บทที่ 387
ตอนนี้หลงเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ภายในบ่อน หลูหวินจง เซียวอู่มิ่ง สือชินเชวี่ยทั้งสามตอนนี้อาการขาดเจ็บเริ่มดีขึ้นแล้วด้วยเม็ดยาสีทองของเนี่ยฟงทำให้ทั้งสามตื่นตกใจไม่น้อย เตียวมู่ถังนำกำลังคนยืนปิดล้อมบ่อนด้านนอกกำชับอาวุธในมือแน่น เนี่ยฟงยืนจ้องมองไปที่ด้านบนหลังคาพบเห็นช่องลับขนาดเท่าฝ่ามือซ่อนอยู่ข้างรอยแตก
“ข้าขอสอบถามพวกท่านทั้งสามได้หรือไม่ บ่อนแห่งนี้ผู้ใดเป็นคนสร้าง”
ทั้งสามได้ยินเช่นนั้นได้แต่ส่ายศีรษะไปมา เป็นหลูหวินจงที่กล่าววาจาตอบหลังจากครุ่นคิดอยู่นาน
“สถานที่แห่งนี้มีมานานนับร้อยปีแล้ว ผู้คนที่นี่หาได้มีผู้ใดรับรู้เพราะคนที่รับรู้ตกตายจนหมดแล้ว”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับถีบเท้าพุ่งทะยานไปบนหลังคาเหยียบเกราะสายฟ้าเป็นฐานไม่ถึงสามลมหายใจก็ลงมาด้านล่างพร้อมกับกล่องไม้ในมือบนกล่องมีตราสลักรูปพยัคฆ์และงูตัวใหญ่ เขาหันไปมองหลูหวินจง
“ท่านทราบหรือไม่นี่คือสิ่งใด”
หลูหวินจงขมวดคิ้วส่ายศีรษะเช่นกัน เป็นเซียวอู่มิ่งที่เอ่ยวาจาออกมา
“นั่นคือตราของสำนักเทวะ”
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่หันไปจ้องมองเซียวอู่มิ่ง
“ในอดีตหลายร้อยปีสำนักเทวะยิ่งใหญ่ไม่น้อย เจ้าสำนักหาได้พลังปราณกล้าแข็งแต่ทว่ามีความสามารถเรื่องการใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์”
เนี่ยฟงยกยิ้มโคจรลมปราณไปที่มือขวาประกายสายฟ้าพุ่งไปยังกล่องไม้ในมือ วูบ วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาเหนือกล่องไม้ คนที่เหลืออยู่ต่างตื่นตกใจเนี่ยฟงจ้องมองอยู่นานนับยี่สิบลมหายใจหลังจากนั้นเขาก็เริ่มแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ นานนับครึ่งเค่อในที่สุดวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็จางหายไป เนี่ยฟงค่อย ๆ เปิดกล่องไม้ช้า ๆ ด้านในมีชิ้นหยกลักษณะเป็นวงกลมมีรูตรงกลางขอบด้านข้างตรงกลางมีร่อง ด้านบนของชิ้นหยกมีลวดลายแปลกประหลาด
“พวกท่านรู้หรือไม่ว่ามันคือสิ่งใด”
หลายคนต่างส่ายศีรษะไปมา เนี่ยฟงได้แต่ถอนหายใจใช้มือซ้ายยกชิ้นหยกขึ้นมาดูกำไลสวมอยู่ปรากฏความร้อนลวกออกมาเขาจึงรีบเก็บชิ้นหยกเอาไว้ที่มือซ้าย
“มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า ข้าอยากหยิบยืมกำลังของที่นี่เพื่อปะทะกับพวกเทพบัดซบที่จะมายังดินแดนแห่งนี้ มันอาจเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่สุดที่พวกท่านจะได้พบเจอในชีวิตนี้ และมันอาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่พวกท่านจะยังมีลมหายใจอยู่”
“เหอะ! ตัวเจ้าเองไม่ใช่รึที่เอ่ยวาจาดูถูกพวกข้า แล้วเช่นนี้คิดมาขอกำลังมันไม่ง่ายไปหน่อยรึ”
เนี่ยฟงหันไปมองสือชินเชวี่ย
“เรื่องนั้นข้าเข้าใจดี ท่านจะเข้าร่วมหรือไม่ตัวข้าหาได้บังคับพวกท่านได้ เพราะอย่างน้อยข้าก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็หันไปตะโกนเรียกเตียวมู่ถัง
“พี่ชายเตียวมู่ถังพวกเรากลับกันเถอะ ที่นี่หาได้มีสิ่งใดต้องจัดการแล้ว”
หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็ก้าวเดินออกไปหาได้แม้แต่สนใจทั้งสามที่ขมวดคิ้วอยู่กับที่
“คุณชายเป็นไปตามที่ท่านคาดการณ์ไว้หรือไม่”
“เป็นไปได้ถึงเจ็ดส่วนที่คนพวกนั้นจะเข้าร่วมกับเรา แต่ช่างเถอะพวกเขาคงไม่อยากปะทะกับพวกเทพมากเท่าไร ว่าแต่ท่านพอทราบข่าวเกี่ยวกับสำนักเทวะหรือไม่ขอรับ”
เตียวมู่ถังได้แต่ส่ายศีรษะไปมา แต่ทว่ามีชายผู้หนึ่งเอ่ยวาจาออกมาแทน
“เหตุใดคุณชายถือเอ่ยวาจาถึงสำนักเทวะขอรับ”
เนี่ยฟงหันไปมองซินหยาง
“พี่ชายซินหยางท่านรู้จักสำนักเทวะ”
ซินหยางพยักหน้าคงตอบรับ เขาสะบัดมือขวากำชับบันทึกเล่มหนึ่งยื่นให้แก่เนี่ยฟง
“คุณชายเมื่อหลายปีก่อนข้าย่องเข้าไปขโมยของจากบ้านเศรษฐีผู้หนึ่งพบเจอบันทึกที่กล่าวถึงสำนักเทวะคุณชายลองดูเถอะ”
เนี่ยฟงคว้าจับบันทึกขึ้นมาเปิดอ่านพบว่าด้านในมีอักษะแปลกประหลาดเขียนอยู่เต็มไปหมด
“ขอบใจพี่ชายซินหยาง หากมีเวลาข้าจะศึกษามันเอง”
เนี่ยฟงหันไปมองเตียวมู่ถัง
“หากคุณชายต้องการทราบข่าวเกี่ยวกับสำนักเทวะ ต้องเดินทางไปที่ทะเลสาบจิ่วซางที่นั่นมีเรือสำราญหลายสิบลำแต่ที่เราจะขึ้นคือเรือสำราญซางซีจี เป็นแหล่งพนันหลากหลายรูปแบบอีกที่หนึ่ง ที่นี่รับพนันทั้งเงินทอง ทรัพย์สมบัติ เม็ดยา สมุนไพร อาวุธ ลูกเมีย ชีวิต และข่าวที่ท่านต้องการ เหล่าผีเซียนพนันต่างมุ่งหน้ามาที่นี่เพื่อความร่ำรวย อีกอย่างเรือสำราญซางซีจีมีเถ้าแก่ซางเป็นผู้ดูแลในอดีตเขาเป็นผู้สร้างทวนอสรพิษอันเลื่องชื่อเก่งกาจวิชาทวน อีกทั้งยังชื่อชอบการต่อสู้เป็นที่สุดบนเรือจึงมีลานประลองอยู่ด้านบน”
“เช่นนั้นพวกเราเร่งเดินทางกันเถอะ ทิ้งคนของเราไว้ที่นี่สามคนเพื่อติดต่อกับท่านภายหลัง หากหลูหวินจง เซียวอู่มิ่ง และสือชินเชวี่ยสนใจเข้าร่วมกับเรา”
ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงสัมผัสบางอย่างได้ด้านหน้า เมื่อหรี่ตาจ้องมองพบเห็นแผ่นยันต์สีเหลืองสามแผ่นลอยอยู่ด้านบนท้องฟ้า
“ภายในดินแดนแห่งนี้พวกท่านพบเห็นผู้ใดใช้แผ่นยันต์เป็นอาวุธหรือไม่ขอรับ”
“แผ่นยันต์ นอกจากคนจากเขาอู่เทียนปิงก็หาได้มีผู้ใดใช้”
“คนพวกนี้คือใครกันขอรับพี่ชายเก่อคัง”
“คนพวกนี้เป็นคนของหม่าซือเทียนผู้ตั้งตนรับบัญชาจากพวกเทพ แอบอ้างทำเป็นนักพรตคอยช่วยเหลือช้าวบ้านที่แท้กลับทำเรื่องชั่วช้าเลวทราม”
“เช่นนั้นก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องจับมาสอบถามสิ่งใดใช่หรือไม่”
หลายคนได้ยินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เนี่ยฟงสะบัดมือขวามีดสั้นสี่เล่มพุ่งทะยานขึ้นบนท้องฟ้า ฟิ้ว มีดสั้นทั้งสี่เสียบแทงแผ่นยันต์ขาดกระจายร่วงลงพื้นดินหลังจากนั้นเข้าถีบเท้าพุ่งทะยานออกไป
“พี่ชายเตียวมู่ถังรีบจัดคนอยู่ที่นี่แล้วติดตามข้ามา”
เนี่ยฟงถีบเท้าแผ่ลมปราณออกมาจากร่างพุ่งทะยานออกไปด้านหน้า เกือบครึ่งเค่อเขาก็สัมผัสบางอย่างทางขวามือจิตสังหารจำนวนนับพันพวยพุ่งออกมา เห็นเป็นเงาวูบวาบเป็นกองกำลังทหารนับพันพุ่งผ่านป่าทางขวามือเข้ามา เสียงสะบัดมือดังแว่วดาบในมือปรากฏพร้อมกับประกายสายฟ้าพวยพุ่งออกมา เนี่ยฟงหลับตาแผ่ลมปราณตรวจสอบไม่ถึงสองลมหายใจเขาก็ฟาดฟันดาบเป็นแนวขวางไปทางซ้ายมือตรงข้ามกับทิศทางที่กองกำลังทหาร ปราณดาบสีฟ้าพุ่งทะยานปะทะม่านพลังเสียงดังสนั่น เปรี้ยง! ต้นไม้น้อยใหญ่ถูกตัดโค่นร่วงลงพื้นส่วนทหารนับพันที่พุ่งทะยานมาทางขวาถูกทำลายสลายหายไป เนี่ยฟงพบชายฉกรรจ์สี่คนแอบอยู่หลังม่านพลัง ทั้งสี่สะบัดมือขวาซัดแผ่นยันต์สีเหลืองออกไปนับร้อยแผ่น แผ่นยันต์แตกสลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ หอบเอาเศษใบไม้และหญ้าบนพื้นถักทอจนเป็นอสรพิษตัวใหญ่สองตัวพุ่งเข้ามา
เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่เท้าขวากระทืบลงพื้น เปรี้ยง! สายฟ้าสองเส้นพุ่งเข้ารัดอสรพิษทั้งสองฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็ก ๆ ชายฉกรรจ์ทั้ังสี่ตื่นตกใจไม่น้อยสะบัดมือขวากำชับดาบในมือฟาดฟันออกไป ปราณดาบสีแดงสี่เล่มพุ่งเข้าปะทะ เปรี้ยง! เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับอย่างทันท่วงที ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากดาบเนี่ยฟงฟาดฟันดาบออกไป ชายฉกรรจ์ทั้งสี่กัดฟันระเบิดพลังปราณฟาดฟันดาบในมือต้านรับ เปรี้ยง! ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย มีสองคนใบดาบหักสะบั้นร่วงลงพื้น ทั้งสี่ต่างมองหน้ากันไม่ถึงครึ่งเค่อก็พยักหน้าถีบเท้าพุ่งออกไปคนละทางหวังหลบหนี เนี่ยฟงยกยิ้มเสียงสะบัดมือดังแว่วเก็บดาบในมือมีดสั้นสี่เล่มพุ่งออกไปจากมือขวาเสียบแทงหัวไหล่ เนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งติดตามใช้ฝ่ามือขวาฟาดหวดเข้าไปที่ต้นคอด้านหลังชายฉกรรจ์ทั้งสี่ เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! ทั้งสี่ร่วงลงพื้นเป็นจังหวะเดียวกับที่พวกเตียวมู่ถังติดตามมาถึง เก่อคังมองเห็นเสื้อผ้าสวมใส่ของชายฉกรรจ์ทั้งสี่จึงอุทานออกมา
“คน คนจากเขาอู่เทียนปิงเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่”
เนี่ยฟงยกยิ้มสะบัดมือขวาถือขวดยาในมือก้าวเดินเข้าหาทั้งสี่หมายป้อนยาเพื่อสอบสวน แต่ทว่าไม่ทันได้ป้อนยาทั้งสี่กัดฟันกลืนยาพิษที่แอบซ่อนเอาไว้ตกตายลงไปเสียก่อน เขาทำได้เพียงปลดแหวนในมือออกมาตรวจสอบแต่ทว่าก็ไม่พบเจอสิ่งใดนอกเสียจากแผ่นยันต์เปล่า
“น่าแปลกประหลาดนักเหตุใดคนกลุ่มนี้ถึงคิดติดตามสังหารข้า พี่ชายเตียวมู่ถังรีบเดินทางเถอะขอรับ”