บทที่ 384
หลังจากเสร็จสิ้นการประมูลกลุ่มคนที่ได้ครอบครองป้ายคนเถื่อนเริ่มออกเดินทาง เกวียนลากถูกจัดเก็บในแหวนส่วนสัตว์อสูรถูกปล่อยเข้าป่า โรงเตี๊ยมชิงเหมยปิดประตูแน่นสนิทหลังจากผู้คนออกไปจนหมด ชิงหวงนั่งขมวดคิ้วอยู่บนเวทีแปดเหลี่ยมคนของโรงเตี๊ยมต่างยืนนิ่งอยู่ด้านหน้า ไม่นานชิงหวงก็เอ่ยวาจาออกมา
“ส่งข่าวแจ้งให้แก่ชิงอู๋อย่างยุ่งเกี่ยวกับชายหนุ่มนามเนี่ยฟง หาไม่เช่นนั้นแล้วมีกี่ชีวิตก็คงไม่พอ”
“เหตุใดท่านชิงหวงถึงคิดเช่นนั้นขอรับ”
“เจ้าคิดว่าเฒ่าซุนตกตายเพราะถูกเตียวมู่ถังสังหารอย่างนั้นรึ อีกอย่างชายผู้นั้นคิดหักหน้าฟู่ซิงหมิงที่นี่อีก ทันทีที่ออกเดินทางทั้งสองต้องปะทะกันแน่ แดนคนเถื่อนคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน”
ระหว่างการเดินทางแต่ละกลุ่มเร่งเดินทางอย่างเต็มกำลังเพราะหากล่าช้าอาจตกเป็นเป้านิ่งให้แก่กลุ่มอื่น ๆ ได้นั่นเป็นเพราะป้ายคนเถื่อนที่ห้อยเอวของแต่ละคนไว้ เนี่ยฟงหาได้คิดเช่นนั้นพวกเขาหยุดพักหลังจากเดินทางออกมาได้สามลี้ กองไฟถูกก่อให้แสงสว่างทั้งหมดต่างนั่งโคจรลมปราณใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่ถึงครึ่งชั่วยามเนี่ยฟงก็เอ่ยวาจาออกมา
“มีกลุ่มคนพุ่งหน้ามาที่นี่พร้อมกับจิตสังหารถึงเวลาที่พวกท่านต้องแสดงผลของการฝึกแล้ว”
ทั้งหมดต่างลืมตาขึ้นมาพุ่งทะยานออกไปรอบด้านเหลือเพียงเนี่ยฟงนั่งอยู่เพียงผู้เดียว ชั่วน้ำเดือดกลุ่มคนนับยี่สิบคนก็ปรากฏตัวด้านหน้าเกือบครึ่งเป็นคนของชายชราแซ่ซุน ดาบและกระบี่ถูกกำชับในมือแน่นเนี่ยฟงลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ หรี่ตามองกลุ่มคนด้านหน้า
“หวังว่าพวกท่านจะมีสมบัติติดตัวไม่มากก็น้อยนะขอรับ”
หลายคนได้ยินเช่นนั้นถึงกับหัวเราะเสียงดังลั่นไม่ถึงสองลมหายใจต้องแปรเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้อง สองพี่น้องกงหลี่และกงซานปรากฏตัวตวัดกรงเล็บสีเงินในมือกรีดผ่านใบหน้าและลำคอ ชวี่ซงตวัดดาบในมือด้วยทักษะดาบที่ได้รับการปรับแต่งคมดาบวาดผ่านลำคอศีรษะขาดกระเด็นร่วงลงพื้น คนที่เหลือก็หาได้น้อยหน้าไม่ถึงยี่สิบลมหายใจกลุ่มคนด้านหน้าถูกสังหารจนหมด เนี่ยฟงถึงกับยกยิ้ม
“พี่ชายซินหยางและพี่ชายเก่อคังพวกท่านใช้แรงตอนลงมือฟาดฟันดาบมากเกินไปทำให้เสียเวลาในการชักดาบออกมาจากพื้น ส่วนคนที่เหลือถือว่าใช้ได้ขอรับ พวกท่านจัดการแบ่งสมบัติในแหวนกันเองก็แล้วกันหากเสร็จสิ้นแล้วเราค่อยออกเดินทาง”
ไม่ถึงหนึ่งเค่อทุกอย่างก็จัดการเสร็จสิ้นเตียวมู่ถังเป็นคนนำทั้งหมดมุ่งหน้าเดินทาง เสียงสัตว์อสูรแว่วดังออกมายามค่ำคืนเมฆก้อนใหญ่ถูกสายลมพัดลับแสงจันทร์ กลิ่นสาบคาวเลือดโชยมาตามสายลม เตียวมู่ถังรีบยกมือขวาขึ้นห้าม ทั้งหมดต่างหยุดฝีเท้า เป็นเนี่ยฟงที่เอ่ยวาจาออกมา
“ด้านหน้ามีการปะทะของกลุ่มคนสองกลุ่ม พวกท่านอยากเข้าร่วมหรือไม่”
ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาออกมาแม้แต่ครึ่งคำ
“เช่นนั้นรบกวนพี่ชายซินหยางและพี่ชายเก่อคังออกไปสืบทีขอรับ”
ซินหยางและเก่อคังพยักหน้าตอบรับถีบเท้าพุ่งทะยานออกไปด้านหน้า ชั่วน้ำเดือดทั้งสองก็กลับมาอย่างเร่งรีบ
“เป็นคนของสุ่ยหยางจากตระกูลสุ่ยปะทะกับกลุ่มหมาป่าแดงของไซ่เถียนขอรับ”
“ท่านคิดว่าเราควรเข้าร่วมหรือไม่”
“ไม่จำเป็นขอรับคุณชายคนของไซ่เถียนถูกสังหารตกตายไปเกือบหมดแล้ว”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“เช่นนั้นพี่ชายเตียวมู่ถังเราเดินทางออกไปก็แล้วกัน”
เตียวมู่ถังหมายออกเดินทางเนี่ยฟงรีบยกมือซ้ายขึ้นสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นสองเล่มออกไปด้านหน้า สองพี่น้องกงหลี่และกงซานพุ่งติดตามมีดสั้นออกไป ไม่ถึงสองลมหายใจทั้งสองก็กลับมาพร้อมกับแบกร่างชายฉกรรจ์สองคนโยนลงพื้น มีดสั้นเสียบแทงทะลุที่ลำคอ
“คนของวังเมฆา”
เตียวมู่ถังเอ่ยวาจาออกมาด้วยความตื่นตกใจ
“คงเป็นฟู่ซิงหมิงส่งทั้งสองแอบติดตามข้า เราออกเดินทางกันเถอะ”
เนี่ยฟงเดินเข้าไปดึงมีดสั้นและปลดแหวนหลังจากนั้นพยักหน้าให้เตียวมู่ถัง ทั้งหมดจึงเร่งเดินทางต่อ ตลอดระยะเวลาสองวันพวกเขาเดินทางเลี่ยงจุดปะทะไม่นานก็พบกับป้ายหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าของหินผา มีอักษรสลักอยู่ด้านในแดนเถื่อน เตียวมู่ถังชี้ไปที่ป้ายหิน
“หากเราผ่านป้ายหินไปคือเข้าสู่เขตแดนเถื่อนแล้ว”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“เชิญพี่ชายนำทางเถอะ”
ทันทีที่ทั้งหมดเดินผ่านป้ายหินไม่ถึงสองเค่อก็พบกลุ่มคนด้านหน้าแปดคนสวมชุดสีเทาและผ้าสีดำปกปิดใบหน้า ในมือถือทวนเหล็กติดใบมีดยืนขวางทาง เนี่ยฟงหรี่ตามองไปที่ป้ายคนเถื่อนที่เอวของคนทั้งแปดพร้อมกับยกยิ้มเอ่ยวาจาออกมา
“พวกท่านนำสมบัติติดตัวมาด้วยหรือไม่”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว คนทั้งหมดต่างตื่นตกใจ เขาปรากฏกายด้านหลังของคนทั้งแปดสะบัดมือขวากำชับดาบในมือฟาดฟันออกไปในแนวขวาง คมดาบวาดผ่านลำคอด้านหลังศีรษะทั้งแปดกระเด็นร่วงลงพื้นพร้อมกับร่าง เนี่ยฟงก้มลงไปกระชากป้ายคนเถื่อนของทั้งแปดพร้อมกับแหวน พวกเตียวมู่ถังถึงกับยืนสั่นสะท้านด้วยความตื่นตกใจ เพราะกลุ่มคนที่เนี่ยฟงสังหารอย่างรวดเร็วเป็นกลุ่มยอดฝีมือหลูลู่หนานที่มีค่าหัวหลายพันก้อนทอง
“นำศีรษะของพวกเขาไปด้วยอาจขายได้ราคา”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงเก็บป้ายคนเถื่อนและแหวนเอาไว้ที่มือซ้าย ศีรษะของทั้งแปดคนเป็นเตียวมู่ถังจัดเก็บไว้ ผ่านไปเกือบสองชั่วยามแสงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า ทั้งหมดก็เห็นกำแพงหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าติดกับหน้าผาหินขนาดใหญ่ มีช่องขนาดใหญ่ด้านหน้ามองเข้าไปด้านในยังคงเห็นเป็นป่าอยู่เช่นเดิม ทันทีที่เดินผ่านช่องเข้าไปทั้งหมดถึงกับตื่นตกใจกับภาพที่เห็น เป็นเมืองขนาดใหญ่ทำมาจากไม้และหินเสียงผู้คนตะโกนเสียงดังแว่วออกมาจากโรงเตี๊ยมด้านขวามือ ทันใดนั้นเองมีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งถูกโยนออกมาจากโรงเตี๊ยมร่วงด้านหน้า เนี่ยฟงหมายจะเดินเข้าไปช่วยเหลือชายผู้นั้นรีบลุกขึ้นสะบัดดาบในมือฟาดไปที่ลำคอ
“เจ้าคงเป็นผู้มาใหม่สินะ ส่งแหวนของเจ้ามาแล้วข้าจะ..”
เนี่ยฟงใช้ทักษะจิตแห่งเทพมังกรไปที่ชายฉกรรจ์ เขาใช้มือซ้ายคว้าจับไปที่ใบดาบกระชากออกมาโยนลงพื้น จ้วงมือขวาคว้าจับไปที่ลำคอฉีกกระชากออกมาพร้อมกับเลือดสีแดงพุ่งติดตาม เสียงสบถดังลั่นออกมาจากโรงเตี๊ยมชายฉกรรจ์สามคนพุ่งเข้ามาพร้อมกับกำชับดาบในมือ ไม่ถึงห้าลมหายใจทั้งสามถูกกระชากลำคอออกมา ผู้คนจำนวนมากเริ่มออกมามุงดูมีหลายคนจ้องมองชายหนุ่มผู้ลงมือสังหารอย่างไม่วางตา มีหลายคนถึงกับหวาดกลัวที่ชายหนุ่มด้านหน้าลงมือโหดเหี้ยมยิ่งนัก เนี่ยฟงหรี่ตามองไปรอบด้านพร้อมกับแผ่ลมปราณตรวจสอบ เขารีบหันไปมองทางด้านหน้าโรงเตี๊ยมพร้อมกับจ้องไปที่หญิงชราผู้หนึ่งที่แผ่จิตสังหารออกมา
“คนพวกนี้คงเป็นคนของท่านสินะ เหตุใดถึงคิดลงมือสังหารข้า”
“อย่าอวดดีไปไอ้หนู เจ้าคงไม่รู้สินะว่าข้าคือ..”
เนี่ยฟงหาได้สนใจในสิ่งที่หญิงชรากล่าวเขาปรากฏตัวด้านหน้าง้างมือขวาตบไปที่ใบหน้าถนัดถนี่ เพียะ! ใบหน้าสะบัดพร้อมกับฟันและเลือดเขาตบลงไปที่ใบหน้าหญิงชราอีกสองครั้ง เพียะ! เพียะ! ใบหน้าด้านซ้ายปูดบวมแดงประดุจลูกตำลึง กลุ่มคนนับสิบพุ่งออกมาล้อมตัวเนี่ยฟงเอาไว้ ไม่ถึงห้าลมหายใจคนทั้งสิบถูกต่อยร่วงลงไปนอนกับพื้น
“ข้าหาได้สนใจว่าพวกท่านเป็นใคร แต่หากคิดสังหารคงต้องเป็นเช่นนี้”
เนี่ยฟงหรี่ตามองไปที่เตียวมู่ถังเขาง้างเท้าขวาเตะหญิงชราออกไป เปรี้ยง! เตียวมู่ถังสะบัดมือขวากำชับดาบในมือฟันร่างของหญิงชราขาดเป็นสองท่อนเลือดสาดกระจายเต็มพื้น เนี่ยฟงรีบหันไปมองทางขวามือตามเสียงตบมือที่ได้ยิน มีกลุ่มคนสวมชุดสีเทาก้าวเดินเข้ามามีชายฉกรรจ์ผิวขาวมัดผมหางม้าเดินนำหน้าในมือขวาถือพัดไม้โบกสะบัดไปมา
“ข้ามีนามว่าไช่หยางหนานเป็นบุตรชายของไช่หยางกวงผู้ดูแลเขตทางใต้ เขาชื่นชอบเจ้าเป็นพิเศษเพราะความโหดเหี้ยมของเจ้า สนใจมาติดตามข้าหรือไม่ ข้าจะดูแลเจ้าและคนของเจ้าอย่างดี”
เนี่ยฟงแสยะยิ้มหันไปมองเตียวมู่ถัง
“ต้องขออภัยคุณชายไช่หยางหนาน คุณชายของข้าหาได้อยากเข้าร่วมกลุ่มใดเพียงแค่ต้องการมาเที่ยวชมที่นี่เท่านั้น”
“พวกเจ้ากล้าที่จะปฎิเสธข้าอย่างนั้นรึ”
เนี่ยฟงสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นพุ่งเสียบพื้นด้านหน้าไช่หยางหนาน
“หากท่านไม่พอใจข้ายินดีต่อสู้กับท่านที่ลานประลอง”
“ได้ข้าจะรอเจ้าที่นั่น”
สิ้นเสียงกล่าวไช่หยางหนานก็เดินจากไป ส่วนเนี่ยฟงแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เตียวมู่ถังและผู้ติดตามถึงกับหวาดกลัวเมื่อเห็นใบหน้าของเนี่ยฟง