คาเฟ่ 2
“โอเค…”
มันช่างน่าเสียดายเพราะหลี่ย่าหลินพึ่งรู้จักกับชิโนะได้ไม่นานเธอจึงเปลี่ยนวิธีการเรียกเขาจากหลี่ซังเป็นย่าหลินซังได้เท่านั้น ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว เขาต้องการความชื่นชอบที่สูงขึ้นเพื่อไปต่อ
ประกอบกับชิโนะอึดอัดในการสื่อสารกับผู้คนและด้วยความที่เธอแสดงอารมณ์ไม่เก่งเธอจึงไม่ได้พูดคำอะไรมากมาย
หลังจากได้รับการตอบรับจากหลี่ย่าหลินเธอจึงพยักหน้าเบา ๆ
“ฉันจะไปที่ร้าน”
ชิโนะสื่อสารกับผู้คนไม่เก่งและหลี่ย่าหลินเองก็เป็นคนง่ายๆ มื้อเช้านี้เลยบอกได้ว่าเงียบมาก
หลังจากทานอาหารเช้าและล้างจานแล้วชิโนะก็เดินลงจากชั้นสองไปชั้นหนึ่งเพื่อดูแลคาเฟ่เหมือนเช่นเคย
คาเฟ่ Rabbit House เปิดให้บริการตลอดทั้งวันในช่วงที่โรงเรียนยังไม่เปิดและนี่ยังเป็นแหล่งรายได้เดียวสำหรับครอบครัวคาฟูหลังจากการหายตัวไปของคาฟู ทาคาฮิโระพ่อของชิโนะ ฉากหน้าบ้านคาฟูแห่งนี้จึงเหลือเพียงชิโนะคนเดียว
ใช่มันเป็นฉากหน้า ไม่ได้มีเพียงหลี่ย่าหลินและชิโนะที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เท่านั้น
ถูกต้องแล้วกระต่ายน้อยแองโกร่าที่น่ารักก็เป็นสมาชิกของครอบครัวนี้เช่นกัน
กระต่ายพันธุ์แองโกร่านี้มีชื่อว่าทิปปี้ หลี่ย่าหลินมักจะเห็นมันตลอดหลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของคาฟูเพียงไม่กี่วัน แต่ดูเหมือนว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ทิปปี้จะรู้สึกกระสับกระส่ายราวกับว่าป่วยหนัก
หลี่ย่าหลินอาจเสนอให้พามันไปโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงถ้ามันเป็นแค่กระต่ายแองโกร่าธรรมดา แต่ตัวตนที่แท้จริงของมันไม่ง่ายอย่างนั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดมันน่าจะเป็นปู่ของชิโนะ
แม้ว่าเขาจะยังไม่แน่ใจนัก เนื่องจากมนุษย์กลายเป็นกระต่ายนั้นอัศจรรย์เกินไป แต่หลี่ย่าหลินในฐานะคนที่กลับชาติมาเกิดใหม่กลับไม่สามารถยอมรับการที่มนุษย์กลายเป็นกระต่ายได้?
สามารถบอกได้เลยว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ทิปปี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนี้สิน ท้ายที่สุดแล้วคาเฟ่แห่งนี้ไม่เพียงแต่สานต่อความฝันของชิโนะเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทิปปี้ด้วย
ความกดดันเรื่องหนี้สินอย่างกะทันหันทำให้ร้านกาแฟอาจไม่ได้เป็นของพวกเขาอีกต่อไป มันจะแปลกมากถ้าทิปปี้สามารถยอมรับระเบิดลูกใหญ่นี้ได้
ในแง่หนึ่งความสามารถในการแบกรับแรงกดดันของทิปปี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับชิโนะหลานสาวของเขา
แน่นอนว่าหลี่ย่าหลินแค่คาดเดา เขายังไม่ได้ตรวจสอบเพิ่มเติม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จะทำอย่างไรถึงจะได้รับ 100 ล้านสกุลเงินญี่ปุ่นภายใน 3 เดือน
สำหรับคนธรรมดานี่เป็นเงินก้อนใหญ่แน่นอน!
หลี่ย่าหลินเคยเป็นพนักงานออฟฟิศสิ่งเดียวที่เขาสนใจคือสินค้าโอตาคุ เขาจะหาเงิน 100 ได้อย่างไร?
มันดูเหมือนราวกับว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ แต่ด้วยความคิดที่รอบคอบของหลี่ย่าหลินพบว่าสิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้เรียนรู้โลกโดยละเอียดผ่านอินเทอร์เน็ตและได้ค้นพบสิ่งที่น่ายินดีมาก
โลกนี้เป็นเหมือนโลก แต่ไม่ใช่โลกจริงๆ ควรจะกล่าวได้ว่านี่เป็นอีกโลกหนึ่งที่คล้ายกับโลกที่หลี่ย่าหลินเคยอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ แต่แตกต่างกันมาก
มีไม่กี่ประเทศในโลกที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับครองอำนาจ จักรวรรดิจีนในเอเชียถือได้ว่าเป็นหนึ่งเดียว ในความเป็นจริงประเทศเดียวที่สามารถแข่งขันกับจักรวรรดิจีนได้คือสหพันธรัฐอเมริกาจากอีกฟากหนึ่งของโลก มหาอำนาจสองประเทศในโลกกำลังทะเลาะกันและเกิดสงครามหลายครั้งก่อนหน้านี้ จนกระทั่ง 10 ปีที่แล้วในที่สุดความสงบสุขก็กลับคืนมา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สงบสุข แต่ญี่ปุ่นในโลกนี้ก็ถูกลดประวัติศาสตร์ลงโดยสิ้นเชิงเนื่องจากสงครามก่อนหน้านี้ หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นพ่ายแพ้ กองทัพจักรวรรดิก็เข้ายึดครองญี่ปุ่นได้สำเร็จ ตั้งแต่นั้นมาญี่ปุ่นก็หายไปและกลายเป็นเพียงเขตญี่ปุ่นในจักรวรรดิ
หลังจากยึดครองญี่ปุ่นจักรวรรดิได้อนุญาตให้มีการเก็บภาษาญี่ปุ่นไว้เป็นภาษาแม่ของชนกลุ่มน้อยของจักรวรรดิและกลุ่มเชื้อชาติเดียวกัน
และยังอนุญาตให้มีการหมุนเวียนสกุลเงินญี่ปุ่น(เยน)ในเขตญี่ปุ่นรักษาเทศกาลและประเพณีดั้งเดิมและพัฒนาอุตสาหกรรมทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างจริงจัง
อาจเป็นเพราะสงครามแม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากจักรวรรดิ แต่การพัฒนาเขตของญี่ปุ่นก็ยากที่จะปรับปรุงในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้านเศรษฐกิจก็โอเค มันแก้ไขได้ด้วยเงิน แต่ด้านวัฒนธรรม... เงินแก้ได้ไหม?
ไม่ใช่แค่เขตญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ควรกล่าวได้ว่าการพัฒนาทางวัฒนธรรมและความบันเทิงโดยรวมของโลกนี้อยู่ไกลเกินกว่าจินตนาการของหลี่ย่าหลิน!
หลี่ย่าหลินชอบ ACGN ในญี่ปุ่นจริงๆวัฒนธรรมเหล่านี้เพิ่งเริ่มพัฒนา ก่อนที่เขาจะกลับชาติมาเกิดญี่ปุ่นเป็นประเทศใหญ่สำหรับ ACGN อากิฮาบาระเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในหัวใจของโอตาคุสนับไม่ถ้วน แต่ในโลกนี้หลี่ย่าหลินรู้สึกรับไม่ได้
(TN: ACGN *Anime Comic Game Novel*= อนิเมะ มังงะ เกม นวนิยาย)
รับชมมังงะสุดฮอตวันนี้ โดยพื้นฐานแล้วเป็นสไตล์ของยุค 60 และ 70 ศตวรรษที่แล้ว มีโครงเรื่องที่เรียบง่ายและสไตล์การวาดภาพเหมือนจริง ไม่เพียงแค่นั้นพล็อตยังล้าสมัยและทื่อมากอีกด้วย เพียงแค่อ่านสามบทแรกทุกคนก็สามารถเดาเนื้อเรื่องต่อไปได้
มังงะเป็นแบบนี้อนิเมะก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน หลังจากดูอนิเมะตอนหนึ่งเขาก็เริ่มสงสัยในชีวิตของเขา
ใช่ในเวลานี้หลี่ย่าหลินรู้สึกได้ว่า Pleasant Goat And Big Big Wolf นั้นสนุกมาก
เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ
อนิเมะและมังงะนั้นล้าหลังโดยสิ้นเชิงเกมก็ไม่ได้ดีไปกว่ามากนัก สำหรับนวนิยาย ... มันยิ่งแย่กว่านั้นแม้แต่คอนเซ็ปต์(แนวคิด)ของนวนิยายก็ยังไม่ปรากฏ
มันไม่ได้ฟิลด์ ACGN เลยแม้แต่วงการบันเทิงขนาดใหญ่เช่นเพลงหรือภาพยนตร์ก็ไม่ได้ดีมาก
เห็นได้ชัดว่าระดับเทคโนโลยีของโลกนี้มีการพัฒนาอย่างมากซึ่งดีกว่าโลกก่อนที่หลี่ย่าหลินจากมา แต่เหตุใดความบันเทิงทางวัฒนธรรมจึงล้าหลัง?
เพราะสงคราม?
ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น หลังจากทั้งหมดพวกเขาได้รบราฆ่าฟันกันมายาวนาน เป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะคิดว่าวัฒนธรรมและความบันเทิงจะพัฒนาไปในรูปแบบใด
เป็นเพราะเหตุนี้หลี่ย่าหลินจึงบังเกิดความคิดขึ้น เนื่องจากระดับ ACGN ของโลกนี้ล้าหลังมาก
เขาจะเริ่มหา 100 ล้านสกุลเงินญี่ปุ่นจากด้านนี้ได้หรือไม่?
แม้ว่าหลี่ย่าหลินจะดูถูกวัฒนธรรมความบันเทิงของโลกนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผลงานของโลกนี้ไม่เป็นที่นิยม ในความเป็นจริงด้วยการสนับสนุนอย่างดีจากจักรวรรดิจึงมีการนำนโยบายสิทธิพิเศษด้านความบันเทิงมากมายมาใช้กัน พลเมืองก็แสวงหาผลงานเหล่านี้มากเช่นกัน
บางทีนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ตามพล็อตปกติในนวนิยายตอนนี้หลี่ย่าหลินควรคัดลอกความคลาสสิกในโลกก่อนของเขาและ'รังสรรค์' สิ่งที่ดีทั้งหมดในโลกเดิมของเขาออกมา ด้วยเสน่ห์ของผลงานเหล่านั้นนับประสาอะไรกับเงิน 100 ล้านญี่ปุ่นแม้ว่าจะเป็น 1,000 ล้านหมื่นล้านเขาก็สามารถหาได้อย่างง่ายดาย
แต่มันต้องมีข้อมูลอ้างอิง หลี่ย่าหลินต้องมีความจำที่โคตรดีบวกกับความสามารถในการคัดลอกผลงานที่ยอดเยี่ยมเหล่านั้น
น่าเสียดายที่หลี่ย่าหลินก่อนที่จะกลับชาติมาเกิดเขาเป็นเพียงโอตาคุธรรมดา หลังจากดูอนิเมะเขาจำเนื้อเรื่องบางส่วนได้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่จำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ เช่นเดียวกับนวนิยายเขาไม่มีความมั่นใจที่จะคัดลอกทุกคำของนวนิยายเหล่านั้นเขาไม่มีสไตล์การเขียนของพวกเขา
ไม่ต้องพูดถึงมังงะเนื่องจากเป็นมือใหม่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องเตรียมอะไรบ้างและต้องเริ่มวาดมังงะยังไง?
แล้ว... นี่หมายความว่าเขาทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?
ไม่มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ปัญหานี้ จุดสำคัญอยู่ที่ระบบ Salvation ในร่างกายของเขา
มีระบบในร่างกายแล้ว เขายังมีสิ่งใดอีกที่เขาไม่สามารถทำได้?
ภารกิจช่วยเหลือคาเฟ่: ก้าวแรกในเส้นทางแห่งการสร้างสรรค์
เนื้อหาภารกิจ: หมวดหมู่ศิลปะ - สาขาจิตรกรรม - ตัวเลือกมังงะปลดล็อค เพิ่มความสามารถของตัวเลือกมังงะให้อยู่ในระดับมือใหม่
รางวัลภารกิจ: สคริปต์ 'Cat Eye' ของมังงะ (เวอร์ชั่นที่ปรับให้เหมาะสม)
คำแนะนำจากระบบ: หลังจากภารกิจสำเร็จขอแนะนำให้เพิ่มความสามารถของตัวเลือกมังงะเป็นระดับมืออาชีพจากนั้นวาดสคริปต์ 'Cat Eye' คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่คาดคิด
เยี่ยมมากสุโก้ย!
ด้วยภารกิจนี้หลี่ย่าหลินพบว่าตัวเลือกมังงะบนแผงคุณสมบัติของเขาสว่างขึ้น ความสามารถในตอนนี้คือระดับเริ่มต้น 0 สำหรับวิธีการปรับปรุงความสามารถนั้นจะมีคำอธิบายในตัวเลือกมังงะด้วย
การวาดหนึ่งหน้าสามารถเพิ่มความชำนาญได้ 1 คะแนนและเมื่อความชำนาญถึง 100 คะแนนจะเลื่อนระดับเป็นมือใหม่?
สิ่งนี้ค่อนข้างง่ายตราบใดที่เขาใช้เวลามันก็ไม่ใช่ปัญหาในการอัพเกรดระดับเริ่มต้นนี้ให้เป็นมือใหม่
แล้วการอัพเกรดจากระดับมือใหม่เป็นระดับมืออาชีพต้องใช้เท่าไหร่?
เชี่ย! ความชำนาญ 500 คะแนน? คือเขาต้องวาดอย่างน้อย 500 หน้า?
ใจเย็น ๆ... ฉันต้องใจเย็น...
เอาล่ะทิ้งประเด็นเรื่องความชำนาญไว้ก่อน แค่รางวัลภารกิจนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้เขาตื่นเต้นได้แล้ว
บางทีสำหรับคนหนุ่มสาวในปัจจุบันชื่อ Cat Eye จะรู้สึกแปลก ๆ สำหรับพวกเขา แต่สำหรับหลี่ย่าหลินชื่อนี้แสดงถึงความทรงจำในวัยเด็กของเขา
รุยพี่สาวที่เรียบร้อยและใจดี ฮิโตมิน้องสาวคนที่สองที่ใจดีและกล้าหาญ ไอน้องสาวคนที่สามสดใสและน่ารักภาพของพวกเขายังคงสดใสอยู่ในใจ แม้ว่าจะได้เห็นซีรีส์ใหม่ ๆ มากมายและได้เห็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถลบสถานะของ Cat Eye ในใจของเขาได้
แน่นอนว่าสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลี่ย่าหลินมากที่สุดก็คือเขาคิดว่าสไตล์ของ Cat Eye นั้นเหมาะกับช่วงเวลานี้มาก เนื่องจากในโลกของมังงะปัจจุบันรูปแบบการวาดภาพมักจะเหมือนจริงและพล็อตเรื่องค่อนข้างเรียบง่าย จะเป็นเรื่องที่แปลกแยกถ้าหากมีการเผยแพร่ผลงานประเภทโมเอะ
ท้ายที่สุดก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวเป็นอัจฉริยะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเป็นคนบ้า
( TN : หมายถึงทำอะไรอย่ารีบเกินไป )
จุดประสงค์หลักของเขาตอนนี้คือการหาเงิน แน่นอนเขาต้องพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่าง เขารู้สึกว่ารางวัลภารกิจที่ระบบมอบให้นั้นเหมาะสมมาก
เนื่องจากเป็นกรณีนี้จึงไม่มีอะไรต้องพิจารณาอีกต่อไปใช่ไหม?
ถึงเวลาทำงานหนักแล้ว!
ต้องบอกว่าหลังจากเริ่มงานจริง หลี่ย่าหลินพบว่าการวาดมังงะนั้นยากกว่าที่คิดไว้มาก แม้ว่าระบบจะช่วยเขาในขั้นตอนแรกด้วยการเพิ่มทักษะและความรู้ในการวาดมังงะมากมาย แต่ก็ยังต้องใช้พลังงานมากในการวาด
ท้ายที่สุดการได้รับความชำนาญไม่ใช่แค่การวาดกราฟฟิตีเท่านั้น เขาต้องปฏิบัติกับมันอย่างจริงจังและสุดท้ายจะต้องได้รับการยอมรับจากระบบก่อนจึงจะได้ความชำนาญ
สำหรับทักษะปัจจุบันของเขาในการวาดหนึ่งหน้าหรือแม้แต่ตัวละครยืนที่ค่อนข้างเรียบง่ายต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงในการวาด กล่าวคือต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าสิบชั่วโมงเพื่อเลื่อนระดับเป็นระดับมือใหม่โดยไม่ต้องกินหรือดื่ม
นี่คืออะไร? เกมฟามเลเวล?