ตอนที่แล้ว157 - ความขัดแย้งจบสิ้นลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป159 - ดินแดนลึกลับ

158 - ความเปลี่ยนแปลงของหินที่อยู่ในจิตใจ


158 - ความเปลี่ยนแปลงของหินที่อยู่ในจิตใจ

เมื่อพวกเขาออกจากหอดาวตกท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว อาหารเย็นกินเวลานานกว่าสองชั่วโมงก่อนที่ทุกคนจะจากไป

ข้างนอกหิมะตกหนักมาก ทุกที่ในตลาดมีโคมไฟแขวนอยู่ ในความมืด ตะเกียงให้ความอบอุ่นเล็กน้อย ใบหน้าที่เบิกบานใจของฮั่วปิงเป็นสีแดงในขณะนี้เขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

หูเต๋อเทียนและหลี่ไคเหอกล่าวคำอำลากับเอี้ยนลี่เฉียงอย่างสุภาพและเลิกแสดงท่าทีอวดดีในฐานะศิษย์พี่อาวุโส

หลังจากรับประทานอาหารเพียงมื้อเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างเอี้ยนลี่เฉียงกับคนเหล่านี้ก็แน่นแฟ้นเปรียบเสมือนการสาบานเป็นพี่น้องกัน ทำให้กูเจ๋อซวนและจ้าวฮุ่ยเผิงเลิกคิ้วขึ้น

แม้แต่หม่าเหลียงที่เมามายจนแทบไม่รู้ตัวก็ตบหน้าอกตัวเองไปทางเอี้ยนลี่เฉียงและกล่าวด้วยกลิ่นปากที่เต็มไปด้วยเหล้าว่า

“ศิษย์พี่ต่อจากนี้ ความกังวลของท่านคือความเดือดร้อนใจของข้าหม่าเหลียง ตราบใดที่ศิษย์พี่ออกคำสั่งหม่าเหลียงจะไม่ขมวดคิ้วต่อให้เดินเข้าสู่ทะเลเพลิงก็ตาม…”

“ฮ่าฮ่า ไปเถอะ กลับไปพักผ่อนเถอะ…” เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะ

“ไม่ต้องกังวลศิษย์พี่…” จากนั้นฮั่วปิงก็ส่งสัญญาณไปยังคนรับใช้ของร้านอาหารที่อยู่ด้านข้างด้วยสายตา พวกคนใช้รีบขึ้นมาประคองหม่าเหลียงซึ่งแทบจะยืนไม่ไหวและส่งขึ้นรถม้าออกไป

แม้ว่าจะไม่มีบริการรับส่งที่หอดาวตกก็ตาม แต่ตราบใดที่ยังมีเงินอยู่ คนรับใช้ในร้านอาหารก็สามารถหารถม้าเพื่อส่งแขกที่เมาแล้วกลับบ้านได้เช่นเดียวกัน

“น้องชายเอี้ยนเกี่ยวกับน้ำส้มสายชูดิน…” ฮั่วปิงมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงด้วยสายตาที่เร่าร้อนขณะนี้เขาได้แต่ถูมือเข้าด้วยกัน

“วางใจเถอะศิษย์พี่ตราบใดที่เจ้าสามารถเตรียมส่วนผสมและสถานที่ได้ สิ่งนี้จะทำเงินให้เรามหาศาล เวลาเป็นสิ่งสำคัญเราต้องตีเหล็กตั้งแต่ยังร้อน ตอนนี้เรื่องราวที่ข้าสามารถทำความสะอาดจนได้เป็นศิษย์ชั้นในคงทำให้หลายๆคนต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ของเราอย่างแน่นอน”

"ไม่มีปัญหาภายใน 2 วันน้องชายจะได้รับคำตอบที่ดีที่สุด ..."

"เอาล่ะ. ศิษย์พี่ทั้ง 3 พวกข้าขอตัวก่อน … "

"ศิษย์น้องเดินระวังด้วย... "

เอี้ยนลี่เฉียงค่อยๆนำกู่เจ๋อซวนและจ้าวฮุ่ยเผิงออกไปในทิศทาง ของภูเขาเทียนเฉียวโดยมีฮั่วปิงและคนอื่นๆยืนส่งอยู่ด้านหลัง

ฮั่วปิงรอจนกระทั่งเงาของเอี้ยนลี่เฉียงและอีกสองคนหายไปในเกล็ดหิมะ

จากนั้นเขาก็หันไปมองหูเทียนเต๋อและหลี่ไค่เหอทั้งสองคนสามารถเข้าใจความหมายเบื้องหลังดวงตาของเขาได้แม้จะไม่มีคำอธิบายก็ตาม

ดวงตาของหลี่ไค่เหอหรี่ลงจนเงาของเอี้ยนลี่เฉียงและคนอื่นๆหายไปอย่างสมบูรณ์ เขาไม่เคยละสายตาจากเอี้ยนลี่เฉียงเลย เขาหันศีรษะไปทางฮั่วปิงและกล่าวว่า

“ศิษย์น้องเอี้ยนเป็นคนฉลาดและจิตใจเจ้าเล่ห์อย่างแท้จริง เราควรหลีกเลี่ยงการรุกรานคนเช่นเขาและเป็นพันธมิตรกับเขาให้ถึงที่สุด

หม่าเหลียงตาบอดจริงๆที่คิดว่าสามารถเทียบกับศิษย์น้องเอี้ยนได้ …”

“ใช่ แม้แต่คนที่มีประสบการณ์อย่างพวกเรายังยากที่จะทำความเข้าใจเจ้าเด็กคนนี้!” ฮั่วปิงถอนหายใจเบาๆและส่ายหัว

“เราควรจะขอโทษเขาวันนี้ แต่ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะดึงพวกเรามาทำธุรกิจน้ำส้มสายชูดิน แม้แต่การได้ยินเขาอธิบายเรื่องนี้เมื่อสักครู่ก็ยังทำให้ข้าตกใจไม่หาย...”

"อนาคตของเขาจะไม่จบลงเพียงเท่านี้พวกเราต้องพยายามผูกความสัมพันธ์กับเขาไว้ให้แน่น เมื่อเขาเติบโตขึ้นพวกเราจะได้มีที่ให้พึ่งพา…”

“ใช่!”

“พวกเจ้าคิดว่าศิษย์น้องเอี้ยนเพียงผ่านขั้นตอนท่าม้าอย่างนั้นหรือ?” หูเทียนเต๋อที่เงียบอยู่นานก็กล่าวออกมาเบาๆทำให้ฮั่วปิงและหลี่ไคเหอตกตะลึงเล็กน้อย...

...

" ศิษย์พี่เอี้ยน…ทำไมเราต้องแบ่งผลประโยชน์เรื่องน้ำส้มดินร่วมกับฮั่วปิง? " เมื่อพวกเขาออกจากตลาดกู่เจ๋อซวนที่อดกลั้นตัวเองไว้ครึ่งวันก็อดไม่ได้และถามขึ้น

แม้ว่ากู่เจ๋อซวนจะมีประสบการณ์บ้าง แต่เมื่อเทียบกับเอี้ยนลี่เฉียงในแง่ของความคิดและทักษะทางธุรกิจเขาอยู่ในระดับอนุบาลเท่านั้น

ความท้าทายที่เอี้ยนลี่เฉียงเคยผ่านในอาชีพการงานของเขาจากชาติที่แล้ว ความรู้และความเข้าใจที่เขาได้รับนั้นเหนือจินตนาการของกู่เจ๋อซวน

แม้ว่าเราจะได้ซาลาเปาเพียงครึ่งตะกร้าแต่ก็ยังเยอะกว่าซาลาเปาที่เราสามารถทำขึ้นเองหลายสิบเท่า นั่นเป็นสถานการณ์ที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายรวมทั้งพวกเขายังสามารถแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้…”

“ข้ารู้สึกไม่ชินกับมัน…”

เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะ เขาเข้าใจดีว่าทำไมกู่เจ๋อซวนถึงไม่ 'ชินกับมัน' สำหรับกู่เจ๋อซวนความขุ่นเคืองและความแค้นที่เขามีต่อฮั่วปิงได้เข้าครอบงำอารมณ์ของเขามากเกินไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าจะชินกับมันในไม่ช้า หากเจ้าปรารถนาที่จะอยู่อย่างสบายในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์

บางครั้งเจ้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้กับผู้อื่น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะรู้จักเพียงการต่อสู้เท่านั้นเจ้าต้องรู้จักร่วมมือกับคนอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเองด้วย "

เอี้ยนลี่เฉียงเดินในขณะที่เขาอธิบายอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากเดินไปได้ไกล เขาก็รู้ว่าอีกสองคนที่อยู่ข้างๆหยุดเดิน เอี้ยนลี่เฉียงหันกลับมาและตระหนักว่ากู่เจ๋อซวนและจ้าวฮุ่ยเผิงหยุดเดินแล้วและจ้องมองเขาด้วยท่าทางที่ตกตะลึง

ในตอนนั้นเองเอี้ยนลี่เฉียงก็ตระหนักได้ในทันทีว่าคำพูดธรรมดาๆของเขานั้นล้ำหน้าเกินไปและทำให้ทั้งคู่ตกตะลึง คำพูดที่เขากล่าวออกมานั้นเป็นคำพูดของปราชญ์มากมายตลอดประวัติศาสตร์ของโลก 5000 ปีที่เคยกล่าวไว้

“ศิษย์พี่ฮุ่ยเผิงและข้าจะเป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ของท่านต่อจากนี้ไป…!”

...

เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวอำลาทั้งสองคนก่อนที่พวกเขาจะไปถึงแอ่งภูเขาที่เชิงเขาเทียนเฉียวและกลับไปที่บ้านหลังเล็กๆที่เขาพักอยู่

หลังจากล้างหน้าเอี้ยนลี่เฉียงถอดรองเท้าแล้วปีนขึ้นไปบนเตียง อย่างไรก็ตาม เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้นอนพักผ่อน เขานั่งสมาธิ แล้วหลับตาลงและจดจ่ออยู่กับทะเลแห่งสติภายในจิตใจตัวเอง

เพียงชั่วพริบตาหินลึกลับขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาก็ปรากฏขึ้นในจิตสำนึกของเอี้ยนลี่เฉียง

เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเพ่งสายตาไปที่หินก้อนใหญ่นั้น เช่นเดียวกับที่เขาทำบนเนินเขาเล็กๆที่วิหารแห่งความบริสุทธิ์

หนึ่งชั่วยามผ่านไป… สองชั่วยามผ่านไป… สามชั่วยามผ่านไป…

ทันใดนั้น… เอี้ยนลี่เฉียงได้ยินเสียงระเบิดในใจของเขา จู่ๆก้อนหินขนาดมหึมาก็สร้างแรงดึงดูดอันทรงพลังคล้ายกับหลุมดำ

เพียงชั่วพริบตาจิตสำนึกทั้งหมดของเอี้ยนลี่เฉียงก็ถูกดูดเข้าไปในหินลึกลับ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด