Ep.1024 - กลืนกินมิติ
Ep.1024 - กลืนกินมิติ
อำนาจแรงดึงดูดที่ฉินเฟิงปลดปล่อยออกมา มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อของเหลวสีเทาขุ่นรอบๆ พวกมันเริ่มกระเพื่อมไหว หลั่งไหลเข้ามา
“ทักษะลับกลืนดารา!”
ฉินเฟิงเร่งเร้ากำลังภายในของเขา ดวงดาราเริ่มโคจร กระแสวังวนถูกสร้างขึ้น
ของเหลวพลังงานจากทุกทิศทางทะลักเข้ามา ผสานรวมเข้ากับตันเถียนของฉินเฟิง
อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้มีผลแค่สั่นสะเทือนดาวเคราะห์เบื้องหน้าเท่านั้น
“ต้องมากกว่านี้!”
ดาราน้ำแข็งดวงที่สองเริ่มหมุนวน แรงดูดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
จากนั้น ดวงที่สาม สี่ และห้า ก็เริ่มหมุนตาม …
ดาราดวงแล้ว ดวงเล่าเริ่มโคจร อำนาจแรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนพลังของมัน สั่นคลอนไปตลอดทั้งสวรรค์และปฐพี
คำกล่าวนี้มิใช่การพูดเกินจริง ในทางกลับกันของเหลวสีเทาขุ่นรอบๆฉินเฟิงซึ่งแต่เดิมอยู่ในสภาวะน้ำนิ่ง ค่อยๆม้วนตัว ก่อกำเนิดเป็นกระแสน้ำวน
ภายใต้การแทรกแซงของอำนาจดังกล่าว พื้นที่โซนแกนโลกทั้งหมดสั่นสะเทือน
สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ต่างจากสึนามิ ที่เริ่มม้วนตัว ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉินเฟิงไม่รู้สึกตัวเลย ว่า ณ บริเวณพื้นผิวโลก เป็นเพราะความผันผวนของพลังงานที่เกิดขึ้นในที่นี้ ทำให้แผ่นดินเริ่มสั่นสะเทือน เกิดรอยแตกร้าวทุกหนแห่ง นำมาซึ่งแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
ทั้งดินทั้งหินกระจัดกระจาย เริ่มยกตัวลอยสูง โลกเสมือนไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง บางพื้นที่รู้สึกเหมือนเข้าสู่สภาวะอวกาศ
มิติแห่งนี้ มิอาจทานทนไหวอีกต่อไป ค่อยๆพังทลายลง
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงภายในพื้นที่โซนแกนกลาง กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ
ของเหลวพลังงานจำนวนมากหลอมละลายเข้าสู่ตันเถียนของฉินเฟิง ทะลักท่วมดวงดาราทั้งเก้า
พลังงานเหล่านี้ มีสิ่งเจือปนมากเกินไป ไม่บริสุทธิ์เท่ามิติที่ฉินเฟิงเคยใช้ฝึกฝนเพื่อเตรียมเข้าสู่งานประลองในครั้งก่อน
“พลังพิเศษดูดกลืน!”
โคตรดาวเคราะห์ทมิฬเริ่มเคลื่อนไหว ย้ายมาอยู่ในจักรวาลของตันเถียน ดูดซับและขจัดสิ่งสกปรกออกไป สิ่งปนเปื้อนทั้งหมดถูกกำจัด เหลือทิ้งไว้เพียงของเหลวโปร่งแสงสีสดใส
เพียงแต่ว่า พลังงานเหล่านี้ ปริมาณของมันดูเหมือนว่าจะถูกกำจัดออกไปมากถึง 4/5 ในเลยทีเดียว
ดวงดาราภายในร่างกาย ค่อยๆขยายขนาดขึ้น แต่ในอัตราเร็วที่เชื่องช้า
ช่วงเวลานี้ ดาวเคราะห์สีเทาขี้เถ้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตรในระยะไกล ภายใต้การสั่นสะเทือนของคลื่นน้ำ ภายใต้การกลืนกินของทักษะลับกลืนดารา ในที่สุดมันก็เริ่มเกิดปฏิกิริยา
เปรี๊ยะ!
สะเก็ดหินหลุดลอก ไหลมาตามกระแส เข้าสู่ตันเถียนของฉินเฟิง
ที่กล่าวมานั่นคือกำลังภายในซึ่งมีสถานะเป็นของแข็ง หลังจากมันถูกสูบเข้ามา ภายใต้อานุภาพพลังพิเศษดูดกลืนของโคตรดาวเคราะห์ทมิฬ ผิวชั้นนอกของมันเกิดการระเหยจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า สุดท้ายเหลือทิ้งไว้เพียงหินพลังงานโปร่งใส ไหลเข้าไปหลอมรวมกับดวงดารา
คลิก คลิก คลิก คลิก!
เสียงรอยแตกร้าวของดาวเคราะห์ในแกนกลางดังสะท้อนต่อเนื่อง
ภายใต้การขับกล่อมของเสียงนี้ ดารากำลังภายในของฉินเฟิงค่อยๆเติบใหญ่
ตูมมมม!
ท่ามกลางกระแสน้ำที่ปั่นป่วนพลุ่งพล่าน และการสนับสนุนของพลังพิเศษดูดกลืนอันแข็งแกร่ง ส่งผลให้ดารากำลังภายในของฉินเฟิงไม่ต้องแบกรับภาระหนัก สามารถพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์
แรงดึงดูดที่ทักษะลับกลืนดาราสร้างขึ้น กลินกินหินพลังงานเหล่านี้อย่างบ้าคลั่ง ดวงดาราของฉินเฟิง เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นจนสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า
5 เซนติเมตร … 6 เซนติเมตร … 7 เซนติเมตร …
20 เซนติเมตร … 30 เซนติเมตร … 1 เมตร …
ดวงดาราทั้งเก้าเติบโตพัฒนาไปด้วยกัน กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งหินพลังงานที่หลุดลอกออกมา ทั้งหมดถูกดูดซับจนหมดสิ้น
ทำให้ดารากำลังภายในของฉินเฟิงในตอนนี้ ขยายขนาดขึ้นเป็น 2.5 เมตร!
ประเด็นก็คือที่กล่าวว่า 2.5 เมตร มันไม่ใช่แค่ดวงเดียว หากแต่เป็นดาราทั้งเก้าดวง!
เมื่อแกนกลางมิติสลายไป ของเหลวพลังงานในสภาวะคลื่นน้ำรอบๆก็เหือดแห้ง
ครืน ครืน ครืนนนน!
ฉินเฟิงค้นพบว่า เศษหินเศษดินร่วงตกมาจากเบื้องบน แหงนมองขึ้นไปพบรอยแตกร้าว ลากยาวเป็นเส้นไปทุกสถานที่
โลกทั้งใบกำลังพังทลาย
มิติแห่งนี้ กำลังเข้าสู่สภาวะล่มสลาย
และกระบวนการที่ทำให้เกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้น มันกินเวลาแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น
หากเป็นคนอื่นๆที่ไม่มีพลังพิเศษเหมือนฉินเฟิง ย่อมไม่สามารถกระทำได้ แต่เรื่องนี้ทำให้ฉินเฟิงเกิดความรู้แจ้งอย่างหนึ่ง นั่นคือเมื่อมนุษย์แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถเหยียบย่ำอยู่ในจุดสูง พวกเขาจะพบว่าพื้นฐานหรือรากเหง้าของโลกที่ตนอาศัยอยู่ ในความเป็นจริงแล้วมันช่างเปราะบาง
สัตว์ยักษ์มิติคือศัตรูตัวฉกาจที่สุดที่อาจทำให้มิติล่มสลายได้ เพราะพวกมันสามารถบุกเข้าถึงแกนกลางโดยไร้สิ่งใดกีดขวางเหมือนไป๋หลีที่นำฉินเฟิงมา แต่สัตว์ร้ายตัวอื่นๆก็ใช่ว่าจะธรรมดา ตัวที่เก่งกาจก็สามารถคุกคาม และรุกล้ำเข้ามาถึงโซนพื้นที่แกนกลางได้เช่นกัน
“ไป๋หลี ไปมิติต่อไป!”
สำหรับมิติที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ มันจะเป็นยังไงก็ช่าง! ตราบใดที่มีแกนกลาง ฉินเฟิงไม่คิดเกรงใจ เขาจะดูดซับพลังงานจากพวกมันให้หมด!
มิติระดับต่ำ แกนกลางของมิติแต่ละลำ เส้นผ่านศูนย์ของพวกมันจะมีขนาดอยู่ที่ราวๆ 10 เมตร ส่วนอันเล็กมีขนาดแค่ 5 - 6 เมตรเท่านั้น
หลังจากใช้พลังพิเศษดูดกลืนของฉินเฟิงดูดซับ และกลั่นกรองจนกระจ่างใส พลังงานพวกนี้จะเหลือทิ้งไว้ให้ฉินเฟิงได้ใช้งานเพียง 1/5 เท่านั้น
ในมิติแรก ดารากำลังภายในของฉินเฟิงขยายขนาดจากเดิม 4 ซม. กลายเป็นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 เมตรก็จริง แต่เมื่อมันมีขนาดใหญ่ ปริมาณพลังงานที่ต้องการ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน บวกกับต้องพัฒนาดวงดาราทั้งเก้าไปพร้อมๆกัน การดูดซับแกนกลางมิติช่วงหลังๆเลยเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่สุดท้ายเมื่อดูดซับแกนกลางไปหลายมิติ ดวงดาราของฉินเฟิงก็มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึงราวๆ 10 เมตรอย่างเฉียดฉิว
ซึ่งขนาดเพียงเท่านี้ นับว่าเพียงพอแล้ว
ดารากำลังภายในนั้นจะแตกต่างกับดาวเคราะห์อบิลิตี้ เพราะขนาดของมัน แสดงถึงเลเวล!
ยิ่งดารากำลังภายในมีขนาดใหญ่ มันก็ยิ่งเสริมอำนาจแก่ทักษะลับกลืนดาราได้
แน่นอน เกรงว่าหากมีคนอื่นฝึกฝนทักษะลับกลืนดารา คนๆนั้นคงไม่บ้าเหมือนฉินเฟิง ที่สร้างดารากำลังภายในถึงเก้าดวง เพราะเงื่อนไขในการยกระดับมันจะยากมาก ต้องเพิ่มขนาดถึงเก้าเท่า!
รู้หรือไม่ว่าระดับการฝึกฝนกำลังภายในของฉินเฟิงในเวลานี้ มันได้ก้าวมาถึงขั้นเลเวล SS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
“อยากจะรู้จริงๆ ว่าด้วยความแข็งแกร่งของฉันในตอนนี้ จะสามารถต่อกรกับผู้ใช้พลังในเลเวล SSS ได้รึเปล่า!” ในดวงตาของฉินเฟิงทอประกายแสงระยับ
สำหรับเป้าหมายในการทดสอบ เขานึกถึงเส้าตงเฟิงเป็นคนแรก
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงยังคงเยือกเย็น เขายังไม่มีความคิดที่จะกลับไปสั่งสอนเส้าตงเฟิงในทันที แต่หันไปคุยกับไป๋หลีแทน
“ไปที่มิติของเผ่าแมลงกัน!”
การฝึกฝนยังคงดำเนินต่อไป เพราะเอาจริงๆฉินเฟิงพอคาดเดาได้ ว่าพิกัดมิติพวกนี้ บางทีพวกระดับบนของพันธมิตรมนุษย์อาจล่วงรู้ พวกเขาอาจใช้เหตุผลบางอย่างในการจู่โจมเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงเวลานั้น ฉินเฟิงที่เป็นเจ้าของ คงไม่มีสิทธิโต้แย้ง
เอาจริงๆเลยนะ ฉินเฟิงเป็นเจ้าของมิติเหล่านี้จริงๆหรือ? ก็ไม่! เขามีสิทธิที่จะเข้าพัฒนามันเท่านั้น อย่างแรกเลย ที่แน่ๆพวกสัตว์ยักษ์ไม่สนใจถึงสิทธิการเป็นเจ้าของของฉินเฟิง
หากมีใครเจตนาร้าย จงใจปล่อยสัตว์ยักษ์มิติซักสองสามตัวเข้ามา ฉินเฟิงคงทำได้เพียงยอมละทิ้งมิติเหล่านี้ไป
ณ จุดนี้ หลังจากเดินผ่านประตูมิติ ฉินเฟิงกับไป๋หลี บุกมาถึงรังใหญ่ของเผ่าแมลงอีกครั้ง
มิติแห่งนี้กว้างขวางมาก ใหญ่กว่าโลกหลายร้อยเท่า มีแรงกดดันภายในดาวมหาศาล ดังนั้น หมายความว่าของเหลวพลังงานที่สะสมไว้ใต้เปลือกโลกคงจะมหาศาลเช่นกัน
ฉินเฟิงกับไป๋หลีลองตรวจสอบดู และไม่น่าแปลกใจเลย เพราะนี่คือโลกของจ้าวเหนือหัวธาตุไม้ที่ตายลง! สภาพแวดล้อมของดาวดวงนี้เลยเป็นป่า
ดังนั้น โลกทั้งใบจึงปกคลุมไปด้วยต้นไม้ แต่เนื่องจากเผ่าแมลงนับไม่ถ้วนเข้ามาเพาะพันธุ์ นอกจากนี้ยังเป็นแมลงมีพิษ แยกย้ายทำรังไปทั่วแผ่นดิน
พลังสมาธิของฉินเฟิงกระจายออกจนสุด แต่พบว่ามันครอบคลุมพื้นที่เพียง 1% ของผิวโลกเท่านั้น ขอบเขตกว้างใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้
ภายในโลกใบนี้ ไม่ทราบว่ามีแมลงอยู่กี่ตัว อีกทั้งไม่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตเท่าใดกำลังตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของฉินเฟิง กลับไม่แสดงออกถึงความเมตตาแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง เจ้าสิ่งพวกนี้ จะกลายเป็นอาหารชั้นดีสำหรับบำรุงเขา
พลังสมาธิของฉินเฟิงปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน ระหว่างคิ้วของเขาเกิดกระแสวังวน โคตรดาวเคราะห์ยักษ์ ปรากฏขึ้นท่ามกลางมิติอันตรายแห่งนี้
ต่อมา ระลอกแห่งความมืดมิดกระจายเป็นคลื่น แพร่เชื้อใส่สิ่งมีชีวิตรอบด้าน
เผ่าแมลงตกตายเป็นจำนวนมาก และหลังจากความตาย ศพของพวกมันก็แห้งเหือด พลังงานจากเลือดและเนื้อไหลมาตามพลังสมาธิที่ปกคลุมแผ่นดินบริเวณนั้นเอาไว้ ย้อนกลับเข้าสู่ร่างของฉินเฟิง หล่อเลี้ยงกายเขา
การสังหารหมู่เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งทางกายภาพ--
--ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
*น่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่เป็นโคตรนักฟาร์มโลกาวินาศ