ตอนที่แล้วตอนที่ 119 เก้าปีต่อมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 121 อสูรภูเขา

ตอนที่ 120 การทดสอบของถ้ำเก้าปริศนา (ฟรี)


ตอนที่ 120 การทดสอบของถ้ำเก้าปริศนา

เมิ่งชวนยืนอยู่นิ่งๆและกล่าว “ใช้ทุกวิชาที่เจ้ามีมาเลย คราวนี้ข้าจะสังหารเจ้า!”

"เหอะ พูดจาโอ้อวดเสียจริง" อสูรหมาป่าโยนคัมภีร์ทิ้งด้วยสีหน้าที่ดุร้าย "เจ้ามนุษย์ตัวจ้อย คราวที่แล้วเจ้าหนีออกไปได้เจ็ดครั้ง แต่คราวนี้เจ้าหนีไม่พ้นหรอก"

เมื่อมันพูดจบมันก็คำรามออกมา

ครืนนน!

ลมสีดำพัดผ่าน กรวดทรายปลิวออกไปในทันที หินบางก้อนสลายกลายเป็นฝุ่นด้วยลมสีดำเลยด้วยซ้ำ เมิ่งชวนมองดูลมสีดำนั่นพันรอบตัวเขาอย่างใจเย็น ภายในลมสีดำนั่นคือประกายแสงดาราที่ฟันผ่าทุกๆอย่างตรงหน้า หากเทพอสูรที่พึ่งกำเนิดใหม่เจอกับลมสีดำนี่ล่ะก็ พวกเขาคงจะถูก “เป่า” จนกลายเป็นฝุ่นเป็นแน่

แม้แต่เทพอสูรระดับกายาอมตะธรรมดาก็คงจะบาดเจ็บสาหัสเพราะลมสีดำ และจะสลายหายกลายเป็นฝุ่นไปหลังจากผ่านไปสิบวินาที

ซู่ๆๆๆๆ!

เมิ่งชวนยืนอยู่นิ่งๆ เกราะปราณของเขาหนาสามฉื่อ คอยปกป้องเขาจากลมที่โหมกระหน่ำ ไม่ว่าลมสีดำจะโจมตีใส่เขาซักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ระคายเกราะปราณของเขาแม้แต่น้อย พลังปราณจำนวนมากถักทอกันก่อให้เป็นเกราะขึ้นมา ทำให้มันสามารถทนทานต่อแรงอันมหาศาลได้ ขนาดเชือกเส้นหนากว่าหมื่นเส้นมันรวมกันก็ยังทำไม่ได้เหมือนกับที่เกราะนี่ทำได้เลยแม้แต่น้อย เมิ่งชวนเคยอิจฉาที่ราชาอสูรบึงพิษมีหมอกสีดำคอยปกป้อง แต่คราวนี้เกราะของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าของบึงพิษเป็นสิบเท่า

ทำไมพวกเขาถึงถูกเรียกว่าเทพอสูรระดับแดนอมตะอย่างนั้นรึ? นั่นก็เพราะพลังปราณของเทพอสูรระดับแดนอมตะนั้นได้เปลี่ยนไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น พลังปราณทุกๆสายนั้นเฉียบคมและยืดหยุ่น! ด้วยด้ายพลังปราณจำนวนนับไม่ถ้วนจะสามารถสร้างโล่ป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้ สำหรับเทพอสูรที่พึ่งถือกำเนิดใหม่นั้น มนุษย์ยังมีหลายวิธีในการสังหารพวกเขา แต่ว่าในระดับแดนอมตะ ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถทำร้ายพวกเขาได้เลย

แม้ว่าเมิ่งชวนจะอยู่ในระดับแดนอมตะอยู่ แต่ร่างอสูรตัดสายฟ้าที่สมบูรณ์กับปราณของเขามันทำให้เขาสามารถเทียบได้กับเทพอสูรระดับมหาสุริยันระดับกลางๆเลย

"มาเลย" เมิ่งชวนจ้องมองไปที่อสูรหมาป่าอย่างระมัดระวัง เขาต่อสู้กับอสูรหมาป่านี้มาเจ็ดครั้งและเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของมันดี

อสูรตนนี้เป็นราชาอสูรระดับสามที่ฝึกฝนมาหลายปีแล้ว! ราชาอสูรสี่ตัวที่บุกเมืองตงหนิเมื่อหลายปีก่อนก็ยังไม่สามารถสังหารอสูรหมาป่าตนนี้ได้ลงเลยแม้จะบุกมาพร้อมกันด้วยซ้ำ

กรรร! ดวงตาของอสูรหมาป่าเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร มันใช้พลังของลมสีดำเพื่อส่งผลต่อความเร็วเพียงเท่านั้น เพราะไม่ว่ายังไงเมิ่งชวนก็เคยหนีไปจากมันได้ถึงเจ็ดครั้งแล้ว

ฟุบ

เพียงพริบตา อสูรหมาป่าก็พุ่งผ่านลมเข้าไปหนึ่งลี้ มันตวัดเล็บใส่เมิ่งชวน พยายามจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ

เกราะปราณของเมิ่งชวนสามารถป้องกันการโจมตีของราชาอสูรระดับสองได้ แต่เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยงกับกรงเล็บของอสูรหมาป่าตรงๆ

แกร๊ง!

เมิ่งชวนยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เขาตวัดดาบออกมากันกรงเล็บเอาไว้ได้

กรงเล็บอันแหลมคมนั้นรวดเร็ว แต่กระบี่ของเมิ่งชวนนั้นไวยิ่งกว่า! เมิ่งชวนขยับอย่างรวดเร็วขนาดที่ว่ามองไม่เห็นช่วงที่ชักกระบี่ออกมาเลย สิ่งที่อสูรหมาป่าเห็นก็มีเพียงกระบี่ที่ปัดการโจมตีของมันก็เท่านั้น

‘มันเร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?’ อสูรหมาป่าไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นราชาอสูรระดับสามที่เร็วมากๆ วิชากรงเล็บของมันก็ไปถึงระดับจิตวิญญาณแล้ว และด้วยระดับของวิชาที่สูง ความเร็วของกรงเล็บของมันควรจะเร็วยิ่งกว่าของเมิ่งชวน แต่ว่ามันกลับถูกเมิ่งชวนสกัดไว้ได้โดยสมบูรณ์! การชักกระบี่ครั้งล่าสุดของเมิ่งชวนทำให้มันต้องตกใจ

‘เป็นไปไม่ได้’ จิตสังหารในใจของอสูรหมาป่าเพิ่มมากขึ้น มันโจมตีต่อไปอีกหลายสิบครั้ง กรงเล็บเงาจำนวนมากปรากฏขึ้นมา

อสูรหมาป่ามองไม่เห็นว่าเมิ่งชวนขยับกระบี่เลยแม้แต่น้อย ที่มันเห็นก็มีเพียงแค่กระบี่ที่ปรากฏออกมารับกรงเล็บก็เท่านั้น

แกร๊งๆๆ! เสียงกระทบกันระหว่างกระบี่ของเมิ่งชวนกับกรงเล็บของอสูรหมาป่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกๆการโจมตีถูกป้องกันไว้ได้ อีกทั้งเมิ่งชวนเองก็ไม่ได้ขยับไปแม้แต่น้อย

หลังจากไปถึงระดับ"จิตวิญญาณกระบี่"แล้ว ความเร็วอันมหาศาลของเมิ่งชวนก็เพิ่มมากขึ้นไปอีก เขาฝึกฝนกระบี่จิตพิสุทธิ์และใช้วิชากระบี่อันงดงามเพื่อจัดการกับศัตรู ความเร็วของเขาเหนือกว่าศัตรูโดยสิ้นเชิง

"เจ้ายังมีวิชาอะไรอีกไหมล่ะ?" เมิ่งชวนถามนิ่งๆ

"ยโสยิ่งนัก เจ้าไม่ใช้แม้กระทั่งสายฟ้ากับพลังวินาศ? นี่เจ้ายอมให้ข้าโจมตีเจ้าอย่างนั้นรึ?" อสูรหมาป่าเริ่มบ้าคลั่ง “แล้วเจ้าจะเสียใจกับความยโสนั่น” ดวงตามันเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน เห็นได้ชัดว่ามันบ้าคลั่งหลังจากใช้วิชาต้องห้ามออกมา

เมิ่งชวนยังคงสงบนิ่ง

หากนี่เป็นการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของจริง เขาคงจะไม่รอให้อีกฝ่ายปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาได้หรอก กลับกันเขาจะทำให้ศัตรูไม่สามารถใช้พลังทั้งหมดที่มีออกมาได้ก่อนจะสังหารอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม นี่เป็รการทดสอบของถ้ำเก้าปริศนา! แม้ว่าอสูรหมาป่าจะมีโอกาสฉีกกระชากเขาได้ แต่พลังที่มองไม่เห็นก็จะหยุดมันก่อนที่มันจะทำได้

อสูรหมาป่าคือหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยเขาหยวนชูแต่มันไม่รู้ตัว กลับกันนี่เป็นโอกาสที่ดีที่เมิ่งชวนจะได้สู้กับราชาอสูร หากเขาทำพลาดระหว่างการต่อสู้หลังจากที่ลงเขาไปแล้ว เขาคงต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างงามจากความผิดพลาดนั่นเป็นแน่

กรรรร!

ร่างของอสูรหมาป่าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง มันควบคุมลมสีดำเพื่อดักเมิ่งชวนไว้และโจมตีใส่เมิ่งชวนอย่างบ้าคลั่ง ร่างของมันหายวับไปมาก่อนจะปรากฏตัวจากหลายๆที่รอบด้าน

เมิ่งชวนส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับกระบี่ที่รับการโจมตีได้อย่างง่ายดาย

ตอนที่ระดับวิชากระบี่ของเขาต่ำกว่านี้ ราชาอสูรระดับสามซึ่งเร็วมากๆคอยกันเขาจากการใช้ประโยชน์จากความเร็ว แต่ว่าหลังจากท่ีเขาเข้าถึงจิตวิญญาณกระบี่มันก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง! อสูรหมาป่าไม่สามารถสู้กลับคนที่ไวกว่ามันได้

ราชาอสูรระดับสามตัวนี้ไม่เป็นอันตรายใดๆอีกต่อไป เมิ่งชวนหายวับไปหลบหลีกการโจมตีของราชาอสูรได้อย่างง่ายดาย

ฟุบ!

ลำแสงกระบี่แทงผ่านหว่างคิ้วของอสูรหมาป่าทะลุผ่านหัวของมันไป

ราชาอสูรหมาป่าหยุดเคลื่อนไหวทันที ลมสีดำก็หายไปเมื่อไม่มีคนคอยคุม ราชาอสูรหมาป่ายืนนิ่งอยู่บนพื้นและมองดูโลกสีดำแดงอย่างมึนงง “ข้าจำได้แล้ว ข้าจำได้”

ก่อนที่มันจะตาย ในที่สุดมันก็ถูกปลดปล่อยออกจากการควบคุมของเขาหยวนชูและกลับมาได้สติ

ราชาอสูรหมาป่าจำได้ในที่สุด มันและราชาอสูรตนอื่นโจมตีเมืองด่านของมนุษย์ด้วยกัน มันสามารถเอาชนะเทพอสูรมนุษย์ได้ มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดี เหล่าอสูรจะได้รับรางวัลมหาศาลในการสังหารเทพอสูรมนุษย์! มันหอนและพุ่งเข้าใส่เทพอสูรมนุษย์คนอื่นพร้อมกับสหายของพวกเขา แต่ว่าก็มีมนุษย์ผู้หญิงชุดสีเทาเดินผ่านมา ราชาอสูรทั้งสิบสองตัวที่กำลังต่อสู้อยู่หยุดมือ พวกมันพยายามจะดิ้นรนแต่ว่าพวกมันไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้

จากนั้นเป็นต้นมามันก็ถูกมนุษย์คอยควบคุม

และก็ยังไม่ตื่นขึ้นจนถึงตอนนี้

อสูรหมาป่าทรุดลงอย่างอ่อนแรง ดวงตามันเต็มไปด้วยความระลึกถึง มันคิดถึงบ้านเกิดของมัน ในที่แห่งนั้นมันมีพื้นที่เป็นของตัวเอง มันมีอสูรระดับต่ำจำนวนนับไม่ถ้วนคอยคุ้มกัน ในที่แห่งนั้นมันอยู่อย่างสุขสบาย

‘ข้าไม่อยากให้มันจบลงตรงนี้เลย’ มันปล่อยเสียงคำรามเบาๆออกมาก่อนที่พลังชีวิตของมันจะหมดลง

พื้นดินดูดกลืนร่างของราชาอสูรหมาป่าไปอย่างเงียบงัน

เมิ่งชวนดูซากของราชาอสูรหมาป่าถูกลืนกินและพูดอย่างเย็นชา “นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ”

เขาไม่มีความเห็นใจใดๆต่ออสูร มีเพียงจิตสังหารเท่านั้น

เมิ่งชวนเดินหน้าต่อไป

การทดสอบของถ้ำเก้าปริศนาคือการสังหารราชาอสูรทั้งหมดที่เจอ! เมื่อมันถูกสังหารจนหมดก็จะผ่านการทดสอบและสามารถลงจากเขาได้ ตราบใดที่ยังเหลืออยู่อีกหนึ่งตัวที่ยังไม่ถูกสังหารก็จะนับว่าล้มเหลว พวกเขาจะได้เจอกับราชาอสูรตนเดิมในครั้งหน้าที่ทำการทดสอบ

เขาหยวนชูจับราชาอสูรไว้หลายตัว! พวกมันมีไว้เพื่อให้เหล่าศิษย์เอาไว้สังหาร

เมิ่งชวนสังหารราชาอสูรไปได้สองตัวแล้วในถ้ำเก้าปริศนา ตัวแรกคือราชาอสูรระดับสองที่แข็งแกร่งกว่าบึงพิษมาก ส่วนตัวที่สองคือราชาอสูรระดับสาม ราชาอสูรหมาป่าที่เขาพึ่งสังหารไป

โอ๋? หลังจากที่เดินเข้าไปในโลกสีแดงดำที่เงียบเหงา เมิ่งชวนก็เห็นภูเขาที่สั่นไหวอยู่ไกลๆ

ภูเขาที่สูงกว่ายี่สิบจั้งก็ยืนขึ้นเปลี่ยนเป็นอสูรภูเขา!

‘อสูรภูเขา?’ เมิ่งชวนตื่นตระหนก

อสูรนั้นมีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดก็จะมีความสามารถที่ต่างกันออกไป ความสามารถเหล่านั้นต่างกันออกไปตามสายเลือดของพวกมัน อสูรภูเขานั้นเป็นอสูรที่แข็งแกร่งมาก ความแข็งแกร่งของพวกมันมากกว่าตัวในระดับเดียวกันมาก

‘ศิษย์พี่ของเขาหยวนชูดูแลข้าดีมาก พวกเขาถึงกับให้ราชาอสูรภูเขาในการฝึกฝนของข้าด้วย’ เมิ่งชวนระมัดระวังกว่าเดิม

"โฮ่ ข้ารู้สึกเหมือนข้าหลับไปนานมากเลย" อสูรภูเขาส่ายหน้า แต่ว่ามันก็มีรอยประทับแปลกๆรูปภูเขาอยู่บนหน้าผากของมัน

ผนึกของเขาหยวนชู? นี่เป็นราชาอสูรตัวสุดท้ายที่ข้าต้องสังหารเพื่อผ่านการทดสอบของถ้ำเก้าปริศนารึ? เมิ่งชวนเข้าใจในทันที หากมีรอบประทับรูปภูเขาอยู่บนหน้าผากของราชาอสูร นั่นก็หมายความว่านั่นคือราชาอสูรตัวสุดท้ายที่ต้องสังหารในการทดสอบของถ้ำเก้าปริศนา เขาสามารถลงจากเขาได้หลังจากที่สังหารมันไป

จากกระแสพลังของมัน มันน่าจะเป็นราชาอสูรระดับสาม แต่ว่ามันสามารถสังหารอสูรหมาป่าตัวนั้นด้วยการตบเพียงครั้งเดียวด้วยซ้ำเพราะมันเป็นอสูรภูเขา

เช่นเดียวกันกับเหล่าอัจฉริยะที่มีสายเลือดวิหคเพลิงหรือมังกร อสูรภูเขานั้นก็เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในหมู่อสูร พวกมันมีจุดเด่นในเรื่องของร่างกายที่ทรงพลังของพวกมัน

เมื่อมันเห็นเมิ่งชวน แววตาของมันก็เปล่งประกายด้วยความดุร้าย มันคำรามก้องราวกับฟ้าร้อง “เทพอสูรระดับแดนอมตะกล้ามาท้าทายข้าอย่างนั้นรึ? เจ้าอยากตายสินะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด