบหนทางที่จะเข้าสู่เนื้อชั้นในของนางพญาดาราเกราะเหล็กได้เลย
อีกด้านหนึ่ง ท้ายที่สุดแล้วเพราะจ้าวเก๋อเป็นผู้ใช้พลังเลเวล SSS ดังนั้นพอออกหน้าลงมือ ฝูงดาราเกราะเหล็กนับแสนก็ไม่ใช่คู่มือของเขา สิ่งมีชีวิตในรังนั้นถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเขากลับไม่พบฉินเฟิง
จ้าวเก๋อย่อมไม่เชื่อว่าฉินเฟิงจะตกตายในสภาพนี้ แต่หลังจากต่อสู้มาทั้งวัน และทำการสำรวจ พวกเขาก็ยังไม่ค้นพบเบาะแสของนางพญา ดังนั้นทยอยกันล่าถอยกลับมา
แต่ผลลัพธ์กลายเป็นว่า ในบรรดาคนเหล่านั้น มันไม่มีฉินเฟิงอยู่ด้วย
“ทำไมฉินเฟิงถึงไม่อยู่กับพวกคุณ?” เทพบุปผาถามด้วยความสงสัย
“ก่อนหน้านี้พวกเราแยกย้ายกันต่อสู้ ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหน แต่ฉินเฟิงเป็นคนกล้าหาญมาก บางทีเขาอาจบุกเข้าไปหานางพญาด้วยตัวเองก็ได้”
“นั่นก็อาจใช่!” เทพบุปผาไม่ได้ตั้งข้อสงสัยมากเกินไป
วันต่อมา การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป คนเหล่านี้เริ่มออกสำรวจอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือรังใหญ่ แต่กลับไม่พบตัวนางพญา หลายคนเริ่มสงสัยอย่างอดไม่ได้
แต่ที่แน่ๆ คนพวกนี้สังเกตเห็นได้ ว่าจำนวนของดาราเกราะเหล็กเริ่มลดน้อยลง ทุกอย่างดูแปลกประหลาดไปเล็กน้อย
ในวันที่สามและสี่ ก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆของฉินเฟิง จ้าวเก๋อถึงกับสงสัย ว่าฉินเฟิงอาจตายไปแล้วจริงๆ ส่วนเทพบุปผาเธอไม่อาจทำใจเชื่อได้ เพราะถึงอย่างไรฉินเฟิงคือคนที่สามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ แต่พอนึกว่าอัจฉริยะอาจตกตายลงจริงๆ เธอก็ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ
…
ภายในร่างของนางพญาดาราเกราะเหล็ก ฉินเฟิงขุดเกราะเหล็กขึ้นมาได้อีกชิ้นส่วนหนึ่ง พริบตานั้นพลังพิเศษดูดกลืนปะทุออกมา ดูดซับพลังงาน
เจ้าพวกนี้แต่แรกไม่ใช่แร่ แต่เป็นส่วนหนึ่งจากร่างของนางพญาดาราเกราะเหล็ก เปี่ยมไปด้วยพลังงานที่แข็งแกร่งมาก
ตูมมมม!
ทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิง ถูกเติมเต็มไปด้วยพลัง ตัดผ่านไปอีกขั้น
ความแข็งแกร่งทางกายภาพยกระดับขึ้นสู่เลเวล S6!
