WS บทที่ 106 หมายกำหนดการ
เมอร์ลินเดินตรงเข้าไปผลักประตูบานใหญ่ออก
ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ บนพื้นปูด้วยกระเบื้องที่สว่างใสราวกับกระจก ที่ผนังมีภาพของคนที่มีชีวิตชีวาแขวนอยู่ นอกจากนี้ยังมีเสาขนาดใหญ่และหนา มันใสและเปล่งประกายราวกับคริสตัล
ราวกับว่าตอนนี้เมอร์ลินอยู่ในความฝันเลย
เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เขามองเห็นคนจำนวนไม่มากเดินอยู่ภายใน พวกเขาสวมใส่ชุดคลุมสีเทา บางคนก็นอนอย่างเกียจคร้านบนโต๊ะยาว
ในทันทีที่เมอร์ลินผลักประตูเข้ามา พวกเขาก็หันมามองเมอร์ลินเป็นตาเดียว
เมอร์ลินเดินไปข้างและโค้งคำนับเล็กน้อยให้พวกเขาอย่างประหม่าและพูดว่า
“สวัสดี ผมชื่อเมอร์ลิน วิลสัน ผมเพิ่งมาถึงดินแดนมนต์ดำ พ่อมดฮาริโบ้ส่งผมมาที่นี่”
“คนใหม่อีกแล้วเหรอ เอาแหวนของคุณมาให้ฉันตรวจหน่อยสิ”
พ่อมดชุดคลุมที่มีหนวดเดินมาหาเมอร์ลินแลพูดอย่างเย็นชา
เมอร์ลินถอดแหวนจากนิ้วและส่งให้พ่อมดคนนั้น
พ่อมดชุดเทาได้ค่อย ๆ ลูบไล้ไปที่แหวน จากนั้นร่างกายของเขาพลังจิตออกมาทำให้ตัวแหวนเปล่งออกมาจาง ๆ ทำให้สามารถมองเห็นอักษรรูนได้อย่างชัดเจน
จากนั้นพ่อมดชุดเทาได้พยักหน้าเบา ๆ และคืนแหวนให้เมอร์ลิน ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาว่า
“ไม่เลว นี่คือแหวนมนต์ดำของจริง อืม คุณชื่อเมอร์ลินใช่มั้ย?”
เมอร์ลินพยักหน้า พ่อมดชุดเทาดกล่าวต่อไปว่า “พ่อมดเมอร์ลิน ไม่ว่าตัวตนของคุณก่อนหน้านี้จะเป็นใครหรือเป็นอะไรมาก่อนแต่ตอนนี้คุณได้อยู่ภายใต้ดินแดนมนต์ดำและสมาชิกของที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่อย่างไรก็ตามคุณยังไม่ได้เป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งดังนั้นคุณเป็นเพียงแค่สมาชิกชั่วคราวเท่านั้น
หากคุณไม่สามารถกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งภายใน 3ปี แหวนของคุณจะถูกยึดและคุณจะถูกส่งออกไปจากที่นี่โดยทันที”
พ่อมดชุดเทามีความเข้มงวดมาก เขาได้อธิบายกฎต่างของดินแดนมนต์ดำโดยละเอียด
เมอร์ลินรับฟังทุกอย่างอย่างตั้งใจ เขาได้รู้ว่ามาตรฐานของที่นี่เข้มงวดมาก เขาต้องเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งภายใน 3ปี ซึ่งการจะไปให้ถึงขั้นนั้นมันยากมากแต่หากไปถึงระดับหนึ่ง เขาก็จะได้รับการยอมรับว่าเป็นพ่อมดที่แท้จริง
“คุณเข้าใจกฎต่าง ๆ พวกนี้มั้ย หากมีอะไรสงสัยก็ถามฉันได้”
“ผมเข้าใจขอรับ” เมอร์ลินพยักหน้า
สำหรับเขาแล้วเวลาแค่ 3ปี สำหรับการเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ตัวเขาที่มีเดอะเมททริกซ์ เขาสามารถสร้างโครงสร้างเวทมนต์ได้อย่างมากมาย สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดก็คือพลังจิตที่เพียงพอในการรองรับโครงสร้างเวทมนต์เหล่านั้น หากเขามีทุกอย่างครบเขาก็สามารถกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้
“ดีมาก” พ่อมดชุดเทาพยักหน้าและพูดต่อ “ตอนนี้คุณมีโครงสร้างเวทมนต์อยู่ที่แบบ”
“สามแบบขอรับ” เมอร์ลินตอบตามความเป็นจริง
“สามงั้นเหรอ?”
ปฏิกิริยาของพ่อมดชุดเทานั้นดูตรงข้ามกับความคาดหวังของเมอร์ลิน เขาส่ายหัวเบา ๆ ด้วยความสงสาร ดูเหมือนว่าเขาจะเสียใจที่เมอร์ลินได้สร้างโครงสร้างเวทมนต์ไป 3แบบ
‘ทำไมเขาถึงมีท่าทีเช่นนี้’
พ่อมดชุดเทาได้พาเมอร์ลินไปที่โต๊ะ จากนั้นเขาได้สะบัดมือและคริสตัลโปร่งแสงได้ปรากฏขึ้นมา
“รวบรวมพลังจิตทั้งหมดที่คุณมีใส่ลงในคริสตัล” พ่อมดชุดเทากล่าวพลางชี้ไปที่คริสตัลบนโต๊ะ
เมอร์ลินพยักหน้าและเพ่งสมาธิส่งตรงไปที่คริสตัลอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นคริสตัลได้เปล่งแสงสีขาวจาง ๆ ออกมา
เมื่อพ่อมดชุดเทาเห็้นแสงจากคริสตัลเขาได้ส่ายหัวอีกครั้งและพูดว่า
“เอาล่ะ พลังจิตของคุณอยู่ในเกณฑ์ปกติและคุณมีโครงสร้างเวทมนต์อยู่สามแบบด้วย...”
หลังจากนั้นเขาก็ได้ผละไปคุยกับพ่อมดชุดเทาที่อยู่แถวนั้น จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องโถงไป
ผ่านไปไม่นาน พ่อมดชุดเทาได้มาพร้อมกับหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขา
“เลอแรนก้า นั่นเมอร์ลิน เขาเพิ่งเข้ามาที่ดินแดนมนต์ดำ ช่วยพาเขาไปที่หอคอยของพ่อมดลีโอทีสิ ให้เขาติดตามและเรียนรู้จากพ่อมดลีโอ” พ่อมดชุดเทากล่าวพลาวชี้ไปที่เมอร์ลิน
เมอร์ลินได้มองสำรวจเลอแรนก้าอย่างระมัดระวัง ตัวเธอนั้นไม่ได้แก่มาก เธอมีสั้นสีบลอนด์หยักศกและมีสร้อยคอระยิบระยับที่คอของเธอ เธอดูสดชื่นและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน
“ตามฉันมา” เลอแรนก้าหันมาพูดกับเมอร์ลินอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินออกไปจากห้องโถง
เมอร์ลินได้ติดตามเธออย่างใกล้ชิด หลังจากที่เขาเดินไปสักพักเขาเก็บงำความสงสัยไว้ไม่ไหวได้ถามออกมาว่า
“แม่มดเลอแรนก้า ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย พวกงานต่าง ๆ ที่ต้องทำในดินแดนมนต์ดำมันมีอะไรบ้าง”
“อืม...พวกงานที่ได้รับมอบหมายงั้นเหรอ มันก็ไม่มีอะไรมากแค่พวกงานทั่ว ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตามคุณต้องผ่านการทดสอบเพื่อเข้าไปเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการเสียก่อนถึงจะทำได้” แม่มดเลอแรนก้าพูดอย่างเย็นชา
“แล้วการทดสอบที่ว่ามันคืออะไร?” เมอร์ลินสงสัยเนื่องจากการแสดงออกของพ่อมดชุดเทาเมื่อก่อนหน้านี้ มันไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก
เลอแรนก้าได้หยุดเดินลันมามองเมอร์ลิน “คุณเป็นพ่อมดพเนจรใช่มั้ย?”
เมอร์ลินพยักหน้า เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องปิดบัง
“แล้วคุณมีโครงสร้างเวทมนต์อยู่กี่แบบ”
“สามแบบ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เลอแรนก้าถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “ไม่แปลกใจเลยที่คุณจะถูกส่งไปหาพ่อมดลีโอ ตอนนี้คุณได้สร้างโครงสร้างเวทมนต์ไปแล้วถึงสามอย่าง หากโครงสร้างของมันไม่เสถียร คุณจะไม่มีทางกลายเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งไปมากกว่านี้แน่นอน”
เมอร์ลินพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ การสร้างโครงสร้างเวทมนต์หากทำสำเร็จโดยไม่เสถียรมันจะส่งผลเสียตามมาอย่างมหาศาล
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเขามองว่าเมอร์ลินมุทะลุมากเกินไป รีบร้อนที่จะเพิ่มโครงสร้างเวทมนต์โดยไม่คำนึงถึงความเสถียร นั่นทำให้พ่อมดชุดเทาถึงมีปฏิกิริยาที่ไม่ดีเช่นนั้น เขาอาจจะมองเมอร์ลินเป็นเพียงขยะไร้ค่าก็เป็นได้
พวกเขาไม่มีทางเชื่อว่าพ่อมดพเนจรอย่างเขาจะสามารถสร้างโครงสร้างเวทมนต์ที่เสถียรได้
อย่างไรก็ตามเมอร์ลินนั้นมีเดอะเมทริกซ์ที่สามารถสร้างโครงสร้างเวทมนต์ได้อย่างเสถียรที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าของดินแดนมนต์ดำเลยเผลอ ๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ
ดังนั้นเมอร์ลินจึงไม่กังวลในเรื่องนี้แต่พ่อมดชุดเทาไม่ทราบเรื่องนี้ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะบอกพ่ดมดชุดเทาเรื่องเดอะเมทริกซ์
“แม่มดเลอแรนก้า แสงสีขาวที่เปล่งออกมาจากคริสตัลมันหมายความอย่างไรหรือ?” เมอร์ลินถาม
“แสงนั่นบ่งบอกว่าพลังจิตของคุณนั้นอยู่ในระดับที่ธรรมดามาก”
ดูเหมือนเรื่องนี้จะปลุกความทรงจำของเธอทำให้เธอได้กล่าวต่อว่า “ครอบครัวของฉันเป็นตระกูลนักเวทย์ ญาติผู้ใหญ่ของฉันบางคนได้เข้าร่วมดินแดนมนต์ดำ นั่นจึงทำให้ฉันรู้จักชื่อเสียงของที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ ภายหลังจากที่ฉันเข้าร่วมดินแดนมนต์ดำ ฉันยังไม่สามารถสร้างโครงสร้างเวทมนต์ระดับหนึ่งได้เลย
นอกจากนั้นพลังจิตของฉันนั้นอ่อนแอมาก แม้แต่ของคุณฉันยังเทียบไม่ได้เลย ฉันเองก็ได้รับมอบหมายให้ไปที่หอคอยของพ่ดมดลีโอเช่นกัน นี่มันก็เกือบจะ 3ปี แล้ว ฉันยังไม่สามารถสร้างโครงสร้างเวทมนต์ระดับหนึ่งได้เลย บางทีฉันอาจจะถูกขับไล่ออกจากดินแดนมนต์ดำในไม่ช้านี้...”
สีหน้าของเลอแรนก้าหดหู่ เศร้ามองอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงของเธอผู้ฟังสามารถรับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าที่ไร้ซึ่งหนทางใด ๆ ต่อจากนี้