ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 23 จินหัว เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?!
บทที่ 23 จินหัว เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?!
ครั้นเยี่ยฉวนกลับถึงยอดเขาเมฆาอินทนิล เขาหยิบแส้เทวะขึ้นกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นบนลานกว้างด้วยท่าทีสบายอารมณ์
เขารู้ดีว่าคืนนี้ต้องมีคนกระสับกระส่ายจนไม่สามารถข่มตานอนและกำลังตามหาเขาอยู่เป็นแน่!
ครึ่งชั่วยามถัดมา...จินหัวปรากฎตัวจริงดังคาดด้วยดวงตาโศกและแดงก่ำ เสื้อผ้าหน้าผมกระเซอะกระเซิงไม่หลงเหลือภาพลักษณ์อันสุภาพสง่างามของศิษย์ชั้นเลิศแห่งหอแปรธาตุ เขาควรมีสีหน้าฮึกเหิมยินดีในวันสำคัญเช่นนี้ ทว่ากลับมีสีหน้าอิดโรยอย่างน่าสังเวช!
หนทางเดียวที่จินหัวนึกออกในยามนี้คือหลบหนี!
การแต่งงานในค่ำคืนนี้ส่งผลต่อความเป็นความตายของเขาอย่างแท้จริง! ชายชาตรีที่ไม่สามารถกระทำเยี่ยงบุรุษเพศในคืนเข้าหอจะเรียกว่าเจ้าบ่าวได้อย่างไร?! โท่วป่าเซียงเนียวไม่อาจยอมรับความไร้สมรรถภาพทางเพศของว่าที่สามีเป็นแน่!
หากเจ้าสำนักโท่วป่าเซียงบิดาของนางทราบเรื่องต้องโกรธายิ่ง! แม้แต่บิดาของเขาหรืออาวุโสลำดับสามเองคงโกรธเคืองเขาไม่น้อยที่ทำให้แผนการทุกอย่างล่มไม่เป็นท่า ความพยายามฝึกตนให้เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักตลอดระยะเวลาหลายปีสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง! แม้อธิบายอย่างไรคงไร้ประโยชน์...พวกเขาคงจะกล่าวโทษว่าเขาเสเพลและไม่รู้จักระวังตนจนเกิดโรคแปลกประหลาดเช่นนี้และอาจสั่งลงโทษโดยการกักบริเวณ แต่หากเขาหลบหนีการแต่งงานออกจากสำนักไปภายในคืนนี้เขาจะมีอิสรภาพอีกครั้ง!
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเคียดแค้นชิงชังเยี่ยฉวน หากคืนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะหลบหนี เช่นนั้นเขาต้องฆ่าอีกฝ่ายให้ตายอย่างทรมานเสียก่อน!
‘วันนี้หากไม่ใช่เพราะมันกุเรื่องขึ้นว่าข้าหลงใหลปักใจในตัวโท่วป่าเซียงเนียว เรื่องน่าอึดอัดใจเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้น! ไอ้เยี่ยฉวนต้องจงใจพูดเช่นนั้นเพื่อทำลายข้าเป็นแน่!’
“ศิษย์น้องจินหัว! นั่นเจ้าหรือ?!”
เยี่ยฉวนแสร้งจัดแจงต้อนรับพลางแสดงท่าทีตื่นเต้น “เจ้าช่างเป็นศิษย์น้องที่ดีกับศิษย์พี่ผู้นี้เสียจริง! แม้คืนนี้เป็นคืนแต่งงานของเจ้าทว่ายังอุตส่าห์เดินทางมาพบข้า น่าประทับใจนัก!”
เยี่ยฉวนแสร้งบีบน้ำตาก่อนโผเข้าหาอีกฝ่าย...
‘เจ้าทนเสแสร้งไม่ไหวแล้วสินะ! แต่ข้ายังมีอุบายอีกมาก! ดูซิว่าเจ้าจะทำอย่างไร?!’
ภายนอกเขาแสดงออกว่าซาบซึ้งในตัวอีกฝ่ายยิ่ง ทว่าภายในกำลังหัวเราะเยาะเย้ย!
จินหัวเกือบยกฝ่ามือข้างขวาตบศีรษะของคนตรงหน้าให้ระเบิดเป็นจุณ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายร้องห่มร้องไห้น้ำตาคลอก็พลันเกิดความลังเล...
เขายังเหลือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและความตะหงิดใจอยู่บ้างจึงไม่ลงมือทำร้ายเยี่ยฉวนในทันที
เขาเกรงว่าตนหวาดระแวงไปเองและพาลโทษอีกฝ่ายว่าจงใจกุเรื่องเหล่านั้น ตรองดูอีกที...บรรดาศิษย์ในสำนักต่อให้บรรลุขั้นสูงหรือต่ำเพียงใดก็ไม่มีผู้ใดโง่เขลาไปกว่าเยี่ยฉวน คนที่มีท่าทีซื่อบื้อเช่นนี้จะล่วงรู้แผนการต่างๆ ของเขาได้อย่างไร?
คิดดังนั้นใบหน้าจินหัวพลันคล้ำเข้ม เขาตัดสินใจเอ่ยถามอีกฝ่ายให้ชัดเจน “วันนี้เจ้าส่งเสริมให้ข้าแต่งงานกับโท่วป่าเซียงเนียว ทั้งยังกุเรื่องทั้งหมดขึ้นเพื่อให้ทุกคนในสำนักมองข้าเป็นตัวตลก...เจ้าเจตนาทำเช่นนั้นใช่หรือไม่?”
“เหตุใดพูดเช่นนั้นเล่าศิษย์น้องจินหัว?”
เยี่ยฉวนเผยสีหน้าพิศวง “ถูกต้อง...ข้ามีเจตนาเช่นนั้น! ผิดหรือที่ข้าจงใจประกาศต่อหน้าทุกคนว่าข้าได้มอบผลึกเส้นโลหิตมังกรเป็นของกำนัลให้เจ้า?! ข้าสนับสนุนให้เจ้าแต่งงานกับโท่วป่าเซียงเนียวบุตรสาวเจ้าสำนักเครื่องนิลก็เพราะมีผลดีต่อสัมพันธไมตรีระหว่างสองสำนัก...ผู้คนล้วนสรรเสริญว่าเจ้าน่ะเหมาะสมกับตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักยิ่งกว่าข้าเสียอีก บอกทีเถิดว่าข้ามีเจตนาร้ายอย่างไร? แม้รูปลักษณ์ภายนอกของนางไม่สง่างามเฉกเช่นสตรีนางอื่นทว่ามีคำกล่าวโบราณกล่าวไว้...สตรีที่มีโครงร่างใหญ่หากมีบุตรจะคลอดง่าย นับว่ายังเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ?!”
“เจ้านี่มัน...”
จินหัวฟังเยี่ยฉวนพูดจบแล้วถึงกับกล่าวคำใดไม่ออก ทำได้เพียงขบกรามแน่นอย่างเกลียดชัง!
จินหัวไตร่ตรองอย่างรอบคอบจึงตระหนักว่าเยี่ยฉวนคงไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง ชายผู้นี้ขลาดเขลาและเหนียมอายมาโดยตลอด แม้หลังกลับจากสุสานเทพเจ้าจะรู้เท่าทันแผนการไปเสียหมดราวคนละคน แต่การมอบผลึกเส้นโลหิตมังกรซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของเจ้าสำนักให้ผู้อื่นนั่นแสดงให้เห็นว่าเขายังเบาปัญญาเช่นเดิม แล้วเขาจะมีความเฉลียวใจตลบหลังแว้งกัดตนได้อย่างไร?!
อาจเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด...เยี่ยฉวนแค่พยายามจะผูกมิตรกับเขาเพราะหวังสินน้ำใจตอบแทน ทว่าเจตนาดีเหล่านั้นกลับทำให้เรื่องบานปลาย!
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของจินหัวสับสนและยุ่งเหยิง สติปัญญาที่เคยหลักแหลมบัดนี้กลับไร้ซึ่งความปราดเปรื่อง แม้อีกฝ่ายจะเจตนาหรือไม่ทว่าความตั้งใจเดิมยังไม่เปลี่ยนแปลงหนำซ้ำยังทวีขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องสังหารเยี่ยฉวนทิ้งเพื่อระบายความเคียดแค้นก่อนจะหลบหนี!
“โอ้! ข้ารู้แล้ว!”
เยี่ยฉวนแสร้งมองข้ามจิตสังหารของอีกฝ่ายพลางทำทีตบกระหม่อมตนเอง ก่อนยกมือขึ้นอีกครั้งและโพล่งออก “ศิษย์น้องจินหัว...ศิษย์พี่ใหญ่นึกออกแล้ว! เจ้ากังวลว่าจะไม่สามารถเข้าห้องหอได้โดยราบรื่นเพราะเกิดปัญหาขึ้นกับอวัยวะส่วนนั้นใช่หรือไม่?!”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?!” จินหัวแผดเสียงดังลั่นพลางมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย จิตสังหารยิ่งทวีความรุนแรง!
ผู้ที่รู้เรื่องนี้มีเพียงตัวเขากับศิษย์น้องหญิงเสี่ยวซิงเท่านั้น แล้วคนนอกเช่นเยี่ยฉวนล่วงรู้ได้อย่างไร?!
“หลายปีก่อน...ตอนท่านเจ้าสำนักผนึกสมบัติล้ำค่านั้นไว้ในร่างกายของข้า ท่านกล่าวว่าข้าจะไม่สามารถแต่งงานได้หากไม่ทำการขัดเขลามันให้สมบูรณ์ เพราะเส้นเอ็นและเส้นโลหิตแดงจะถูกผลึกเส้นโลหิตมังกรปิดกั้น...”
เขาแสร้งยิ้มอย่างกระดากอายก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ยามนั้นข้ายังเยาว์วัยเกินกว่าจะสนใจเรื่องแต่งงานทั้งยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ยามนี้ถึงข้าอยากแต่งงานก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะโท่วป่าเซียงเนียวตกหลุมรักเจ้าตั้งแต่แรกเห็น! ศิษย์น้องจินหัว...ศิษย์พี่ใหญ่ขอโทษเจ้าจากใจจริง! ขอเวลาให้ข้านึกวิธีแก้ไขที่อาจารย์เคยกล่าวไว้สักครู่...”
เยี่ยฉวนแสร้งลูบท้ายทอยและทำทีครุ่นคิดอย่างเป็นกังวล
ดวงตาจินหัวเปล่งประกาย เขาทนรอไม่ไหวจึงก้าวไปยืนตรงหน้าพลางคาดคั้น “ศิษย์น้อง...ไม่สิ...ศิษย์พี่! เร่งคิดเถิดว่าจะต้องแก้ไขอย่างไร?!”
หากมีทางออกอื่น คืนนี้เขาก็ไม่ต้องหลบหนีออกจากสำนัก!
เดิมเขาตั้งใจมาสังหารอีกฝ่ายแต่กลับได้รู้หนทางแก้ไขปัญหาโดยไม่คาดคิด! เขาจ้องเยี่ยฉวนเขม็งอย่างรอคอย
“ทางที่ง่ายที่สุดคือเจ้าต้องขัดเกลาผลึกเส้นโลหิตมังกรโดยละเอียด” เยี่ยฉวนกล่าวตอบ
“เวลากระชั้นชิดเช่นนี้จะขัดเกลาทันได้อย่างไร?!” จินหัวโคลงศีรษะ อานุภาพของผลึกเส้นโลหิตมังกรมหาศาลเกินกว่าจะขัดเกลาให้สำเร็จในระยะเวลาสั้นๆ
“เช่นนั้นมีอีกสองทาง...หนึ่ง ฝากผลึกนั่นไว้ที่ข้าก่อน หรือสอง เจ้าเข้าไปในหอคัมภีร์สงครามแล้วค้นหาตำราลับมังกรอวตาร ท่านเจ้าสำนักเคยกล่าวว่าภายในตำรานั้นระบุวิธีที่จะทำให้ขัดเกลาผลึกเส้นโลหิตมังกรได้อย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาตัวข้ามีความสามารถไม่เพียงพอจึงไม่อาจทำความเข้าใจ แต่ศิษย์น้องจินหัวทั้งเก่งกาจและปราดเปรื่อง ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถขัดเกลาได้อย่างแน่นอน!” เยี่ยฉวนเสนอทางเลือกที่ชัดเจนให้อีกฝ่าย
“ประเสริฐ! เช่นนั้นเราเร่งไปยังหอคัมภีร์สงครามเถิด!”
จินหัวยินดียิ่ง! เขาไม่คิดฝากผลึกเส้นโลหิตมังกรไว้กับเยี่ยฉวนเป็นแน่...กว่าจะได้มาครอบครองไม่ใช่เรื่องง่าย มันคือสมบัติล้ำค่าที่สุดสำหรับเขาในยามนี้แม้จะหลบหนีออกจากสำนักแล้วก็ตาม ทว่าเดินไปได้เพียงสองก้าวเขากลับหยุดชะงัก “ทำเช่นนั้นไม่ได้! บรรดาทหารองครักษ์ที่เข้มงวดของหอคัมภีร์สงครามคงไม่ให้เราเข้าไปในยามวิกาล...”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา! ข้าจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเหล่าองค์รักษ์พวกนั้น ส่วนเจ้าเข้าไปค้นหาตำราและเร่งออกมาโดยเร็ว หากเจ้าทำการขัดเกลาผลึกเส้นโลหิตมังกรสำเร็จ...ยังมีเวลาเหลือพอไปเข้าห้องหออีกด้วย!” เยี่ยฉวนตบหน้าอกตนเองด้วยท่าทีน่าเกรงขามขณะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา!
‘ถึงไอ้ตัวบัดซบนี่จะโง่ทว่าความโง่ของมันก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง!’ จินหัวสำรวจเยี่ยฉวนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างชั่งใจก่อนจับมืออีกฝ่าย ภายภาคหน้าเขาอาจไม่พบคนเบาปัญญาเช่นนี้อีก “ดี! ไปเถิด!”
“ศิษย์น้องจินหัว...เชิญ!”
เยี่ยฉวนหัวเราะขบขันราวคนโง่...เสมือนถูกลูกเหล่าน้องทรยศทว่ายังต้องจ่ายค่าจ้างแก่พวกเขา!
ทั้งสองเดินคู่กันมาตลอดทาง ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหอคัมภีร์สงคราม...
เยี่ยฉวนตรงไปเบี่ยงเบนความสนใจบรรดาทหารองครักษ์ด้านหน้าประตูทางเข้าด้วยการปลอมตัวเป็นคนแปลกหน้า ครั้นสบจังหวะจินหัวจึงอาศัยทักษะขั้นซิวฉือระดับสองของตนลอบเข้าไปภายในหอคัมภีร์สงคราม เมื่อพบตำราลับมังกรอวตารจึงเร่งออกจากตัวอาคารด้วยสีหน้าสุขสมหวังทันที! เยี่ยฉวนถือคบเพลิงรอเขาอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางซื่อบื้อหลังสลัดเหล่าทหารองครักษ์ออกไปได้
“ข้าต้องขอขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่ยิ่งที่ชี้แนะตำราลับมังกรอวตารเล่มนี้ให้แก่ข้า...ภายภาคหน้าหากมีโอกาส ศิษย์น้องจะตอบแทนบุญคุณท่านอย่างสาสม!” จินหัวยิ้มแย้มเปรมปรีดิ์ก่อนเอื้อมมือไปรับคบเพลิงจากเยี่ยฉวน
“ศิษย์น้องจินหัว...เจ้าพูดถึงเรื่องใด? ข้าไม่เห็นเข้าใจ?!”
เยี่ยฉวนเอ่ยคำเบาด้วยสีหน้าสับสนพลางก้าวถอยหลัง ทันใดนั้นกลุ่มทหารองครักษ์ผู้มีสีหน้าเย็นชาเป็นนิจพลันปรากฏตัวตรงหน้า!
จินหัวมัวชื่นชมตำราลับมังกรอวตารที่ค้นพบอย่างปิติยินดีจนไม่ทันสังเกตว่ามีกลุ่มคนมากมายยืนอยู่ในมุมมืด
“ไอ้สารเลว! นะ...นี่เจ้าหลอกข้ารึ?!” สีหน้าจินหัวแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกทันทีที่ตระหนักว่าตนตกหลุมพรางของอีกฝ่าย!
หากเขาสังหารเยี่ยฉวนเสียตั้งแต่ตอนอยู่บนยอดเขาเมฆาอินทนิลเขาคงหลบหนีออกจากสำนักได้อย่างง่ายดายและไม่เอิกเกริก ทว่ายามนี้เขาถูกกลุ่มทหารองครักษ์ล้อมไว้ทุกด้าน...เห็นทีการหลบหนีคงทำได้ยากยิ่ง!
“ศิษย์น้อง...หากเจ้าต้องการตำราลับมังกรอวตารเจ้าจะใช้ฐานะบุตรของเจ้าหอแปรธาตุสั่งให้คนเข้าไปค้นหาก็ย่อมได้! ศิษย์ชั้นเลิศแห่งสำนักผู้มีชาติกำเนิดสูงส่งเช่นเจ้า เหตุใดจึงประพฤติตนลับๆ ล่อๆ เช่นนี้?!”
เยี่ยฉวนโคลงศีรษะพลางกล่าวอย่างสงสารเห็นใจ “เจ้าบุกรุกหอคัมภีร์สงครามยามวิกาลเพื่อขโมยตำราลับมังกรอวตารแทนที่จะเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งงาน เจ้าต้องการฝึกเคล็ดวิชาลับเพื่อให้มีพลังเพียงพอจะหลบหนีเช่นนั้นหรือ?! แม้โท่วป่าเซียงเนียวไม่ใช่สตรีรูปโฉมงดงามราวบุปผชาติทว่านางก็ไม่ได้อัปลักษณ์ถึงเพียงนั้น! หากเจ้าไม่พึงใจในตัวนางก็ควรปฏิเสธและขอถอนหมั้นตั้งแต่ต้น...ไม่จำเป็นต้องก่อเรื่องเช่นนี้!”
เยี่ยฉวนแสร้งตีหน้าซื่อราวพระเอกซึ่งเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของอีกฝ่าย การแสดงของเขาสมจริงเสียจนกล่าวคำใดก็ดูมีเหตุผลไปเสียสิ้น หูของเขากระดิกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงจังหวะฝีเท้าที่คุ้นเคย เป็นท่านอาวุโสสูงสุดไม่ผิดแน่! เขาคงซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดสักแห่งใกล้ๆ เพื่อสังเกตการณ์...
“บัดซบ! ก่อนหน้านี้เจ้าเสแสร้งมาตลอดใช่หรือไม่?!”
จินหัวก้าวไปด้านหน้าก่อนตะโกนออกด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม “ไม่นึกเลยว่าการที่ข้าอุตส่าห์ไปขอขมาเจ้าเป็นการส่วนตัวและคำนับเจ้าเป็นศิษย์พี่จะไร้ประโยชน์! ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างนอบน้อม...แต่เจ้ากลับตอบแทนข้าเช่นนี้หรือ?!”
“ฮ่าๆๆ! น่าขันเสียจริง! เหตุใดเจ้าจึงพูดราวถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเช่นนั้นเล่า?! ก่อนหน้านี้ผู้ใดกันหลอกล่อให้ข้าเหยียบย่ำสวนสมุนไพรของอาวุโสลำดับสองจนเกือบถูกตัดขาทั้งสองข้าง? ผู้ใดกันยุยงให้หนานเทียนตูออกจากที่กบดานมาสังหารข้า? ผู้ใดลอบหยดน้ำยาทลายหยางลงในจอกสุราให้ข้าดื่ม? เจ้าเชื่อจริงหรือว่าทุกสิ่งที่เจ้าทำไม่มีผู้ใดรู้เห็น?!” เยี่ยฉวนหัวเราะอย่างสาแก่ใจ บัดนี้จินหัวอยู่ในสภาพจนมุมดังนั้นเขาต้องหลอกล่อให้อีกฝ่ายสารภาพจนหมดเปลือก!
“น้ำยาทลายหยาง?! จะ...เจ้ารู้ได้อย่างไร?!” จินหัวชะงักค้างด้วยความตกตะลึงระคนโกรธา!
“จะบอกว่าเจ้าไม่ได้ทำอย่างนั้นรึ?!” เยี่ยฉวนยื่นคบเพลิงให้ทหารองครักษ์นายหนึ่งรับไปก่อนยกแส้เทวะในมือขึ้นสูง!
“ใช่! เจ้าพูดถูกต้อง! ข้าเป็นคนวางยา..เรื่องอื่นๆ ก็เป็นข้าที่อยู่เบื้องหลัง! ตอนนี้เจ้าก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว...ไอ้สารเลว! ไปลงนรกเสียเถิด! ส่วนทหารองครักษ์ต่ำต้อยเช่นพวกเจ้าอย่าหวังว่าจะหยุดยั้งข้าได้! ฮ่าๆๆ!”
สายตาของจินหัวแปรเปลี่ยนจากสิ้นหวังเป็นอาฆาตแค้นก่อนพุ่งเข้าโจมตีโดยฉับพลันหมายสังหารทุกคนที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเพื่อปิดปาก!
พั่บ...พั่บ! เสียงทุบตีร่างอย่างไร้ความปรานีดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง!
จินหัวเคลื่อนไหวรวดเร็วจนสายตาไม่อาจจับจ้อง ขณะปราดเข้าโจมตีอย่างอุกฉกรรจ์! เหล่าทหารองครักษ์ทั้งสิบนายแผดร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสก่อนล้มลงกองกับพื้น บริเวณหน้าอกของพวกเขาถูกระเบิดออกจนสภาพแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี!
ใบหน้าจินหัวยามนี้เผยความโหดร้ายทารุณยิ่ง! อสูรเสือร้ายปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา หลังได้รับผลึกเส้นโลหิตมังกรยิ่งส่งเสริมให้เขามีพละกำลังรุนแรงแกร่งกล้ามหาศาล กำปั้นพยัคฆ์มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลายพันจิน เหล่าทหารองครักษ์แม้แข็งแรงเพียงใดก็ไม่อาจเอาชนะ!
“ไอ้บัดซบ! แม้เสแสร้งเพียงใดก็ไร้ประโยชน์! ยามนี้ถึงคราวตายของเจ้าแล้ว! ฮ่าๆๆ!”
จินหัวระเบิดหัวเราะลั่นอย่างบ้าคลั่งก่อนพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วหมายยุติเรื่องราวทั้งหมด ทว่าจิตสังหารที่เยี่ยฉวนแผ่ออกกลับหนาทึบยิ่งจนเขารู้สึกราวถูกกดดันหนักหน่วง!
เหตุใดต้องกลัว?! บัดนี้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งถึงขีดสุด...ขั้นอู๋เจ๋อระดับห้าของอีกฝ่ายไม่คณามือผู้บรรลุขั้นซิวฉือระดับสองเช่นเขาอย่างแน่นอน! หากสังหารเยี่ยฉวนสำเร็จค่อยหลบหนีออกจากสำนักก็ยังไม่สาย!