Ep.1028 - แจ้งเตือนภารกิจ
Ep.1028 - แจ้งเตือนภารกิจ
สิ่งที่เส้าตงเฟิงเข้าใจในตอนนี้ คือจ้าวเหนือหัวอันผิงพยายามยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง เพื่อที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือเขาอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนคิดถึงความเร็วในการพัฒนาของฉินเฟิง และมิติที่ล่มสลายเหล่านั้นแล้ว เส้าตงเฟิงกัดฟัน ตัดสินใจเลือกกำจัดฉินเฟิง
“ก็ได้ ฉันตกลง!”
อันผิงมองเส้าตงเฟิงอย่างลึกล้ำ นึกถึงมิตรภาพในอดีต แต่ดูเหมือนว่าภาพความทรงจำเหล่านั้น จะค่อยๆเลือนหายไป
“ฉันจะกำจัดเขาให้ นายไม่ต้องห่วงผลที่จะตามมาในภายหลัง”
จ้าวเหนือหัวอันอันผิงวางสายสื่อสาร เส้าตงเฟิงเกิดความรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เขาไม่เสียใจที่เลือกแบบนี้ เพราะภัยคุกคามอย่างฉินเฟิง มันใหญ่เกินไป
…
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงย้อนกลับมาที่บาร์ ผู้ใช้พลังคนอื่นๆก็กลับมารวมตัวกัน แต่เวลานี้ สายตาที่พวกเขามองฉินเฟิง มิใช่ในฐานะคนรุ่นหลังอีกต่อไป
เพราะทุกคนต่างรู้ดี ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง มันมากกว่าพวกเขาแล้ว เรียกได้ว่าต่อให้ฉินเฟิงไปเข้ารับการทดสอบตราเลเวล SS ในตอนนี้ เขาก็จะกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของมิติทันที
“ฉินเฟิง คุณจะปล่อยเส้าตงเฟิงไปแบบนี้จริงๆหรอ? เพราะเขาไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่ๆ เขาเป็นลูกน้องของจ้าวเหนือหัวอันผิง ว่ากันว่าเคยมีพระคุณต่ออันผิงอย่างใหญ่หลวง!”
“เห~ ที่แท้ก็มีเรื่องแบบนี้ด้วย” ฉินเฟิงนึกไม่ถึงเลย ว่าเส้าตงเฟิงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้าวเหนือหัว
ยังไงก็ตาม ในใจฉินเฟิงวางแผนจะสังหารเส้าตงเฟิงอยู่แล้ว เพียงแต่เขาไม่เอ่ยปากออกมาตรงๆ เพราะนี่คือกฏ อย่าลืมสิว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรมนุษย์กันทั้งคู่ จะทำอะไรโจ่งแจ้งไม่ได้
คนอื่นก็แค่อารมณ์เสีย เพราะเดิมหวังว่าจะได้เห็นเส้าตงเฟิงอยู่ในสภาพน่าสังเวช เนื่องจากความแข็งแกร่งที่ฉินเฟิงแสดงออกมา มันสามารถมีชัยเหนือเส้าตงเฟิงได้อย่างสิ้นเชิง
แต่โชคยังดี ที่ในบรรดาคนเหล่านี้ ยังมีบางคนที่ใจเย็น รู้จักคิดอยู่บ้าง
“ผ่านไปแล้วก็ช่างมันเถิด เอาอย่างนี้เป็นไร ลองไปหาระดับสูงของพันธมิตรมนุษย์ดูดีไหม ให้เขาช่วยไกล่เกลี่ย เพราะเส้าตงเฟิงก็ไม่น่าจะถึงขั้นใช้เรื่องนี้รบกวนจ้าวเหนือหัวอันผิงเหมือนกัน ถ้ามีเลเวล SSS คนอื่นๆมาเป็นคนกลาง ก็น่าจะพอช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นบ้าง” หลงกงกล่าว
แต่ฉินเฟิงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องการแก้ปัญหานี้
“ถ้าเขาอยากมา ก็ให้มา! พวกคุณคงไม่ใช่คนกลุ่มแรกแน่นอนที่ส่งฟ้องเรื่องของเส้าตงเฟิง ต่อให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี แต่นับจากนี้ เส้าตงเฟิงอาจทำอะไรตามใจชอบ อย่างคิดใช้พวกคุณเป็นกระสอบทรายก็ได้!”
“ดังนั้น ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือพวกคุณต้องไม่มาเหยียบในมิติพันธมิตรมนุษย์สักพัก!”
“ฉันเห็นด้วยนะ แบบนั้นจะดีกว่า ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเรา อันที่จริงแล้วอ่อนแอกว่าสมาชิกทั่วไปของพันธมิตรมนุษย์ซะอีก กลับไปซ่อนตัวอยู่ในมิติโลกมนุษย์ก่อนจะดีกว่า”
“ฉินเฟิง ตราบใดที่คุณสามารถขึ้นเป็นเลเวล SSS ได้ พวกเราก็ไม่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆแบบนี้อีกต่อไป!”
ฉินเฟิงกวาดสายตามองคนเหล่านั้น และพบกับสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ผมจะรีบยกระดับให้เร็วที่สุด!” คำว่าเร็วที่สุดของฉินเฟิงมันฟังดูไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่นัก แต่นั่นเพราะในความคิดของฉินเฟิง ตัวเขาจะสามารถก้าวเข้าสู่เลเวล SSS ได้ในไม่ช้า
นั่นเพราะเขามีทักษะลับกลืนดารา! , เพราะเขามีพลังพิเศษดูดกลืน!!
หลังจากนั้น ฉินเฟิงไม่เสียเวลากับคนเหล่านี้อีก นี่คือช่วงเวลาที่เขาต้องสู้ ตราบใดที่ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เล่ห์กลใดของเส้าตงเฟิงย่อมไม่อาจทำร้ายเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ตราบใดที่ฉินเฟิงสามารถไปเหยียบย่ำในขอบเขตความแข็งแกร่งที่เป็นตำนาน เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใครหน้าไหนอีกต่อไป
ฉินเฟิงกลับไปยังวิลล่าของเขา หยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา ไม่ช้าก็พบข้อมูลติดต่อคนๆหนึ่งอย่างรวดเร็ว ข้อความถูกส่งออกไป โดยปลายทางผู้รับคือหมิงเทียนห่าว
ความแข็งแกร่งของหมิงเทียนห่าวมิใช่เลวร้าย อีกฝ่ายคือผู้ใช้พลังระดับราชันย์ที่ถูกฝึกฝนมาเพื่องานประลองเพื่อสันติภาพโดยเฉพาะ เพียงแต่การต่อสู้ในครั้งนี้ เขาทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก เหตุผลหลักๆก็เป็นเพราะศัตรูเกือบทั้งหมดถูกฉินเฟิงฆ่าตาย
ดังนั้นเมื่องานประลองสิ้นสุดลง หมิงเทียนห่าวจึงชิงตรามิติมาได้ 4 ชิ้นเท่านั้น รวมกับของตัวเองเป็น 5 และส่วนมิติที่เขาได้รับเป็นรางวัล ก็ไม่ค่อยดีนัก
ส่งผลให้ผู้ใช้พลังเลเวล SSS ที่ฝึกฝนเขารู้สึกผิดหวังมาก ประเด็นก็คือ หมิงเทียนห่าวเองก็รู้สึกอับอายมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงย่อมมีเหตุผลที่ติดต่อหาเขา เนื่องจากเลเวล SSS ที่อยู่เบื้องหลังหมิงเทียนห่าว อย่างไรย่อมไม่ใช่ฝ่ายเดียวกับเส้าตงเฟิงแน่นอน
หมิงเทียนห่าวพอได้รับข้อความจากฉินเฟิง ไม่นานเขาก็โทรกลับมา
“นายต้องการขายมิติทั้งสามแห่งนั้นจริงๆหรือ?”
ข้อความที่ฉินเฟิงส่งไปเมื่อครู่ มีใจความสั้นๆ ว่าเขาต้องการขายมิติระดับล่างที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทั้งสาม เพื่อแลกกับทรัพยากรที่จะใช้ฝึกฝนต่อไป
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่งั้นผมจะติดต่อหาคุณทำไม?”
“ก็เพราะเรื่องนั้นแหละ ฉันเลยไม่เข้าใจไงว่าทำไมนายถึงเลือกติดต่อหาฉัน!”หมิงเทียนห่าวประสบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงเพราะฉินเฟิงก็จริง แต่พอลองคิดดูดีๆ ทั้งสองคนไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกัน เพียงแต่ว่าชื่อเสียงของหมิงเทียนห่าวตกต่ำลงจนอยู่ในจุดน่าอนาถก็เท่านั้น
หากบอกว่าฉินเฟิงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ นั่นเป็นความจริง
แต่ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงเคยช่วยเขาไว้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองเลยอยู่ในสภาวะน่าหมิงเทียนห่าวไม่รู้ว่าทำไมฉินเฟิงถึงเลือกเขา “ก็มีแค่ไม่กี่คนที่ผมรู้จัก วกเข้าเรื่องเถอะ ตกลงคุณจะซื้อมันรึเปล่า? ถ้าคุณไม่มีทรัพยากรอยู่ในมือ ก็หาหุ้นส่วนร่วมพัฒนามันได้ แต่ขอให้เร็วด้วยผมไม่ค่อยมีความอดทน!” ฉินเฟิงกล่าว
สำหรับเรื่องนี้ หมิงเทียนห่าวตัดสินใจไม่ได้จริงๆ แม้เขาจะได้รับมิติทั้ง 5 เป็นรางวัล แต่นั่นได้มอบให้แก่เลเวล SSS ที่ฝึกฝนเขาไปเรียบร้อยแล้วอันที่จริงตอนนี้เขาไม่มีทรัพยากรใดๆเลย
อย่างไรก็ตาม หากนำธุรกิจนี้ไปเสนอ บางทีตัวตนทรงอำนาจเลเวล SSS อาจมองเขาในแง่ดีขึ้นบ้างก็ได้
หมิงเทียนรู้สึกว่าเขาอยากรับหน้าที่คนกลางในครั้งนี้
“จะให้แลกเปลี่ยนกับอะไร?”
“สามมิติระดับล่างของผม แลกกับสิบมิติระดับต่ำ”
“ตกลง ฉันจะไปถามให้ ภายในหนึ่งชั่วโมง ทางเราจะติดต่อกลับไป”
หมิงเทียนห่าวไม่ปล่อยให้ฉินเฟิงรอนานถึงขนาดนั้น แค่ครึ่งชั่วโมงเขาก็โทรมาอีกครั้ง ตกลงว่าจะแลกเปลี่ยนกับฉินเฟิง
“ตัวเชื่อมมิติระดับต่ำพวกนี้เป็นของนาย และทางเราขอสัญญา ว่านับจากนี้จะไม่เข้าไปก้าวก่ายพวกมันอีก” หมิงเทียนห่าวกล่าว
การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เช่นนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเมื่อขายทุกอย่างออกไปแล้ว จู่ๆดันมีคนมาบอกว่าสถานที่เหล่านี้เป็นของพวกเขา นำมาซึ่งปัญหาในภายหลัง ดังนั้นหมิงเทียนห่าวจึงกล่าวรับประกันแก่ฉินเฟิง ในความเป็นจริงเขาก็หวังให้ฉินเฟิงรับประกันมันแก่ทางเขาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่รับประกันก็ไม่เป็นไร เพราะเบื้องหลังหมิงเทียนห่าวคือผู้ใช้พลังเลเวล SSS ถ้าฉินเฟิงโป้ปด เดี๋ยวอีกฝ่ายก็จะถูกเก็บเอง
ฉินเฟิงตอบกลับว่า “นั่นไม่สำคัญหรอก เพราะยังไงซะมิติเหล่านั้น ผมนี่แหละจะดูดซับพวกมันทั้งหมดในเร็วๆนี้ พอแผ่นดินใหญ่ล่มสลาย พวกคุณจะทวงสิทธิ์ไปก็เท่านั้น”
หมิงเทียนห่าวไม่รู้ว่าฉินเฟิงไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจกันแน่
หลังจบการแลกเปลี่ยน ฉินเฟิงกับหมิงเทียนห่าวก็แยกย้ายไปคนละทาง แต่ไม่นาน ฉินเฟิงก็ได้รับการแจ้งเตือนอย่างกะทันหัน
【ผู้ใช้พลังฉินเฟิง เนื่องจากคุณได้เข้าร่วมกับทางพันธมิตรมนุษย์เป็นระยะเวลาสักพักหนึ่งแล้ว และยังมีส่วนร่วมในการพัฒนามนุษยชาติ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้พลังควรมี ดังนั้น คุณจึงถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมมิติวงแหวนดาวตกที่ล่มสลาย ต่อต้านการรุกรานของเผ่าแมลงมิติ จำกัดเวลารับภารกิจ : 7 วัน!】
“มีภารกิจส่งมา??”
ฉินเฟิงมองไปยังการแจ้งเตือนที่เขาได้รับ สองตาหรี่ลงทันที
เขารู้สึกได้ ว่าการแจ้งเตือนนี้ มันมาได้จังหวะเกินไป
ตอนนี้ เพราะเรื่องของเส้าตงเฟิง ผู้ใช้พลังจากมิติโลกมนุษย์ทั้งหมด จึงเดินทางกลับมิติเดิมของตนแล้ว และเชื่อว่าในระยะเวลาสั้นๆ พวกเขาจะไม่มายังมิติพันธมิตรมนุษย์
ทว่าฉินเฟิงกลับได้รับการแจ้งเตือนนี้ ประเด็นก็คือ อีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้ฉินเฟิงปฏิเสธด้วยซ้ำ
ประตูมิติถูกเปิดออก ฉินเฟิงกลับไปยังเมืองเฟิงหลี
เขาเปิดอุปกรณ์สื่อสาร ยกหูโทรหาหลงถิงที่เพิ่งแยกจากกัน
“ภารกิจนี้ถูกส่งไปไหม? มีใครได้รับมันบ้าง ตอนนี้ผมเพิ่งได้รับภารกิจเรียกตัว ให้ไปยังมิติวงแหวนดาวตก ที่นั่นอันตรายมากไหม?”
หลงถิงรับฟังคำถามรัวๆของฉินเฟิง แต่ไม่ได้เอ่ยขัดใดๆ เพราะความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง หากอยากให้หลงถิงรับหน้าที่เลขา เธอก็ได้แต่ปฏิบัติตามเท่านั้น