WS บทที่ 105 พ่อมดหน้าใหม่
แมวดำได้เดินไปมากลางอากาศ มันแกว่งหาวของมันไปมาเบา ๆ เมอร์ลินรู้สึกว่าทุกท่าของมันช่างสง่างามมาก
“พ่อมดหนุ่มเอ๋ย ข้าเป็นภูตที่สิงสถิตอยู่ในแผ่นศิลาที่ถูกแกะสลักโดยจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ฟิเดล ข้าคือผู้พิทักษ์แห่งดินแดนมนต์ดำ ข้ามีนามว่าผู้ยิ่งใหญ่ไดอามอส”
เมอร์ลินถึงกับพูดไม่ออกกับคำว่า “ผู้ยิ่งใหญ่” ของเจ้าแมวดำ นอกจากนี้เขารู้สึกว่าแมวดำที่มีท่าทางทนงตนและพูดภาษามนุษย์ได้แบบนี้ มันน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับดินแดนมนต์ดำ
ดังนั้นเขาจึงโค้งคำนับให้กับเจ้าแมวเล็กน้อยและพูดด้วยความเคารพว่า “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ไดอามอส ผมมีเรื่องที่จะสอบถามท่าน บังเอิญว่าผมมีเหรียญตราของดินแดนมนต์ดำ ดังนั้นผมจึงต้องการรู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถเข้าร่วมกับดินแดนมนต์ดำได้ขอรับ”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าแมวดำดูพึงพอใจกับน้ำเสียงที่เคารพของเมอร์ลิน มันได้พูดว่า
“พ่อมดหนุ่มเอ๋ย หากเจ้าต้องการเข้าร่วมดินแดนมนต์ดำจริง ๆ อย่างน้อย ๆ เจ้าควรจะมอบหินธาตุให้กับข้า”
“หินธาตุ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อของมัน มันต้องเป็นของหายากอย่างแน่นอน
พอแมวดำได้เห็นปฏิกิริยาเช่นของเมอร์ลินทำให้มันไม่พอใจ มันได้ส่งเสียงแหลมสูงออกมาว่า
“เจ้าพ่อมดหนุ่ม เจ้าไม่รู้ว่าเหรอว่าข้าเป็นใคร ข้าเป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่ไดอามอส แม้หินธาตุอาจจะมีค่าแต่เจ้าไม่ควรตระหนี่ ไม่ว่าหินธาตุจะเป็นธาตุไหนข้าก็ยินดีที่จะรับมันแต่หินธาตุที่ข้าชอบที่สุดก็คือหินธาตุน้ำแข็งแต่ถ้าหากเจ้าไม่มีธาตุน้ำแข็ง อย่างน้อย ๆ ก็เป็นธาตุดินก็ได้...”
หลังจากที่เมอร์ลินได้ฟังที่เจ้าแมวดำสารธยายได้สักพัก เขาก็ส่ายหน้าออกมา “ผมต้องขออภัยท่านไดอามอสจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อของมันดังนั้นผมจึงไม่มีมันติดตัวเลยแม้แต่อย่างเดียว”
“นี่เจ้า...”
ไดอามอสถึงกับชะงักเล็กน้อย ดวงตาสีแดงและสีขาวได้เปล่งแสงสีดำออกมา
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เป็นพวกพ่อมดหน้าใหม่ เจ้าได้รับเกียรติมากอย่างที่ได้พูดกับข้าผู้ยิ่งใหญ่ไดอามอส”
เมอร์ลินรู้สึกว่าน้ำเสียงของแมวดำเปลี่ยนไปมาก เสียงของมันค่อย ๆ ดังขึ้น มันทำให้เขาแสบหูมาก
“เจ้าพ่อมดหน้าใหม่ เจ้าทำให้ข้าอารมณ์เสียมาก เจ้าจะต้องชดใช้เรื่องนี้อย่างสาสม”
จากนั้นแมวดำก็หายตัวไป เมอร์ลินได้มองอย่างไม่เข้าใจ เขาพอจะเดาได้ว่าเจ้าแมวดำต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนแต่อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกไม่พอใจที่ถูกตราหน้าว่าพ่อมดหน้าใหม่
ทันใดนั้นเอง ก็มีกลุ่มเงาปรากฏขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็มีเสียงเปล่งออกมาจากเงามืด
“เจ้าโง่โบโบ้ออกไปรับแขกเร็วเข้า!”
*หวู่ม*
ร่างหนึ่งได้ปรากฏออกมาจากระลอกคลื่น เงานั่นเป็นชายชราในชุดคลุมสีดำ สีหน้าของเขานิ่งเรียบไร้ซึ่งความรู้สึก
“รับแขกงั้นเหรอ?”
เมอร์ลินมองไปที่ชายชราและหันไปมองแผ่นศิลาที่อยู่ข้างหน้าเขา มันทำให้เขารู้สึกหนาวสั่นแปลก
ชายชราได้หันมามองเมอร์ลินอย่างนิ่ง ๆ และพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า
“พ่อมดหนุ่ม ตามข้ามา”
“เอ๋ เราไม่ต้องตรวจสอบเหรียญตราก่อนเหรอครับท่านจอมเวทย์”
ชายชราหันมามองเขาและพูดว่า “เจ้าสามารถเรียกข้าว่าพ่อมดฮาริโบ้ได้” จากนั้นชายชราก็เงียบไปพักหนึ่งและพูดว่า “ถ้าหากเจ้าไม่มีแหวนมนต์ดำ เจ้าก็ไม่สามารถเปิดใช้งานวงแหวนเวทย์พาเจ้ามาที่นี่ได้ แค่เจ้ามีแหวนก็ถือว่าเป็นการแสดงตัวตนของเจ้า เจ้าห้ามทำแหวนหายเด็ดขาดไม่อย่างนั้นเจ้าจะไม่สามารถมาที่นี่ได้อีกต่อไป”
เมอร์ลินพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าแหวนวงนี้จะเป็นกุญแจที่นำเขาเข้าสู้ดินแดนมนต์ดำ หากไม่มีแหวนวงนี้ต่อให้เดินทางไปยังส่วนลึกของเทือกเขาเคอร์ริชก็ไม่มีทางไปถึงดินแดนมนต์ดำ
พ่อมดฮาริโบ้ได้ยกนิ้วของเขาขึ้นมา บนนิ้วของเขามแหวนสีดำหมึกซึ่งเป็นแหวนแบบเดียวกันที่เมอร์ลินมี
“ใช้พลังจิตของเจ้ากระตุ้นวงแหวนเวทย์บนแหวนนี่เป็นวิธีที่จะเข้าสู่ดินแดนมนต์ดำ” พ่อมดฮาริโบ้พูดอย่างเย็นชา
เมอร์ลินพยักหน้าและใช้พลังจิตกระตุ้นการทำงานของแหวน
*หวุ่ม*
ทันใดนั้นเองได้มีแสงสีขาวปรากฏตรงเบื้องหน้า พ่อมดฮาริโบ้ก้าวไปข้างในอย่างรวดเร็ว ร่างของเขาก็หายไปทันที
เมอร์ลินได้รีบตามชายชราเข้าไปข้างใน พอเขาผ่านแสงสีขาวนั่นไป เกาะที่เคยว่างเปล่าได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
มีหอคอยขนาดมหึมาที่สูงเสียดฟ้า เขาเงยขึ้นไปมองมัน เขาไม่รู้ว่ายอดของมันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน
“นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เห็นหอคอยกันนะ...” เมอร์ลินอดไม่ได้ที่จะสงสัย เขามั่นใจว่าเขาไม่มีทางที่เขาจะไม่เห็นหอคอยที่สูงขนาดนี้อย่างแน่นอน
พ่อมดฮาริโบ้ทีอยู่ข้างหน้าเขาได้ตอบโดยไม่หันกลับมามองว่า “บนเกาะแห่งนี้ได้ถูกวงแหวนเวทย์สลักไว้ทั่วทั้งเกาะ นี่เพียงสมาชิกดินแดนมนต์ดำที่แท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเกาะได้”
เมอร์ลินพยักหน้า เขารู้สึกตกใจมาก คนที่สามารถอำพรางทั้งเกาะได้แบบนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาต้องเป็นพ่อมดที่ทรงพลังถึงขนาดที่เมอร์ลินไม่สามารถจินตนาการถึงได้
“ผมของถามได้มั้ยขอรับ ว่าพ่อมดคนไหนที่เป็นคนจัดการวงแหวนเวทย์ทั้งทั่วเกาะนี้”
“คนที่ทำมันเป็นผู้ก่อตั้งดินแดนมนต์ดำ ท่านจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ฟิเดล ท่านผู้ยิ่งใหญ่ไดอามอส ท่านไดอามอสที่สถิตอยู่ในแผ่นศิลานั้นเป็นแผ่นศิลาที่ท่านฟิเดลสลักขึ้น ทั้งสองอย่างนี้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของท่านจอมเวทย์ฟิเดล”
แม้ว่าสีหน้าของพ่อมดฮาริโบ้จะยังคงนิ่งตามเดิมแต่เมอร์ลินรับรู้ได้ถึงความชื่นชมต่อจอมเวทย์ฟิเดลผ่านน้ำเสียงของเขา
“จอมเวทย์ฟิเดลสินะ”
เขาจดจำชื่อของผู้ก่อตั้งดินแดนมนต์ดำไว้ในใจ การที่สามารถสร้างวงแหวนเวทย์ทั่วทั้งเกาะได้แบบนี้ บางทีเขาอาจจะสลักวงแหวนเวทย์ไว้ที่เทือกเขาเคอร์ริชได้เช่นกัน
“เอาล่ะ จากนี้ไปจะมีเจ้าหน้าที่รออยู่ข้างใน พวกเจ้าหน้าที่จะทำการขึ้นทะเบียนสมาชิกและให้ข้อมูลต่าง ๆ ของที่นี่ จากนั้นจะพาเจ้าไปยังที่พัก นอกจากนี้จะมีอาจารย์มาให้ความรู้ของศาสตร์ต่าง ๆ ให้เจ้า”
พ่อมดฮาริโบ้ผู้ไร้ซึ่งอารมณ์ได้มาเมอร์ลินมาถึงหน้าบันไดหิน ก่อนที่จะหันหลังกลับไปและเดินจากไปจากที่นี่ทันที
เมอร์ลินได้หันไปมองเบื้องหน้า มันเป็นประตูขนาดใหญ่ทั้งสองบานที่บนบนของบันไดหิน เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปอย่างช้า ๆ