ตอนที่ 576 ลางสังหรณ์
เหมาเยซื่ออุ้มเฉียวเมียนเมียนออกจากห้องน้ำ
ดวงตาของเธอแดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตา เธอจ้องมองไปที่เหมาเยซื่อ
เหมาเยซื่อพยายามเกลี้ยกล่อมเธอด้วยเสียงต่ำและอ่อนโยน “ที่รัก ผมผิดเอง เห็นคุณร้องไห้แล้วผมเจ็บจัง”
“ตาบวมแบบนี้ไม่เข้ากับคุณเลยนะ”
เฉียวเมียนเมียนไม่ตอบ ได้แต่จ้องมองไปยังเขา
ความเงียบนี้แสนจะเลวร้ายไปกว่าการที่เธอร้องไห้เสียอีก เหมาเยซื่อไม่รู้จะจัดการอย่างไร
แต่เขารู้ว่าตอนนี้ได้ถลำลึกไปแล้ว
ดังนั้นเขาจึงรีบยอมรับความผิดและขอโทษเธอ “ผมผิดเอง ได้โปรดเถอะนะ จะดุด่า หรือทุบตียังไงก็ได้ แต่หยุดร้องไห้เถอะ”
“เด็กดี อย่าร้องไห้อีกเลยนะ”
“ผมต้องทำยังไง คุณถึงจะยอมยกโทษให้ผม”
เมื่อนึกย้อนไปว่าเขารังแกเธอขนาดไหน เธอไม่คิดอยากจะให้อภัยเขาง่าย ๆ
เธอกลอกตาและมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ในเมื่อคุณพูดว่า ฉันจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหมล่ะ?”
เหมาเยซื่อพยักหน้าตอบ “ใช่”
เฉียวเมียนเมียนจ้องไปที่ใบหน้าอันงดงามของอีกฝ่ายและพูดพร้อมกับยิ้ม “เอาล่ะ ถือว่าเราได้ตกลงกันแล้ว คุณจะมาเปลี่ยนใจภายหลังอีกไม่ได้แล้วนะ”
เหมาเยซื่อมีลางสังหรณ์บางอย่าง เมื่อมองไปที่เฉียวเมียนเมียน หญิงสาวที่ยิ้มอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาไม่สามารถต้านทานและถามว่า
“ที่รัก คุณต้องการให้ผมทำอะไร อย่าบอกนะว่าคุณมีแผนจะเล่นตุกติกกับผม?”
“เปล่า เปล่า ฉันไม่มีแผนอะไรสักหน่อย” เฉียวเมียนเมีนยเลียริมฝีปากของเธอ แอบชื่นชมยินดีระงับความตื่นเต้นของเธอ พร้อมกับตอบว่า “ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
เหมาเยซื่อพูดไม่ออก
เขาคิดว่าเธอเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ
“งั้นก็บอกผมสิ ว่าคุณต้องการอะไร?”
“จริง ๆ ก็เป็นเรื่องง่าย ๆ คุณทำได้แน่นอนค่ะ”
“อะไรล่ะ”
เธอต้องการทำอะไรกับเขากันแน่
เขาอยากรู้ขึ้นมาทันที
เฉียวเมียนเมียนพูดด้วยท่าทางที่มีลับลมคมใน “คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เมื่อถึงเวลาฉันจะบอกคุณเอง”
เหมาเยซื่อรู้สึกสับสน
ลางสังหรณ์ของเขาเริ่มชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ
.....
วันที่สอง
เพราะว่าเธอไม่ต้องไปเรียน เฉียวเมียนเมียนจึงสามารถตื่นสายได้
เมื่อเธออาบน้ำเสร็จและมุ่งหน้าลงไปชั้นล่าง เหมาเยซื่อได้ทานข้าวเช้าและออกไปทำงานแล้ว
เฉียวเมียนเมียนนัดพบกับลินดาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมือง
หลังจากที่เธอทานข้าวเช้าเสร็จ เธอเรียกหาคนขับรถ ให้ไปส่งเธอที่จุดนัดพบ
ขณะที่เธอลงจากรถ เธอบังเอิญพบกับลินดาที่กำลังลงจากรถบีเอ็มดับเบิลยูของเธอ ทั้งสองพบกันที่จอดรถ
ลินดาพบกับเฉียวเมียนเมียน เธอชะงักงันและเหลือบมองไปที่โรลส์รอยซ์ที่อยู่ข้างหลังเธอ
ตอนที่ลินดายังเป็นผู้จัดการให้กับเฉียวอันซิน เธอรู้อยู่แล้วว่าเฉียวเมียนเมียนกำลังคบหากับผู้ชายที่ร่ำรวยมากคนหนึ่ง
จุดนี้ทำให้เฉียวอันซินถึงกับอิจฉาริษยาเธอ
และเธอยังเห็นว่าชายคนนั้นขับแลมโบกินี่รุ่นพิเศษเสียด้วย
คราวนี้เฉียวเมียนเมียนลงจากรถโรลส์รอยซ์รุ่นลิมิตเตด
การมีรถหรูรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นหนึ่งคันน่าประทับใจมาก แต่คราวนี้...
เป็นรถหรูรุ่นลิมิเต็ดคันอื่น
แม้ว่าลินดาจะไม่สามารถซื้อรถยนต์เหล่านี้ได้ แต่เธอรู้ถึงสถานะของผู้ที่เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวได้
ยิ่งไปกว่านั้น...
เธอเห็นเคยเห็นหน้าของชายคนดังกล่าวแล้ว
เมื่อนึกย้อนกลับไป ลินดายังคงรู้สึกประหลาดใจ
เธออยู่ในวงการบันเทิงมาเกือบ 10 ปีแล้ว ด้วยการดูแลศิลปินนับไม่ถ้วนเธอได้เห็นคนหน้าตาดีหลายคน
แต่แม้ศิลปินที่หล่อที่สุดภายใต้การดูแลของเธอ ยังไม่หน้าตาดีเท่ากับผู้ชายคนนั้น
เขาไม่ได้หน้าตาดีเพียงอย่างดี ทั้งยังดูโดเด่นเป็นพิเศษ มีออร่าที่ครอบงำน่าหลงใหล
เขาคงไม่ได้มีออร่าเช่นนั้น หากเขาไม่ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ร่ำรวย แม้ว่าซูเจ๋อเองเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยเช่นกัน อีกทั้งรูปลักษณ์และทักษะของเขาเปรียบเทียบกับคนอื่นที่มีสถานะคล้ายคลึงกัน ยังไม่โดดเด่นเท่าชายคนนั้น
ทำให้เธอทราบถึงความแตกต่างอย่างมากในสถานะทางสังคมของเขาสองคนอย่างชัดจน