บทที่ 383
เนี่ยฟงใช้ทักษะจิตแห่งเทพมังกรไปที่ชายชราอย่างเต็มกำลัง เตียวมู่ถังลุกขึ้นก้าวเดินออกมาสะบัดมือขวากำชับดาบมือแน่น ปลายดาบจ้วงแทงเข้าไปยังหน้าอกทะลุออกไปด้านหลัง เลือดสีแดงกระอักออกมาจากปาก ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณเช่นเดียวกับชั้นสองทางฝั่งซ้ายและชั้นล่าง ดาบในมือถูกกระชากออกมาพร้อมกับจางหายไป ชวี่ซงกำชับกระบี่ในมือแน่นตวัดผ่านลำคอของชายชราเลือดสีแดงพุ่งกระฉูดออกมาประดุจน้ำพุ เสียงย่ำเท้าจำนวนมากพุ่งขึ้นมาบนชั้นสอง คนของโรงเตี๊ยมชิงเหมยจำนวนหกคนปรากฏกายทั้งหมดหาได้กล่าวสิ่งใดรีบแบกลากศพของชายชราออกไปพร้อมกับไล่คนที่เหลือออกไปจากชั้นสอง คราบเลือดถูกเช็ดถูทำความความสะอาดอย่างรวดเร็ว ไม่นานมีกลุ่มคนขึ้นมาที่ชั้นสอง มีชายฉกรรจ์สามคนสวมชุดสีฟ้าร่างกายสูงใหญ่และหญิงสาวผู้หนึ่งสวมชุดสีขาวมีผ้าขาวปกปิดใบหน้าด้านหลังมีกลุ่มคนอีกนับสิบก้าวเดินขึ้นมา เตียวมู่ถังจึงเอ่ยวาจากระซิบข้าง ๆ เนี่ยฟง
“สี่คนที่ก้าวเดินขึ้นมา คนแรกซ้ายมือนามว่าฟู่ซีหมิงเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งจากวังเมฆาเชี่ยวชาญกระบี่ คนที่สองนามว่าเหลียงเกาเชี่ยวชาญเรื่องการวางแผนอาวุธที่ใช้กระบองเหล็ก คนที่สามนามว่าหลงซือไท่ยอดฝีมืออันดับสองจากวังเมฆาเชี่ยวชาญเพลงทวน หญิงสาวด้านข้างนามว่าอี๋ว์ชิงหลินมีความความจำดีเลิศสามารถเรียนรู้ทักษะวิชาที่มองเห็นปรับมาใช้สังหารศัตรูนางเป็นบุตรสาวของอี๋ว์เจียงเจ้าวังเมฆานางใช้กระบี่เป็นอาวุธ ส่วนด้านหลังเป็นกลุ่มคนของสุ่ยหยางจากตระกูลสุ่ย และไป๋มู่ถันยอดฝีมือที่กำลังโด่งดังอยู่ช่วงนี้”
เนี่ยฟงเพียงยกยิ้มหรี่ตามองตามที่เตียวมู่ถังกล่าว
“ไม่คิดว่าจะเจอเจ้าที่นี่เตียวมู่ถัง หลายปีที่เจ้าออกจากวังเมฆาข้าเป็นห่วงเจ้ายิ่งนัก เหตุใดเจ้าไม่นำศีรษะมาให้ข้าลูบคลำเช่นอดีต”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วหันไปมองฟู่ซีหมิงที่เอ่ยวาจาออกมา
“ตอนนี้พี่ชายเตียวมู่ถังเป็นคนของข้าหาใช้คนของวังเมฆา พี่ชายได้โปรดวางมือ”
“เจ้าเป็นใครกัน เรื่องของผู้ใหญ่เด็กน้อยเช่นเจ้าอย่าได้ยุ่ง”
เนี่ยฟงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเป็นหญิงสาวนามอี๋ว์ชิงหลินเอ่ยวาจาออกมาเสียก่อน
“ท่านฟู่ซีหมิงเรามาที่นี่เพียงเพื่อแผ่นป้ายคนเถื่อน อย่าได้มีเรื่องกับผู้ใดเรายังมีงานที่ต้องทำอีกอย่างพวกเขาทั้งสองหาใช้คนวังเมฆาของเราแล้ว”
เนี่ยฟงรีบลุกขึ้นก้มศีรษะ
“ข้าน้อยมีนามว่าเนี่ยฟงเป็นเพียงนักเดินทางที่หมายเยี่ยมชมดินแดนคนเถื่อน ข้าต้องขอบใจแม่นางมากที่ช่วยออกหน้า”
อี๋ว์ชิงหลินหาได้แม้แต่หรี่ตามองเนี่ยฟงก้าวเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะว่างทางซ้ายมือเช่นเดียวกับคนที่เหลือ เวลาย่างเข้ายามไฮ่ประตูด้านหน้าโรงเตี๊ยมถูกปิดพร้อมกับคนของโรงเตี๊ยมกลุ่มใหญ่เดินปิดกั้นทางออก ไม่นานตรงกลางเวทีแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่มีเด็กน้อยผู้หนึ่งก้าวเดินขึ้นมาสวมชุดสีแดงมีอักษรชิงเหมยปังอยู่ที่หน้าอกด้านขวา เสียงสะบัดมือดังแว่วแผ่นป้ายหยกปรากฏบนพื้นเวทีพร้อมกับขวดยาสองขวด ผู้คนทั้งหมดต่างจ้องมองไปที่ป้ายหยกอย่างไม่วางตา ไม่นานเด็กน้อยผู้นั้นก้มลงหยิบขวดยาทั้งสองชูขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา
“ข้าชิงหวงมีความยินดีไม่น้อยที่พวกท่านเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ ก่อนที่จะเริ่มประมูลป้ายคนเถื่อนข้ามีของบางอย่างนำออกประมูลก่อน ขวดยาที่พวกท่านเห็นหนึ่งขวดเป็นยาเพิ่มพลังปราณ ส่วนอีกขวดเป็นยารักษาอาการบาดเจ็บ”
สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์สวมชุดสีเทารูปร่างสูงใหญ่ก้าวเดินขึ้นมาบนเวที ชิงหวงสะบัดมือขวากำชับดาบในมือฟาดฟันไปที่ชายฉกรรจ์ คมดาบกรีดผ่านหน้าอกไปที่เอวเสื้อสีเทาขาดเลือดสีแดงพุ่งกระฉูดออกมา ผู้คนที่รอการประมูลต่างเงียบเสียงหันไปจ้องมองบนเวที ชิงหวงรีบเปิดจุกยานำเม็ดยาสีดำแดงออกมาหนึ่งเม็ดป้อนให้แก่ชายฉกรรจ์ ชั่วน้ำเดือดบาดแผลค่อย ๆ เชื่อมติดกันอย่างช้า ๆ เนี่ยฟงแสยะยิ้มตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
“สามพันก้อนทองสำหรับเม็ดยาทั้งสองขวด”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงผู้คนแต่ละกลุ่มต่างตะโกนราคาออกมาเสียงดังลั่น ไม่ถึงยี่สิบลมหายใจตอนนี้ราคากระโดดขึ้นไปจนถึงสามหมื่นก้อนทองแล้ว
“พี่ชายเตียวมู่ถังจำนวนเงินเท่าไรถึงจะพอประมูลแผ่นป้ายสำรับพวกเราทั้งหมด”
“ไม่เกินสองแสนก้อนทองขอรับ”
เนี่ยฟงยกยิ้มสะบัดมือขวานำแหวนออกมาหนึ่งวง
“แหวนวงนี้ข้าแอบนำออกมาจากชายชราที่ท่านได้สังหาร หวังว่าคงจะมีเงินเพียงพอสำหรับประมูลป้ายคนเถื่อน เมื่อเริ่มการประมูลท่านเอ่ยวาจาเรียกราคาให้สูงที่สุดโดยต้องได้ป้ายคนเถื่อนมาให้ครบ เช่นนั้นข้าฝากท่านด้วยก็แล้ว”
เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นเขาก็นั่งหลับตาโคจรลมปราณทั่วร่างแผ่ออกมารอบกาย ตอนนี้เนี่ยฟงแทบจะมองเห็นทั้งหมดในโรงเตี๊ยมโดยไม่ต้องลืมตา การประมูลเม็ดยาเสร็จสิ้นเป็นอี๋ว์ชิงหลินได้ขวดยาทั้งสองไปในราคาสองแสนก้อนทอง ไม่นานการประมูลป้ายคนเถือนก็เริ่มต้นขึ้น เตียวมู่ถังตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
“ข้าเตียวมู่ถังคนของคุณชายเนี่ยฟง เสนอทองคำหนึ่งแสนเก้าหมื่นก้อนทองต่อป้ายคนเถื่อนสิบสี่แผ่น”
ชิงหวงยกยิ้มรีบตะโกนออกมาเสียงดังเช่นกัน
“มีใครให้มากกว่านี้หรือไม่”
ฟู่ซีหมิงแสยะยิ้มหรี่ตามองมาที่เตียวมู่ถัง
“ข้าให้ราคาเพิ่มเป็นสามแสนเก้าหมื่นก้อนทอง หากเจ้าร่ำรวยจริงคงคิดสู้ราคา”
เตียวมู่ถังถึงกับตื่นตกใจหันไปมองฟู่ซีหมิง เนี่ยฟงก็เอ่ยวาจาออกมา
“ให้พวกเขาไปพี่ชาย”
เตียวมู่ถังลุกขึ้นยืนพร้อมกับก้มศีรษะให้แก่ฟู่ซีหมิง
“ครั้งนี้ข้าคงต้องลามือเพราะราคาที่ท่านเสนอมามันเกินกว่าราคาปกติที่ประมูลกัน”
ฟู่ซีหมิงถึงกับกำหมัดทั้งสองแน่นสนั่นสะท้านเพราะเขาเองหาได้มีเงินมากมายเพียงแต่คิดเอ่ยวาจากลั่นแกล้งเตียวมู่ถังเท่านั้น เขาหันมาหรี่ตามองอี๋ว์ชิงหลิน
“คุณหนูพอมีเงินให้ข้าหยิบยืมหรือไม่”
แน่นอนว่าเนี่ยฟงได้ยินที่ฟู่ซีหมิงกล่าวอย่างชัดเจน
“หากคุณชายฟู่ซีหมิงหาได้มีก้อนทองอย่างที่เอ่ยวาจาเหตุใดท่านถึงได้เอ่ยออกมา หรือว่าคนของวังเมฆาหาได้มีสัจจะเช่นที่กล่างอ้าง ไม่เป็นไรตัวข้าพอมีเงินเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย”
เตียวมู่ถังแสยะยิ้มสะบัดมือขวาที่มีแหวนของชายชราแซ่ซุนก้อนทองจำนวนมากก็ปรากฏออกมาด้านหน้ามากกว่าจำนวนที่ฟู่ซีหมิงเอ่ยประมูล
“เชิญคุณชายฟู่ซีหมิงมาหยิบมันได้เลยขอรับ”
ฟู่ซีหมิงตัวสั่นสะท้านที่เสียทีให้ชายหนุ่มนามเนี่ยฟงด้านหน้า เขากำหมัดทั้งสองแน่น ชายฉกรรจ์นามเหลียงเกาพุ่งทะยานออกมาหยิบคว้าก้อนทอง ฟู่ซีหมิงถึงกับตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพราะความอับอาย
“เหลียงเกา วางก้องทองลงเดี๋ยวนี้”
เหลียงเกาหันไปมองเนี่ยฟง
“ขอบคุณคุณชายเนี่ยฟงที่ให้หยิบยืมในครั้งนี้ หากพบเจอด้านในข้าจะดูแลท่านอย่างดี”
เนี่ยฟงแสยะยิ้มลุกขึ้นยืนสะบัดมือขวาซัดบางอย่างออกไป เหลียงเกายกยิ้มสะบัดมือขวาคว้ารับ มีดสั้นจัวงแทงทะลุฝ่ามือขวาเหลียงเกาต้องรีบกัดฟันระงับความเจ็บ
“ต้องขออภัยพี่ชายข้าให้ก้อนทองแก่คุณชายฟู่ซิงหมิงเท่านั้นคนอื่นหาได้จับต้องได้”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นออกไปอีกสามเล่มเป็นฟู่ซิงหมิงถีบเท้าพุ่งออกมาตวัดกระบี่ต้านรับ เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เนี่ยฟงแอบตวัดมือขวาด้านหลังบังคับมีดสั้นทั้งสามพุ่งเข้าหาเหลียนเกา
“หยุดมือก่อนคุณชายเนี่ยฟง”
เป็นอี๋ว์ชิงหลินที่เอ่ยวาจาออกมามีดสั้นทั้งสามพุ่งผ่านตัวเหลียนเกาปักพื้นไม้ด้านหลัง
“ต้องขออภัยคนของข้าด้วย เงินจำนวนนั้นข้าจะขอจ่ายเองไม่จำเป็นต้องหยิบยืมท่าน”
อี๋ว์ชิงหลินหันไปมองหลงซือไท่ไม่ถึงสามลมหายใจเขาก็พุ่งออกไปพยุงเหลียนเกา เนี่ยฟงสะบัดมือขวาซัดบางอย่างไปที่อี๋ว์ชิงหลิน ทันทีที่นางคว้าจับมันคือขวดยาสีขาวนวล
“ด้านในเป็นยารักษาอาการบาดเจ็บเช่นเดียวกับที่ท่านประมูลได้ท่านนำไปรักษาคนของท่านเถอะ ไม่ต้องแปลกใจข้าเป็นคนปรุงมันขึ้นมาเอง”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงทำให้ผู้คนทั้งหมดหันมาจ้องมองเขาด้วยความตื่นตกใจ เพราะนักปรุงยาหากเดินทางเข้าไปที่แดนเถื่อนจะถูกต้อนรับอย่างดีเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มอำนาจด้านในล้วนแล้วแต่ต้องการเม็ดยาสำหรับรักษาร่างกายและเพิ่มพลังปราณอีกทั้งยังสามารถเชื้อเชิญยอดฝีมือให้มาอยู่ใต้ร่มเงาของตนได้ นั้นหมายถึงขอบเขตการปกครองด้านใน เนี่ยฟงยกยิ้มนั่งลงเช่นเดิม
“หากไม่มีสิ่งใดแล้วเชิญประมูลต่อเถอะขอรับ”
แน่นอนหลังจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นเตียวมู่ถังก็เอ่ยวาจาออกมาอีกครั้ง
“ทองคำหนึ่งร้อยเก้าสิบก้อนทองต่อป้ายคนเถื่อนสิบสี่แผ่น”
ชิงหวงถึงกับขมวดคิ้วเพราะราคาที่เตียวมู่ถังเอ่ยออกมานั้นถูกเกินไป นานนับสิบลมหายใจแน่นอนหาได้มีผู้ใดเอ่ยวาจาออกมาเพิ่มราคาแม้แต่ครึ่งคำ