ตอนที่ 564 คุณเคยโกหกฉันไหม
“จริง ๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องช่วยฉันหรอก เรา...ก็เป็นแค่เพื่อนกัน”
“ฉันรู้อยู่แล้ว ถ้าคุณจะไม่ช่วย ฉันก็เข้าใจ”
“โย่วโย่ว คุณเคยโกหกผมหรือเปล่า?” กงเซลีมองดูเธอด้วยความสงสัยและความสงสัยก็เพิ่มขึ้นในใจเขาเป็นครั้งแรกกับความจริงที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
ไม่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
เขาสงสัยเธอมาก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ความสงสัยนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ เขาจึงบอกตัวเองว่าเขาแค่คิดมากไป
ถ้าไม่ใช่เซินโย่วที่ช่วยเขาในคืนนั้น จะเป็นใครได้อีกล่ะ?
เมื่อเขาฟื้นจากอาการโคม่า ทุกคนรอบตัวเขาบอกว่าเซินโย่วช่วยชีวิตเขาไว้
เธอเองก็ยอมรับเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เธอ เธอจะอยากโกหกเขาไปทำไม?
เธอจะได้รับประโยชน์อะไรจากการโกหกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้?
แต่..ตอนนี้เขารู้สึกสงสัยว่าคนนั้นไม่ใช่เซินโย่ว คนที่ช่วยชีวิตเขาในคืนนั้นเป็นคนอื่น
“อะไร...หมายว่าไง เซลี?” ดวงตาของเซินโย่วเบิกกว้างขณะที่เธอมองมาที่เขาด้วยแววตาตื่นตระหนกในดวงตาของเธอ และกำหมัดแน่น
กงเซลีมองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ “คืนนั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณช่วยผมไว้ คุณจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไหม?”
เซินโย่วตัวแข็งไปชั่วครู่ ดวงตาแสดงออกถึงความตื่นตระหนก เธอกระพริบตาอย่างตั้งใจ พยายามสงบสติอารมณ์ “แน่นอนสิ ฉันจำได้ ทำไมจู่ ๆ ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกล่ะ?”
กงเซลีจับทุกการแสดงออกที่ฉายผ่านใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
เขาเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของเธอ
แม้ว่าเขาจะแค่คาดเดาในตอนแรก แต่เขาเริ่มยืนยันความสงสัยของเขาหลังจากที่ได้เห็นปฏิกิริยาของเธอ
“ถ้าคืนนั้นไม่ใช่เพราะคุณ ผมอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว เพราะอย่างนี้ ผมถึงรู้สึกขอบคุณคุณมาก โย่วโย่ว ผมไม่สามารถทดแทนหนี้ชีวิตนี้ให้กับคุณ”
“เพราะอย่างนั้น ผมจึงสาบานกับตัวเองว่าผมจะใช้ทุกวิธีทางของผมเพื่อปฏิบัติต่อคุณอย่างดีและดูแลคุณตลอดไป”
ใบหน้าของเซินโย่วปราศจากความสุขหรือเสน่หา เมื่อได้ยินคำพูดของเขา
เธอไม่เข้าใจว่าทำไม กงเซลีถึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในตอนนี้
แต่เธอกลับรู้สึกแย่อยู่ภายในใจ
เธอรู้สึกว่ากงเซลีเริ่มสงสัยเธอแบเสง
แต่เหตุการณ์นั้นมันนานมาแล้ว ทำไมเขาถึงไม่สงสัยเธอมาก่อนหน้านี้ล่ะ
“โย่วโย่ว เราทะเลาะกันในวันนั้น ผมคิดว่าคุณจะไม่ช่วยผม ผมขอบคุณ คุณจริง ๆ ผมจำวันนั้นได้ขึ้นใจเสมอมา”
สายตาของกงเซลีจับจ้องไปที่เซินโย่วตลอดเวลา
เขาเห็นว่าท่าทีของเธอค่อย ๆ ผิดปกติ ขณะที่เธอเริ่มหลบตาของเขาโดยไม่รู้ตัว
ราวกับว่าเธอไม่กล้าสู้หน้าเขา
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของเธอ กงเซลีมีความคิดเดียวผุดขึ้นในใจ
เขารู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้น เหงื่อเริ่มไหลออกจากฝ่ามือ
ใบหน้าคงไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา เขาซ่อนความคิดและความรู้สึกทั้งหมดของตนเองเอาไว้
“ทำไม..ทำไมฉันถึง...” เซินโย่วกัดริมฝีปากของเธออย่างแรง ขณะที่เธอหายใจเข้าลึก ๆ เธอละสายตาจากสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเขา กำหมัดแน่นยิ่งขึ้น
“นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันนี่ ทำไม ตอนนั้นฉันจะต้องไม่ช่วยนายด้วย?”
“มัน...มันเป็นสิ่งที่ฉันควรทำ นายไม่จำเป็นต้องขอบคุณอะไรเลย”
“โย่วโย่ว ผมเป็นหนี้ชีวิตคุณ เพราะอย่างนั้นไม่ว่าคุณจะขอให้ผมทำอะไร ผมจะช่วยคุณ”
ความมืดแบบเดียวกันนี้ส่องผ่านดวงตาของกงเซลี ขณะที่เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเธอเบา ๆ และพูดเบา ๆ ว่า “ถ้าคุณอยากอยู่กับอาซื่อ ผมก็ต้องช่วยคุณอย่างแน่นอน”