ตอนที่แล้วEp.1000 - พรสวรรค์อันน่าตกตะลึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1002 - เลเวล SS จากองค์กรมืด

Ep.1001 - ความปรารถนาเล็กๆของเจียวหลินฮาน


Ep.1001 - ความปรารถนาเล็กๆของเจียวหลินฮาน

ทางฝั่งฉินเฟิง เขาไม่ได้สนใจคนอื่น ตั้งหน้าตั้งตาดูดกลืนอักษรรูนเข้าตัว

สำหรับรูนน้ำเขาไม่ได้ดูดกลืน เพราะอยากเปิดโอกาสให้ตงหยางบ้าง มันจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อการยกระดับของตงหยาง

อย่างไรก็ตาม การกระทำของเขา สำหรับทั้งตงหยางและเจียวหลินฮาน มันกลับเป็นการเบิกเนตร ทำลายความรู้ความเข้าใจที่มีของทั้งสอง!

ผลพวงที่เกิดจากการดูดกลืนรูนของฉินเฟิง ร้ายแรงกว่าตงหยางมาก อย่าลืมนะว่าท่ามกลางมหาสมุทรนี้ มิใช่ว่าสัตว์ร้ายทุกตัวจะคิดหลบหนี บางตัวหากถูกกระตุ้น ก็พร้อมสร้างปัญหาเช่นกัน

ณ เวลานี้ ภาพอันงดงามดั่งดวงไฟอันเฉิดฉาย ได้ปรากฏขึ้นบนผิวน้ำทะเล

“สายพันธุ์แมงกะพรุน! แถมยังเป็นจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล S !” เจียวหลินฮานหัวใจหล่นวูบ

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา หากต้องเผชิญกับนายพลสัตว์ร้ายเลเวล S ย่อมไม่หวั่นเกรง ทว่าสำหรับการดำรงอยู่ระดับราชันย์สัตว์ร้ายขึ้นไป เขาไม่สามารถรับมือ

อย่างไรก็ตาม เจียวหลินฮานเองก็คาดไม่ถึงว่าสัตว์ร้ายในมหาสมุทรจะน่ากลัวขนาดนี้ เพราะอย่างน้อยบนบก แม้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่สิ่งมีชีวิตในระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล S ยากนักที่จะปรากฏตัว

สิ่งมีชีวิตเช่นนี้บุกเข้ามา ทำให้ร่องรอยของความหวาดกลัวเริ่มผุดขึ้นในหัวใจของเจียวหลินฮาน

เจ้าตัวคิดว่าสมควรจะหนีไปเลยดีหรือไม่?

ส่วนตงหยาง เวลานี้เขายังไม่รู้ตัว เจ้าตัวไม่สามารถมุ่งสมาธิไปกับหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกันได้ เรื่องของสัตว์ร้ายปล่อยให้คนอื่นจัดการ

“ไป๋หลี ไปช่วยพวกเขาด้วย” ฉินเฟิงสื่อสารผ่านจิตวิญญาณกับไป๋หลี ตัวเขาแม้อยู่ในระหว่างกระบวนการยกระดับเช่นเดียวกัน แต่ระดับความอันตรายแตกต่างกับตงหยางอย่างสมบูรณ์

ตงหยางใช้พลังสมาธิทั้งหมดของเขา พยายามเรียนรู้ ทำความเข้าใจอักษรรูนเบื้องหน้า หากเกิดกรณีที่การตัดผ่านสู่เลเวล S ล้มเหลว ระดับพลังสมาธิของตงหยาง จากในเลเวล A9 อาจตกลงเหลือ A5 กระทั่งอาจเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้

แต่ฉินเฟิงน่ะต่างออกไป พลังสมาธิของเขาได้มาเหยียบในขอบเขตเลเวล S แล้ว หรือกล่าวว่าเขาเคยมีประสบการณ์ตัดผ่านสู่เลเวล S มาก่อน อีกอย่างอักษรรูนในสถานะของเหลวพวกนี้ เมื่อเทียบกับการตัดผ่านโดยใช้อักษรรูนสถานะของแข็งอย่างพวกศิลาศักดิ์สิทธิ์แล้ว มันง่ายกว่ามาก แทบไม่รู้สึกกดดันเลย

“ได้สิ!” ไป๋หลีไม่คัดค้าน ร่างเธอกระพริบไหวไปปรากฏกายขึ้นกลางทะเล

ช่วงเวลาต่อมา น้ำทะเลในบริเวณเดียวกันกับที่เกิดแสงเฉิดฉายเริ่มผุดเป็นฟอง บ่งบอกว่าในตำแหน่งดังกล่าวกระจายไปด้วยพิษร้าย ดูเหมือนว่าจักรพรรดิแมงกะพรุนจะสังเกตเห็นการปรากฏตัวของไป๋หลี เลยดีดตัวขึ้นมาบนผิวทะเล สาดแสงจรัสไปทุกทิศทาง

จุดแสงสว่างจากตัวมัน ปกคลุมล้อมรอบไป๋หลี

มีกระทั่งอักษรรูนพิษที่เริ่มร่ายระบำ ก่อตัวเป็นเขตแดน สำหรับคนที่ตกอยู่ข้างใน ถูกพันธนาการสิ้น ไร้หนทางหลบหนี

“เธอไปทำอะไรที่นั่นกัน? หาที่ตายชัดๆ” เจียวหลินฮานเกิดความลังเล ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า เขาคาดไม่ถึงว่าจู่ๆไป๋หลีจะหุนหันพลันแล่นเช่นนี้

เนื่องจากมีความสนใจในตัวฉินเฟิง ดังนั้นเจียวหลินฮานพอจะทราบสถานะของไป๋หลีอยู่บ้าง ว่าเธอคือสัตว์ยักษ์มิติแสนหายากที่เปลี่ยนร่างมาอยู่ในรูปลักษณ์ของมนุษย์ แต่เอาจริงๆ ลึกๆในใจของเจียวหลินฮาน เขาคิดว่าไป๋หลีเป็นเพียงสัตว์ร้ายเลเวล S ระดับสามัญเท่านั้น ที่รอดตัวมาได้ถึงทุกวันนี้ เกรงว่าคงเป็นเพราะอบิลิตี้มิติซะส่วนใหญ่

แต่ครั้งนี้ ที่เธอกำลังยั่วยุคือจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล S กระโจนออกไปเช่นนั้นไม่ใช่แส่หาที่ตายหรือ?

อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าไป๋หลีเป็นสัตว์ยักษ์มิติ บางทีเธออาจพอถ่วงเวลาได้บ้างก็ได้

“มิสไป๋ ถ้ายังไงช่วยล่อจักรพรรดิสัตว์ร้ายตัวนี้ออกไป--”

ไม่ทันจบประโยค เจียวหลินฮานก็ต้องตกตะลึงกับฉากเบื้องหน้า

ตามร่างของไป๋หลี ผุดพรายไปด้วยเส้นด้ายที่ถูกถักทอด้วยสีเงิน และเส้นด้ายแต่ละเส้น ยามปลิวไสวล้วนกรีดอากาศที่ว่างเปล่า สร้างรอยแยกมิติขึ้น

ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบบบ!

ตำแหน่งที่เกิดรอยแยกมิติ เสมือนดั่งพายุทอร์นาโดหมุนวน สับสะบั้นจุดแสงแมงกะพรุนรอบกายไป๋หลี

แมงกะพรุนยักษ์ถูกตัดกลายเป็นฟิล์มใส มิอาจต้านทานใดๆ เนื้อโดนแล่กลายเป็นชั้นบางๆ เทคนิคเขตแดนของมันถูกทำลายทันที

ภาพตรงหน้าไม่ต่างจากที่ฉินเฟิงคาดไว้ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของไป๋หลีในปัจจุบัน ต่อให้เธอต่อกรกับราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล SS ก็ยังพอรับมือไหว นับประสาอะไรกับศัตรูในระดับต่ำกว่า

แม้ฉินเฟิงไม่แปลกใจ ทว่าเจียวหลินฮานไม่คิดเช่นนั้น

‘สัตว์ยักษ์มิติตัวนี้ แข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวหรือ? ’

เจียวหลินฮานสูดหายใจลึก ก่อนหันมาสำรวจไป๋หลีอย่างจริงจัง ไม่มองเธอเป็นแค่สัตว์ยักษ์มิติธรรมดาๆอีกต่อไป

‘ถ้าได้ทำสัญญากับสัตว์ร้ายเช่นนี้บ้าง ทรัพยากรใดที่ต้องการ ฉันคงสามารถคว้ามันมาได้!

‘ฉินเฟิงคนนี้ ช่างโชคดีซะจริงๆ’

ในสายตาของเจียวหลินฮาน ปรากฏร่องรอยของความริษยา หางตาเบนมองฉินเฟิงบนท้องฟ้า ทันใดนั้นในหัวใจเกิดความคิด ว่าระหว่างอีกฝ่ายไม่มีสมาธิ ตนจะสามารถล่อลวงเด็กสาวตรงหน้าได้หรือไม่?

ไป๋หลีใช้เวลาไม่นานนัก ก็สามารถกำจัดตัวปัญหาอย่างสัตว์ยักษ์ได้ แมงกะพรุนเป็นจักรพรรดิเลเวล S ดังนั้นสินสงครามจากมันมีแก่นอบิลิตี้ให้ฉินเฟิง แม้แมงกะพรุนจะมีพิษ แต่ก็ล้วนเป็นพิษทางจิต หรือก็คือเกิดจากพลังสมาธิ ในส่วนแก่นอบิลิตี้ของมัน บริสุทธิ์ผุดผ่องมาก ประกอบไปด้วยพลังสมาธิมหาศาล เหมาะแก่การให้ไป๋หลีดูดซับ

ไป๋หลีกอดแก่นอบิลิตี้ กัดแทะมันด้วยความปิติยินดี ร่างของแมงกะพรุนค่อยๆละลาย ไม่สามารถเก็บรวบรวมเป็นวัตถุดิบได้ ขณะเดียวกันสารพิษในตัวมันกระจายออกไป ดังนั้นในระยะเวลาอันสั้น คาดว่าไม่น่าจะมีสัตว์ทะเลบุกมาโจมตี

เจียวหลินฮานคว้าโอกาสนี้ ก้าวเข้ามาเอ่ยกับไป๋หลี

“มิสไป๋ คุณชอบกินแก่นอบิลิตี้สัตว์ร้ายงั้นหรือ?” เจียวหลินฮานสอบถาม หากเธอชอบกิน เขาจะมอบแก่นอบิลิตี้สัตว์ร้ายสักสองสามก้อนให้ไป๋หลี แลกกับการยกเลิกพันธสัญญากับฉินเฟิง และให้มาทำสัญญากับตัวเขา นี่ช่างเป็นแผนการที่ฉลาดยิ่งนัก

ไป๋หลีเหลือบมองเจียวหลินฮาน เวลานั้นเจียวหลินฮานประสานสายตากับไป๋หลี คู่ดวงตาของเธอ จริงๆแล้วเป็นสีเงิน ไม่เพียงเท่านั้น ทว่าภายในดวงตามันราวกับมีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราในจักรวาล คล้ายสามารถมองทะลุใจคน

ไป๋หลีกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ใช่ ฉันจำเป็นต้องใช้เจ้าสิ่งนี้เพื่อยกระดับ แต่ปกติแล้วฉันมักขี้เกียจเกินกว่าที่จะออกไปล่าพวกมัน โชคดีที่มีฉินเฟิงคอยหามาให้ คิดว่าน่าจะต้องใช้แก่นอบิลิตี้เลเวล S ซัก … สองสามพันก้อนล่ะมั้ง ฉันถึงสามารถตัดผ่านขึ้นเป็นเลเวล SS ได้”

รอยยิ้มบนใบหน้าที่ที่เคยปิติยินดีของเจียวหลินฮานพลันกลายเป็นแข็งทื่อ

แก่นอบิลิตี้เลเวล S หลายพันก้อน? ถ้าสามารถหามาได้ขนาดนั้น เจียวหลินฮานคงไม่มอบให้ไป๋หลี แต่ใช้มันกับตัวเอง ปิดด่านฝึกตนสักสิบหรือยี่สิบปี เพื่อเข้าสู่เลเวล SS เองไม่ดีกว่าหรอ!

เจียวหลินฮานกัดฟัน เขาเดาว่าไป๋หลีต้องอ่านความคิดของเขาออกแล้วแน่ๆ เลยเป็นเหตุให้เอ่ยปากเช่นนั้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า หากคิดตัดผ่านขึ้นสู่เลเวล SS มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายกันบ้าง! แต่ฉินเฟิงไม่น่าจะแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น เขาคงไม่เข้มแข็งพอที่จะช่วยคุณล่าสัตว์ร้ายจำนวนมากได้” เจียวหลินฮานกล่าว

เขายังคงไม่ยอมแพ้ รู้สึกว่าไป๋หลีแค่จงใจพูดแบบนั้น เพราะในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรที่ฉินเฟิงหรือไป๋หลีหามาได้ เกรงว่าทั้งหมด สุดท้ายคงตกเป็นของฉินเฟิง

เพราะคงไม่มีใครโง่ ประมาณว่าเมื่อได้ทรัพยากรมหาศาลมา แต่ดันไปมอบให้สัตว์ร้ายพันธสัญญาหรอก

“ไม่นะ ค่าใช้จ่ายที่ว่านั่นฉินเฟิงเป็นคนจ่ายทั้งหมด! เขาแข็งแกร่งมาก อีกอย่างแค่ฆ่าเลเวล S สักคนสองคน ก็น่าจะได้ทรัพยากรจำนวนมากมาไว้ในมือแล้ว” ไป๋หลีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฮี่ฮี่ แต่คุณไม่ต้องกังวลไป เพราะฉินเฟิงฆ่าแค่คนจากองค์กรมืดเท่านั้น สำหรับคนของพันธมิตรมนุษย์ ถ้าไม่ยั่วโมโหเขา เขาจะไม่ลงมือ”

เจียวหลินฮานรู้สึกได้ ว่าประโยคช่วงท้ายของไป๋หลี ส่อเจตนาคุกคามอย่างรุนแรง

มันคือการข่มขู่อย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงความสามารถในการต่อสู้ของไป๋หลีเมื่อครู่ เจียวหลินฮานก็ตัดสินใจว่าขอทนไปก่อน

“อา! ฝั่งนั้นเหมือนจะมีสัตว์ทะเลปรากฏตัว ฉันขอไปตรวจสอบดูก่อน”

ไป๋หลียิ้มเยาะในใจ ขณะเดียวกันสื่อสารทางจิตวิญญาณกับฉินเฟิง

“ตอนนี้พูดความจริงไปก็ไม่มีใครเชื่อ”

“อย่าอารมณ์เสียเลย เพราะเขาอ่อนแอเกินไป ดังนั้นเลยไม่เข้าใจมุมมองของผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่เหนือกว่าตัวเอง” ฉินเฟิงกล่าว

ตอนนี้ฉินเฟิงค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ สามารถสังเกตได้ว่า อบิลิตี้ต่างๆที่เมื่อก่อนกว่าจะใช้ได้ช่างยากเย็น เวลานี้กลับปลดปล่อยได้อย่างง่ายดาย

ตราบใดที่ความแข็งแกร่งมาถึงจุดหนึ่ง เส้นทางในอนาคตจะเริ่มง่ายขึ้น ง่ายขึ้นเรื่อยๆ

อย่างน้อยอะไรที่ในสายตาคนอื่นๆเห็นว่ายาก ในมุมมองของฉินเฟิง ตราบใดที่มีโอกาส เพียงเอื้อมมือเขาก็สามารถคว้ามันมาครอบครองได้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด