ตอนที่แล้วตอนที่ 192 เหนือเมฆอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 194 ข่าวจากโลแกน

ตอนที่ 193 ฆ่านกชนหิน


ตอนที่ 193 ฆ่านกชนหิน

เมิฟและคนในป้อม 156 ออกห่างจากป้อมมา 200 เมตรเพื่อดักรอยักษ์เถื่อนสองตัวระดับ 4 ที่กำลังเดินเข้ามาทางป้อมของพวกเขา พวกเขาใส่ชุดสีขาวซ่อนตัวอยู่ใต้หิมะ

“พวกมันสองตัวอยู่ห่างไป 500 เมตร”

“บอกคนของเราให้เปิดใช้งานปืนใหญ่พลังงาน E2 ทั้งสองกระบอกไว้ มันเข้ามาในระยะยิงได้เลย จากนั้นพวกเราค่อยลงมือ เก็บให้ได้หนึ่งตัวก่อน ที่เหลืออีกตัวก็ง่ายแล้ว ทุกคนระวังตัวด้วย”

“ใจเย็นน่ะหัวหน้า... พวกมันก็แค่สองตัว พวกเราฆ่ามันได้อยู่แล้ว”

“ใช่พวกเราสามสิบคน ฆ่าได้สบาย แต่ตอนนี้อากาศหนาวมาก”

“ก็หวังว่าอย่างนั้น” เมิฟพึมพำกับตัวเอง

......

30 นาทีต่อมาเสียงกรีดร้องดังกังวาน พร้อมกับการต่อสู้ของนักล่าที่เหลือกันอยู่ 13 คน

“บ้าเอ๊ย พวกมันหลอกให้เราเอาปืนใหญ่พลังงานออกจากป้อม” เมิฟถือดาบที่เปื้อนเลือด

“หัวหน้าพวกเราควรถอยกลับไปก่อน”

“มีใครแจ้งป้อมอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ หรือยัง”

“แจ้งแล้ว แต่ป้อมแต่ละแห่งห่างกัน 50 กิโลเมตร พวกเขาบอกเรายื้อไว้ 20 นาที พวกเขาจะส่งคนจากกองกำลังเวหามา”

“พวกมันมีกัน 8 ตัว กว่าจะมาถึงพวกเราก็ตายหมดแล้ว”

“มนุษย์พวกเจ้าหนีไม่พ้นแล้ว ยอมจำนนซะ” เสียงตะโกนของยักษ์เถื่อนตามมาด้านหลัง มันสวมเกราะหนักพร้อมกับขวานเล่มใหญ่วิ่งไล่ตามมา

“เอาไงดีหัวหน้า”

ทุกคนมองไปที่เมิฟขณะที่พากันวิ่งกลับไปป้อมที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร โดยมียักษ์เถื่อนตามหลังมาก

“กลับไปที่...” เมิฟกำลังจะพูด...

แต่ในจังหวะนั้นเองเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นกลางท้องฟ้าเหนือหัวพวกเขา

ทุกคนต่างหยุดการกระทำทุกอย่างต่างมองภาพบนท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว ไม่เว้นแม้แต่ยักษ์เถื่อน มีบางสิ่งกำลังหล่นมาและดูจากทิศทางแล้วมันกำลังหล่นมาตรงที่พวกเขาอยู่

“เชี่ย อุกกาบาตใช่ไหม”

“ไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่มาห่วงเรื่องนั้น ยักษ์เถื่อนพวกนั้นกำลังตกใจอยู่พวกเรารีบไปที่ป้อมปราการเร็ว”

แต่ดูเหมือนพวกเขาจะช้าไปร่างของนกขนาดใหญ่ 80 เมตรหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่!!!”

“สัตว์กลายพันธุ์ระดับสูง”

“พวกเราตายแน่”

ทุกคนหวาดกลัววิ่งเข้าไปหลบในป้อมปราการ 156 ทางฝั่งของยักษ์เถื่อนก็ไม่ต่างกันพวกมันพากันสับเท้าวิ่งหนีสุดชีวิต

“มัน ๆ หล่นมาแล้ว”

“ไม่เดี๋ยวก่อนมันชะลอลง นกนั้นกำลังบิน”

นักล่าทุกคนต่างลุ้นให้มันบินไปไกล ๆ แต่แล้วเสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น

“แกชอบเอาหัวชนนักไม่ใช่หรือไง งั้นก็เอาหัวโม่งโลกไปซะ”

เสียงนั้นไม่ใช้ใครอื่น แต่เป็นไนเรล เขาใช้พละกำลัง 50 เท่าจากนั้นก็ต่อยเข้าไปที่คอของนกชนหินกลายพันธุ์ระดับ 6 อย่างรุนแรง

นกชนหินไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปมันหล่นลงจากท้องฟ้า

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไนเรลตั้งใจหรือเพราะยักษ์เถื่อนทั้ง 8 ตัวโชคร้ายร่างขนาดใหญ่ 80 เมตรของนกชนหินตกไปที่พวกยักษ์เถื่อนอยู่

ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

จุดที่นกชนหินตกใส่แหลกราบไปทันที โดยเฉพาะตรงที่โหนกบนหัวของมันกระแยกกับพื้นดินถึงกับแตกราวเป็นร่องลึกจำนวนมาก

กว๊ากกก!!!

นกชนหินระดับ 6 ยังไม่ตายมันเป็นถึงสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 6 ด้วยพลังชีวิตอันมหาศาลจึงไม่ตายง่าย ๆ

นกชนหินพลิกตัวขึ้นมามันกางปีกจะพาร่างและหัวใหญ่ ๆ ของตัวเองขึ้นฟ้า แต่ไนเรลไม่คิดจะปล่อยให้มันบินแน่นอน

“ถ้าฉันตัดปีกแก ดูสิแกจะสู้ยังไง” ไนเรลใช้ความสามารถควบคุมน้ำจากนั้นก็ใช้ความสามารถใบมีดวารีสร้างมีดขนาดใหญ่ 20 เมตรบางเฉียบเหมือนเกล็ดหิมะ แต่พอยิงออกไปมันรวดเร็วยิ่งกว่าหิมะที่ตกลงมาจากฟ้า

ใบมีดวารียิงเข้าไปได้ถูกจังหวะตัดโคนปีกข้างซายของมันจนปีกข้างนั้นขาดออกจากร่าง เลือดของไนเรลออกมาอย่างน่ากลัว

แกว้กกกก กว้ากกก....

มันร้องด้วยความเจ็บใช้ปีกอีกข้างตีกระพือไปมาอย่างน่าสมเพช แต่ความโหดร้ายในตัวของมันก็ไม่จางลง เมื่อรู้ว่าบินไม่ได้มันจึงอาศัยจังหวะที่เหนื่อยอ่อนของไนเรลพุ่งชน

ปัง!

ตัวของไนเรลกระเด็นไปไกล กระแทกเข้ากับเนินเขาที่ซึ่งป้อมปราการ 156 ตั้งอยู่ ทั้งป้อมปราการสั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนจะพังลงมาได้ตลอดเวลา

คนด้านในต่างพากันหาที่หลบ แต่ก็มีบางคนอยากเห็นว่าใครกันหรือสิ่งใดกำลังต่อสู้อยู่

“ร่างนั้นมัน เหมือนกับพวกยักษ์เถื่อน”

“เราซวยแล้วแบบนี้ ถ้าที่สู้อยู่กับนกนั้นคือยักษ์เถื่อน”

“อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะทิศทางที่เจ้านั้นโจมตีให้นกตกลงไปคือทางที่ยักษ์เถื่อนพวกนั้นหนีไป” เมิฟมองทุกอย่างและวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว

“ถ้างั้นเขาอาจจะเป็นมิตรใช่ไหม”

“ฉันไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ เราต้องหนีไปจากตรงนี้ เพราะที่นี่อันตรายเกินไป” เมิฟพูดด้วยความกลัว เพียงแค่ร่างพวกนั้นกระแทกมาใกล้ ๆ ก็เกือบจะทำลายทั้งภูเขาแล้ว

ไนเรลลุกขึ้นมาสภาพที่เต็มไปด้วยเศษดินและรากไม้ เขาปัดมันออกจากตัว ขณะมองไปที่นกชนหิน เมื่อกี้ตอนที่โดนชนเขารู้สึกได้ถึงแรงอัดมหาศาล แต่มันน้อยกว่าที่นกชนหินโจมตีตอนอยู่บนท้องฟ้า

ดูเหมือนว่าความสามารถของมันต้องการความเร็วในระดับหนึ่งสนับสนุน ถึงจะแสดงพลังออกมาได้สูงสุด

ตอนนี้นกชนหินไม่สามารถบินได้อีกแล้ว ความสามารถในการเคลื่อนที่ของมันจึงลดลงไปมากกว่าครึ่ง เมื่อมันเคลื่อนไหวช้า เขาก็สามารถหลบการโจมตีของมันได้

นกชนหินที่เหลือปีกข้างเดียวมันสู้อย่างสุดชีวิต ตอนนี้มันที่เป็นผู้ล่าเหนือเมฆได้กลายมาเป็นเหยื่อบนพื้นแล้ว ไนเรลไม่ได้เข้าไปหามันตรง ๆ เขากลับวิ่งอ้อมตัวมันไปมาอย่างรวดเร็ว

แกว็กกก กว้ากกก

นกชนหินร้องออกมาด้วยความโมโห บนพื้นมันไล่ไนเรลไม่ทัน ไนเรลใช้ใบมีวารีจำนวนมากโจมตีใส่มันที่ด้านข้างลำตัว ขา ของนกชนหินอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับวิ่งเป็นวงกลมรอบ ๆ ตัวของมันด้วยความสามารถราชานักวิ่ง

ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฮีโร่ความเร็วแสง แม้ความเร็วของเขาจะเท่าความเร็วเสียงก็ตาม

ใบมีดวารีของไนเรลไม่ได้ใหญ่มากนัก เขาสร้างแค่ขนาดครึ่งเมตร แต่เน้นไปที่จำนวนมากกว่า ไนเรลไม่เชื่อว่าถ้ามันมีแผลจำนวนมากทั่วตัวของมันแล้วมันจะยังสู้ไหว

เขาใช้แผนตัดกำลังกับนกชนหิน

และก็เป็นไปตามที่ไนเรลคาดการหลังจากนั้น 10 นาทีนกชนหินก็ส่ายไปมา ขาของมันไม่สามารถยืนไหวล้มลงกับพื้นนอนหายใจรวยริน

ไนเรลหยุดวิ่งด้วยความเหนื่อยหอบ เดินเข้าไปที่นกชนหินที่ขนทั้งตัวของมันชุ่มไปด้วยเลือด หิมะที่ตกลงมาบริเวณนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเลือดของนกชนหิน

ไนเรลเดินเข้าไปหานกชนหินระดับ 6 ขั้นต้น จากนั้นก็ปิดฉากฆ่ามันด้วยใบมีดวารีตัดขั้วหัวใจ ในดวงตาของนกชนหินเต็มไปด้วยความกลัว ร่างกายเกิดเกร็งกระตุกสองสามครั้งและก็แน่นิ่ง

แสงแห่งชีวิตในแววตาของมันไม่มีอีก มันตายจริง ๆ

ไนเรลเดินเข้าไปที่หัวของมัน เขารู้สึกสนใจแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลา ไนเรลดึงแก่นพลังงานออกมาจากหัวของมันจากนั้นก็โยนร่างขนาด 80 เมตรเข้าไปในเงา

ด้วยระดับพลังที่เพิ่มขึ้นทำให้พื้นที่ในเงาของไนเรลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยที่การใช้พลังงานนั้นยังเท่าเดิม

หลังจากร่างนกชนหินที่เหมือนเนินเขาย่อม ๆ หายไป รอบด้านก็เหลือเพียงหิมะสีแดงและหลุมบ่อที่เกิดจากการต่อสู้เท่านั้น

ไนเรลกลับคืนสภาพร่างมนุษย์ที่มีขนาดตัวปกติ แต่ยังคงมีเกราะดำอยู่ เพราะเขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า

หลังจากนั้นเขาก็โยนแก่นพลังงานระดับ 6 ขั้นต้นของนกชนหินที่อยู่ในมือเข้าปาก แก่นพลังงานละลายอย่างรวดเร็ว หลังจากการดูดซับพลังงานหลายนาทีทุกอย่างก็หยุดลง

“แก่นระดับ 6 ดีกว่าระดับ 5 จริง ๆ ไม่ใช่แค่นั้นฉันได้ความสามารถใหม่มาด้วย ประเภทสนับสนุนสินะ”

ไนเรลได้ความสามารถ [หัวชนหิน A] มันเสริมพลังให้กับการใช้หัวในการโขกกับของแข็ง ‘ถึงจะจำกัดแค่ที่หัว แต่ถ้าใช้มันถูกจังหวะ ฉันสามารถใช้หัวกระแทกหัวคู่ต่อสู้ตายได้ในครั้งเดียว หรืออาจจะป้องกันการโจมตีที่หัวอย่างรุนแรงได้ ไม่ว่าอย่างไหนความสามารถนี้ก็มีประโยชน์’

หลังจากนั้นไนเรลใช้ปีกบินตามคนที่ป้อมปราการ 156 ไป

‘ดูเหมือนฉันจะสู้กับนกชนหินเหนือเมฆจนมาโผล่แถว ๆ ทางตะวันออกของไทกีล่า’ ไนเรลกลับมาอยู่ในสภาพของมนุษย์เขาเอาอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองออกมาจากนั้นก็เชื่อมตัวเข้าระบบใหม่

“ซีโร่ชั้นอยู่ตรงไหน”

“บริเวณด้านซายของแนวรบ ป้อมปราการ 156”

หลังจากนั้นซีโร่ก็แสดงข้อมูลของป้อมปราการ 156 ทั้งจำนวนคนที่มี ตำแหน่งและอื่น ๆ

ไนเรลบินตามกลุ่มของเมิฟที่วิ่งหนีจนทัน เขาโผล่มาหยุดอยู่หน้าของเมิฟทำเอาทั้งกลุ่มนั้นตดใจกลัวทันที

“พวกนายกำลังไปไหน” ไนเรลถามคนที่รอดทั้ง 13 คน

ทุกคนตั้งท่าสู้ยกอาวุธขึ้นมา พวกเขาระวังตัวกันอย่างมาก เพราะไนเรลเป็นคนแปลกหน้าที่อยู่ ๆ ก็โผล่มา

เมิฟมองดูไนเรลและก็นึกขึ้นได้ เพราะเกราะดำของเขาเหมือนกับคนที่สู้กับนกนั้น “คุณใช่คนที่สู้กับนกยักษ์ตัวนั้นใช่ไหม”

“ใช่ นายรับผิดชอบสั่งการที่นี่งั้นเหรอ” ไนเรลถามกลับไป

“ครับ”

“ว่าแต่คุณคือ?” เมิฟถามไนเรลด้วยความเคารพจากพลังที่ไนเรลแสดงออกมาเขารู้ว่าไนเรลคงเป็นคนระดับสูงของสมาพันธ์นักล่า

“ฉันชื่อไนเรล” ไนเรลพูดชื่อตัวเองไปสั่น ๆ ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นใคร เขาถามต่อว่า “เกิดอะไรขึ้นคนอื่น ๆ ไปไหนหมด แล้วยักษ์เถื่อนพวกนั้นทำไมถึงไล่ฆ่าพวกนาย”

“เราตกหลุมพรางของพวกยักษ์เถื่อน ปืนใหญ่พลังงานทั้งสองกระบอกพังเสียหาย ส่วนคน ๆ อื่น ๆ ตายหมดแล้ว...” เมิฟเล่าอย่างรวบรัดให้ไนเรลฟัง

หลังจากมองไปที่ทุกคน ไนเรลก็ถามซีโร่ “ซีโร่พวกที่สนับสนุนอยู่จากที่นี่ไกลไหม”

“ทีมสนับสนุนกำลังมาถึงอีกราว 8 นาที”

“อืม”

“พวกนายกลับไปที่ป้อมกันก่อน แถวนี้น่าจะไม่มียักษ์เถื่อนอยู่อีก รอทีมสนับสนุนที่นั้น” ไนเรลพูดจบก็กางปีกบินขึ้นหายไปในท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

......

ตกเย็นไนเรลกลับมาที่เมืองซานติเกีย เขาไม่ได้ขึ้นไปที่เหนือเมฆอีกหลังจากฆ่านกชนหิน เพราะเวลาของเขายังมีอีกเยอะและบนนั้นก็ใช่ว่าวันสองวันจะสำรวจได้หมด

ไนเรลยังคิดว่าหลังจากนี้เขาจะไปที่นั่นบ่อย ๆ เพื่อหาเศษเสี้ยวพลังงานที่เหลืออยู่

“เมสันอยู่ไหม” ไนเรลมาที่แผนกพัฒนาอาวุธของเมสัน

“อยู่ด้านในครับ”

ไนเรลเดินเข้าไปด้านใน เมสันยังคงสร้างขากลอยู่ ดูเหมือนที่นี่จะมีทั้งแขนกล ขากลและอื่น ๆ อีกมากมาย

ในนี้ยังมีทหารของสมาพันธ์ที่สูญเสียแขนขาไปอยู่หลายคน กำลังทดสอบเชื่อมต่อประสานกับอวัยวะเทียมพวกนี้อยู่

“เมสันคุณว่างไหม” ไนเรลเดินเข้าทักทายเมสัน

“ไม่ว่าง” เมสันตอบไปตรง ๆ

“ถ้างั้นก็น่าเสียดาย ผมมีวัตถุดิบระดับ 6 ชิ้นใหม่ให้กับคุณ น่าเสียดาย” ไนเรลพูดจบทำท่าจะเดินออกมา

เมสันที่ตอนแรกไม่สนใจไนเรลพอได้ยินก็รีบหยุดเขาทันที

“เฮ้ หลานชายมีอะไรใช้ปู่แก่ ๆ ช่วยเหรอ รีบเอามันออกมาเลยดีกว่า ถ้าจะให้ฉันสร้างอะไรก็บอกมาเลย”

ไนเรลหันกลับไปยิ้ม ๆ และเดินไปหาที่โล่ง ๆ เมสันก็ตามมา

เขาเอาหัวนกชนหินออกมา ทันทีที่เมสันเห็นเขาก็พูดออกมาทันที “นกชนหิน นกสายพันธุ์โบราณ”

“ใช่ มันกลายพันธุ์เป็นสิ่งมีชีวิตระดับ 6 ตัวของมันผมส่งไปที่โรงงานแล้ว แต่ที่มีค่าจริง ๆ คือโหนกที่หัวของมัน มันแข็งมากแม้แต่ผมก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้มันได้ง่าย ๆ”

ไนเรลต่อยเข้าไปที่โหนกบนหัวของนกชนหินให้เมสันดู

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด