EP 393 คนรู้จัก
EP 393 คนรู้จัก
By loop
ณ ที่พักของคณะกรรมการพรรคการเมืองของเมือง อพาร์ตเมนต์ของหยางจ้าวเต๋อ
มื้อกลางวันดงซูบินเป็นคนทำอาหารในมื้อนี้
ดงซูบินออกจากห้องครัวและเห็น หยางจ้าวเต๋อหยิบเอกสารบนโซฟา เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและสงสัยว่าจะขอความกรุณาจากเขาได้อย่างไร ดงซูบินต้องการช่วยอดีตผู้นำของเขาจริงๆ และถ้า เสี่ยวหยาง สามารถย้ายไปที่เมือง เฟิงโจว ในฐานะหัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐได้ เธอสามารถช่วยเขาได้ แต่… ดงซูบินไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไรดี เขามองไปที่แม่ของเขา และแม่ของเขารู้ว่าเขาต้องการจะพูดบางอย่างกับเธอ ท้ายที่สุด สายสัมพันธ์แม่ลูกนั้นทำให้เธอก็รู้ว่า ดงซูบินต้องการอะไรเพียงแค่มองเพียงครั้งเดียว
หลวนเสี่ยวปิงขอตัวและเข้าไปในครัวกับลูกชายของเธอ
หลังจากปิดประตู ลวนเสี่ยวปินถาม "มันคืออะไร?" ดงซูบินยิ้มและกระซิบ “แม่… แม่คิดว่ามันถูกต้องหรือไม่ที่ผมจะขอความช่วยเหลือจาก ลุงหยาง?” ลวนเสี่ยวปิง มองไปที่ ดงซูบิน"เกิดอะไรขึ้น?" ดงซูบินได้ตอบกลับ “แม่ยังจำเสี่ยวหยางไม่สิต้องเรียกเธอว่า รองหัวหน้าเสี่ยวได้หรือไม่? ผมเคยแนะนำเธอให้แม่รู้จักมาก่อน ตอนนี้เธอกำลังประสบปัญหาในที่ทำงานและหวังว่าจะมาที่เมืองของเรา ลุงหยางได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐของเมืองนั้นว่าง นั่นเป็นเหตุผลที่หัวหน้าเสี่ยว กำลังต้องเผชิญอยู่…”
ลวนเสี่ยวผิงพยักหน้า “การตอบแทนน้ำใจของผู้อื่นนั้นถูกต้อง ลูกควรช่วยเธอ”
“แต่ผมจะถามลุงหยาง ได้อย่างไร” ดงซูบินกลัวว่านี่อาจจะกะทันหันเกินไป เพราะพวกเขาลูกจักกันเมื่อวานนี้
“นี่…” ลวนเสี่ยวปิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “แม่จะพูดกับเขา ถ้าเขาไม่ตกลง แม่จะทำนิ่งๆไป”
“อ่า… อย่า… มาอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้เลยดีกว่า” ดงซูบินหยุดแม่ของเขาอย่างรวดเร็ว “ผมจะพูดกับเขาเอง”
ลวนเสี่ยวปินพยักหน้า “ถ้าลูกอยากจะคุยกับเขา ลูกก็ควรทำตอนนี้ เดียวสักพักพี่สาวและพี่เขยของเขาคงจะแวะมาเยี่ยม พวกเขาเพิ่งโทรมาก่อนหน้านี้ แม่คิดว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างที่พวกนั้นอย่างจะมาพบเรา” ลวนเสี่ยวปิงได้พบกับน้องสาวและพี่สะใภ้ของ หยางจ้าวเต๋อแต่ในขณะนั้นเธอไม่ได้อยู่กับพี่หยางการพบปะในครั้งนี้จะแตกต่างออกไป มันจะเป็นการพบปะกันอย่างเป็นทางการระหว่างครอบครัวของ หยางจ้าวเต๋อและครอบครัวของ ลวนเสี่ยวปิงนั่นเป็นสาเหตุที่ลวนเสี่ยวปินเองก็รู้สึกประหม่ามาก
หลังจากออกจากห้องครัว หยางจ้าวเต๋อถามลวนเสี่ยวปิน “เสี่ยวปิง เราจะไปทานอาหารกลางวันข้างนอกหรือทานอาหารกลางวันที่บ้านกันดี?”
ลวนเสี่ยวปิงได้ตอบกลับ "คุณตัดสินใจได้เลย. พี่สาวของคุณกำลังจะมาใช่ไหมค่ะ?“”ตกลง. มาทานอาหารเที่ยงที่บ้านกันเถอะ มันสะดวกกว่ามาก“หยางจ้าวเต๋อยิ้มและมองไปที่ ดงซูบิน”มาแสดงฝีมือกันหน่อยไหม แม่ของคุณจะล้างผักและเราจะทำอาหาร”
ดงซูบินพยักหน้า เขาบอกว่าเขาจะทำอาหารกลางวัน แต่เนื่องจากญาติของพี่หยาง จะมา เขาไม่กล้าทำอาหารทุกอย่างเอง ทักษะการทำอาหารของเขาไม่ดีพอ
หยางจ้าวเต๋อคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอ่อ…” เขาหยุดประมาณสิบวินาทีแล้วลูบหน้าผาก “มันจะค่อนข้างยาก”
แบม! ลวนเสี่ยวปินนั่งอยู่ข้างๆ วางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะกาแฟอย่างแรง แสดงความไม่พอใจ เธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับกับหยางจ้าวเต๋อได้ และบอกกับลูกชายของเธอว่าเขาดีแค่ไหนในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตอนนี้ ลูกชายของเธอกำลังขอความช่วยเหลือ ? เธอรู้ว่าลูกชายของเธอไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากคนอื่น และนี่ทำให้เธอดูแย่
หยางจ้าวเต๋อมองไปที่ ลวนเสี่ยวปิงและยิ้ม “ฉันไม่ได้บอกว่าฉันไม่ได้ช่วย มันค่อนข้างยากจริงๆ”
ลวนเสี่ยวปินไม่ลังเลใจ “คุณลุงเป็นรัฐมนตรีกรมองค์การมิใช่หรือ? ทรัพยากรบุคคลคืองานของคุณใช่ไหม มันจะยากอะไรนักหนา” ดงซูบินขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว “แม่ มันไม่ใช่แบบนั้น ความมั่นคงของรัฐเป็นหน่วยงานอิสระและรายงานเฉพาะกับผู้มีตำแหน่งสูงกว่าเท่านั้น พูดสั้นๆ มันคือความมั่นคงของจังหวัดที่ควบคุมการรักษาความมั่นคงของรัฐในเมือง แม้ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐและต้องฟังคำสั่งของฝ่ายองค์กร แต่ความมั่นคงของจังหวัดก็มีอำนาจมากกว่า และการเคลื่อนย้ายกำลังคนก็ตกอยู่ภายใต้เขตอำนาจของความมั่นคงแห่งรัฐ ลุงหยางถึงบอกว่ายาก” ดงซูบินยังไม่ได้พูดถึงนายกเทศมนตรีและเลขาธิการพรรค
ลวนเสี่ยวปิงดูดีขึ้นหลังจากได้ยินคำอธิบายของลูกชาย แต่เธอก็ยังโกรธอยู่ “ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบริการของรัฐ ถ้ามันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็ลืมมันไปซะ” เธอเองดูโมโหมากในตอนนี้ ซึ่งต่างจากดงซูบินที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับหยางจ้าวเต๋อ
หยางจ้าวเต๋อตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น "เอาล่ะ. ในเมื่อผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราที่บ้านพูดแบบนี้ ฉันจะไม่ทำตามคำสั่งของเธอได้อย่างไร แต่ตำแหน่งและการโยกย้ายนี้ค่อนข้างแตกต่าง และรัฐบาลท้องถิ่นก็มีความเห็นในเรื่องนี้ ซูบินหัวหน้าเก่าของคุณมีประสบการณ์เพียงพอหรือเปล่า ตำแหน่งของเธอตอนนี้คือตำแหน่งอะไร?”
ดงซูบินเห็นว่ามีความหวังและตอบกลับอย่างรวดเร็ว “เธอมีประสบการณ์อย่างแน่นอน เธอชื่อเสี่ยวหยางรองหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงแห่งรัฐ สาขาถนนปักกิ่งตะวันตก เธอเองอยู่ในวัยสี่สิบต้น ๆ และดำรงตำแหน่งปัจจุบันอยู่สองสามปี” ดงซูบินยังคงบอก หยางจ้าวเต๋อเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของ เสี่ยวหยาง และจบลงด้วย “หัวหน้าเสี่ยว มีความสามารถและทำงานในความมั่นคงของรัฐมาตลอดชีวิต”
หยางจ้าวเต๋อพยักหน้า “ฉันจะไม่ให้สัญญาใด ๆ แต่ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
ดงซูบินรู้ว่าการถ่ายโอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ด้วยการตอบกลับนี้ “ขอบคุณลุงหยางเป็นอย่างสูงเลยครับ ขอขอบคุณครับ.” “อย่าพูดอย่างนั้น ฮ่าฮ่าฮ่า…” ลวนเสี่ยวปินยิ้มและรินชาให้เขา “ดื่มชาหน่อย” หยางจ้าวเต๋อรัก ลวนเสี่ยวปิงและปฏิบัติต่อเรื่องนี้อย่างจริงจัง เขากลับไปที่ห้องของเขาหลังจากจิบชาสักสองสามจิบเพื่อโทรออก เขาต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพราะจะมีหลายคนจับตาตำแหน่งนี้ เขาต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการเสนอชื่อ เสี่ยวหยางผ่านแผนกองค์กร จากนั้นใช้เส้นสายของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะได้รับตำแหน่งนี้
ห้องนั่งเล่น.
ดงซูบินกล่าวกับแม่ของเขา “แม่ ลุงยางปฏิบัติต่อแม่ดีมาก”
ลวนเสี่ยวปินยิ้มอย่างมีความสุข “ปฏิบัติต่อมแม่ดีอย่างงั้นหรอ? พี่หยางนั้นเขานะ เขาเคยมีภรรยาที่และเธอเสียชีวิตแล้ว และเขาเองก็ไม่มีลูก และเขาหวังเสมอที่จะมีลูกชาย ฉันสามารถบอกได้ว่าเขาชอบลูกจริงๆ และเขายังกล่าวว่าชายหนุ่มทุกคนควรเรียนรู้จากลูกเมื่อคืนนี้”
“เอ๊ะ? ลุงหยางพูดแบบนี้?” “แม่ยังต้องโกหกคุณอยู่ไหม” ดงซูบินมีความยินดี ลุงหยางนี้เป็นคนที่มองคนได้เฉียบคม
ลวนเสี่ยวปิงมองดูนาฬิกาของเธอ “พี่สาวของพี่หยางน่าจะมาถึงในไม่ช้า ที่บ้านมีผักและเนื้อสัตว์ไม่เพียงพอ แม่ต้องออกไปซื้อมันสักหน่อย”
"รอ." ดงซูบินหยุดแม่ของเขา “แม่เป็นภรรยาของรัฐมนตรีแล้ว ให้ผมทำเรื่องเล็กน้อยทั้งหมดนี้เถอะ” “หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว รีบไปกันเถอะ”
"ตกลง."
ดงซูบินขับรถไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตวอลมาร์คทางตะวันออกของเมืองและซื้อของชำเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากกลับมาที่คณะกรรมการพรรคการเมืองของเมือง เขาถือของชำออกจากรถของเขาและปิดประตูด้วยเท้าของเขา
ทันใดนั้น ร่างที่คุ้นเคยก็เดินเข้ามา
“เอ๊ะ? หัวหน้าซูบิน?” ผู้หญิงยืนอยู่หน้าทางเข้าอาคาร
ผู้หญิงคนนี้อายุยี่สิบปลายๆ และค่อนข้างสวย ดงซูบินยิ้มและทักทาย "นางสาว. ซู?” ซูเจีย พิธีกรรายการโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์มณฑลหยานไท่เป็นเจ้าภาพงานเฉลิมฉลองวันตรุษจีนของเทศมณฑลหยานไท่ เธอได้ช่วย ดงซูบินด้วยการแสดงมายากลของเขา แม้จะพบกันเพียงครั้งเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นคนรู้จัก ดงซูบินมีความประทับใจในตัวเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้มาที่นี่เพื่อส่งของขวัญเพราะเธอไม่ได้ถืออะไรเลย ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่? จู่ๆเขาก็จำบางอย่างได้ เขาเคยได้ยินข่าวลือว่าซูเจียมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง และดูเหมือนว่าจะเป็นความจริง เธอเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเมืองหรือไม่?
ซูเจียเห็นดงซูบินถือถุงช้อปปิ้งมากมายและคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อส่งของขวัญ นี่เป็นข้อห้ามและทั้งคู่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ถ้าซูเจียไม่ได้พบดงซูบินที่ทางเข้าอาคาร นางคงไม่เรียกเขา มันค่อนข้างน่าอายที่จะพบคนรู้จักในขณะที่คนๆนั้นกำลังจะส่งของขวัญ(ของที่ให้กับผู้นำ)
แต่เนื่องจากพวกเขาชนกัน พวกเขาไม่มีทางเลือก
ซู่เจียยิ้ม “มันยากมากที่จะพบคุณ ต้องการทานอาหารเย็นเย็นนี้หรือไม่? ฉันรักการแสดงมายากลของคุณในเวลานั้นและต้องการรู้จักคุณ” ดงซูบินสนใจที่จะรู้ว่าเธอมีภูมิหลังอย่างไร “แน่นอน รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับประทานอาหารกับพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่น่ารักเช่นคุณ”
ซูเจียหัวเราะ “ฉันไม่สวยเลย ฮาฮา…”
“คุณเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัว” ดงซูบินวางถุงของชำและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “เรามาแลกเบอร์กันไหม”
หลังจากแลกหมายเลขแล้ว ดงซูบินก็ถือถุงช้อปปิ้งและเข้าไปในบันไดพร้อมกับซูเจีย
พวกเขาคุยกันอยู่พักหนึ่ง และซูเจียก็พูดขึ้น “หัวหน้าดง ฉันจะขึ้นไปก่อน ฉันจะโทรหาคุณในภายหลังเพื่อยืนยันว่าจะพบกันที่ไหนในภายหลัง” ดงซูบินพยักหน้าและรู้ว่า ซูเจีย พยายามรักษาระยะห่างเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด
ดงซูบินตั้งใจชะลอตัวเพื่อให้ซูเจียขึ้นไปชั้นบนก่อน เขารอครู่หนึ่งก่อนจะขึ้นบันได
คลิก… มันเป็นเสียงเปิดประตู และซูเจียก็ตะโกน “พ่อค่ะ แม่” หลังจากนั้นประตูก็ปิดลง
เสียงดูเหมือนจะมาจากชั้นสาม ดงซูบินกระพริบตา พ่อ แม่? พ่อแม่ของซู่เจียมาจากคณะกรรมการพรรคเมือง? เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยจึงเดินต่อไปที่ชั้นสาม เขากดกริ่งที่อพาร์ตเมนต์ของหยางจ้าวเต๋อเมื่อเขามาถึง
ดิ๋งด่อง…
ดงซูบินตกตะลึงเมื่อเห็นคนที่เปิดประตูให้เขา “เอ๊ะ?” ซูเจียก็ตกตะลึงเมื่อเห็นดงซูบิน "ฮะ? หัวหน้าซูบน? ทำไม...” เธอเปิดประตูเพื่อให้เขาเข้าไป และเธอคิดว่าเขาต้องอยู่ที่นี่เพื่อมอบของขวัญให้ลุงของเธอ
ดงซูบินยังงงว่าทำไม ซูเจียอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของลุงหยางได้ล่ะ?