Ep.984 - สังหารหมู่เลเวล SS
Ep.984 - สังหารหมู่เลเวล SS
ในโลกปกติ ปีศาจเสพวิญญาณสามารถกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายที่ครอบครองพลังสมาธิอันน่าสะพรึงได้
ร่างหลักของซอร์ อย่างน้อยก็มีความสูงนับพันเมตร
แต่มันก็เท่านั้น เพราะเมื่อเขาปลดปล่อยร่างที่แท้จริง ลุกฮือสู่ฟากฟ้า ภูติผีนับล้านก็ไล่ตาม กลบกลืนทั้งตนทั้งร่างของเขาอยู่ดี
มีดกษัตริย์ครามและท่าวิญญาณสะบั้น ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถสะกดข่มจิตวิญญาณได้
ซอร์ไม่มีเวลาแม้จะกรีดร้อง ร่างมหึมาของเขาจมอยู่ใต้วิญญาณนับไม่ถ้วน บนยอดหุบเขาไขกระดูกมังกร ควันสีเทาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้สีหน้าของผู้ใช้พลังเลเวล SS คนอื่นๆแปรเปลี่ยนไป--
--ปัง!!
ผู้ใช้พลังเลเวล SS ปีศาจเสพวิญญาณซอร์ พบจุดจบแล้ว!
ฉินเฟิงสามารถสังหารเลเวล SS ได้สำเร็จ!
พลังสมาธิของศัตรู ถูกซึมซาบโดยฉินเฟิง ช่วยขับหนุนให้พลังสมาธิของเขา พุ่งพรวดขึ้น ⅓ อีกครั้งทันที
เนื่องจากรังสีคมมีดกลบกลืนไปทั่วผืนฟ้า ทำให้นูฮะไม่มีทางถอย ทั้งยังไม่กล้าบุกต่อ เขาไม่นึกฝันเลย ว่าฉินเฟิงจะสังหารซอร์ได้จริงๆ!
“ซู้ด ..!” นูฮะสูดหายใจลึก ความคิดที่จะเอาชนะหรือล่าถอยตีกันในหัวเขา
แต่ฉินเฟิงผู้สามารถต่อสู้อย่างกล้าหาญ เวลานี้เมื่อมีกำลังใจมากขึ้น ย่อมอยากสู้ต่อ ไม่คิดปล่อยศัตรูไป
“ไป๋หลี ขังพวกเขาไว้!” ฉินเฟิงสั่งการ
ไป๋หลีปฏิบัติตาม ปลดปล่อยลูกบาศก์มิติ ขังมังกรอ่าวกับนูฮะเอาไว้
ฉินเฟิงสาวเท้ายาวๆ ระเบิดความเร็วของเขา
“ทักษะก้าวทะลวงมิติ!”
ฉินเฟิงพุ่งพรวดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เบื้องหน้าเขา ผู้ใช้พลังเลเวล SS คนหนึ่งกำลังสับฝีเท้าอย่างบ้าคลั่ง
มิใช่ใครอื่น แต่เป็นมนุษย์หมาป่าเลเวล SS
ภายใต้การรุมล้อมของเลเวล SS ถึงสามคน ฉินเฟิงสามารถสังหารหนึ่งในนั้นลงได้ อีกทั้งคนที่ตาย ยังเป็นปีศาจเสพวิญญาณที่รับมือได้ยากที่สุด มนุษย์หมาป่ารู้ตัวแล้ว ว่าเขาได้ไปล่วงเกินคนที่ไม่สมควรยั่วยุ
เมื่อก้าวสู่ความแข็งแกร่งถึงจุดนี้ ในความเป็นจริงแล้วตัวเขากลัวตายมากเช่นกัน แม้ก่อนหน้านี้จะประกาศศักดาอย่างอาจหาญแค่ไหน ทว่าปัจจุบันหนีหัวซุกหัวซุน
เทคนิคเสียงเพรียกแห่งความตายของฉินเฟิง และอบิลิตี้อื่นๆในระดับเดียวกัน สามารถสังหารเลเวล S ได้ เช่นนั้นหมายความว่าเทคนิคจ้าวมังกรคำรน ย่อมสามารถสังหารเลเวล SS ได้เช่นกัน มนุษย์หมาป่าที่ถูกกลืนลงไปในธารทมิฬก่อนหน้านี้ ได้ใช้ทักษะลับบางอย่างเพื่อรักษาชีวิต ปัจจุบันมันร่อแร่ใกล้ตายแล้ว
แต่คนอย่างฉินเฟิงจะปล่อยอีกฝ่ายไปได้อย่างไร?
ความเร็วของเขาพุ่งสูงขึ้น ไล่ล่าอย่างร้อนแรง
ทั้งสองคน หนึ่งหนีหนึ่งไล่ พริบตาเดียวลงจากยอดเขาไขกระดูกมังกร
ณ ขณะนี้ แสงสลัวยามค่ำคืนค่อยๆปกคลุมแผ่นฟ้า กลุ่มเลเวล SS ที่คอยรับชมความสนุกสนาน มองตามพวกเขา
“สะบั้น!”
ฉินเฟิงตัดเฉือนด้วยดาบเดียว
“โบร๋ว!” มนุษย์หมาป่ากลายร่างเป็นหมาป่าเต็มตัว หลบเลี่ยงการโจมตีร้ายแรงของฉินเฟิง ทว่าแม้ทุ่มสุดตัว ก็ยังทิ้งบาดแผลฉกรรจ์ไว้บนหลังเขา
การเคลื่อนไหวซวนเซไปชั่วขณะ มนุษย์หมาป่าตั้งสติก่อนวิ่งเตลิดอีกครั้ง
“เจ้าหนู แกมันก็แค่เลเวล S อย่าฝันหวานนัก จงหยุดเพียงเท่านี้ แล้วฉันจะไว้ชีวิด ละโทษตายของแก หนี้แค้นก่อนหน้าเป็นอันจบกัน!”
“หึ! คำพูดนั่นเอาไว้หลอกผีเถอะ แต่เอาจริงๆถ้าผีได้ฟัง น่ากลัวว่าผีคงไม่เชื่อเหมือนกัน!”
ฉินเฟิงไม่ใช่คนไร้เดียงสา เขาไม่หวาดกลัวการแก้แค้นของใครเลยแม้แต่น้อย
เมื่อมีไป๋หลี เขาสามารถหนีไปที่ไหนก็ได้ที่ตนต้องการ
“มาจบเรื่องจบราวกันดีกว่า!”
มือของฉินเฟิงข้างที่ไม่ได้กุมมีดกษัตริย์ครามเหยียดออกไป ปลดปล่อยอบิลิตี้น้ำแข็ง!
“เทคนิคเสียงเพรียกแห่งความตาย!”
เสียงเพรียกแห่งความตายเป็นอบิลิตี้เลเวล S แต่ก่อนหน้านี้พลังสมาธิของฉินเฟิงอยู่ในเลเวล A เท่านั้น ปัจจุบันมันอยู่ในเลเวล S และมันทรงพลังกว่าผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล S ทั่วไปมาก หากเขาปลดปล่อยเทคนิคนี้ออกมา ต่อให้เป็นผู้ใช้พลังเลเวล SS ก็ยังได้รับบาดเจ็บ
ทันใดนั้นเอง หิมะและน้ำแข็งกลบกลืนพื้นผิวหุบเขาอันมืดมิดนี้ มนุษย์หมาป่าเลเวล SS ที่กำลังควบวิ่งไปข้างหน้า ถูกแช่แข็งในพริบตา กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง
เปรี๊ยะ!
มนุษย์หมาป่าในรูปปั้นน้ำแข็งพยายามดิ้นรนอย่างรุนแรง ปลดปล่อยกระบวนท่าวรยุทธอันทรงพลังเพื่อต้านทานเสียงเพรียกแห่งความตาย ทันทีที่น้ำแข็งแตกออก มันก็เริ่มวิ่งอีกครั้ง
ก็อย่างว่า อบิลิตี้เลเวล S ไม่สามารถสังหารเลเวล SS ได้ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้อีกฝ่ายกระตุ้นพลังงานในร่างกาย ส่งผลให้อาการบาดเจ็บแย่ลง
และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การชะงักงันในช่วงสั้นๆนี้ ช่วยให้ฉินเฟิงสามารถไล่ตามได้ทัน
หวืออออ!
มิได้ใช้ออกด้วยกระบวนท่าวรยุทธ ฉินเฟิงอัดฉีดกำลังภายในลงมีดกษัตริย์คราม รังสีคมมีดผุดพรายขึ้นทันใด
เพียงแต่ว่ารังสีคมมีดนี้เมื่อผุดจากมีดกษัตริย์คราม มันกลับหายวับไปในอากาศ เสี้ยวลมหายใจต่อมา มันปรากฏขึ้นและกรีดเข้าที่เอวและหน้าท้องของมนุษย์หมาป่า
ฉัวะ!!!
สิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดหมาป่า โดยปกติมักหัวแข็ง , กระดูกเหล็ก , เอวทองแดง และด้วยความแข็งแกร่งในเลเวล SS ทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของมนุษย์หมาป่าตัวนี้ แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่สุดท้ายมันก็ยังมีบางส่วนที่เปราะบางอยู่ดี ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว
รังสีคมมีดแทงทะลุเอวและหน้าท้อง ปลายแหลมของมันมุ่งหน้าเข้าหาหัวใจของมนุษย์หมาป่า
เนื่องจากมีส่วนผสมของวัสดุสัตว์ยักษ์มิติ ทำให้มีดกษัตริย์ครามสามารถใช้งานอำนาจของมัน จึงแทบไม่ต้องสนใจเลือดเนื้อ กระดูก หรือสิ่งที่ใช้ป้องกันและขัดขวางส่วนใหญ่
ณ จุดนี้ มีดกษัตริย์ครามสามารถแทงทะลุหัวใจอีกฝ่ายได้โดยตรง
โครมมม!
มนุษย์หมาป่าทรุดลง พลังงานในร่างกระจัดกระจาย จากสัตว์ร้ายหมาป่าตัวใหญ่ หวนคืนสู่สภาพมนุษย์หมาป่าดังเดิม แต่คราวนี้ มันมิได้ยืนหยัดองอาจดั่งในคราแรกที่ปรากฏกาย
แต่หมอบราบกับพื้น สภาพไม่ต่างจากขอทานอนาถา
อวัยวะภายในถูกบดขยี้ มากกว่านั้นคือหัวใจและปอดถูกแทงทะลุ
“เผ่าฮาสจะไม่ …”
มนุษย์หมาป่าเลเวล SS ผู้นี้ดูเหมือนจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ฉินเฟิงหุบปากมันโดยการปลดปล่อยอบิลิตี้มืดทันที
“เทคนิคหนึ่งดรรชนีสู่ความตาย!”
นิ้วชี้จี้ลงลงกลางหน้าผากฝ่าย อักษรรูนแทรกซึมเข้าไป ร่างเนื้อของฝ่ายตรงข้ามถูกกัดกร่อน เน่าเปื่อยด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เรื่องคิดพ่นคำสาปเลือดใส่ฉินเฟิงไม่ต้องกล่าวถึง
“ทักษะลับกลืนดารา!”
ฉินเฟิงดูดซับพลังงานจากร่างศัตรู สูบมันเข้ามาผสานรวมกับกำลังภายใน เพิ่มเติมขนาดดวงดาราน้ำแข็ง ทว่ารากฐานในปัจจุบันของฉินเฟิงน่าหวาดกลัวเกินไป ดังนั้นหากต้องการยกระดับแต่ละขั้น จำเป็นต้องใช้ปริมาณมหาศาลยิ่ง เลเวล SS เพียงหนึ่งหรือสองคนไม่เพียงพอที่จะช่วยเขายกระดับได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากสังหารเลเวล SS สองคนติดต่อกัน เขาก็ยังได้รับรางวัลบางอย่างมา
ฉินเฟิงในตอนนี้ ไม่เพียงแสดงออกถึงอาการเมื่อยล้า แต่เขายังคงอยู่ในสภาวะที่ดี
พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดปกคลุมยอดเขาทั้งลูก ขณะนี้บนยอดเขา มังกรอ่าวกับนูฮะหลุดพ้นจากมิติลูกบาศก์ของไป๋หลีแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อพวกเขาออกมา ฉินเฟิงก็สังหารมนุษย์หมาป่าเลเวล SS เป็นที่เรียบร้อย
ชั่วขณะนี้ ความกล้าหาญของทั้งสองเหือดหาย เหลือทิ้งไว้เพียงความหวาดกลัว
“ทุกท่าน ชายผู้นี้เป็นสายลับที่ถูกส่งตัวมาจากพันธมิตรมนุษย์ เกรงว่ามันอาจได้รับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับทวีปบาฮามุท พวกเราต้องฆ๋ามัน มิฉะนั้นผลที่ตามมาอาจร้ายแรงจนรับไม่ไหว!”
มังกรอ่าวเริ่มยุยงคนอื่นๆ
แต่ในเวลานี้ เลเวล SS คนอื่นๆกลับชักฝีเท้าถอยไปก้าวหนึ่ง แสดงท่าทีชัดเจนว่าพวกเขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ความมืดได้มาเยือนแล้ว!
แสงสุดท้ายสาดส่องลงมายังพื้นดิน หมอกหนาเริ่มปกคลุมหุบเขาไขกระดูกมังกร สัตว์ยักษ์น่าหวาดกลัวมากมายเริ่มออกล่าเหยื่อ บางทีพวกมันอาจมุดออกมาจากกำแพงของหุบเขาไขกระดูกมังกรก็ได้ และอะไรจำพวกนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาง่ายจะรับมือ
“ไปกันเถิด” นูฮะโน้มน้าวมังกรอ่าว ขณะเดียวกันค่อยๆล่าถอยอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงสายตาของฉินเฟิง ขยับหายลงไปทางยอดเขาอีกฝั่งหนึ่ง
ฉินเฟิงไม่ได้ไล่ตามต่อ
หากผู้ใช้พลังเลเวล SS ต้องการหลบหนี ตอนนี้ฉินเฟิงย่อมไม่มีความสามารถที่จะรั้งไว้ได้ แต่ถ้าเป็นเลเวลที่รองลงมา นั่นไม่ใช่ปัญหา
ร่างของฉินเฟิงกระพริบไหว ดั่งภูติพรายผุดขึ้นเบื้องหลังผู้ใช้พลังเลเวล S ทั้งสอง
มิใช่ใครอื่น เป็นเทพวูดูกับเช่าไท่
ฉินเฟิงเก็บมีดกษัตริย์ครามเรียบร้อยแล้ว สองมือวางลงบนไหล่คนละข้างของเทพวูดูกับเช่าไท่
“พวกคุณทั้งสอง ล่วงรู้สถานะของผมแล้ว ยังคิดอีกหรือว่าจะจากไปง่ายๆ?”
ฉินเฟิงยิ้มเย็นชา เมื่อครู่ทั้งสองเห็นฉินเฟิงสังหารเลเวล SS ติดต่อกันกับตา ดังนั้นไม่มีความคิดเป็นศัตรูอีก แต่พวกเขาทราบดี ว่าเมื่อล่วงรู้สถานะที่แท้จริงของฉินเฟิง พวกตนย่อมไม่พบจุดจบที่ดี
พวกเขาได้แต่เฝ้าฝันว่าเลเวล SS คนอื่นๆจะก้าวออกมารุมทึ้งฉินเฟิง แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าคนเหล่านั้นกลับเลือกถอยจากไป
ทั้งสองต้องการจะวิ่งหนี แต่ในทวีปบาฮามุท หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสัตว์ยักษ์มิติหรือผู้ใช้พลังเลเวล SS ย่อมไม่มีทางจากไปได้ พวกเขาไร้ซึ่งปีกที่ใช้โบยบินสู่ฟากฟ้า
สุดท้ายตอนนี้--
--เลยตกอยู่ในกำมือของฉินเฟิง!