ตอนที่11 เล่นชู้
ตอนที่11 เล่นชู้
จ้าวเฉียนมาถึงโรงแรมเชอราตันภายในเวลาอันสั้น หยางหู่รออยู่ที่หน้าโรงแรมรออยู่แล้ว
หลังจากจอดรถ จ้าวเฉียนก็รีบเดินตรงไปหาหยางหู่ทันที
ทางด้านหยางหู่ที่เห็นอีกฝ่ายก็รับกล่าวทักทายอย่างสุภาพขึ้นว่า
“เจ้านั้นอยู่ที่ห้อง608ยังไม่ลงมากันเลย”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและเอ่ยถามขึ้นว่า
“ถ้างั้น พี่หู่พอจะมีวิธีเข้าไปได้ไหม?”
“ง่ายเรียกพี่เลยครับ พอดีผมรู้จักกับผู้จัดการของโรงแรมแห่งนี้ สนิทกันไม่น้อย ดังนั้นพวกเราจึงสามารถเข้าไปทักทายเจ้านั่นได้ตลอดเวลา”
“ดี งั้นไปทักทายเจ้านั่นให้หายคิดถึงกันหน่อย”
หยางหู่พนักหน้าและโทรหาผู้จัดการโดยไว
หลังจากนั้นไม่นาน ชายในชุดสูทสีเทาพร้อมเน็ตไทสีน้ำเงินตัดกันอย่างสวยงามก็รีบวิ่งเข้ามาหา
เขาพูดกับหยางหู่พร้อมสีหน้าอันยิ้มแย้มว่า
“พี่หู่ วันนี้มาเข้าพักเหรอครับ?”
หยางหู่โบมือปัดตอบว่า
“ฉันจะไปมีเวลาพักได้ไง นี่ไม่ได้มาเล่น พอดีมีธุระกับคนในห้อง608 พอจะช่วยได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหาครับ ตามผมมาทางนี้เลย!”
หยางหู่พยักหน้าตอบและกวาดมือเรียนเชิญให้จ้าวเฉียนเดินออกไปก่อน แล้วตัวเองค่อยติดตามรั้งท้าย
ผู้จัดการโรงแรมคนนั้นตกใจอย่างมาก ภูมิหลังของชายหนุ่มคนนี้ดูท่าจะไม่ธรรมดา?
เพราะอะไรถึงคิดแบบนั้นน่ะรึ? ก็แม้แต่พี่หยางหู่ยังต้องให้เกียรติเขา!
ผู้จัดการคนนั้นรีบหยิบนามบัตรประเคนให้จ้าวเฉียนด้วยมือทั้งสองข้าง และพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มประจบว่า
“นายท่านไม่ทราบว่ามีชื่อว่าอะไร ผมชื่อหวางหมิง หากต้องการอะไรเรียกใช้ผมได้ตลอดนะครับ!”
หยางหู่รีบคว้านามบัตรของอีกฝ่ายมาและพูดกับหวางหมิงว่า
“ฉันจะกำหนดเองว่าใครบ้งาที่ควรแนะนำให้นายรู้จัก สำหรับบางคนที่ฉันไม่แนะนำให้รู้จัก นายคงเข้าใจใช่ไหมว่าฉันว่าถึงอะไร?”
หวางหมิงรับยิ้มตอบและขอโทษทันที เขาเดินนำทางออกไปต่อ
หยางหู่โยนนามบัตรของหวางหมิงทิ้งลงในถังขยะใกล้มือ และกล่าวขอโทษกับจ้าวเฉียน
จ้าวเฉียนยิ้มให้เล็กน้อย แสดงท่าทีให้เห็นว่า เขาไม่ได้ถือสาอะไร
แต่กระนั้น หยางหู่ยังคงบ่นถึงหวางหมิงว่าเขาเป็นคนแบบไหน และมีคุณสมบัติขนาดไหนกัวเชียวที่จ้าวเฉียนควรจะไปรู้จักด้วย?
ในไม่ช้า กลุ่มของพวกเขาก็ตรงมาถึงหน้าห้องพักหมายเลข608 ทันทีหวางหมิงเปิดประตูกลุ่มคนของหวางหู่ก็พุ่งเข้าไปในห้องทันที
“กรี๊ดดด!”
“พวกแกเป็นใครวะ! มาทำอะไรนี่ที่?!”
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังลั่น คล้อยตามมาด้วยเสียงอุทานด้วยความโกรธจัดของผู้ชาย
คนของหยางหู่เข้าปิดล้อมรอบเตียงขนาดคิงไซส์ และเริ่มถ่ายภาพอัดวิดีโอด้วยกล้องมือถือ ทันทีที่เห็นว่าเป็นจ้าวเฉียน เฉินซิงก็รีบหยิบเสื้อผ้ามาพัดรอบตัวโดยเร็ว และวิ่งออกไปซัดไอ้เวรนี่สักหมัด
แต่เป็นน้องชายคนเล็กของหยางหู่ที่ตรงออกมาขวาง และจับเฉินซิงหักแขนและกดร่างอีกฝ่ายอัดกระแทกพื้นอย่างแรง
เฉินซิงที่ถูกหักแขนค้างอยู่ท่านั้นก็กรีดร้องระงมด้วยความเจ็บปวด
“เจ็บเจ็บเจ็บ! ฉันไม่ขยับแล้ว ฉับไม่ขยับแล้ว ช่วยคลายออกหน่อยเถอะ...”
จ้าวเฉียนไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ จึงเอ่ยปากถามไปตรงๆ ว่า
“ฉันจะถามแกแค่ครั้งเดียว ทำไมถึงยกเลิกการร่วมมือ รวมไปถึงเรื่องแผนงานที่ผิดพลาดนั้น ฉันว่าสองเรื่องนี้ควรจะเกี่ยวข้องกันจริงไหม?”
เฉินซิงที่หน้าแนบกับพื้นแน่น พยายามเหลียงมองไปยังกล้องมือถือที่รายล้อมรอบตัวเขา ทีแรกยังดูลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยอมคลายความจริงออกมา
“เจวียงหยวนชวนฉันไปทานอาหารและยังพาไปอาบอบนวด โดยขอให้ฉันปฏิเสธแผนงานที่นายแก้มาให้ และยกเลิกความร่วมมือระหว่างบริษัท เพราะคิดว่ายังไงสังคมภายในของบริษัทพวกนายก็ย่ำแย่อยู่แล้ว จึงเป็นการดีที่จะยุติความร่วมมือลงไปด้วย เขาเองก็มอบผลประโยชน์แก่ฉันจำนวนไม่น้อย ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์กันทั้งคู่ ฉันจึงยอมรับข้อเสนอไป”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและโบกมือส่งสัญญาณให้หยางหู่และคนอื่นๆ ออกไปก่อน
เฉินซิงรีบพยุงตัวขึ้นพร้อมคลานเข่าขอร้องเขาว่า
“ฉัน...ฉันบอกความจริงทุกอย่างไปหมดแล้ว ได้โปรดลบภาพกับวีดีโอพวกนั้นด้วยนะ!”
“เรื่องลบภาพกับวีดีโอคงยังไม่ได้ ถ้าลบทิ้งไปแล้ว ฉันจะใช้อะไรพิสูจน์ว่าเจวียงหยวนมันกำลังวางแผนอะไร? ไม่ต้องกังวลฉันไม่เอาไปเผยแพร่มัวซัวแน่นอน”
หลังพูดจบจ้าวเฉียนก็กระดิกเท้า เสยเข้าค้างเฉินซิงจนหงายหลังล้มไป แต่ขณะที่กำลังจะออกจากห้อง เฉินซิงก็รีบคลานมากอดแข้งกอดขาจ้าวเฉียนพร้อมน้ำตา แต่หยางหู่รีบตรงเข้ามาพร้อมเหวี่ยงร่างของอีกฝ่ายกระเด็นออกไป กลุ่มของจ้าวเฉียนและคนที่เหลือออกจากห้องพักปิดประตูเสียงดังปัง
พี่สะใภ้ของเฉินซิง หรือก็คือภรรยาของพี่ชายเขาเฉินหยางรีบลุกขึ้นจากผ้าห่มและเอ่ยถามตะคอกขึ้นว่า
“แล้วฉันจะทำยังไงดี! พวกมันเป็นใคร ทำไมต้องเล่นงานนายด้วย?!”
“โถ่ว...อย่าเพิ่งมาถามเรื่องนี้เลย ตอนนี้รีบคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงกับพี่ผม ถ้ารู้เรื่องระหว่างเรา พวกเรามองคนตายแน่!”
“ฉันไม่สนหรอก ก็นายเป็นฝ่ายเข้าหาฉันก่อนน ถ้าพี่ชายนายมารู้เข้าก็ต้องเป็นนายนั้นแหละที่ต้องเข้ามาห้าม หรือจะทนดูฉันตายไปต่อหน้าต่อตา?”
เฉินซิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอบไปว่า
“อย่างกับว่าพี่ชายจะไม่ฉันผมนั้นแหละ! ช่างเถอะ ช่างเถอะ ตอนนี้ผมต้องรีบไปคุยกับเจ้าเจวียงหยวนโดยเร็วที่สุด ส่วนพี่รีบกลับไปก่อน รีบแต่งตัวเลย ผมจะคุยกับมันแล้วหาข้อตกลงว่าจะเอายังไง”
เฉินซิงโยนเสื้อผ้าชุดชั้นในให้พี่สะใภ้ ส่วนตัวเองรีบแต่งตัวออกจากโรงแรมทันที มีเงาบางคนไล่ตามเฝ้ามองอยู่ตามติดในความมืด หยางหู่ระเบิดหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆ ...คุณชายจ้าวหัวใสจริงๆ! เจ้านั้นมันทิ้งให้ผู้หญิงที่มาด้วยอยู่ตามลำพัง ส่วนตัวเองก็รีบออกมาเคลียร์กับเจวียงหยวน”
“มันต้องรีบไปหาเฉวียงหยวนโดยเร็วที่สุดอยู่แล้ว เพื่อหาทางรับมือกับเรื่องนี้ ยังไงก็เถอะ ฉันขอตัวกลับไปนอนก่อน ถ้านอนไม่ควบตามกำหนด เดี๋ยวสิวฉันขึ้นมาทำไง? ฮ่าๆ ...อย่าลืมถ่ายวีดีโอมาให้ด้วย!”
หยางหู่รีบเดินไปส่งจ้าวเฉียนกลับบ้านไปด้วยความเคารพ หลังจากกลับถึงคฤหาสน์ก็ตีหนึ่งเกือบตีสองเข้าไปแล้ว กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็สิบเอ็ดโมงกว่า
จ้าวเฉียนลุกขึ้นมาเปิดมือถือขึ้นมาดูและเห็นหยางหู่ส่งข้อความเป็นคลิปเสียงวีดีโอมา เป็นคลิปบทสนทนาระหว่างเฉินซิงกับเจวียงหยวน ซึ่งเนื้อความค่อนข้างชัดเจนมาก พวกเขาตัดสินใจที่จะล้อมจับจ้าวเฉียน โดยให้เฉินซิงชวนมาทานอาหารเย็นร่วมกับเจวียงหยวน
จ้าวเฉียนสั่งให้หยางหู่กลับมาทันทีและขอให้นำบางสิ่งมาด้วย
“คุณชายจ้าว ผมอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์แล้วครับ ออกมารับได้เลย”
จ้าวเฉียนวางสายไปและเดินลงไปเปิดประตู เห็นแต่ไกลว่าหยางหู่กำลังรออยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์จริงๆ
“พี่หู่ ผมนี่ยกนิ้วให้เลย ฮ่าฮ่าๆ ...”
“ฮ่าฮ่า...ทั้งหมดก็เพื่อเตรียมพร้อมให้คุณชายเท่านั้น การได้รับใช้ท่านถือเป็นงานอันน่ายกย่องแล้ว ต่อไปอย่าเรียกผมว่าพี่หู่อีกเลย เรียกว่าเสี่ยวหู่จะดีกว่าครับ”
“โอเคเลย! เรื่องที่นายช่วยเหลือฉันขนาดนี้ ฉันต้องบอกพ่อแน่นอน!”
“ขอบคุณมากครับ ผมจะพยายามช่วยเหลือคุณชายอย่างเต็มที่!”
“ขอบคุณมาก! กลับบ้านดีๆล่ะ!”
หยางหู่พยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว และขึ้นรถจากไปพร้อมความอิ่มเอมใจอันล้นปรี่ ส่วนจ้าวเฉินก็กลับดูวีดีโออีกครั้งโดยละเอียด กดหยุดพอแค่นี้เขาแสยะยิ้กว้างทันทีด้วยความพึงพอใจ
หยางหู่คนนี้เป็นอดีตทหารในหน่วยรบพิเศษที่เกษียณแล้ว ทั้งยังมีพี่น้องที่เคยร่วมรบกันหลายต่อหลายคนที่สนิทกระจายอยู่ทั่ววงการธุรกิจต่างๆ เรื่องลอบเก็บข้อมูและดักฟังแบบนี้ นับเป็นงานหมูๆ สำหรับพวกเขา
ไม่นานหลังจากนั้น ก็ตามคาด เฉินซิงโทรมาหาจ้าวเฉียน
“เอ่อ...นายพอมีเวลาไหม? ออกมาทานอาหารกันเถอะ พอดีมีเรื่องที่ต้องการคุยน่ะ”
จ้าวเฉียนรู้เรื่องการสมคบคิดระหว่างเฉินซิงและเจวียงหยวนตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขายังคงเล่นละครตามน้ำไปก่อนโดยการตอบตกลงทันที เขาแค่อยากเห็นว่าเจ้าสองคนนี้จะทำอะไรกับเขาบ้าง
“ได้สิ บัดเวลากับสถานที่มาเลย”
“เจอกันที่โรงแรมตงไห่ เที่ยงครึ่ง”
“โอ้ เข้าใจแล้ว”
จ้าวเฉียนวางสายและโทรเรียกหยางหู่ต่อทันที
“เสี่ยวหู่ นายช่วยส่งคนไปที่โรงแรมตงไห่ที เตรียมดักฟังและถ่ายภาพการสนทนาระหว่างฉันกับเจ้าสองคนนั้นเอาไว้ นอกจากนี้เตรียมคนให้คอยเฝ้าระวังว่ามีใครแอบดักซุ่มอยู่แถวนั้นบ้างไหม ถ่ายภาพกลับมาเป็นหลักฐานด้วยเลย”
“เข้าใจแล้วครับ!”
จากนั้นจ้าวเฉียนก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวโดยไว และรีบไปที่โรงแรมตงไห่ตามที่จัดหมายไว้ เมื่อเข้ามาถึงเฉินซิงก็กำลังรออยู่หน้าโรงแรมก่อนแล้ว ทันทีที่เห็นจ้าวเฉียนมาถึง อีกฝ่ายก็ปรี่ตรงเข้าไปหาทันที
“จ้าวเฉียน ฉันขอร้องล่ะ ลบคลิปนั้นไปได้ไหม?”
จ้าวเฉียนยิ้มตอบ
“ใช้ปากขอร้องกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ? เฮ้ออ...ฉันหิวจัง ถ้าไม่ได้กินอะไรสักหน่อยคงไม่มีแรงกดลบคลิปแน่นอน...”
เฉินซิงกัดฟันฝืนยิ้มด้วยความโกรธจัด แต่ก็ทำได้แค่เชิญให้จ้าวเฉียนตรงยังภัตตาคารด้านในเพื่อหาอะไรกิน
จ้าวเฉียนแสร้งปั้นหน้าประหลาดใจ เอ่ยถามขึ้นว่า
“นี่นายแน่ใจแล้วใช่ไหม? ว่าจะเลี้ยงอาหารฉัน?”
“แน่นอน...ขอแค่นายยอมลบคลิปเมื่อคืนก็พอ”
“โอ้วว ได้เลย! เชิญๆ!”
“อืม! เชิญก่อนเลย...”
ทั้งสองเดินเข้ามา และเป็นเฉินซิงที่เป็นคนเลือกห้องพร้อมสั่งชุดอาหารที่ราคาถูกที่สุดมา
จ้าวเฉียนรู้ดีว่า มื้ออาหารนี้เป็นแผนการของพวกเฉินซิงกับเจวียงหยวน ดังนั้นแล้วตัวเจวียงหยวนเองก็ต้องออกเงินควักเนื้อจ่ายด้วยเช่นกัน แล้วจ้าวเฉียนควรจะแก้เผ็ดยังไงดี? ใช้โอกาสนี้เอาให้เจวียงหยวนควักเนื้อจนหมดตัวเลยดีไหม?
“เฉินซิง นายนี่ไม่จริงใจเอาซะเลย มาที่นี่ทั้งทีแต่สั่งชุดอาหารราคาถูกมาเลี้ยง? ฉันคงจะมีแรงลบคลิปให้หรอกนะ?”
“แล้ว....แล้วนายอยากกินอะไรล่ะ?”
“อืมม...ก็สั่งเพิ่มมาอีกสักสองสามอย่างพอ ฉันไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกน่า มื้อนี้ไม่เกินแสนแน่นอน”
เฉินซิงแทบสะดุ้งเมื่อได้ยินคำว่า ไม่เกินแสน เขาไม่เต็มใจแน่นอนที่ต้องจ่ายเงินจำนวนขนาดนี้เพื่อยุติปัญหาเมื่อคืน
“แกไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ! ฉันแนะนำว่าอย่าอวดดีให้มันมากนัก!”
เฉินซิงลุกขึ้นและเดินออกไปทันทีที่กล่าวจบ
จ้าวเฉินเหลือบมองแผ่นหลังอีกฝ่ายที่ค่อยๆ หายลับไป หัวเราะคิกคักเล็กน้อยและใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
เฉินซิงเดินออกไปยังหน้าโรงแรม ทันใดนั้นก็เห็นเจวียงหยวนวิ่งเข้ามาพร้อมกับเครื่องบันทึกเทปในมือ