บทที่ 267 ระดับ 4 อีกหนึ่ง (บทนี้สั้นไปหน่อยแถมฟรีจ้า)
บทที่ 267 ระดับ 4 อีกหนึ่ง
เสียงของอาวุธมีคมกรีดลงบนโลหะดังขึ้นทันที เซี่ยเล่ยอะไรนั่น โม่เย่อะไรนั่น และเหลียงชูหยินอะไรนั่น ต่างหายไปหมด ฉากตรงหน้ากลับสู่สภาพเดิม
ภายใต้ตราประดับดาบเปลวเพลิงครั้งที่สาม รังอเวจีผีนรกทั้งชั้นถูกผ่าแยก นกนางแอ่นเลือดที่มีระดับสูงสุดเพียงระดับ 2 ที่เหลืออยู่ทั้งหมดตายเกลี้ยง ไม่เหลือภัยคุกคามเย่จงหมิงอีกต่อไป
สิ่งเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่คือสิ่งที่ใหญ่ที่สุดในห้อง นั่นคือต้นแม่ของรังอเวจีผีนรกที่กินพื้นที่เกือบทั้งห้อง แต่ในตอนนี้ถุงของมันถูกเย่จงหมิงฟันขาดไปแล้ว น้ำหนืดเหนียวสีเขียวไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ภายในนั้นมีนกนางแอ่นเลือดที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างกำลังดิ้นรนอย่างหนัก แต่ด้วยร่างกายที่ยังสร้างไม่เสร็จ ทำให้ความพยายามทั้งหมดของมันไร้ประโยชน์
ลำต้นหนาของต้นแม่ถูกผ่าครึ่งจนมองเห็นผลึกวิเศษสีเขียวที่อยู่ภายใน!
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีคำอธิบาย
ต้นแม่ของรังอเวจีผีนรกได้วิวัฒนาการหลังจากกลืนกินลูกชายคนโตของเป่าเกอ ซึ่งเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 3 ดาวลงไป จนเกิดการวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดจากระดับ 3 ไปเป็นระดับ 4 และทักษะความสามารถที่มีก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน ก๊าซหลอนประสาทของมันสามารถซึมซาบผ่านผิวหนัง ส่งผลกระทบต่อมนุษย์โดยไม่ต้องหายใจเข้าไป นี่คือสิ่งที่เกิดกับเย่จงหมิง
โชคดีที่เขาได้สติทันเวลา
เรื่องนี้ต้องโทษว่าเป็นความผิดของรังอเวจีผีนรกต้นแม่ที่กังวลที่จะฆ่าเย่จงหมิงมากเกินไป เมื่อมันควบคุมความคิดของเย่จงหมิงเพื่อสร้างภาพมายาจากความทรงจำ ผู้หญิงทั้งหมดจึงถูก ‘ผลิต’ ออกมา ถ้ามีเพียงเซี่ยเล่ยกับเหลียงชูหยิน บางทีทุกอย่างคงเป็นไปตามที่มันต้องการ แต่มันกังวลเกินไปเลยผลิตโม่เย่ออกมาด้วย สำหรับผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่นอน นี่จึงเป็นข้อบกพร่องเดียวที่เย่จงหมิงค้นพบและตื่นจากภาพมายาได้สำเร็จ
แม้ว่าจะใช้เวลาเพียงครึ่งนาทีสำหรับการมาที่นี่เพื่อสังหารรังอเวจีผีนรกเหล่านี้ แต่เวลาเพียงไม่กี่วินาทีตอนที่ตกอยู่ในภาพมายาก็ทำให้เย่จงหมิงถึงกับใจสั่น
เขาไม่กลัวที่จะต่อสู้กับศัตรูที่ทรงพลังอย่างนักฆ่ารัดคอ เพราะอย่างน้อยในตอนนี้เย่จงหมิงก็เป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 3 ดาวแล้ว ต่อให้พบชีวิตกลายพันธุ์ระดับ 4 เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้ได้อย่างแน่นอน แต่กลอุบายที่แปลกประหลาดและร้ายกาจนี้ทำให้เขากลัว สิ่งนี้ไม่มีใครสามารถป้องกันได้ ถ้าวันนี้เขาไม่ได้ ได้สติขึ้นมาเร็ว เขาก็จะถลำลึกเข้าไปในภาพมายา และจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ โดยนกนางแอ่นเลือดที่เพิ่งโผล่มา
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนการเก็บเกี่ยวครั้งนี้จะดีมากเช่นกัน
เย่จงหมิงรู้ว่า ก่อนที่ต้นแม่จะตาย มันได้เรียกนกนางแอ่นเลือดที่ไปโจมตีทีมเพลิงโกรธาแผดเผากลับมา เขาจึงรีบขุดผลึกวิเศษทั้งหมดที่มีอยู่ที่นี่ และขุดผลึกวิเศษระดับ 4 จากต้นแม่กับนำเอาวัตถุสีขาวชิ้นเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางรากของมันออกมา นี่คือแก่นของรังอเวจีผีนรกต้นแม่ ซึ่งมีเอฟเฟกต์พิเศษ
เวลานี้นกนางแอ่นเลือดทั้งหมดได้บินกลับมาแล้ว เมื่อพวกมันเห็นว่าต้นไม้ที่ใช้ขยายพันธุ์ถูกฆ่าตายทั้งหมด พวกมันก็กรีดร้องด้วยความโกรธและพุ่งเข้าจู่โจมเย่จงหมิง ทักษะจู่โจมคลื่นโซนิคทุกชนิดพรั่งพรูกันออกมา
เย่จงหมิงเตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว เขาเปิดใช้ทักษะการวิ่งของรองเท้าบู๊ทเหยียบโลหิตอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปที่บันไดของชั้นนี้ทันที แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากคลื่นเสียงจนทำให้ช้าลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงไม่มีอันตรายใดๆ
นกนางแอ่นเลือดเหล่านี้จะยอมปล่อยศัตรูไปได้อย่างไร พวกมันพุ่งเข้าโจมตีด้วยดวงตาที่แดงก่ำ แต่สิ่งที่มาทักทายพวกมันกลับเป็นรังสีโจมตีของเสียงคำรามของเครื่องจักรกล
ภายในบันไดแคบๆ การโจมตีแบบนี้มีกำลังทำลายล้างสูง
……
ที่ชั้นล่าง เป่าเกอกำลังหวาดกลัว สัตว์ประหลาดบินได้เหล่านี้น่ากลัวเกินไป ไม่ต้องพูดถึงจำนวนที่มีมาก พวกมันยังเร็วราวกับสายฟ้า แม้แต่ผู้วิวัฒนาการระดับ 2 ดาวอย่างเขายังตอบสนองไม่ทัน แค่พักเดียวก็มีสิบคนถูกฆ่าตาย นอกจากนี้ยังเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาวถึง 2 คน
ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตลงภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที เป่าเกอกำลังจะหนีแล้ว
แต่ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดบินได้เหล่านั้นก็บินจากไป และดูเหมือนว่าพวกมันกำลังโกรธจัด พวกมันทั้งหมดรีบบินกลับไปที่อาคารหลังนั้น
เมื่ออวิ๋นเส่ามาถึงก็เห็นเป่าเกอกำลังช็อค แล้วก็เห็นเย่จงหมิงส่งสัญญาณเรียก เมื่อกลุ่มคนเข้าไปในอาคาร เป่าเกอที่ยังคงสั่นเทาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าอีกครั้ง พืชประหลาดที่เคยเป็นฝันร้ายของเขาเหล่านั้น ถูกฆ่าตายหมด ซากศพของสัตว์ประหลาดบินได้ที่เพิ่งสร้างความสูญเสียให้กับทีมของเขาอย่างมากเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้น
อย่างไรก็ตามอวิ๋นเส่าไม่แปลกใจเลย ลูกพี่ของเขาฆ่าซอมบี้่ระดับ 4 ได้ตอนที่ยังเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 2 ดาว ตอนนี้เขาเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 3 ดาวแล้ว การสังหารต้นไม้ประหลาดที่มีวิวัฒนาการระดับเดียวกันได้มันแปลกตรงไหน? (ยังไม่มีใครรู้ว่าต้นแม่เป็นระดับ 4)
เป่าเกอตื่นเต้นขึ้นมาทันที รีบวิ่งไปที่ซากของต้นแม่ ยกขวานสงครามขึ้นจามใส่มันอย่างบ้าคลั่ง ลูกชายคนโตของเขาเสียชีวิตที่นี่ จะไม่ให้เขาแค้นได้อย่างไร
เมื่อเย่จงหมิงสั่งให้อวิ๋นเส่ารวบรวมผลึกวิเศษจากนกนางแอ่นเลือดเสร็จ เขาก็มาคอยเป่าเกอระบายความแค้นจนจบ หลังจากจบเรื่องเขาก็ยื่นกาแฟกระป๋องให้ชายวัยกลางคน
เป่าเกอปาดน้ำตา กระดกกาแฟเข้าปาก แล้วเม้มปากแน่นไม่พูดไม่จา
“ลูกพี่ ระดับหนึ่ง 338 ชิ้น ระดับสอง 18 ชิ้น”
อวิ๋นเส่านำผลึกวิเศษที่ได้มาส่งมอบให้เย่จงหมิง
“เอาระดับ 1 ทั้งหมดมอบให้เป่าเกอ”
พอได้ยินคำพูดของเย่จงหมิง บอกตามตรงเป่าเกอรู้สึกตกใจมาก การที่เขาสามารถล้างแค้นให้ลูกชายได้ในวันนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนเสียชีวิตไปเพียงสิบคน ต่อให้ตายมากกว่านี้เขาก็ยอมรับได้ เพราะเรื่องนี้มันไม่สำคัญอะไรเลย เมื่อพวกเขาออกล่าชีวิตกลายพันธุ์ระดับ 3 ยังมีคนตายมากกว่านี้เสียอีก บางครั้งพวกเขายังให้คนกินยาพิษแล้วปล่อยให้ซอมบี้ระดับ 3 กิน หรือไม่ก็ใช้ชีวิตมนุษย์เป็นเหยื่อล่อ หลอกล่อให้ชีวิตกลายพันธุ์ระดับ 3 เข้ามาสู่การซุ่มโจมตี หรือไม่ก็เผาทั้งตึก หรือบางครั้งก็บังคับให้ผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาวกระโดดลงไปในบ่อน้ำกรดที่รุนแรงของชีวิตกลายพันธุ์ระดับ 3
สิ่งเหล่านี้เป่าเกอเคยทำมาแล้วทั้งหมด ป่าเถื่อน? ใช่ อาจจะใช่ แต่นี่คือสิ่งที่เกือบทุกกองกำลังทำ มิฉะนั้นพวกเขาจะเอาอะไรไปฆ่าชีวิตกลายพันธุ์ระดับสาม?
วันนี้เขาโดนเย่จงหมิงบังคับให้มา เขาไม่เคยคิดว่าจะได้รับอะไรตอบแทน และต่อให้เย่จงหมิงเปิดอีกโฉมหน้า ***ขโมยผลงานมาจากเว็บ ThaiNovel*** เขาก็พร้อมทิ้งทุกอย่างหนีไปกับลูกชาย
เขามองผลึกวิเศษที่อวิ๋นเส่ามอบให้ด้วยความตกตะลึงอยู่ครึ่งค่อนวัน (นานมาก) ในใจกำลังพิจารณาว่า ชายหนุ่มผู้ทรงพลังมากผิดปกติคนนี้จะสังหารเขาหรือไม่ หากเขารับมันไว้
“การ์ดเชิญของคุณถูกกลุ่มนักรบคีลแย่งไปแล้ว เป่าเกอ ไม่รู้ว่าคุณสนใจไปเที่ยวงานนี้กับผมไหม?”
พูดจบ เย่จงหมิงก็หยิบการ์ดเชิญของเขาออกมา โบกไปมาตรงหน้าเป่าเกอที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
……
ถนนคนเดินเพื่อการพาณิชย์เป็นหนึ่งในย่านที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดใจกลางเมืองอิงเฉิง ในช่วงเวลาแห่งความสงบสุข ที่นี่แม้จะเป็นหลังเที่ยงคืนก็ยังเห็นคนเดินเตร็ดเตร่ไปมา
อย่างไรก็ตามยิ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นแบบนี้ หลังวันสิ้นโลก มันก็ยิ่งกลายเป็นสถานที่แห่งความตาย ด้วยจำนวนซอมบี้ที่มี มันได้ทำลายความหวังทั้งหมดของชีวิต
แม้กระทั่งตอนนี้ที่วันโลกาวินาศผ่านมาแล้วมากกว่าสองเดือน ซอมบี้ที่อยู่ที่นี่ยังคงหนาแน่น พวกมันเดินไปมาช้าๆ เหมือนผู้คนที่เดินเตร็ดเตร่อยู่ที่นี่ในตอนแรก
คราวนี้ทีมเหรินซิ่งกำหนดจุดนัดพบไว้ที่ดาดฟ้าของห้างสรรพสินค้าข้างถนนคนเดิน
หากปราศจากความแข็งแกร่ง ไม่ต้องพูดถึงการมาที่นี่ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้ามาใกล้ที่นี่ได้
ตอนนี้ ผู้นำเกือบทุกกองกำลังที่ทรงอำนาจที่สุดในอิงเฉิง ได้มารวมกันที่นี่แล้ว!
