ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 13 มิตรภาพที่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 15 ทำอะไรแบบที่ยืดหยุ่นได้

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 14 คุณหม่า


ตอนที่ 14 คุณหม่า

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น แมวแก่สะดุ้งตื่นขึ้นรับโทรศัพท์ตอนหกโมงเช้า เขาได้รับแจ้งว่ามีงานในทีม จึงรีบรุดไปที่กองกำกับการตำรวจแต่เช้าตรู่ ขณะที่ฉินหยู่กำลังคิดถึงอาหารเช้าราคาถูก จู่ๆ หลินเนี่ยนเหล่ยก็นำแท่งแป้งทอดร้อนมาให้เขาอย่างมีน้ำใจ

“ฉันเพิ่งซื้อมา กินนะคะ” หลินเนี่ยนเหล่ยแขวนถุงแท่งแป้งทอดไว้ที่ประตูหน้าห้องแล้วตะโกนบอก

“อ๊ะ ครับ ขอโทษที่รบกวนจริงๆ” ฉินหยู่ผงะทั้งที่กำลังล้างถ้วยชามของเมื่อคืนอยู่

“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นเพื่อนบ้านก็ต้องช่วยเหลือกัน” หลินเนี่ยนเหล่ยนำอาหารเช้ามาให้เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับน้ำร้อนเมื่อคืนนี้ เธอจึงตอบด้วยรอยยิ้ม “ฉันจะไปทำงานละ”

“……ออกเช้าจัง?” ฉินหยู่ออกมาคุยกับเธอหน้าประตูบ้าน

“ก็ฉันมีงานถ่ายทอดสดข้างนอก ฉันเลยต้องไปเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมก่อน” หลินเนี่ยนเหล่ยโบกมือให้ฉินหยู่ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ “เจอกันคืนนี้”

“ดีครับ!”

“ลาก่อน พี่สาว” หลินเนี่ยนเหล่ยหันหลังเดินจากไปพร้อมกับกระเป๋าเป้สะพายไว้ที่หลัง

ฉินหยู่อึ้งไปเป็นเวลานาน “พี่สาว? แล้วจะเริ่มจากตรงไหนดีละเนี่ย ไปไม่เป็นเลยเรา?”

ห้านาทีต่อมา

หลินเนี่ยนเหล่ยรอเพื่อนร่วมงานหญิงของเธอที่ประตูใหญ่หน้าบ้านเช่าสักครู่ แล้วรีบวิ่งไปที่หน่วยรถถ่ายทอดสดที่เพื่อนร่วมงานของเธอขับมารับ เธอพูดแบบทีเล่นทีจริงว่า “ฉันไม่อยากเชื่อเลย เพื่อนบ้านชายที่ฉันได้รู้จักดูเป็นแมนมาก…แต่สงสัยจะเป็นเกย์...”

“จริงอ่ะ?”

“ดูเหมือนจะเป็นนะ ฉันเห็นด้วยตาของฉันเองเลย”

“มายก๊อด น่าเสียดายจัง”

“...!”

ฉินหยู่กินอาหารเช้าที่หลินเนี่ยนเหล่ยซื้อมาฝาก และทำความสะอาดห้องแบบลวกๆ ก่อนจะรีบไปที่กองกำกับการทันที

เมืองซงเจียงนั้นเพิ่งก่อตั้งขึ้นในเวลาไม่นานในช่วงการขาดแคลนทรัพยากร การบริการสาธารณะยังไม่เพียบพร้อม ไม่มีรถไฟใต้ดิน ไม่มีรถเมล์ และแท็กซี่ล้วนเป็นสิ่งหายาก คนธรรมดาๆ อาศัยขาเดินทางเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้ามีปัญญาก็ซื้อรถไฟฟ้าใช้เอง แต่ค่าชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าก็ค่อนข้างแพงทีเดียว ผู้ที่สามารถจ่ายได้คือนักธุรกิจที่มีงานและรายได้มั่นคง และผู้นำหน่วยราชการเล็กๆ เท่านั้น

ฉินหยู่เป็นคนตระหนี่มาก เขามีเป้าหมายในการใช้เงินอื่นที่สำคัญกว่า รถยนต์ไฟฟ้าจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาจะควักกระเป๋าซื้อมันในตอนนี้ เขาสามารถเอารถของกองปราบมาใช้ได้ แต่ค่าใช้จ่ายเขาต้องแบกภาระเอง เขาจึงแค่เดินไปทำงานโดยไม่คิดอะไรให้วุ่นวายอีก

ห้านาทีของการเดินเท้า ฉินหยู่มาหยุดหน้าร้านสะดวกซื้อ กำลังจะเข้าไปหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ชายร่างกำยำสองคนเดินเข้ามาประกบเขาไว้ทางซ้ายและขวา

ฉินหยู่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณเมื่อพิจารณาท่าทางจากฝ่ายตรงข้าม มือเขาเข้ากุมไว้ที่เอวแสร้งทำเป็นเตรียมชักปืน แม้ในความจริงเขาไม่มีปืนพกซักกระบอกอยู่กับตัว

“ไม่ได้มาร้าย เราแค่ต้องการคุยกับคุณ” คนหัวหน้าก้มหัวให้เล็กน้อยพร้อมพูด

ฉินหยู่เงียบไปสองสามวินาที “คุณเป็นใคร?”

“คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักฉัน แค่รู้จักนี่ก็พอ” คนหัวหน้ายกชายเสื้อขึ้นเผยให้เห็นปืนมันเลื่อมที่เอว และชักมันออกมา

ฉินหยู่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนด้วยใบหน้าเย็นชา

คนหัวหน้าปลดล็อกเซฟตี้ปืน “เราคุยกันได้ไหม?”

ฉินหยู่พยักหน้าตอบอย่างไม่มีทางเลือก จำได้ดีว่าเขาเคยทำให้ใครหลายคนขุ่นเคืองหลังจากมาถึงซงเจียง “งั้นไปกันเลย”

...

ไม่กี่นาทีต่อมาในซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง

ชายวัยกลางคนสี่คนยืนอยู่ทั้งสองด้านของฉินหยู่ และชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถออฟโรดไฟฟ้า ฉินหยู่พิจารณามองดูคนกลุ่มนี้และพบว่า พวกเขาแต่งกายเรียบง่าย สวมแจ็กเกตหนังหนาๆ และหมวกขนสัตว์ แก้มของพวกเขาดูสกปรกราวกับมันเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน

ที่จริงฉินหยู่ไม่เกรงกลัวพวกคนที่ดูเป็นหัวหน้าใหญ่ ที่ชอบสวมเสื้อผ้าเรียบๆ พูดเบาๆ และมักจะปรากฏตัวด้วยภาพลักษณ์เฉพาะตัวในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แต่เขากลับรู้สึกเกรงกลัวกลุ่มชายกลางคนกับชุดเรียบง่ายเหล่านี้มากกว่าอย่างไร้ที่มา เพราะคนที่อยู่ข้างหน้าทำให้เขานึกถึงแก๊งโจรมัตสึชิตะ ที่ถูกจับตายเมื่อไม่กี่วันก่อน

“นายจับหมาเหล่าเอ้อและต้าหมินไปใช่ไหม?” ชายชรากับเสื้อโคตพันรอบไหล่ในรถยนต์ไฟฟ้าถามขึ้น

เหตุผลใหญ่ที่สุดที่ฉินหยู่ไม่เลือกที่จะขัดขืนต่ออีกฝ่ายในตอนนี้ แต่ตามมาอย่างเชื่อฟัง เขาคาดเดาว่าคนกลุ่มนี้มาที่นี่เพื่อคดีมากกว่าส่วนตัว ฉินหยู่มาที่ซงเจียงแล้วรุกรานผู้คนไปจนนับไม่ถ้วน พี่สามก็นับเป็นหนึ่งในนั้น แต่ความขัดแย้งนั้นยังห่างไกลจากการบันดาลโทสะและเข่นฆ่ามากนัก และถ้าอีกฝ่ายมาเพราะเรื่องคดี มันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องธุรกิจและการเงิน ด้วยเหตุนั้นทำให้ฉินหยู่รู้สึกว่า อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องแข็งกร้าวกับเขา

ฉินหยู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าตอบ “ใช่ ฉันจับพวกเขาได้”

“นายเคยได้ยินนามสกุลหม่าไหม? ฉันเป็นลุงของลูกชายคนที่สองของตระกูลหม่า” ชายชราก้มลงหยิบมวนยาสูบรมควันออกจุดสูบ

ฉินหยู่กะพริบตา ทันใดนั้นการแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นคลุมเครือและพูดด้วยอารมณ์เย็นลงอย่างมาก

“สวัสดีครับ สวัสดีเถ้าแก่หม่า”

ชายชราหันมองออกไปนอกรถ พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “น้องชาย นายเพิ่งมาที่ซงเจียงใช่ไหม?”

“ใช่ ฉันเพิ่งมาที่นี่ ฉันใช้เงินเพื่อให้ได้งานนี้” ฉินหยู่พูดตรงไปไม่อ้อมค้อม “เฮะเฮะ ทุกคนในแผนกนี้ฉันสามารถสั่งได้”

“อืมม นายมีคอนเน็กชัน และตอนนี้นายได้เป็นหัวหน้าทีมทั้งที่เพิ่งมา?” ผู้เฒ่าหม่าสูบบุหรี่เฮือกใหญ่พร้อมมองฉินหยู่ด้วยความครุ่นคิด

“มันไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับ” ฉินหยู่พูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่น “ฉันค่อนข้างโชคดี บังเอิญได้ทำคดีบางอย่างแล้วสามารถปิดคดีได้อย่างง่ายดาย ผู้กำกับยินดีมาก เขาเลยเลื่อนตำแหน่งให้ฉันเป็นการตอบแทนนะครับ”

ผู้เฒ่าหม่าพ่นควันบุหรี่ออกมาระหว่างความเงียบที่ยาวนาน และเอ่ยขึ้นว่า “ปล่อยคนของฉันไป น้องชาย นายรับผิดชอบคดีนี้ ฉันรู้ว่านายช่วยฉันได้”

“เหะเหะ เรื่องนี้...” ฉินหยู่ยิ้มแหยๆ “เรื่องนี้... ฉันจัดการเองไม่ได้!”

“ฉันไม่เคยใช้ใครทำงานให้ฟรีๆ”

หลังจากพูดจบ ผู้เฒ่าหม่าก็โบกมือให้ชายร่างกำยำที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายของฉินหยู่ และอีกฝ่ายก็หยิบเงินสด 20,000 ดอลลาร์เอเชียออกมาจากแขนของเขาและยื่นให้ฉินหยู่พร้อมพูด “รับไป”

“นี่... นี่มันไม่ดีแน่” ฉินหยู่ปฏิเสธด้วยรอยยิ้มที่มาพร้อมกับความเครียดที่เริ่มก่อตัวขึ้น

“เงิน หรือปล่อยทายาทตระกูลหม่าฟรีๆ” ชายร่างกำยำถามสั้นๆ “คุณต้องการอย่างไหน?”

เหงื่อบนหน้าผากของฉินหยู่สะท้อนความรู้สึกกระวนกระวายยากเกินควบคุม สัญชาตญาณของเขาบอกว่า ถ้าคนกลุ่มนี้ไม่พอใจ พวกเขาสามารถกำจัดฉินหยู่ได้ทุกนาที

“น้องชาย นายเป็นผู้นำทีมทำคดีนี้ นายสามารถเข้าถึงได้ทุกส่วนของคดีนี้ ถ้านายทำให้หลักฐานหายไป สมาชิกสองคนในครอบครัวฉันจะไม่ถูกปล่อยตัวหรือ?” ผู้เฒ่าหม่าพูดด้วยรอยยิ้ม “ช่วงเวลานี้ มีพวกที่ชอบพูดแต่เรื่องกินและเรื่องดื่มเหล้าอยู่ทุกวี่ทุกวัน และพวกที่พูดแต่เรื่องเอาตัวรอด แต่ฉันไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องหลักการ อาชีพตำรวจคงทำอยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้านายมีเงินอยู่ในมือ นายใช้มันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ”

เมื่อฉินหยู่ได้ยินเช่นนั้น เขาเอื้อมมือไปแตะเงิน 20,000 ดอลลาร์เอเชียในมือของชายกำยำ และตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย “ผู้เฒ่าหม่า ให้ฉันบอกอะไรคุณบางอย่างด้วยความสัตย์จริง ฉันอยากรับเงินนี้ แม้ว่ามันจะเป็นแค่ความฝันก็ตาม 20,000 ดอลลาร์เอเชีย ฉันซื้อสามารถตำแหน่งนายอำเภอและแต่งเมียได้อีกหลายคน แต่ว่า... ฉันต้องเก็บมันเป็นความลับตลอดไป”

ชายชรานิ่งฟังเงียบๆ

“หัวหน้าแผนกเลื่อนตำแหน่งให้ฉัน และเสนอชื่อฉันให้แก้ปัญหาคดีลักลอบค้ายาเสพติด” ฉินหยู่เล่าเหตุการณ์ด้วยน้ำเสียงเบาและราบเรียบ “ถ้าคนที่ถูกจับตอนนั้นไม่ได้ถูกพากลับไปที่กองกำกับการก่อน ไม่ต้องให้ผู้เฒ่าหม่าเอาเงิน 20,000 ดอลลาร์เอเชียมาให้ฉันหรอก แม้ท่านไม่ให้ฉันซักอีแปะ แต่ถ้าฉันได้ยินชื่อเสียงของท่าน ฉันก็จะปล่อยพวกท่านไปแน่นอน แต่ตอนนี้พวกเขาถูกควบคุมตัวกลับไปที่กองกำกับการแล้ว และได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ ทั้งหมดเสร็จแล้ว ถ้าฉันสั่งปล่อยเขาโดยกะทันหัน จะทำให้คนเห็นความผิดปกติ และเท่ากับว่า ฉันได้ทรยศต่อหัวหน้าของฉันเองไม่ใช่

หรือ? ผู้เฒ่าหม่า ฉันอาศัยอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนามาหลายปี และในที่สุดฉันก็ได้มีโอกาสกินอาหารทุกวันครบมื้อ ฉันไม่สามารถขัดใจผู้บังคับบัญชาของฉันได้... เรื่องนี้ ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ...”

“ให้ตายเถอะ นายมันน่าละอายจริงๆ!”

ชายร่างกำยำที่ยืนทางด้านขวา หยิบมีดเนปาลออกมาจากเสื้อคลุมทหารของเขา และควงมีดไปรอบๆ พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาฉินหยู่ แล้วสับมันลงไปที่หัวของเขา!

เสียงลมปะทะใบมีดที่ฟันลงมาเชือดเฉือนอย่างรวดเร็ว

………………………………………………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด