Ep.1015 - ทักษะลับกลืนดาราทรงพลังกว่าเดิม
Ep.1015 - ทักษะลับกลืนดาราทรงพลังกว่าเดิม
ถึงจะบอกว่ามันคือดาวเคราะห์กำลังภายใน แต่ที่จริงแล้วยังไม่ใช่ซะทีเดียว นี่เป็นเพียงการเรียกขานในมุมมองมนุษย์เท่านั้น
สัตว์ร้ายที่ไม่สามารถเรียนรู้อักษรรูนหรือครอบครองแก่นพลังสมาธิได้ จวบจนกระทั่งมันขึ้นเป็นจ้าวเหนือหัว หลังจากตกตาย ก็จะแปรสภาพเป็นดวงเคราะห์เช่นนี้เอง
ขณะนี้ เรือหยกค่อยๆหยุดแล่นอย่างช้าๆ จอดแน่นิ่งท่ามกลางสายธารพลังงาน แม้จะมีโล่แสงคอยปิดกั้นภายในกับภายนอก แต่ฉินเฟิงตระหนักดี ว่าพลังงานตรงจุดนี้บริสุทธิ์ที่สุดแล้ว มันบริสุทธิ์มากซะจนสามารถระเบิดร่างมนุษย์ได้
“พวกคุณสามารถอยู่ที่นี่ได้ 14 วัน ตั้งใจฝึกฝนให้ดี!” เส้าตงเฟิงกล่าวพลางนั่งสมาธิลง สำหรับตัวเขา สถานที่แห่งนี้ควรค่าแก่การฝึกฝนเช่นกัน
คนอื่นๆพอได้ยิน ก็ไม่กล่าวมากความ ทั้งหมดนั่งขวาทับซ้าย เริ่มเปิดใช้งานทักษะฝึกฝนกำลังภายใน
ฉินเฟิงไม่ต้องการดูโดดเด่นเกินไป นั่งลงตามคนอื่นๆ ทว่าการรับรู้ของเขายังกระจายอยู่อย่างเงียบๆ คอยสังเกตคนอื่นๆตลอดเวลา
และเป็นอีกครั้งที่เขาต้องประหลาดใจ
เพราะกำลังภายในที่ผู้ใช้วรยุทธโบราณทุกคนดูดซับเข้าสู่ตัว อยู่ในอัตราเร็วที่น่าหวาดกลัวยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่แห่งนี้ ขณะที่คนเหล่านี้กำลังใช้งานทักษะฝึกฝนกำลังภายในของตน ส่วนเหนือศีรษะและปลายจมูก จะเกิดชั้นควันสีขาวลอยออกมา ปกคลุมทั่วร่างกาย สะสมจนกลายเป็นทะเลหมอก ก่อนไหลเข้าสู่ร่างกายของแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม คนพวกนี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับหมิงเทียนห่าว
หมิงเทียนห่าวนั่งขัดสมาธิ หลังจากโคจรทักษะกำลังภายในของเขา พลังงานหนาแน่นรอบตัวเขาได้แปรสภาพกลายเป็นหยดน้ำ สะสมความเข้มข้นจนถึงขีดสุดที่ร่างกายสามารถรับได้ หยดแล้วหยดเล่าลอยเข้าปากเขา ไหลเวียนลงสู่ตันเถียนอย่างต่อเนื่อง
‘ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถกลั่นกำลังภายใน สร้างดวงดาราทั้งเจ็ดได้!’ ฉินเฟิงเกิดความรู้แจ้งในใจ
ยังไงก็ตาม เขามองดูหมิงเทียนห่าวเพียงแว่บเดียวเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกอิจฉาอะไร เพราะเมื่อเทียบกับทักษะกำลังภายในของคนเหล่านี้ ทักษะลับกลืนดาราของฉินเฟิงทรงพลังกว่ามาก
ฉินเฟิงได้แต่ทอดถอนหายใจ เป็นเพราะมิติของเขาล้าหลังเกินไป ทำให้จนตอนนี้ถึงค่อยได้เปิดหูเปิดตา มองเห็นโลกกว้าง
‘แม้ทักษะลับกลืนดาราจะทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่มันน่าจะเป็นทักษะที่ถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดของพันธมิตรองค์กรมืด จะเป็นการดีกว่าหากไม่เปิดเผยออกไป แค่ฉันผ่านการทดสอบคัดเลือกด้วยความแข็งแกร่งเลเวล S0 ก็ถูกหลายคนจับตามองแล้ว ถ้าประสิทธิภาพการทำงานของทักษะกำลังภายในฉันโดดเด่นอีกครั้ง มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะถูกตรวจสอบ ฉะนั้นค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า’
ได้ข้อสรุปเช่นนี้ ฉินเฟิงก็เริ่มนั่งขัดสมาธิ โคจรทักษะลับกลืนดารา
เมื่อทักษะลับกลืนดารามาถึงเลเวล S วิธีฝึกฝนของมันจะไม่ใช่การขับเคลื่อนกำลังภายในไปทั่วร่างอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาเป็นขับเคลื่อนในดารากำลังภายใน เพื่อดูดซับพลังงานฟ้าดินแทน
‘โคจรหนึ่งดวง!’
ฉินเฟิงตั้งใจที่จะดำเนินการไปทีละขั้นทีละตอน เปิดใช้งานดาราแค่ดวงเดียวก่อน
ในเวลานั้นเอง พลังงานรอบกายเขาเริ่มถูกสูบเข้ามา พวกมันค่อยๆไหลไปรวมตัวกัน เผลอแปปเดียว ก่อตัวเป็นวงแหวนน้ำรอบตัวฉินเฟิง
หากกระแสพลังงานที่ถูกรวบรวมโดยหมิงเทียนห่าวมีขนาดความหนาเท่ากับหัวแม่มือ เช่นนั้นกระแสพลังงานที่ฉินเฟิงดึงดูดเข้ามา ก็มีความหนาประมาณข้อมือเขา
แถมยังไม่ได้ปรากฏแค่ในแนวตั้ง ลอยเป็นทะเลหมอกแบบคนอื่นๆ แต่พลังงานเหล่านั้น เวียนว่ายอยู่รอบตัวฉินเฟิง จากนั้นพุ่งตรงเข้าไปยังตันเถียนของเขาโดยตรง
บรรยากาศเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คน พวกเขาลืมตาขึ้น มองไปทางฉินเฟิง
‘นั่นฉินเฟิงที่อยู่อันดับ 5 ? คนที่มีเลเวลแค่ S0?’
‘เฮ้อ! กำลังภายในของเขา ทรงพลังยิ่งกว่าหมิงเทียนห่าวซะอีก!’
‘นั่นมันทักษะฝึกกำลังภายในอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าเป็นทักษะเลเวล SS ? เจ้าหนูนั่นโชคดีจริงๆที่ได้ครอบครองมัน ช่างน่าอิจฉา!’
แต่ละคนมีความคิดแตกต่างกันไป ในดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง แต่พอลองสังเกตมันอยู่สักพัก พวกเขาก็พบว่าพลังงานรอบๆไม่ได้ลดลงเนื่องจากการดูดซับของฉินเฟิงเลย อาจกล่าวได้ว่า พลังงานที่นี่ มีมหาศาลเพียงพอต่อทุกคน
ด้วยเหตุนี้ จึงดูเหมือนว่า แม้ฉินเฟิงทำตัวเอิกเริก แต่มันไม่ได้ชะลอความเร็วในการฝึกฝนของคนอื่นๆ บางคนเลิกอิจฉา บางคนถึงขั้นเกิดความคิด ตัดสินใจว่าสุดท้ายที่จะผูกมิตรกับฉินเฟิง
ให้มารุกรานฉินเฟิงตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย แม้ฉินเฟิงจะมีความแข็งแกร่งต่ำสุดในกลุ่ม แต่พลังโจมตีก็สูงมากเช่นกัน งานประลองที่กำลังจะเกิดขึ้น น่าจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้มาก ดังนั้นอย่าเพิ่งทำอะไรจะดีกว่า
เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้ ผู้ผ่านการคัดเลือกที่เหลือก็หลับตาลงอีกครั้ง เริ่มดูดซับพลังงาน
เหลือเพียงเส้าตงเฟิง ที่กำลังมองไปทางฉินเฟิงด้วยดวงตาเป็นประกาย ในใจคล้ายเกิดความคิดอะไรบางอย่าง อีกฝ่ายจับจ้องฉินเฟิงอยู่นานเป็นสองชั่วโมง สุดท้ายค่อยข่มตาลงอย่างช่วยไม่ได้
อันที่จริงเขาต้องการพูดอะไรบางอย่างกับฉินเฟิง แต่ฉินเฟิงเอาแต่ตั้งหน้าตั้งแต่ฝึกฝน เส้าตงเฟิงเลยไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แค่รอให้ฉินเฟิงฝึกฝนจนเสร็จสิ้น
โดยที่ไม่รู้เลยว่า ในตอนที่ทุกคนกำลังฮือฮา ฉินเฟิงเองก็ตกใจเช่นกันแค่ไม่แสดงอาการ
‘ครั้งก่อนๆที่ฉันเคยฝึกฝน ทักษะลับกลืนดาราไม่ได้ดูดซับพลังงานฟ้าดินได้รวดเร็วขนาดนี้นี่นา ทำไมมันถึงแข็งแกร่งขึ้น?’
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉินเฟิงตระหนักว่าตนเองไม่ได้เข้าใจทักษะลับกลืนดาราอย่างลึกซึ้ง
ยังไงก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ไม่อนุญาตให้ฉินเฟิงฟุ้งซ่าน พลังงานที่เข้าสู่ตันเถียนเขา มันต้องได้รับการซึบซับอย่างรวดเร็ว
ในสายตาของโลกภายนอก พลังงานที่ไหลมารวมตัวกันมีความหนาเท่าข้อมือก็จริง แต่เมื่อเข้าสู่ตันเถียนของฉินเฟิง พวกมันกลับกระจายตัวออกราวกับรอยแยกมหึมาบนท้องฟ้า ท่วมทับดารากำลังภายในของเขา
พลังงานเหล่านั้นปกคลุมดวงดาราที่กำลังหมุนวน ช่วยให้ดวงดาราขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม พลังงานเหล่านี้ยังไม่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็น มันมีสีขาวขุ่นบ่งบอกว่ายังปนเปื้อนสิ่งสกปรก
พลังงานเหล่านี้ หากเปลี่ยนเป็นกำลังภายใน จะเท่ากับลดคุณภาพกำลังภายในของฉินเฟิงลง แม้ในมุมมองของคนอื่นๆ พลังงานในที่นี้จะบริสุทธิ์มากพอแล้วก็ตาม แต่นั่นยังไม่บริสุทธิ์พอสำหรับฉินเฟิง
ด้วยเหตุนี้ ดาวเคราะห์มืดในจักรวาลแห่งจิตสำนึกของฉินเฟิงจึงเริ่มโคจร ในอดีต ตอนที่ฉินเฟิงกลั่นกำลังภายในของเขา เขาจะปล่อยพวกมันไหลเข้าสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึก ช่วยเสริมสร้างเส้นลมปราณเมื่อผ่านแขนขา และร่างกาย จากนั้นว่ายเข้าไปในจักรวาลแห่งจิตสำนึก กลั่นให้เหลือแต่ส่วนที่บริสุทธิ์ที่สุด จากนั้นส่งกลับมายังตันเถียน
แต่ในครั้งนี้ ดาวเคราะห์มืดได้เคลื่อนตัว ลอยเข้าสู่จักรวาลของตันเถียนโดยตรง พลังพิเศษดูดกลืนเริ่มโคจร พลังงานสีขุ่นปนเปื้อนกว่าหนึ่งในสามส่วนระเหยออกมาในพริบตา เหลือทิ้งไว้เพียงพลังงานขาวสะอาด
กระบวนการนี้ ก่อนที่ผู้ใช้อบิลิตี้จะขึ้นมาถึงเลเวล S พวกเขาจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายแก่นอบิลิตี้ของตัวเองได้ แต่แน่นอน เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนฉินเฟิงเช่นกัน เพราะมันไม่มีหรอก คนที่เหมือนฉินเฟิงผู้สามารถยกระดับทั้งอบิลิตี้และกำลังภายในจนเข้าสู่ขอบเขตของเลเวล S ได้ทั้งคู่ เป็นผลให้สามารถเคลื่อนย้ายแก่นอบิลิตี้มายังตันเถียนได้
ณ จุดนี้ ดาวเคราะห์น่าสะพรึงที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร เมื่อเทียบกับดาราเก้าดวงแล้ว มันใหญ่เกินไปจริงๆ
ยังไม่พอ แม้สิ่งปนเปื้อนจะระเหยไปหนึ่งในสามของปริมาตรแล้วก็ตาม แต่สายธารแห่งพลังงานก็ยังมากพอที่จะท่วมทับดาราดวงนี้ ใช้เวลาไม่ถึงสามชั่วโมง ดาราดวงแรกของฉินเฟิงก็มีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขยับมาถึง 2 ซม.
ฉินเฟิงขบคิดพักหนึ่ง ก่อนหยุดโคจรดาราดวงนี้ แล้วเปลี่ยนไปโคจรดาราดวงที่สองเพื่อฝึกฝนต่อ
ดาราดวงที่สองหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง สามชั่วโมงต่อมา ขนาดของมันก็เพิ่มขึ้นเท่ากับดาราดวงแรก
ฉินเฟิงทำตามกระบวนการเดิมเป๊ะๆอีกครั้ง
ส่งผลให้ภายในวันเดียว กำลังภายในของฉินเฟิงสามารถเลื่อนระดับไปอีกขั้น!
และเมื่อขนาดของดวงดาราใหญ่ขึ้น การพัฒนาก็ยิ่งเชื่องช้าลง ประเด็นก็คือฉินเฟิงไม่กล้าดูดซับพลังงานในที่นี้อย่างสุดกำลัง
ตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ มันช่างรู้สึกอึดอัดจริงๆ!
‘คอยดูเถอะ งานประลองครั้งนี้จบลงเมื่อไหร่ แล้วฉันได้มิติมา ฉันจะบุกเข้าไปถึงแกนกลาง แล้วเปิดใช้งานทักษะลับกลืนดาราอย่างเต็มที่! ให้รู้ซึ้งไปเลย ว่าทักษะฝึกกำลังภายในนี้ทรงพลังขนาดไหน!’ ฉินเฟิงทำได้เพียงปลอบตัวเอง ดูดซับต่อไปอย่างเชื่องช้า
เพียงแต่ว่า เชื่องช้าของเขา สำหรับคนอื่นๆมันคือความเร็วในระดับที่น่าหวาดกลัว!
