ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 40 ท้าทายหยวนเค่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 42 การปะทะกันระหว่างขั้วอำนาจเบื้องหลัง

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 41 สามก๊กเผชิญหน้าบนถนนดินด่าง


บทที่ 41 สามก๊กเผชิญหน้าบนถนนดินด่าง

ก่อนที่หยวนเค่อจะมา เขาคิดว่าเขาอาจมีปัญหาบางอย่างกับแมวแก่เป็นแน่ แต่เขาไม่เคยคาดหวังว่าฉินหยู่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง และมาพร้อมกับผู้เฒ่าหม่ากับลูกน้องคนสนิทเสียด้วย

แบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร?

นี่แสดงให้เห็นว่า ฉินหยู่ไม่ได้อยู่ข้างเขาเมื่อฉินหยู่มาถึงที่เกิดเหตุ

หยวนเค่อสับสนและโกรธมาก เพราะเขารู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะใช้ฉินหยู่ แต่เขาก็ยังให้โอกาสฉินหยู่เติบโตเป็นการตอบแทน แต่ตอนนี้ เด็กคนนี้กำลังยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาในช่วงเวลาวิกฤติ

“ฉินหยู่ นายกำลังเดินอยู่ฝั่งไหน?” หยวนเค่อมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่เพียงมีผู้เสียชีวิตในครอบครัวของเขาเท่านั้น แต่ยังไม่พบข้อมูลติดต่อช่องทางแหล่งค้าส่งที่สำคัญ ดังนั้นเขาจึงไม่มีความเมตตา ความมีน้ำใจที่เคยมีมาก่อนอีกต่อไป  ท่าทางของเขาในขณะนี้ มีเพียงไร้ความอดกลั้นและไม่แยแสใครเท่านั้น

“กัปตันหยวน เราออกไปคุยกันก่อนได้ไหม” ฉินหยู่ถามด้วยรอยยิ้ม

“มีอะไรจะพูด? ฉันต้องเอาตัวเขาไป” หยวนเค่อโบกมืออย่างไม่อดทน

ฉินหยู่ครุ่นคิดสักครู่ จึงยื่นมือออกไปเพื่อส่งสัญญาณให้แมวแก่ไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา และพูดกับหยวนเค่อด้วยเสียงแผ่วเบา “กัปตัน ฉีหลินได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้ายพอแล้ว เราจะต้องมีความเมตตาและให้อภัย”

“นายคิดว่านายมีน้ำหนักพอที่จะพูดแบบนี้หรือ?” หยวนเค่อถามอย่างเฉยเมย

“ฉันมีทัศนคติแบบเดียวกับแมวแก่ ฉันแค่อยากให้แน่ใจว่าฉีหลินปลอดภัย” ฉินหยู่ตอบด้วยเสียงเบา

“กัปตัน ไพ่บางใบถูกเปิดแล้ว และมันจะดูไม่ดีกับใครเลย”

หยวนเค่อพยายามระงับความโกรธของเขาไว้ แต่เมื่อเขาได้ยินคำขู่จากฉินหยู่ ความโกรธของเขาก็ปะทุขึ้นมาอีก และทันใดนั้นก็ยกแขนขึ้นเหวี่ยง

“เพี้ยะ!”

มีเสียงฝ่ามือปะทะใบหน้าฉินหยู่ดังเสียดหูไปทั่วบริเวณโกดัง ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์พากันตกตะลึงไปตามๆ กัน

“นายแสดงเจตนารมณ์ของนายชัดเจนแล้ว ไม่ต้องให้ฉันพูด

นายคิดว่านายสามารถเป็นหัวหน้าทีมได้จริงๆ หรือ?!” หยวนเค่อจ้องมองและประกาศก้อง

“ฉันบอกไว้ตรงนี้เลย แม้ว่าถ้าผู้กำกับหลี่อยู่ที่นี่วันนี้ ฉันก็ยังต้องเอาฉีหลินออกไป และกำจัดคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปทั้งหมด!”

หลังจากคำพูดจบลง ภายในบริเวณนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด

ฉินหยู่แตะแก้มของเขา และยิ้มอย่างไม่พอใจ หันกลับมาบอกผู้เฒ่าหม่า “ช่วยเพื่อนของฉันด้วย”

ผู้เฒ่าหม่ายังคงสวมเสื้อคลุมทหารสกปรก เขายืดตัวขึ้นและกอดอกอยู่ และค่อยๆ หันมองไปรอบๆ พร้อมพูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่แฝงด้วยความหนักแน่น “มีใครในบริเวณถนนดินด่างนี้ รู้จักเฒ่าหม่าบ้าง?!”

ไม่กี่วินาทีต่อมา

บริเวณถนนเริ่มสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง ผู้คนจำนวนมากเริ่มเร่งรีบเดินออกมาจากอาคารห้องเช่าเล็กๆ จากตรอกสกปรก และออกมาจากร้านรวงมากมายไปตามถนนเกือบทั้งสาย

หยวนเค่อเงยหน้าขึ้นมองฝูงชน แล้วเอามือไปจิ้มหน้าอกของฉินหยู่ พร้อมถามด้วยรอยยิ้ม “หึหึ นายได้รับการสนับสนุนดีนี่?”

เพียงแค่ประโยคเดียว ผู้ชายหลายร้อยคนผูกผ้าขาวพันแขน ถืออาวุธสังหาร เข้ารวมตัวกันภายใต้แสงสลัว ชายผู้แข็งแกร่งจากตระกูลหม่าสวมแจ็กเก็ตหนังเดินไปข้างหน้าและก่นด่า “หยวนเค่อ ไม่ว่าแกและพี่ชายของแกต้องการมันหรือไม่ก็ตาม วันนี้ฉันจะกระทืบแก!”

ลูกน้องหลายสิบคนที่อยู่ข้างๆ หยวนเค่อ ต่างก็ดูตื่นตัวเมื่อเห็นฝูงชนจำนวนมากวิ่งเข้าหาพวกเขา

ที่ด้านล่างของขั้นบันได ผู้เฒ่าหม่าหยิบซองบุหรี่ออกมาแล้วตะโกนอีกครั้งด้วยเสียงเป็นมิตรว่า

“ในบริเวณถนนถู่จ้านี้ หากในวันหน้าต้องการใช้ยาอะไรก็ตาม โปรดออกมาช่วยฉัน ฉันจะเสี่ยงชีวิตและทุกสิ่งในวันนี้ ตราบใดที่ตระกูลหม่ายังยืนหยัดอยู่ที่นี่ ฉันจะขายให้ยาคุณเป็นเวลาสามเดือนโดยไม่มีกำไรเลย!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงกลุ่มฝีเท้าราวกับฟ้าร้องก็ดังขึ้นอีกครั้งจากอาคารห้องเช่าราคาถูกทั้งสองด้านของถนนถู่จ้าแคบๆ เป็นความจริงที่คนทุกกลุ่ม กลุ่มความสัมพันธ์ทางการเมือง และบริษัทใหญ่ๆ ที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา ล้วนแข่งขันกันเพื่อผลกำไร ทำให้ยาทุกชนิดราคาแพงมากจนคนป่วยและคนจนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ไม่มีปัญญาหาซื้อมารักษาตนเองได้ ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินผู้เฒ่าหม่าตะโกนจะช่วยเหลือ พวกเขาก็รีบออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

เมื่อพี่สามเห็นเหตุการณ์นี้ เขาก็ถอยหลังไปสองสามก้าวทันทีพร้อมตะโกนใส่วิทยุรับส่ง

“พี่น้องบนถนนถู่จ้า เข้ามารวมตัวที่สี่แยกฟู่หยวนด่วน!”

หยวนเค่อเหลือบมองผู้คนที่ตระกูลหม่าเรียกมาสั้นๆ แล้วเอียงคอไปมองที่ฉินหยู่ แล้วพูดอย่างเยาะเย้ย

“...นายสามารถปกป้องฉีหลินในถนนถู่จ้าได้ แต่เขาไม่ออกไปข้างนอกตลอดชีวิตของเขาได้มั้ย?”

……

อีกด้านหนึ่งของเซ็นจูรี่อเวนิว เขตเฮ่ยเจีย

ชายแปดคนที่มีใบหน้าเคร่งขรึมและร่างกายกำยำ ทุกคนสะพายถุงผ้าบนไหล่และสวมถุงมือทำด้วยผ้าขนสัตว์ เดินเข้าหาอาคารร้างสองหลังที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของมนุษย์อาศัยอยู่ สถานที่แห่งนี้อยู่ไกลจากใจกลางเมืองซงเจียง มีสุสานและพื้นที่กองขยะสำหรับเขตเฮ่ยเจียข้างๆ ดังนั้นจึงไม่มีผู้คนทำมาหากินและอาศัยอยู่บริเวณนี้

“ที่นี่แหละ เข้ามาเลย” หัวหน้ากลุ่มเหลือบมองสถานการณ์โดยรอบก่อนจะหันหลังกลับให้คำแนะนำแก่ทุกคน

“แน่ใจเหรอว่านี่คือ?”

“ใช่ เสือใหญ่เคยใช้คนมารับยาที่นี่มาก่อน” หัวหน้าพยักหน้า “ตรวจดูก่อน แล้วเตรียมตัวทำงาน”

ห้านาทีต่อมา พื้นที่ส่วนกลางของอาคารร้าง

ชายหนุ่มหกหรือเจ็ดคนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้กำลังเล่นไพ่ และหน้าต่างทั้งสองข้างของห้องก็ถูกตอกแผ่นไม้ปิดอย่างจงใจ ดังนั้นจากภายนอกจึงดูเหมือนไม่มีแสงรั่วออกมา ทำให้ดูเหมือนว่าไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น…

ห้องเต็มไปด้วยควันบุหรี่ ชายหนุ่มที่นั่งทางด้านซ้ายถือไพ่ถามพร้อมกับบุหรี่ไฟฟ้าห้อยออกมาจากปาก

“เราทุกคนถูกเรียกไปที่ถนนถู่จ้า เราไม่ต้องไปดูเหรอ?”

“ฟังนะ ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ผู้ใหญ่บอกว่าให้เราจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน” ชายหนุ่มอีกคนขมวดคิ้วพร้อมตอบว่า “อย่าหาข้อแก้ตัวให้ใครที่จะแอบย่องออกไปเล่นข้างนอกทุกวันนี้ ทำงานหนักเข้าไว้”

“อ้อ เข้าใจแล้ว”

“มา เล่นกันต่อ!”

ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ไฟบนเพดานก็กะพริบสองสามครั้งแล้วจู่ๆ ก็ดับลง

“บ้าเอ๊ย ทำไมไฟดับล่ะ”

“เครื่องปั่นไฟพังอีกแล้วเหรอ ติอาโก้ ไปดูสิ เอาไฟฉายไป…”

“บึม!” เสียงลูกซองระเบิดประตูทางเข้าด้านนอก

ทันใดนั้นก็มีเสียงอู้อี้ที่ประตูภายใน ตามด้วยเสียงฝีเท้าวิ่งอย่างรวดเร็วที่ประตู

“มีคนมาที่นี่ ไปเอาของของคุณเร็วเข้า” ชายหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้ลุกขึ้นยืนตะโกนทันที

“แทร่ดดๆๆ!”

ก่อนที่ผู้คนเล่นไพ่ในบ้านไหวตัวทัน เสียงปืนกลก็ดังขึ้นที่ประตู แล้วกระสุนหลายสิบนัดก็พุ่งเข้ามาในห้องราวกับห่าฝนในทันที มีเสียงกรีดร้องดังลั่นเซ็งแซ่ไปทั่ว และสามคนในห้องถูกสังหารคาที่ในทันที

ที่ประตู ชายผู้แข็งแกร่งหัวหน้ากลุ่มลอบโจมตี เปิดไฟฉายและโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้เพื่อนไม่ขยับ

“เอาละ หยุดซุกได้แล้ว เราต้องการสองตัวใหญ่ข้างบนนี้”

……

ภายในกองกำกับการตำรวจ

ผู้กำกับหลี่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน กำลังเล่นกับถ้วยชาในมือและขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่

บนโซฟาด้านข้าง ประธานวุฒิสภาผู้รับผิดชอบการเมืองภายในกองกำกับการตำรวจ ไขว้ขาแล้วถามว่า

“ยังไม่เร็วเกินไปหรือ? ที่จะตัดสินใจเลือกตอนนี้”

“ฉันอยากทำหรือ? มันเป็นเพราะเจ้าโง่แมวแก่นั่นแหละที่บังคับให้ฉันทำ!” ผู้กำกับหลี่ก่นด่าและถอนหายใจ

“แต่ไม่เป็นไร หยวนหัวพยายามดึงฉันเข้าร่วมมาหลายครั้งแล้ว แต่ฉันไม่ได้แสดงจุดยืนออกมาเลย จริงๆ แล้ว...มันคือทัศนคติมากกว่า”

“สถานการณ์อาจจะวุ่นวายมากไปอีกระยะหนึ่ง” ประธานวุฒิสภาเตือนด้วยเสียงแผ่วเบา

“เราได้พบเขาแล้วที่ถนนถู่จ้า ฉันรั้งเขาไว้ไม่ไหวแม้ว่าฉันจะต้องการก็ตาม  รอรับสายเถอะ” ผู้กำกับหลี่ยกแก้วขึ้นแล้วจิบชา

……

ภายในคลับแกรนด์พาเลซ

หลังจากที่หยวนหัวรับโทรศัพท์ เขาก็ดุด่าด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “ไอ้โง่หัวม้าเฒ่าคนนี้ ช่างตายยากเหมือนคงกระพัน! มันคิดว่ามันมีสิทธิ์มีเสียงในถนนถู่จ้า ทำอย่างกับว่าทุกคนไปที่นั่นได้ ไม่จำเป็นต้องจับมือกันก่อนจะทำธุรกิจอะไร!”

“ทัศนคติของผู้กำกับหลี่หรือเปล่าที่ทำให้แมวแก่กร่างขนาดนี้?” ชายวัยกลางคนทางด้านซ้ายขมวดคิ้วและถามว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น สถานการณ์ก็จะซับซ้อนเล็กน้อย”

หยวนหัวโบกมือ “ฉันรักษาหน้าให้เขาเพราะเขาคือผู้กำกับการตำรวจ ถ้าฉันไม่ไว้หน้าเขา เขาก็ไม่มีน้ำยาอะไรเลย ฉันต้องการฉีหลินคืนนี้!”

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด