ตอนที่ 319 -320: ของขวัญ, ประมูล I
ตอนที่ 319 ของขวัญ
มีรอยยิ้มภูมิใจปรากฏที่มุมปากเลิ่งเชาถิงเมื่อคุณปู่ของเขาเอ่ยชมแฟนสาวของตน นายท่านเลิ่งตะลึงอีกครั้งที่เห็นรอยยิ้มหลานชาย นายท่านเลิ่งรู้แล้วว่าหลานชายของเขาคงพบกับรักแท้ของตัวเองแล้ว แบบนี้ยิ่งทำให้อยากรู้มากขึ้นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องยอมรับว่าเธอใจป้ำมากที่ส่งของขวัญที่ประเมินค่าไม่ได้นี้ให้เขา
กู้หนิงคิดว่าหลัวเฉินฝูราคาอย่างน้อยแปดล้านหยวนหรือสิบล้านหยวนเป็นอย่างมาก แต่อันที่จริงแล้วมันมีมูลค่าถึงสามสิบล้านหยวนเป็นอย่างต่ำ ถ้านำมาประมูลราคาอาจสูงถึงห้าสิบล้านหยวนเลยก็ว่าได้
นายท่านเลิ่งลังเล “แต่ยังไงของขวัญชิ้นนี้ก็ราคาสูงเกินไปจริงๆ”
เขาไม่คิดว่ากู้หนิงพยายามทำให้เขาชอบเขาด้วยการส่งของขวัญล้ำค่า แต่เขาเชื่อว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจากครอบครัวที่ร่ำรวย อย่างไรก็ตาม ของขวัญนั้นแพงเกินไปจริงๆ และเขารู้สึกไม่สบายใจที่จะรับมัน
“มีของขวัญราคาสูงกว่าชิ้นนี้ให้คุณปู่อีกครับ” เลิ่งเชาถิงเอ่ย จากนั้นก็วางของขวัญอีกชิ้นบนโต๊ะ
นายท่านเลิ่งประหลาดใจ ยังมีของขวัญแพงกว่านี้อีกหรือ?
"มันคืออะไร?" นายท่านเลิ่งถามและเอื้อมมือไปเปิดดู เลิ่งเชาถิงไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ปล่อยให้เขาดูด้วยตัวเอง นายท่านเลิ่งเปิดกล่องไม้และหยกสีเขียวเข้มชิ้นหนึ่งก็ปรากฏสู่สายตา เขาเบิกตาโตด้วยความตกใจ “นี่ นี่…” เขาประหลาดใจเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้ แม้ว่าเขาจะมีคำตอบอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ นายท่านเลิ่งหยิบหยกออกมาดูใกล้ๆ “นี่คือหยกจักรพรรดิ! แกได้มันมายังไง?”
“หนิงหนิงเป็นคนตัดมันได้ที่ถนนพนันหินวันนี้ครับ” เลิ่งเชาถิงเอ่ย
“อะไรนะ?” นายท่านเลิ่งยิ่งกว่าตกใจ แน่นอนว่าเขาย่อมทราบข่าวว่ามีเด็กสาวตัดหยกจักรพรรดิได้ที่มีมูลค่ากว่าหนึ่งร้อยล้านหยวนที่ถนนพนันหินเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว คาดไม่ถึงว่าเด็กสาวคนนั้นจะเป็นแฟนของหลานชายของเขา
หยกจักรพรรดิมีมูลค่ากว่าร้อยล้านหยวนหรือมากกว่านั้น นายท่านเลิ่งไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของเขาได้ในขณะนี้
“เชาถิง แฟนของหลานช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ! เธอสามารถเลือกของเก่าและตัดหยกคุณภาพสูงออกมาได้” นายท่านเลิ่งคิดว่าเลิ่งเชาถิงเพียงแค่เลือกเด็กสาวที่สวยคนหนึ่ง แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจคือ เด็กสาวคนนี้มีความสามารถจริงๆ
“ยังมีเรื่องให้ปู่ทึ่งอีกเยอะ” เลิ่งเชาถิงตอบ
“แต่ยังไงก็แพงเกินไป” นายท่านเลิ่งไม่สบายใจ หยกจักรพรรดิมูลค่ากว่าร้อยล้านหยวน ใช่อยู่ว่าไม่ได้มากมายสำหรับตระกูลเลิ่ง แต่ก็ยังแพงเกินไปสำหรับเป็นของขวัญ ตระกูลเลิ่งเองก็ยังไม่เคยมอบของขวัญราคาสูงเช่นนี้ให้คนอื่น กู้หนิงเป็นเพียงแฟนของเลิ่งเชาถิง พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกัน ดังนั้นนายท่านเลิ่งจึงไม่ใช่ครอบครัวของกู้หนิงในตอนนี้ แต่เธอเต็มใจมอบของขวัญที่ทั้งแพงและหายากให้เขา นายท่านเลิ่งนึกแปลกใจกับความใจกว้างของเธอ
“อย่ากังวลไปเลยครับ สำหรับเธอไม่ใช่เรื่องยากที่จะตัดหยกจักรพรรดิ และเธอไม่รับของที่ให้ไปแล้วคืน” เลิ่งเชาถิงเอ่ย แม้ว่าเขาจะคิดแบบเดียวกับคุณปู่ ไหนๆเลิ่งเชาถิงก็พูดแล้ว ดังนั้นนายท่านเลิ่งจึงยอมรับของขวัญ
“งั้นปู่จะส่งของขวัญกลับไปให้เธอ!” นายท่านเลิ่งกล่าวและกำลังจะหาบางอย่างให้กู้หนิง แต่ถูกเลิ่งเชาถิงหยุดไว้ “ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่ได้บอกเธอว่าปู่รู้แล้วว่าผมมีแฟนเพราะเธอต้องการเก็บเป็นความลับไว้ก่อน เธอบอกให้ผมส่งของขวัญสองชิ้นนี้ให้คุณปู่ในนามของผม แต่ผมไม่ต้องการให้ความมีน้ำใจของเธอเสียไปเปล่าประโยชน์ ดังนั้นผมจึงบอกความจริงกับคุณปู่” เลิ่งเชาถิงกล่าว
“อะไรนะ?” ได้ยินเช่นนั้นนายท่านเลิ่งก็ตกใจ ใครจะคิดว่ากู้หนิงมีความตั้งใจไม่ให้เขารู้ว่าของขวัญนี้มาจากเธอ นายท่านเลิ่งเชื่อว่าหลานชายคงไม่โกหก
เลิ่งเชาถิงไม่ได้อยู่นาน เขากลับออกไปทันทีหลังจากมอบขวัญ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดว่าบ้านนี้เป็นบ้านของเขา นายท่านเลิ่งคิดว่าเขาคงอยากรีบกลับไปหาคนรัก สมาชิกคนอื่นในตระกูลเลิ่งคิดว่าเขาคงยุ่งกับธุรกิจและงานทหารของเขา
เลิ่งเชาถิงไม่ต้องการให้คนอื่นในตระกูลรู้ว่าเขามีแฟน ดังนั้นนายท่านเลิ่งจึงสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ นายท่านเลิ่งอยากรู้จักกู้หนิงให้มากกว่านี้แต่เลิ่งเชาถิงไม่อนุญาตให้เขาตรวจสอบเธอ ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกความคิด
อย่างไรก็ตามเลิ่งเชาถิงปฏิเสธที่จะบอกชื่อเต็มของหญิงสาวคนนี้ซึ่งทำให้นายท่านเลิ่งสับสน แต่ถ้าเลิ่งเชาถิงไม่ต้องการบอก แม้แต่นายท่านเลิ่งที่เป็นปู่ก็ไม่สามารถบังคับให้เขาพูดได้
หลังจากที่เลิ่งเชาถิงกลับไปแล้ว นายท่านเลิ่งก็โทรหาใครบางคน “สวัสดี ตาแก่เจียง! ฉันเพิ่งได้หลัวเฉินฝูของจ้าวเหมิงฝู ทำไมนายไม่ลองมาดูพรุ่งนี้ล่ะ?”
ชื่อเต็มของนายท่านเจียงคือเจียงจงหยู เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของนายท่านเลิ่ง และเขาเป็นหัวหน้าสมาคมของโบราณแห่งชาติ แม้ว่าตอนนี้จะเกษียณแล้ว เขาก็ยังมีอิทธิพลในวงการของเก่า เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงจงหยูก็ตื่นเต้น “อะไรนะ? หลัวเฉินฝู? จริงหรือ? ตาแก่นี่นิสัยไม่ดีๆจริงๆ โทรมาหาฉันตอนนี้แต่บอกให้ฉันไปหาพรุ่งนี้! แล้วคืนนี้ฉันจะนอนหลับยังไง! ไม่ล่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้และนายต้องอยู่รอฉัน!”
แน่นอนว่าเจียงจงหยูไม่สามารถรอจนถึงพรุ่งนี้ได้ เขาเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วและตะโกนขึ้นชั้นบน “เจียงรุ่ยหนิง ออกบ้านเดี๋ยวนี้!” เจียงจงหยูอายุ 70 ปีแล้ว แต่ออกกำลังกายตลอด ดังนั้นเขาจึงยังแข็งแรงอยู่ ภายในไม่กี่วินาที ชายหนุ่มรูปงามอายุประมาณ 20 ปีก็ปรากฏตัวขึ้นที่บันไดโดยมองลงมาข้างล่าง “คุณปู่ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
เจียงจงหยูสังเกตว่าเจียงรุ่ยหนิงยังอยู่ในชุดนอน “เปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้ แล้วพาปู่ไปที่บ้านตระกูลเลิ่ง”
“ตอนนี้มันดึกแล้วนะครับ ปู่จะไปบ้านตระกูลเลิ่งทำไม?” เจียงรุ่ยหนิงเอ่ยถาม
“หยุดถามสักทีนา แกมีเวลาแค่สองนาทีเท่านั้น!” เจียงจงหยูสั่ง เจียงรุ่ยหนิงเดินกลับไปที่ห้องของเขาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า หนึ่งนาทีต่อมาเขาก็เดินออกมา
โชคดีที่บ้านตระกูลเจียงอยู่ห่างจากบ้านตระกูลเลิ่งไปสองช่วงถนน ไม่กี่นาทีเจียงจงหยูก็มาถึง
เลิ่งฉางจื่อกำลังรอนายท่านเจียงอยู่ที่ประตู เมื่อเจียงจงหยูมาถึง พวกเขาก็พากันไปที่ห้องหนังสือนายท่านเลิ่ง เจียงรุ่ยหนิงต้องยอมรับว่าคุณปู่ของเขาเป็นคนคลั่งของโบราณมากทีเดียว! ท่านมาที่นี่โดยไม่ลังเลเลยสักนิด เจียงรุ่ยหนิงจำต้องเดินตามคุณปู่เข้าไป
ภายในห้องนั่งเล่นมีเพียงเลิ่งเชาซุน เมื่อเห็นเจียงจงหยู เลิ่งเชาซุนก็ลุกขึ้นทักทายด้วยความเคารพแต่ถูกเมิน เลิ่งเชาซุนคุ้นชินเสียแล้วเพราะเขารู้ว่าเจียงจงหยูมาที่นี่ทำไม
เจียงรุ่ยหนิงไม่มีความสนใจในวัตถุโบราณ ดังนั้นเขาจึงนั่งในห้องนั่งเล่นดูทีวีกับเลิ่งเชาซุน “ปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว พี่เชาถิงจะกลับมาบ้านไหม?” เจียงรุ่ยหนิงเองก็ชื่นชมเลิ่งเชาถิงไม่น้อยไปกว่าเลิ่งเชาซุน และถูกฝึกโดยเลิ่งเชาถิงพร้อมๆกับเลิ่งเชาซุน แม้ว่าเขาจะเทียบไม่ได้กับเลิ่งเชาซุนแต่ก็ไม่ถือกับยากเกินไปในการจัดการผู้ชายหลายคนด้วยตัวคนเดียว
“พี่เชาถิงกลับมาได้สองวันแล้ว แต่อยู่ที่นี่แค่ไม่กี่นาที ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมพี่เขาถึงยุ่งนัก ฉันว่าบางทีเขาอาจจะกลับมาช่วงเทศกาลมั้ง” เลิ่งเชาซุนไม่แน่ใจเพราะทุกปีเลิ่งเชาถิงไม่ได้อยู่ฉลองเทศกาลปีใหม่กับที่บ้านเลย
ภายในห้องหนังสือ เจียงจงหยูถามนายท่านเลิ่งด้วยความตื่นเต้นว่า “หลัวเฉินฝูอยู่ไหน? ขอฉันดูหน่อยสิ!” พูดจบ เจียงจงหยูก็ก้าวเท้าตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือและชื่นชมหลัวเฉินฝูที่วางอยู่บนโต๊ะ
วันต่อมา....
อ้ายกวงเหยาและคนอื่นๆได้เที่ยวบินรอบเช้า 7.20 น. พวกเขามาถึงเมืองหลวงประมาณ 10.30 น.
ตอนที่ 320 ประมูล I
เลิ่งเชาถิงช่วยกู้หนิงหารถไปรับคณะของอ้ายกวงเหยา ดังนั้นคณะของอ้ายกวงเหยาจึงมุ่งหน้าไปที่โรงแรมจินหลินทันทีเมื่อพวกเขาออกจากสนามบิน สิบห้านาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึง
กู้หนิงกำลังรอพวกเขาในห้องอาหารส่วนตัว ทุกคนจะทานข้าวพร้อมกันก่อนไปตึกออฟฟิศ
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงจะเข้าร่วมการประมูลตอนบ่ายสอง ดังนั้นเธอจึงสั่งอาหารรอไว้แล้วเผื่อว่าพวกอ้ายกวงเหยาจะได้ลงมือรับประทานได้ทันที
“คุณกู้!และก็คุณเลิ่ง! สวัสดีครับ” อ้ายกวงเหยาเอ่ยทักทาย มีคนอื่นอยู่ด้วยเขาจึงไม่ได้เรียกกู้หนิงว่าบอส
คณะของอ้ายกวงเหยาประกอบด้วยเลขานุการ ‘จางชุนเจี๋ย’ นักออกแบบ ‘อู๋หมิงข่าย’ พร้อมกับผู้ช่วยนักออกแบบ และนักสำรวจอีกสองชคน
“คุณกู้ คุณเลิ่ง ยินดีที่ได้พบครับ” คนอื่นๆที่เหลือทักทาย กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงเป็นลูกค้าของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงแสดงความเคารพนอบน้อมและสุภาพต่อทั้งสองคน จางชุนเจี๋ยรู้ว่ากู้หนิงเป็นเจ้านายของเขา ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังพฤติกรรมของตน
กู้หนิงเชิญทุกคนนั่ง
ระหว่างรับประทานอาหาร พวกเขาไม่ได้พูดคุยเรื่องงานมากนัก กู้หนิงได้จดสิ่งที่เธอคิดและพิมพ์เขียวสำหรับตึกออฟฟิศไว้แล้ว อ้ายกวงเหยาจะรับผิดชอบส่วนที่เหลือต่อ
เป็นอาคารสำนักงานสูง 18 ชั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแผนกต้อนรับจะอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ในขณะที่ห้องทำงานของประธานจะอยู่ที่ชั้น 18
สำหรับแผนกต่างๆ พวกเขาจะตั้งแผนกการเงิน ทรัพยากรบุคคล การตลาด ข้อมูลและหลักทรัพย์ อาคารสำนักงานขนาด 550 ตร.ม. แต่ละชั้นมีสามแผนกพร้อมห้องน้ำและห้องเตรียมอาหาร โรงอาหารจะอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ในขณะที่ห้องประชุมอยู่อีกห้องหนึ่ง
เฟิ่งหัวเอนเตอร์เทนเมนท์จะอยู่บนชั้นที่เจ็ด แปด และเก้า ชั้นเจ็ดจะเป็นห้องซ้อมเต้น ชั้นที่แปดจะเป็นห้องบันทึกเสียง และชั้นที่เก้าเป็นสำนักงานสำหรับพนักงานของเฟิ่งหัว
มีพื้นที่ที่ยังว่างอยู่ในชั้น 18 เพราะเวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่กู้หนิงจะรวมทุกบริษัทให้มาอยู่ที่นี่ กู้หนิงตัดสินใจตกแต่งชั้นตามแผนที่วางไว้ ส่วนพื้นที่ว่างที่เหลือรอจนกว่าจะถูกใช้งาน
อ้ายกวงเหยาประหลาดที่ได้ยินเกี่ยวกับเฟิ่งหัวเอนเตอร์เทนเม้นต์ กู้หนิงกำลังจะเข้าสู่อุตสาหกรรมธุรกิจบันเทิง เพราะเจิ้งหัวเรียลเอสเตทและหยกบิวตี้จิวเวอรี่ อ้ายกวงเหยาไม่สงสัยในความสามารถของกู้หนิง เขาชื่นชมเธอมากกว่าเดิมเพราะเธอสามารถตั้งอาณาจักรธุรกิจของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย
พวกเขาทั้งหมดรู้ว่ากู้หนิงและเลิ่งเชาถิงมีอย่างอื่นที่ต้องจัดการ ดังนั้นพวกเขาจึงทานอาหารเสร็จภายในครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ออกไปที่อาคารสำนักงาน เมืองหลวงไม่เพียงแต่ใหญ่เท่านั้นแต่ยังมีการจราจรหนาแน่นอีกด้วย กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงกำลังจะเข้าร่วมการประมูล ดังนั้นพวกเขาจึงออกไปอีกทางหนึ่ง
การประมูลจัดขึ้นที่ใจกลางเมือง และเจ้าภาพเป็นบริษัทประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ดาราดังหลายคนได้รับเชิญมาร่วมงานหลายคน
ไม่ใช่ผู้เข้าร่วมงานทุกคนเป็นคนรักของเก่า หลายคนมาที่นี่เพื่อขยายเครือข่าย ในขณะที่บางคนก็คว้าโอกาสที่จะอวดความมั่งคั่งของตัวเอง ในขณะเดียวกันไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับเชิญจะมาเพราะบางคนไม่สนใจและบางคนที่มีสถานะทางสังคมสูงไม่สนใจที่จะเข้าร่วม
เมื่อกู้หนิงและเลิ่งเชาถิงจอดรถที่ลานจอดรถ พวกเขาเจอคณะของซู่จินเฉินที่กำลังรออยู่
เฉินเมิ่ง ซีหมิง ฉิวอี้ซินและซูฉินหยินก็มาพร้อมกับซู่จินเฉิน
“หวัดดี เชาถิง กู้หนิง!” ทุกคนทักทายเลิ่งเชาถิงกับกู้หนิง กู้หนิงทักทายกลับอย่างสุภาพ ในขณะที่เลิ่งเชาถิงแค่พยักหน้าเบาๆ
“กู้หนิง ผมได้ยินมาว่าคุณจะเอาของเก่าร่วมประมูลด้วย โชว์ให้พวกเราดูหน่อยได้ไหม?”
เฉินเมิ่งและคนอื่นที่เหลือแปลกใจตอนที่ได้ยินว่ากู้หนิงจะเอาของเก่ามาประมูล ดังนั้นเฉินเมิ่งจึงอดถามไม่ได้เมื่อทั้งคู่มาถึง
“ค่ะ แต่ฉันแค่ร่วมประมูลสนุกๆ ไม่ได้ชื่นชอบของเก่าอะไรมากมายหรอกค่ะ” กู้หนิงเอ่ยและหยิบเอาที่ล้างพู่กันออกมาจากกระเป๋าของเธอ
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับโบราณวัตถุมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าที่ล้างพู่กันนี้มีค่าเพียงใด พวกเขามาที่นี่เพียงเพราะพวกเขาได้รับเชิญ
“เข้าไปข้างในกันเถอะ งานกำลังจะเริ่มแล้ว”
ตอนนี้เวลา 13.00 น. และกู้หนิงต้องเอาที่ล้างพู่กันไปประเมินก่อนดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องเข้าไปข้างใน
ในห้องโถงทุกคนกำลังพูดคุยและจับมือกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเลิ่งเชาถิงและคนอื่นๆ เดินเข้าไปข้างใน พวกเขาก็กลายเป็นจุดสนใจและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพราะหลายคนรู้จักพวกเขาแต่เพราะรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของพวกเขาต่างหาก
“ว้าว ผู้ชายกลุ่มนั้นหล่อจัง!”
“ใช่!”
“ผู้หญิงก็สวยมาก!”
“เห็นด้วย โดยเฉพาะคนที่สูงๆ รูปร่าเธอดีจังเลยเนอะ”
คนในงานกำลังเอ่ยชมพวกกู้หนิงอย่างไม่ขาดปาก
เลิ่งเชาถิงและผู้ชายที่เหลือต่างก็หล่อเหลาและหุ่นดี ถึงแม้ว่าใบหน้าของกู้หนิงจะสวยกว่าฉิวอี้ซิน แต่รูปร่างของเธอยังไม่อาจเทียบฉิวอี้ซินได้ ฉิวอี้ซินเป็นหญิงสาวโตเต็มวัยแล้วและแต่งตัวเซ็กซี่มีสไตล์ เธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดท่ามกลางสาวๆ ในขณะที่กู้หนิงดูเหมือนเด็กนักเรียนจึงไม่ได้รับความสนใจมาก กู้หนิงไม่ได้สนใจอะไรและเลิ่งเชาถิงก็ไม่ต้องการให้ผู้ชายคนอื่นจ้องแฟนสาวของเขาตาเป็นมัน ส่วนซู่ฉินหยินก็มีเสน่ห์เช่นกันแต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับฉิวอี้ซิน
“คนนั้นใช่ลูกสาวตระกูลซู่รึเปล่า?”
“คุณหมายถึงเศรษฐีตระกูลซู่?
“ใช่ เธอเป็นลูกสาวของนายท่านรองตระกูลซู่ ชื่อว่าซู่ฉินหยิน”
“และฉันคิดว่าฉันเคยเห็นผู้หญิงตัวสูงคนนั้นที่ไหนมาก่อน เธอดูคุ้นมาก!”
“ก็ต้องหน้าปกนิตยาสารน่ะสิ เพราะเธอเป็นนางแบบ”
“โอ้ ใช่เธอจริงด้วย! ถึงว่าทำไมเธอถึงดูคุ้นๆ เธอเซ็กซี่มากและสวยมากด้วย สวยกว่าในรูปปกนิตยสารอีก!”
ทั้งฉิวอี้ซินและซู่ฉินหยินต่างเป็นที่คุ้นหน้าสำหรับพวกเขา