ตอนที่แล้วบทที่ 93 ทุกหนทางเพื่อให้แกร่งขึ้น (5)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 95 การประชุม (2)

บทที่ 94 การประชุม (1)


มีคนห้าคนจากทุกเพศทุกวัยรวมตัวกันอยู่ในห้อง

ในขณะที่มีเทียนเพียงเล่มเดียวที่ส่องสว่างอยู่ภายในห้อง สาวผมบลอนด์ที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากับสถานการณ์หนักๆก็เปิดปากของเธอ

“จริงไหมที่ ‘ดาบ’ กำลังเคลื่อนไหว?”

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความระคายเคือง

เชพเพิร์ดจุนชายวัยกลางคนที่ถูกหญิงสาวจ้องมองทำได้เพียงแค่ยิ้มอย่างขมขื่น

“เขายกเลิกเวทย์กำแพงที่เขาวางไว้ในป่าออก เชื่อฉันสิราวเดอร์เชอริลฉันยอมพนันกับชื่อเสียงของฉันเลย”

หากใครได้อยู่ที่นี้พวกเขาจะต้องสงสัยในสายตาของตัวเอง

เชพเพิร์ดจุนมาสเตอร์หอคอยเวทย์มนตร์และหัวหน้าตระกูลจุนที่มีชื่อเสียงกำลังแสดงท่าที่แตกต่างจากสาวน้อยขนาดนั้นเลยเหรอ?

เขาไม่กล้าสบตากับผู้หญิงคนนี้และหลีกเลี่ยงมันอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า?

อย่างไรก็ตามไม่มีใครในเซอร์เคิลที่จะจับผิดการกระทำของเชพเพิร์ดจุนเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเขา

ราวเดอร์เชอรีล!

เด็กสาวผมบลอนด์คนนี้มีตำแหน่งเป็นอันดับที่สองในการบังคับบัญชาของไพลส์ฟาวเดอร์อาร์เมลท์หนึ่งในบิ๊กทรีของเซอร์เคิล

หากมองอย่างผิวเผินเธอดูเหมือนจะเป็นสาวผมบลอนด์ที่อายุไม่เกินยี่สิบปีแต่ความจริงแล้วเธอเป็นแวมไพร์ที่มีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปีแล้ว

เชอริลยิ้มเล็กน้อยและเชิดคางขึ้น

“เขากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด”

“เมืองพิลเล็ตที่เราอยู่ในปัจจุบัน นั่นคือเหตุผลที่ฉันเรียกพบคุณ”

“ฮึ่ม…”

ดวงตาคมสีแดงเข้มของเชอรีลกวาดไปทั่วห้องและจ้องมองทุกคน

ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการจ้องมองของเธอจะรู้สึกไม่สบายใจและพวกเขามักจะรีบหลีกเลี่ยงที่จะสบตากับเธอ

เธอเลียริมฝีปากของเธอหนึ่งครั้งก่อนที่จะพูด

“มันสมเหตุสมผลแล้วที่คุณเรียกหาฉัน ท้ายที่สุดคุณก็ไม่ได้เป็นอะไรนอกจากลูกเจี๊ยบที่อยู่ต่อหน้าอะโพคาลิปส์”

กระทืบ

เธอกัดฟันด้วยความโกรธ

“คุณลืมการต่อสู้กับนอซด็อกไปแล้วหรือ? โทร์วแมนริงส์ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับบิ๊กทรีเกือบจะถูกทำลายล้างในการรบเพียงครั้งเดียว ในตอนนั้นเราได้รับข้อมูลเพียงชิ้นเดียวและนั่นคือความจริงที่ว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นมีพลังแห่งความตาย”

หลายร้อยเกือบพันคนเสียชีวิตเพียงเพื่อให้ได้ข้อมูลเพียงชิ้นเดียว

เธอรู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนมีความสามารถมาก แม้แต่เชอริลคนเดียวก็มีความรู้และประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาหลายศตวรรษ

ตราบใดที่เธอมีแผนการที่ดีพอเธอนั้นสามารถรื้อป้อมปราการเล็กๆ ด้วยตัวคนเดียวได้

แต่ฝ่ายตรงข้ามในครั้งนี้คือเดมิก็อดสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติที่สามารถทำลายเมืองหรือแม้แต่ประเทศด้วยตัวเองขึ้นอยู่กับอำนาจ

เชพเพิร์ดส่ายหัวด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

“แน่นอนผมไม่ได้เรียกคุณมาที่นี่เพื่อต่อสู้”

“แล้ว?”

“เรากำลังคิดจะไล่ตามเขาไป”

เป็นผู้ชายผมเทาที่พูดแบบนั้น

เชอริลขมวดคิ้ว

“ขออีกครั้งนาย…นายชื่ออะไรนะ?”

“ไฮนซ์เบลดครับราวเดอรเชอริล”

“ผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดในสโตรว์เน็คลิซ ฉันเคยได้ยินข่าวลือ”

อย่างไรก็ตามเธอยังคงมองเขาด้วยสายตาที่เฉียบคมของเธอ

“เราจะได้อะไรจากการติดตามเขา?”

“เราได้รับข้อมูลว่าเดมิก็อดกำลังรวบตัวอยู่ด้วยกันสักที่หนึง”

เชพเพิร์ดเป็นคนพูดแต่เชอริลก็ไม่ละสายตาจากไฮนซ์

“แหล่งข้อมูลมาจากที่ใด?”

"จากผมเอง"

เป็นอีกครั้งที่ไฮนซ์เป็นคนพูด

การแสดงออกของเชอริลกลายเป็นเรื่องแปลก

“เป็นข้อมูลจากตระกูลเบลคหรือเปล่า?”

“ผมแอบได้ยินการสนทนาระหว่างอิซากะเบลดกับเดมิก็อด”

“…”

ความจริงที่ว่าอิซากะหัวหน้าตระกูลเบลดมีความสัมพันธ์บางอย่างกับ เดมิก็อดนั้นเป็นความลับที่เปิดเผยในบรรดาตำแหน่งหลักๆของเหล่าเซอร์เคิลเท่านั้น

และไฮนซ์ก็เป็นคนรายงานเรื่องนี้

จากนั้นเขาก็ยังคงให้ข้อมูลกับเซอร์เคิลซึ่งไม่สามารถหาได้ด้วยวิธีการปกติ

ดังนั้นข้อมูลที่ไฮนซ์นำมาจึงมีความน่าเชื่อถือสูง

อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายคนในเซอร์เคิลที่สงสัยเขา

การแสดงออกของไฮนซ์ยังคงสงบแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธออาจเป็นหนึ่งในนั้นที่สงสัยเขาก็ตาม

เขาดูไม่เหมือนคนที่กำลังโกหก

‘เขาเป็นเด็กแปลก ๆ ’

นั่นคือสิ่งที่เชอริลมีต่อไฮนซ์

แม้จะมีประสบการณ์แต่ก็ยากที่เธอจะมองทะลุจิตใจเขาได้

เขาอาจจะพูดความจริงหรือไม่ก็เขาโกหกได้เก่งมากๆ

“การประชุมจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในลัวโนเบิลแต่ผมไม่ทราบตำแหน่งที่แน่นอน”

“ลัวโนเบิล? นั่นคือทิศทางตรงกันข้ามกับที่นี้”

“ผมคิดว่าเขาต้องการใช้หินวาร์ปที่นี่”

ครู่หนึ่งความเงียบก็เกิดขึ้นในห้อง

“เดมิก็อดใช้หินวาร์ปนี่นะ? พวกเขามีรูปแบบการเดินทางเป็นของตัวเองนิ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าพวกเขาเข้ามาในเมืองมนุษย์เพียงเพื่อใช้หินวาร์ป”

คราวนี้ดูเกนจาร์ซึ่งเป็นฟอร์สออเนอของไพลส์ฟาวเดอร์อาร์เมลท์เป็นคนถาม

เชพเพิร์ดจ้องมองมาที่เขา

‘เขาเปลี่ยนไปมาก’

ดูเกนจาร์เป็นพ่อมดที่มีข่าวลืออย่างกว้างขวางว่ามีบุคลิกที่ไม่ค่อยตรงกับความสามารถของเขา

แม้ว่าเขาจะเป็นอาร์ชเมจระดับ 7 ดาว แต่ความดื้อรั้นและความใจแคบทำให้เขาไม่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริหารคนอื่นๆของเดอะบิ๊กทรี

อย่างไรก็ตามชายคนนี้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

ว่ากันว่าเขาไม่เคยโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องไร้จุดหมายอีกต่อไปและชื่อเสียงของเขาในเซอร์เคิลก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

เชพเพิร์ดไม่เชื่อในตอนแรก แต่หลังจากใช้เวลาสองสามวันนี้ร่วมกันและพูดคุยกับเขาเชพเพิร์ดก็รู้ว่าเขาเปลี่ยนไปจริงๆ

เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูเหมือนว่าดูเกนจาร์จะสำนึกอะไรบางอย่าง

จากนั้นอัศวินที่มีหนวดหนาก็แตะลงบนชุดเกราะของเขา

“นั่นไม่ใช่ปัญหา นี่เป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงมาก เราจะแน่ใจได้หรือไม่ว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นไม่ได้ตั้งใจจะทำลายเมืองพิลเล็ต”

เขาเป็นผู้บริหารจากลูซิดซอร์ดชื่อเจอโรมเบอร์เนอร์

ไฮนซ์ส่ายหัว

“ถ้านั่นคือจุดประสงค์ของเขาเขาคงไม่เคลื่อนไหวช้าขนาดนี้และปล่อยให้เราจับทางเขาได้”

“มันอาจจะเป็นเพียงความตั้งใจ ไม่มีอะไรที่ไร้จุดหมายไปกว่าการพยายามหาเหตุผลเข้าข้างตนเองในพฤติกรรมของเดมิก็อด”

“นั่นเป็นเรื่องจริงแต่พิลเล็ตมีตระกูลเบลคอยู่ เดมิก็อดมีความสัมพันธ์กับตระกูลเบลดดังนั้นฉันจึงไม่คิดว่าพวกเขาจะโจมตีสถานที่นี้”

“…”

เจอโรมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะไม่สามารถหาอะไรมาหักล้างได้

เชอริลกดขมับก่อนจะพูดอย่างหนักแน่น

“เอาล่ะ ฉันคิดว่าฉันเข้าใจละเขามาที่พิลเล็ตเพียงเพื่อใช้หินวาร์ปเพื่อมุ่งหน้าไปยังลัวโนเบิลจากนั้นเขาจะเข้าร่วมการประชุมของเหล่าเดมิก็อดซึ่งจัดขึ้นที่ไหนสักแห่งแถวๆนั่น”

"ถูกตัอง"

“แล้วเราจะทำอย่างไรกับข้อมูลพวกนี่”

เชพเพิร์ดเห็นด้วยกับเชอริล

โดยปกติแล้วเมื่อศัตรูมารวมตัวกันในที่แห่งเดียวมันเป็นโอกาสที่ดีที่จะโจมตีพวกเขาในครั้งเดียว

อย่างไรก็ตามศัตรูของพวกเขาคราวนี่คือเดมิก็อด

คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเอาชนะเดมิก็อดเมื่อพวกเขารวมตัวกัน

หากต้องการพูดอย่างตรงไปตรงมาหากเดมิก็อดหลายสิบรวมตัวกันในที่เดียวเหล่าเซอร์เคิลไม่น่าจะสามารถทำอะไรได้แม้ว่าสมาชิกทุกคนจะปรากฏตัวก็ตาม

ไฮนซ์พูดอย่างใจเย็น

“ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของเซอร์เคิล ไม่เคยมีกรณีการรวมตัวของเดมิก็อดมากกว่า10คน สำหรับสิ่งมีชีวิตที่เย่อหยิ่งเหล่านั้นการมารวมตัวกันในที่เดียวเพื่อพูดคุยบางสิ่งบางอย่างผมไม่แน่ใจว่ามันจะเกี่ยวกับอะไร แต่ผมแน่ใจว่ามันจะต้องมีความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ”

“…ดังนั้นนายต้องการแอบฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกัน?”

“ผมคิดว่ามันจะคุ้มค่าที่จะเสี่ยง”

“…”

เชอริลแตะที่คางของเธอ

แน่นอน…ไฮนซ์พูดถูก

ไม่ใช่แค่เรื่องของความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น

หากมีบางสิ่งที่ทำให้เดมิก็อดรวมตัวกันหลายสิบตัวมันก็คุ้มค่าที่จะสืบดูแม้จะเสี่ยงชีวิตก็ตาม

“และเราไม่จำเป็นต้องโจมตีเดมิก็อดโดยตรง”

"ฮะ?"

“ฉันได้ยินมาว่าอัครสาวกจะมาร่วมประชุมกับพวกเดมิก็อดด้วย”

“…!”

ข้อมูลนี้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมกระจายไปทั่วห้อง

เชอริลจ้องไปที่ไฮนซ์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

“นายแน่ใจในข้อมูลนี้หรือ?”

"ถูกตัอง"

“…”

หากเป็นเช่นนั้นสถานการณ์จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

วิธีที่ได้ผลที่สุดที่พวกเขารู้คือการฆ่าอัครสาวกจะส่งผลกับเดมิก็อด

เหล่าเซอร์เคิลยังไม่ทราบว่าเดมิก็อดจะต้องเผชิญกับบทลงโทษประเภทใดเมื่ออัครสาวกของพวกเขาเสียชีวิต แต่พวกเขารู้ว่ามันทำให้รูปแบบการทำงานปกติของพวกเขาหยุดลง

และผู้คนในห้องนี้ล้วนมีพลังมากพอที่จะจัดการแม้แต่อัครสาวกที่เก่งกาจที่สุด

‘แม้ว่าเราจะกำจัดพวกมันไปได้แต่ก็ได้ผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่’

ทุกคนดูเหมือนจะหันมามองที่เชอริลในเวลาเดียวกัน

นี่เป็นเพราะเธอเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจมากที่สุดในบรรดาผู้ชุมนุม

เชพเพิร์ดและไฮนซ์เป็นคนที่เรียกการประชุมนี้แต่เพื่อที่จะดำเนินการในกรณีฉุกเฉินการปรากฏตัวของราวเดอร์เชอริลเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

พวกเขาไม่มีอำนาจในเรื่องนี้

"ดี"

ริมฝีปากของเชอริลค่อยๆแยกออก

“อันดับแรกเราจะอยู่ในพิลเล็ตและติดตามสถานการณ์ และหลังจากที่ดาบเคลื่อนไหว เราก็จะตามเขาไปเข้าใจไหม?”

ทุกคนพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด