ตอนที่ 29 ฉันไม่ใช่โรคจิตโว้ย
“สำหรับฉันนะ แม้ว่าเธอทำได้ครึ่งนึงแต่คำตอบมากว่าครึ่งถูก แค่นั้นเธอก็ผ่านการสอบแล้วแต่…”
จิฮิโระก็จ้องมองชิชิโอะด้วยใบหน้าซับซ้อนเนื่องจากหลานของเธอได้คะแนนสอบเต็ม
“เกรดของผมมันต่ำสินะ?”
ชิชิโอะก็ขมวดคิ้วและรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเนื่องจากเขาไม่คาดคิดว่าตอบถูกแค่ 1 ใน 4 ของคำถามก็ผ่านการทดสอบแล้ว เขาก็คิดว่าประเทศนี้ช่างมีระบบการศึกษาที่ดีเสียจริงเพราะมาตราฐานช่างต่ำมาก?
“ใช่หน่ะสิ เกรดของเธอกลับผลการทดสอบในตอนนี้มันไม่เข้ากันเลย ไม่เพียงเธอจะตอบคำถามได้หมดแต่สิ่งที่เว่อร์มากที่สุดคือคำตอบของเธอกลับถูกหมดเลย!! ซึ่งมันหมายความว่าเธอได้ 600 คะแนนเลย เธอรู้ใหมว่าอันดับสองได้แค่ 350 คะแนนเอง นั่นหมายความว่าคะแนนของเธอมากกว่าอันดับที่สองตั้งสองเท่าแหนะ”
“….”
จิฮิโระก็ถอนหายใจออกมาและสงสัยว่ามนุษย์สามารถทำคะแนนแบบนี้ออกมาได้ด้วยหรอ ซึ่งมันทำให้เธออยากจะแงะหัวของชิชิโอะดูว่าในหัวของเขามีคอมพิวเตอร์อยู่หรือเปล่ากัน
“ชิชิโอะคุง นี่นในห้องเธอมีคอมพิวเตอร์อยู่งั้นหรอ?”
ปฏิกิริยาของมิซากินั้นกลับดูน่าขบขันกว่าอีกเนื่องจากเธอนั้นได้ยืนขึ้นแล้วพยายามลูบคลำหัวของชิชิโอะเพื่อตรวจสอบว่าในหัวของเขามีอะไรอยู่กัน
“นี่รุ่นพี่ นี่คุณว่างเธอมากถึงขนาดมากวนผมไม่หยุดเลยหรอ?”
ชิชิโอะนั้นอยากจะลากผู้หญิงคนนี้ออกไปนอกห้องมากแต่เขาก็ยอมรับว่าเขารู้สึกพอใจในคะแนนที่เขาได้รับมาก และเขาก็รู้ว่าด้วยการแสดงความสามารถของเขาให้ทางโรงเรียนได้เห็น เขาก็จะสามารถเอาเวลาว่างไปเรียนรู้เกี่ยวโลกนี้ได้มากขึ้นไปอีก เพราะยังไงซะ เขาก็ไม่อยากจะมาเป็นฟันเฟืองที่คอยขับเคลื่อนสังคม
ชิชิโอะนั้นอยากจะเป็นควบคุมโชคชะตาของตัวเองและกลายเป็นคนที่สามารถปกครองประเทศนี้อยู่เบื้องรวมถึงเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วย!!!
เมื่อชาติก่อนชิชิโอะนั้นไม่มีโอกาสได้ทำเรื่องนี้แต่ในโลกนี้ เขามีโอกาส
แต่….
ชิชิโอะนั้นรู้ดีว่าถ้าเขาใช้ระบบโกงนี้ เขาก็สามารถจะกลายเป็นมหาเศรษฐีที่โคตรร่ำรวยที่สุดในโลกได้แต่เขาก็ไม่อยากจะกลายเป็นเศษสวะ
“บางทีนายอาจจะไม่รู้ว่าคะแนนที่นายได้นี่มันสุดยอดแค่ใหน งั้นเดี๋ยวฉันอธิบายให้ฟัง ในประวัติศาสตร์ของโรงเรียนมัธยมปลายที่เป็นโรงเรียนย่อยของมหาวิทยาลัยซุยเมย์(Suimei University) นายหน่ะเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถทำคะแนนนี้ออกมาได้ ซึ่งในโตเกียวนั้นไม่มีใครทีอายุเท่านายสามารถทำได้เหมือนายเลยสักคน นายนี่มันเด็กวิปริตจริงๆ แม้ว่าเหล่าอาจารย์ในโรงเรียนเองก็ยังทำแบบนายไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นคือในเวลาสองชั่วโมงด้วย”จิฮิโระก็พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ชิชิโอะคุง เธอนี่มันวิปริตจริงๆเลย!!”มิซากิก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“….”
เมื่อๆได้ยินคำพูดนี้ ชิชิโอะก็ปากกระตุกซึ่งเขานั้นไม่ได้มีความสุขเลยสักนิดที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนวิปริต
จิฮิโระนั้นรู้สึกว่าเธอดูถูกชิชิโอะไปมากๆแต่ว่าสำหรับคนที่มีเงิน 15 ล้านเยนในบัญชีในช่วงวัยรุ่นนั้นถือได้ว่าสุดยอดมาก ดังนั้นการที่เขาเป็นอัจฉริยะนั้นก็นับได้ว่าเป็นเรื่องปกติเนื่องจากในประเทศนี้มีคนมากมายที่ไม่สามารถเก็บสะสมเงินได้เลยตลอดชีวิตของเขาแต่ทว่าเด็กคนนี้กลับทำได้อย่างง่ายดาย
“อะแฮ่ม!! สั้นๆก็คือแม้ว่าเธอจะยังไม่ได้เข้าเรียนแต่ก็ไม่มีอาจารย์คนใหนไม่รู้จักเธอและคืนนี้ ฉันก็คาดว่านักเรียนโรงเรียนทุกคนคงจะรู้ว่าเธอเป็นคนที่วิปริตแน่ๆ รู้ใหม แม้แต่วันนี้เองก็มีอาจารย์มากมายพยายามยื้อแย้งตัวเธอจนเกือบทำให้เกิดการทะเลาะกันเลยหล่ะ เธอเองก็น่าจะรู้ว่าผลการเรียนของนักเรียนนักมีผลต่อโบนัสของเหล่าอาจารย์ แม้ว่ามันจะไม่มากนัก แต่เมื่อคนวิปริตแบบเธอปรากฏตัวขึ้นมา บางทีเงินโบนัสที่ได้จากเธอคงจะสามารถทำให้พวกเขาซื้อรถคันใหม่ได้เลย ดังนั้นแล้วทุกคนจึงดูตื่นเต้นกันมาก
“…”
“…ให้ตายสิ ผมชักปวดหัวกับเรื่องนี้แล้วสิ”
ชิชิโอะก็กุมหน้าผากอย่างเหนื่อยใจซึ่งเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะมีความสุขกับเรื่องนี้ดีหรือเปล่าเพราะในสายตาเหล่าอาจารย์นั้น เขาก็คือเงิน
‘แต่…’
ชิชิโอะก็ลูบคางในขณะนึงถึงอาจารสาวสองคนที่ทำให้ระบบของเขาตอบสนอง
‘บางทีถ้าหากฉันมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเธอหล่ะก็….’
ชิชิโอะก็รู้สึกว่าเขาจะต้องทำการค้นคว้าเรื่องระบบของเขาให้มากกว่านี้แล้วสิซึ่งเขานั้นสงสัยว่านอกจากทำเรื่องลามกแล้ว มีวิธีใดบ้างที่เขาจะได้รับรางวัล
แล้วก็นอกจากเรื่องนี้แล้ว ฉันก็ยังมีข่าวดีสำหรับเธอด้วย เนื่องจากคะแนนทดสอบของเธอเกินกว่าที่คาดหมายไว้ ทางฝ่ายบริหารโรงเรียนนั้นก็เข้าใจว่าพวกเขาไม่อาจจะปล่อยเธอไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมต่างๆแต่แน่นอนว่า เธอจะต้องคงผลการเรียนให้ดีอยู่เหมือนเดิมและจะต้องได้อันดับหนึ่งของห้องด้วย เข้าใจใหม? นอกจากนี้ พวกเขายังสนับสนุนค่าเล่าเรียนให้เธอเป็นเงิน 3 แสนเยนต่อเทอม นี่ไง ข่าวดีใช่มั้ยหล่ะ?”
“ก็เป็นข่าวดีจริงๆแหละ ขอบคุณครับ พี่จิฮิโระ”
ชิชิโอะนั้นไม่ได้ขาดแคลนเงินเท่าไหร่แต่เงิน 3แสนเยนนี้ถือว่ามากทีเดียวเนื่องจากเหล่าคนทำงานส่วนใหญ่ในประเทศนี้มีเงินเดือนอยู่ประมาณ 2 แสนเยนต่อเดือนเองและเขาก็จะได้รับเงิน 3 แสนเยนต่อเทอมซึ่งหมายความว่า เขาจะได้รับเงิน 5 หมื่นเยนต่อเดือนโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แม้ว่ามันจะฟังดูมากแต่มันก็พอเป็นเงินค่าใช้จ่ายสำหรับเขาพอสมควร
ถ้าหากเป็นคนอื่นหล่ะก็ เมื่อพวกเขาได้รับแบบนี้ พวกเขาคงทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อคงผลการเรียนของพวกเขาให้ดีเหมือนเดิมแต่ตัวเขานั้นไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้
ยังไงเสียชิชิโอะนั้นก็รักเงิน ดังนั้นเขาจึงมีความสุขกับเรื่องนี้มากเนื่องจากเขาได้รับเงิน 5 หมื่นเยนโดยไม่ต้องทำอะไรเลย
“งั้นก็มีแค่นี้แหละ ฉันจะต้องกลับโรงเรียนไปเช็คว่าเรื่องมันเป็นอย่างไงแล้ว อย่างไงซะ อาจารย์ทุกคนนั้นก็รู้ว่าฉันเป็นน้าของเธอ”
จิฮิโระก็ครุ่นคิดสักครู่แล้วจึงถามออกมาว่า “แล้วหลังจากนี้เธอจะทำอะไรต่อหล่ะ?”
“หลังจากนี้หน่ะหรอ?”
ชิชิโอะก็ครุ่นคิดสักครู่และพูดออกมาว่า “ผมว่าจะไปอาบน้ำแล้วไปร้านหนังสือสักหน่อย”
“ร้านหนังสือ?”2x
มิซากิและจิฮิโระก็จ้องมองชิชิโอะด้วยสีหน้าแปลกๆซึ่งพวกเธอสงสัยว่าไอ้หมอนี่จะกลายเป็นคาวาอิ ริทสึคนที่สองสินะ
“แล้วเธอจะไปทำอะไรที่ร้านหนังสือหรอ ชิชิโอะคุง?”มิซากิก็ถามออกมา
“ก็คงจะไปซื้อหนังสือแหละ พอดีว่าเมื่อคืนผมสัญญากับชิโระซังว่าจะซื้อหนังสือของเขา”
“ชิโระซัง!?”2x
มิซากิและจิฮิโระก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา
“แล้วนี่นายไปสนิทกับไอ้คนโรคจิตนั่นได้ไงกัน?”จิฮิโระก็ถามออกมาด้วยใบหน้าสับสน
“แม้ว่าเขาจะเป็นคนโรคจิต แต่เขาเป็นถึงนักเขียนชื่อดังเลยนะ แถมผมก็อยากจะรู้ด้วยว่าเขาเขียนหนังสือแบบใหนออกมากัน”ชิชิโอะก็พูดออกมา
มิซากิและจิฮิโระจึงพยักหน้าออกมาซึ่งพวกเธอนั้นไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรในท่าทางของชิชิโอะเนื่องจากพวกเธอนั้นก็เคยรู้สึกแบบนี้เหมือนกันตอนที่พวกเขารู้สึกสงสัยในหนังสือของตาคนโรคจิตคนนั้น
“งั้นฉันกลับไปทำอนิเมะต่อแล้วกัน!!!”
มิซากิก็ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งกลับไปที่ห้องของเธอ
จิฮิโระก็จ้องมองแผ่นหลังของมิซากิที่ค่อยๆเลือนลับไปแล้วหันกลับมามองชิชิโอะ “นี่นายกลับคามิกุซะนี่สนิทกันดีจังเลยนะ?”ซึ่งเธอนั้นก็พึ่งตระหนักได้ว่าชิชิโอะและมิซากินั้นเรียกชื่อกันตรงๆซึ่งนั่นทำให้เธอตกตะลึงเลย ทั้งที่เธอมั่นใจว่าทั้งสองคนนั้นพึ่งจะเจอกันเมื่อวานเองแต่ทำไมพวกเขาถึงสนิทกันขนาดนี้หละ?
“อย่าไปสนใจยัยผู้หญิงบ๊องนั่นเลยน่า พี่จิฮิโระ”
ชิชิโอะก็รู้สึกเหนื่อยใจเมื่อนึกถึงมิซากิ้
จิฮิโระนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “แม้ว่าเธอจะทำตัวแบบนั้นแต่เธอก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกนะแถมเธอยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการสร้างอนิเมะด้วย”
“อนิเมะ?”ชิชิโอะก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เธอเป็นอนิเมเตอร์(Animator=ผู้สร้างอนิเมะนั่นเอง)?”
“อืม งั้นเอาไว้ค่อยถามเธอเองทีหลังแล้วกัน ตอนนี้ฉันต้องไปโรงเรียนแล้ว”
จิฮิโระก็หยิบเสื้อโค้ทของเธอแล้วลึกขึ้นยืนจากโคทัตสึ จากนั้นเธอก็เดินไปหยิบกระเป๋าถือของเธอแล้วหันมามองเขา
ทางชิชิโอะก็ลึกขึ้นยืนแล้วพูดออกมาว่า “ให้ผมไปส่งใหมพี่จิฮิโระ?”
“ไม่ต้องหรอกแต่อย่ากลับมาดึงหล่ะเพราะเดี๋ยวจะมีคนใหม่ย้ายมาอยู่หอนี้”จิฮิโระก็พูดออกมา
ชิชิโอะก็พยักหน้าตอบอย่างไม่สนใจมากซึ่งสิ่งเดียวที่เขาหวังนั้นก็คือคนที่จะย้ายมาอยู่หอนี้คงจะไม่ใช่พวกตัวประหลาดเหมือนมิซากิหรือไม่ก็ชิโระซัง
จิฮิโระก็จ้องมองชิชิโอะที่เดินกลับไปที่ห้องของเขาแล้วขมวดคิ้วขึ้น เธอนั้นคิดว่ามิซากิคงไม่มาตกหลุมรักหลานชายของเธอหรอกเพราะเธอนั้นรู้ดีว่ามิซากินั้นรักมทากะ จินมากขนาดใหนแต่….
“ช่างมันและกัน”
จิฮิโระก็ส่ายหัวและเลิกคิดเรื่องนี้ เธอนั้นรู้สึกแปลกๆเมื่อคิดว่าหลานชายของเธอจะคบกับมิซากิแต่เธอกลับรู้สึกว่าให้มิซากิมาคบกับหลานชายของเธอยังดีกว่าไปคบกับไอ้เพลย์บอยพรรค์นั้นเสียอีกแต่แล้วเธอกลับสงสัยว่าทำไมเธอถึงรู้สึกไม่สบายใจขนาดนี้
--
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ชิชิโอะก็ได้เปลี่ยนชุดมาสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนและรวมถึงกระเป๋าสะพายเนื่องจากเขามั่นใจว่าเขาคงจะซื้อหนังสือหลายเล่มมากแน่ๆโดยเฉพาะกับหนังสือที่กี่ยวข้องกับกฏหมายและภาษี และในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไป เขากลับได้ไปเจอคนๆหนึ่งที่ทางเข้าหอพัก
“หืม? โองะคุง เธอจะออกไปข้างนอกหรอ?”
“ซายากะซังเองหรอครับ”ชิชิโอะก็พยักน้าตอบและพูดว่า “ใช่แล้วครับ ผมกำลังจะออกไปข้างนอก คุณพึ่งกลับมาหรอครับ?”ทันใดนั้นเขาก็พบว่าซายากะนั้นสวมเสื้อผ้าตัวเดิมเหมือนที่เธอใส่เมื่อคืน เขาจึงสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้ไปปาร์ตี้ทั้งคืนเลยงั้นยหรอ แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเท่าไหร่นัก เพราะเขาเองก็เคยเป็นหนุ่มมาก่อนและเขาก็เคยไปมั่วสุมและทำอะไรหลายๆอย่างเต็มไปหมดตอนสมัยเขาอยู่มหาลัยด้วย
“ใช่แล้วจ๊ะ ฉันพึ่งกลับมาเอง พอดีเมื่อวานเพื่อนของฉันลากฉันไปเล่นทั้งคืนเลยหล่ะ ฉันหล่ะเหนือมากเลยนะ”
“งั้นหรอ งั้นก็ไปพักผ่อนเถอะครับ”
ชิชิโอะก็พบว่าตาของเธอดูแดงขึ้นมา เขาจึงรู้ว่าเธอคงจะเหนื่อยล้ามากๆเลย
“อืม งั้นฉันกลับไปนอนพักที่ห้องก่อนนะ ไว้เจอกันจ๊ะ”
ซายากะก็หาวออแกมาซึ่งเธอนั้นเหนื่อยมากจนลืมตาแทบไม่ขึ้นเลย
“ครับผม งั้นไว้เจอกันนะครับ ซายากะซัง”
ชิชิโอะก็จ้องมองแผ่นหลังของซายากะที่ลาลับไปและจากนั้นเขาก็สวมรองเท้าและเดินออกไปจากห้อพักซากุระโซซ ซึ่งเขาหวังว่าดขาจะได้เจอคนที่สามารถทำให้ระบบของเขาตอบสนองในการเดินทางครั้งนี้
#ส่วนตอนอื่นๆติดต่อได้ที่เพจเฟสบุ้คครับผม