Ep.1006 - ผู้ใช้อบิลิตี้ 9 ธาตุระดับเทวะ
Ep.1006 - ผู้ใช้อบิลิตี้ 9 ธาตุระดับเทวะ
ฉินเฟิงดึงสติตัวเองกลับมา นี่ไม่ใช่เวลาคิดเหม่อลอย สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้ คือการดูดซับรูนที่อยู่ตรงหน้า มุ่งสมาธิไปกับการเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของตัวเอง
ตูมมม! ลาวาปะทุขึ้นมาจากพื้นดิน กระแทกเข้าใส่ร่างฉินเฟิง
ลาวาหนืดที่นี่ แม้ให้ความรู้สึกร้อนแผดเผา แต่มันไม่สามารถทำอะไรฉินเฟิงได้ ดังนั้นจึงเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน พยายามขับไล่เขา
อักษรรูนที่กำลังดิ้นรนไม่ให้ถูกดูดกลืนเหล่านี้ ได้ระบุว่าฉินเฟิงคือสิ่งแปลกปลอม เป็นปรปักษ์กับพวกมัน เสมือนดั่งหยดน้ำลงบนกระทะน้ำมัน ตอนนี้เลยแตกตัว ระเบิดอย่างสิ้นเชิง
“เทคนิคกายาอัคคี!”
ทั้งคนทั้งร่างของฉินเฟิงค่อยๆเปลี่ยนไป กลายเป็นมนุษย์เพลิง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเข้ากับลาวารอบๆ
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ปฏิกิริยาต่อต้านของลาวาไม่รุนแรงเช่นเดิมอีกต่อไป เปิดโอกาสให้ฉินเฟิง
“พลังพิเศษดูดกลืน!”
ลาวาหนืดที่อยู่เบื้องหน้าเขาถูกสูบกลืน แก่นอบิลิตี้ไฟเริ่มขยายขนาด เพิ่มพูนความแข็งแกร่งทีละเล็ก ทีละน้อย
“ฉันขอตัวไปทางนั้นนะ!” ไป๋หลีกล่าว กระโจนลงไปท่ามกลางสายธารสีเงิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของอักษรรูนมิติ
ก่อนหน้านี้ไป๋หลีก็ดูดซับอักษรรูนมิติจากภายนอกเช่นกัน แต่กระแสรูนมิติที่เล็ดลอดออกมาในโลกมนุษย์มันมีน้อยเกินไป ทำให้ไม่ค่อยส่งผลอะไรกับเธอนัก ทว่าตอนนี้มันต่างออกไป อักษรรูนจำนวนมหาศาลเหล่านี้ มีค่ากับเธอมาก
ตงหยางที่อยู่ท่ามกลางอักษรรูนสีฟ้า ก็พบเจอปัญหาเดียวกับฉินเฟิงเช่นกัน แต่เขาแทบจะไม่สามารถต้านทานอำนาจขับไล่ของมันได้ ช่วงเวลานี้ เมื่อพลังสมาธิของเขารับรู้ถึงการกระทำของฉินเฟิง ในที่สุดเจ้าตัวก็พบวิธีแก้ปัญหา เริ่มปลดปล่อยเทคนิค เปลี่ยนร่างตัวเองเป็นน้ำ ผสานกลมกลืนเข้ากับอักษรรูนสีฟ้า แล้วค่อยๆดูดซับมัน
กระนั้น แม้แรงต้านทานลดลง แต่อักษรรูนเหล่านั้นยังคงอาละวาด ตงหยางใช่ว่าจะปลอดโปร่งโล่งสบายเหมือนฉินเฟิง เขายังต้องใช้ความพยายามอยู่บ้าง
ณ จุดนี้ กลางแอ่งลาวา ทั้งตัวฉินเฟิงจมหายลงไป แช่อยู่ภายใต้มัน ขณะเดียวกัน กระแสวังวนที่อยู่ตรงระหว่างคิ้วของเขาเริ่มหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ แอ่งลาวาที่เคยสงบ เริ่มม้วนเป็นวง ค่อยๆไหลเข้าไปในหว่างคิ้วของฉินเฟิง
ใช้เวลาไม่ถึงสามนาที แอ่งลาวาหนืดรอบกายในรัศมี 300 เมตร ได้ถูกฉินเฟิงเขมือบสิ้น ทั้งหมดไหลเข้าไปผนึกรวมกันกับแก่นอบิลิตี้ธาตุไฟของเขา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 ซม.
เนื่องจากลาวาหนืดถูกสูบกลืนไป ทำให้บริเวณที่ซึ่งเดิมเคยเป็นแอ่งลาวา ตอนนี้เหลือแค่อักษรรูนบางๆ กลายเป็นพื้นที่สูญญากาศ
ทันใดนั้นเอง ฉินเฟิงก็สัมผัสได้ถึงการรุกรานจากพลังงานอันรุนแรงของจักรวาล
กร๊อบ ..!
กระดูกของฉินเฟิงถูกกดดันโดยพลังงานที่บ้าคลั่ง สะท้อนเสียงดังลั่น หากเป็นคนอื่น บางทีกระดูกอาจแหลกไปทั้งตัวแล้ว แอ่งลาวานี้อันตรายแน่นอน แต่พลังงานอันบ้าคลั่งของจักรวาล น่ากลัวยิ่งกว่าดินแดนอักษรรูนนี้เสียอีก
“ก้าวทะลวงมิติ!” ฉินเฟิงดีดผึงด้วยความเร็วสูง ทะยานหนีจากพื้นที่สูญญากาศเข้าไปในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้
และมันคือดินแดนที่เต็มไปด้วยรูนสีเขียว ที่ตงหยางเคยประสบเมื่อก้าวเข้าสู่มิตินี้ในตอนแรก แต่ที่กล่าวมามันแค่ตำแหน่งริมขอบเท่านั้น ตงหยางมาถึงก็ถูกเถาวัลย์เข้าพัวพัน เกือบจะถูกเหวี่ยงออกไปนอกมิติ
เมื่อฉินเฟิงเข้ามา ณ เวลานี้ ป่าแห่งนี้ได้ปลดปล่อยหมอกพิษหนาทึบ สารพิษนั้นเทียบเท่าได้เลยกับเทคนิคของผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล S
“เทคนิคกายาพฤกษา!”
ฉินเฟิงเปลี่ยนร่างเป็นไม้ในพริบตา กลายเป็นรูปลักษณ์ของต้นไม้ใหม่ เริ่มดูดกลืนอักษรรูน
แต่ในช่วงเวลานั้นเอง ภายในรอยแยกมิติ หลายคนได้ปรากฏตัวขึ้น
และผู้มาเยือนคนแรกกลับเป็นคนคุ้นเคยอย่างไม่คาดฝัน
เทพสายฟ้าโอโบรัน
จากนั้น ผู้ใช้อบิลิตี้คนอื่นๆ คนแล้วคนเล่าเริ่มทยอยกันปรากฏตัว พวกเขาตกลงไปในดินแดนอักษรรูนธาตุต่างๆ บ้างติดหล่มจมลึกลงไป ต้องพยายามดิ้นรนออกมา ขณะที่บางคนโชคดี ตกลงไปในดินแดนรูนธาตุเดียวกับที่ตนครอบครองพอดีเลยสบายหน่อย
โชคดีที่คนเหล่านี้มิใช่ตัวตนอ่อนแอ พวกเขาจึงไม่ตายง่ายๆ
ในระหว่างนั้นเอง มีผู้ใช้อบิลิตี้คนหนึ่งได้เข้ามายังพื้นที่ที่ฉินเฟิงอยู่
แต่แล้วในวินาทีต่อมา อีกฝ่ายมองมายังต้นไม้ใหญ่ที่ฉินเฟิงกลายร่างด้วยความตกใจ
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไปฝึกฝนตัวเองเสีย” พลังสมาธิของฉินเฟิงถ่ายทอดออกไป ผู้แวะมาเยี่ยมเยียนมิใช่ใครอื่น เป็นเทพวูดู
“ขอรับนายท่าน!”
เทพวูดูรีบตอบกลับผ่านพลังสมาธิด้วยความเคารพ ป่าผืนนี้อย่างไรก็กว้างขวาง หากมีสักสองคนแบ่งกันดูดซับคงไม่เป็นไร
หลังจากที่เทพวูดูจากไป ผู้ใช้อบิลิตี้คนอื่นๆก็มาถึง แม้ทุกคนจะเห็นว่าฉินเฟิงเป็นมนุษย์ที่ใช้เทคนิคกายาพฤกษา แต่ก็ไม่มีใครกล่าวทักทาย ตรงกันข้าม ทั้งหมดกลับเลียนแบบเขา พยายามดูดซับอักษรรูนที่นี่
ฉินเฟิงพอเห็นแบบนั้น เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกไม่พอใจที่คนแปลกหน้ารุกล้ำดินแดนของเขา จำเป็นต้องเข้าไปสำรวจในตำแหน่งที่ลึกกว่าเดิม!
เพราะเวลานี้ เอาจริงๆคนที่เข้ามายังมิติแห่งนี้ มีมากถึง 30 คนแล้ว
ต้องรู้นะว่า ถ้าเราคำนวณโดยอ้างอิงจากจำนวนพลของผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล S ปัจจุบันผู้มาเยือน สามารถนับได้เลยว่าเป็นจำนวนถึง 1 ใน 4 ของผู้ใช้อบิลิตี้ในพันธมิตรมนุษย์ของโลกใบนี้ แน่นอน บางคนที่มาก็ยังเป็นสมาชิกของพันธมิตรองค์กรมืดเช่นกัน
ซึ่งมันมากเกินไป!
“จ้าวพรมแดนตง ผมคิดว่าจะมุ่งหน้าลึกเข้าไป คุณสนใจจะมาด้วยกันไหม?”
จริงๆในใจฉินเฟิงมีคำตอบอยู่แล้ว ตงหยางต้องตอบปฏิเสธอย่างแน่นอน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตงหยางตอบกลับมาผ่านพลังสมาธิว่า “คุณไปเถอะ แค่บริเวณนี้ฉันก็เหนื่อยจะรับมือแล้ว ขออยู่ที่นี่ดีกว่า อีกอย่าง ยิ่งอยู่ใกล้รอยแยกมิติเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัย จะได้ถอนตัวกลับมิติเดิมได้ตลอดเวลา หลบลี้จากอันตรายได้ทุกเมื่อ … ฉินเฟิง ถ้าคุณจะไปจริงๆโปรดระมัดระวังตัวให้มาก!”
“เข้าใจแล้ว!”
หลังจากสอบถามตงหยาง ฉินเฟิงได้มองไปยังทิศทางของไป๋หลี อักษรรูนสีเงินรอบบริเวณที่เธออยู่ ถูกดูดซับไปหมดแล้ว ความเร็วไปในการดูดซับของไป๋หลี เรียกได้เลยว่าแทบจะเทียบเท่ากับฉินเฟิง
นี่ไม่ใช่เพราะไป๋หลีมีพลังพิเศษดูดกลืน แต่เพราะไป๋หลีมีพื้นที่มิติเป็นของตัวเอง จึงสามารถกักเก็บอักษรรูนเอาไว้ในนั้น แล้วค่อยมาดูดซับในภายหลังได้ ดังนั้นสิ่งที่เธอทำ คือแค่นำพวกมันออกไป เร่งความเร็วให้ทันฉินเฟิง
“ไป๋หลี พวกเราไปที่อื่นกันต่อเถอะ”
“จะไปเดี๋ยวนี้!”
ร่างไป๋หลีกะพริบไหว มาโผล่ข้างกายฉินเฟิงในพริบตา จากนั้นมุ่งหน้าไปตามกระแสการเคลื่อนไหวของโลกมวลหมู่ดาวรูน เลือกตำแหน่งที่มีอักษรรูนอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ฉินเฟิงครอบครองเก้าธาตุอบิลิตี้ หากไม่นับธาตุแสง สถานที่อื่นๆล้วนสามารถดูดกลืนมันได้ทั้งสิ้น ส่วนไป๋หลีก็ออกไปไล่เก็บรูนมิติอีกครั้ง ในโลกใบนี้ ไป๋หลีสามารถเดินเหินไปไหนมาไหนอย่างมีความสุข ไม่มีสิ่งใดกีดขวางเธอได้!
เปรี้ยงงง! ฉินเฟิงกระโจนลงมาท่ามกลางดินแดนสายฟ้า บังเกิดเสียงระเบิดดั่งชนวนถูกจุด ฉินเฟิงเปลี่ยนร่างกลายเป็นเทพแห่งสายฟ้า กระแสวังวนผุดขึ้นระหว่างคิ้วเขา
คราวนี้ ไม่คิดออมมือใดๆ ใช้เวลาเพียงสามชั่วโมง สระสายฟ้าแห่งนี้ก็ถูกฉินเฟิงกลืนกินไปสิ้น
พลังพิเศษดูดกลืนจะแข็งแกร่งตามแก่นอบิลิตี้ธาตุมืดของฉินเฟิง ดังนั้นอักษรรูนเหล่านี้ สามารถดูดซับได้อย่างง่ายดาย
“แค่นี้ยังไม่พอหรอก!”
ฉินเฟิงกระโจนเข้าไปสู่ดินแดนโลหะอีกตำแหน่งหนึ่ง โลหะจำนวนนับไม่ถ้วนบิดเป็นเกลียว ก่อรูปเป็นดาบ ฟาดฟันคลุ้มคลั่งหมายสังหารฉินเฟิง
ทว่าดาบเหล่านี้ ไม่อาจทำอะไรเขาได้เลย สุดท้ายพวกมันก็ถูกดูดซับไป
ตูมมมม!
บรึ้มมมม!
ฉับบบบ!
ปฏิกิริยาขับไล่ผู้รุกรานต่างๆระเบิดเสียงออกมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฉินเฟิงสามารถดูดซับรูนได้มากขึ้นเรื่อยๆ แก่นอบิลิตี้ธาตุต่างๆของเขา ก็ยิ่งขยายขนาดขึ้น
หนึ่งวันให้หลัง นอกจากแก่นอบิลิตี้มืดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร และดาวเคราะห์น้ำแข็งขนาด 10 ซม.ตั้งแต่แรกแล้ว ดาวเคราะห์อื่นๆอีก 7 ดวง ทั้งหมดได้ขยายขนาดเป็น 10 ซม.
ซึ่งเท่ากับว่า อบิลิตี้ธาตุอื่นๆของฉินเฟิง ได้เหยียบย่างเข้าสู่ระดับเทวะ!!
การยกระดับนี้ ช่างน่าอัศจรรย์ใจ
แต่ในช่วงเวลานั้นเอง พลังสมาธิสายหนึ่งได้ถ่ายทอดเข้ามาถึงตัวฉินเฟิง
“เหตุใดอักษรรูนที่นี่จึงเบาบางนัก?”
พลังสมาธิของฉินเฟิงได้เข้าตรวจสอบอีกฝ่าย และค้นพบผู้มาเยือนทันที
ที่แท้เป็นผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล SS อีกคนหนึ่ง!