ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 21 เซียงเนียว นางนกน้อยจากฟากฟ้า?
บทที่ 21 เซียงเนียว นางนกน้อยจากฟากฟ้า?
“หลีกทาง! หลีกทางสิ!”
เสียงเอะอะดังออกมาจากด้านนอก บุคคลร่างใหญ่เกือบสองเมตรปรากฏตัวขึ้นและกำลังเบียดเสียดฝูงชนเข้ามาภายในห้องโถงนี้ เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดปรากฏต่อสายตาทุกคนอย่างชัดเจน ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องประทินโฉมจัดจ้าน ริมฝีปากและแก้มแดงจัดราวก้นลิง! พินิจอย่างถี่ถ้วนจึงทราบว่าคนผู้นี้ไม่ใช่บุรุษทว่าเป็นสตรี! นางพยายามเค้นเสียงให้หวานฉ่ำก่อนกล่าวออก “ผู้ใดที่แอบหลงรักข้า?! จงยืนขึ้นเปิดเผยใบหน้าให้ข้าได้รับชม!”
สตรีร่างบึกบึนเดินไปหยุดยืนเคียงข้างเจ้าสำนักโท่วป่าเซียงแห่งสำนักเครื่องนิลอย่างสนิทสนม...
นางคือโท่วปาเซียงเนียวหรือ?!
เซียงเนียวตรงไหนกัน! นี่มันต้าเตียวชัดๆ!
*เซียงเนียวแปลว่าตัวเล็กตัวน้อย/ต้าเตียวแปลว่านกอินทรียักษ์
หัวใจของทุกคนกระตุกวูบทันทีที่เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของโท่วป่าเซียงเนียว!
นอกจากร่างกายที่กำยำกว่าสตรีทั่วไปแล้ว สัดส่วนของนางยังโค้งงอเต็มไปด้วยไขมันตรงหน้าท้องที่ยื่นออก เนินอกแบนราบ บริเวณอื่นบนร่างกายก็มีเนื้อส่วนเกินไม่ชวนมอง ทุกคนต่างเป็นกังวลแทนฝ่ายเจ้าบ่าวว่าจะถูกนางทับแบนในคืนเข้าหอหรือไม่?!
เยี่ยชวนขยิบตาก่อนเคลื่อนกายไปยืนเคียงข้างจูซือเจีย เขายินดียิ่งที่ตนตัดสินใจเสียสละการแต่งงานให้จินหัว!
“ทะ...ท่านเจ้าสำนัก...นางคือโท่วป่าเซียงเนียว บุตรสาวของท่านใช่หรือไม่?” จินหัวเอ่ยถามเสียงแผ่วพลางหดคอราวมีก้อนบางอย่างอุดตันไว้
แม้เขาเคยผ่านสตรีมานับไม่ถ้วน ทว่าเขาไม่อาจทำใจให้พิศวาสสตรีร่างยักษ์เช่นนางได้!
“ถูกต้อง! นางคือบุตรสาวของข้า! เป็นอย่างไรจินหัว? เซียงเนียวหน้าตาไม่เลวเลยใช่หรือไม่? หากเจ้าสองคนยืนเคียงข้างกันคงเหมาะสมราวกิ่งทองใบหยกอย่างหาใดเปรียบ! ฮ่าๆๆ!” โท่วป่าเซียงหัวเราะลั่นอย่างพึงใจ ยิ่งพินิจว่าที่ลูกเขยก็ยิ่งถูกใจนัก!
“เป็นเช่นนั้นจริงขอรับ! ช่างเป็นคู่ครองในอุดมคติที่หาได้ยากยิ่ง!”
เยี่ยฉวนลอบหัวเราะในใจ ครั้นสบโอกาสจึงผลักจินหัวไปหาโท่วป่าเซียงเนียว ครั้นทั้งสองยืนคู่กันนางดูแข็งแกร่งเฉกบุรุษเสียยิ่งกว่าอีกฝ่ายเสียอีก จินหัวดูราวเด็กหญิงผู้น่ารักและบอบบาง “เซียงเนียว...เจ้าขยับเข้าไปใกล้เขาอีกนิดเถิด! ในที่สุดเขาก็สมปรารถนาในความรักเสียที...คงอยากกอดเจ้าเพื่อรับขวัญเต็มทีแล้ว อย่าปล่อยให้เขารอนานเลย!”
“โอ้...ว่าที่ลูกเขยของข้าช่างรูปงามนัก! ข้าถูกใจยิ่ง!” สิ้นคำของโท่วป่าเซียง จินหัวพลันสั่นสะท้านราวลูกแกะตัวน้อยที่ถูกรังแก เขาพยายามถอยห่างจากจุดเดิมทว่าโท่วป่าเซียงเนียวกลับกางแขนออกและโอบเขาไว้ในอ้อมแขน! ทันใดนั้นกลิ่นกายเหม็นเปรี้ยวพลันจู่โจมที่รูจมูกของเขาอย่างไร้ปรานี!
หากคืนเข้าหอถูกนางกอดเช่นนี้เขาคง...
ครั้นนึกไปถึงขั้นนั้นเขาพลันอยากปลิดชีพตนเองเสียเดี๋ยวนี้! หลังพบหน้านางนกอินทรียักษ์ในวันนี้...ความตื่นเต้นในลาภยศตำแหน่งและอำนาจที่รออยู่ภายหน้ามลายหายไปสิ้น
ชีวิตของเขาช่างมืดมนและเลือนลางนัก...
ก่อนหน้านี้เขาคร่ำเคร่งคิดแผนการแย่งชิงผลึกเส้นโลหิตมังกรและตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่มาเป็นของตน ครั้นสบโอกาสจึงเสนอตนแต่งงานกับบุตรีของเจ้าสำนักเครื่องนิลแทนเยี่ยฉวน ทั้งยังรับปากว่าที่พ่อตาต่อหน้าสาธารณชนแล้ว ด้วย! หากจะถอนคำพูดและขอยกเลิกการหมั้นหมายคงไม่ทันการ ยามนี้จะให้เขาลดฐานะลงไปเป็นศิษย์ชั้นนอกไร้ชื่อเสียงหรือแม้แต่เป็นสาวกรับใช้อื่นๆก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงรอดพ้นจากการถูกโท่วป่าเซียงเนียวกอดรัดจนเขาดิ้นไม่หลุดเช่นนี้!
ฝูงชนที่สังเกตการณ์ต่างชี้ชวนกันให้ดูฉากกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเบื้องหน้าแล้วลอบถอนหายใจ ทั้งสองไม่ต่างอันใดกับดอกไม้ที่ถูกปลูกในกองปุ๋ย หากเปรียบจินหัวเป็นดอกไม้สดสะพรั่ง...เช่นนั้นโท่วป่าเซียงเนียวคงเป็นปุ๋ยมูลวัวชั้นดี!
“แค่ก! ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบก่อน!”
เยี่ยฉวนแสร้งกระแอมพลางกวาดสายตามองโดยรอบ “อย่างไรก็ตาม...ศิษย์น้องจินหัวยังไม่ได้เป็นลูกเขยของท่านเจ้าสำนักโท่วป่าเซียงโดยสมบูรณ์ ดังนั้นท่านเจ้าสำนัก...ท่านอาวุโสสูงสุด คงเป็นการดีหากพวกท่านจะช่วยหาฤกษ์มงคลให้ทั้งศิษย์น้องจินหัวและโท่วป่าเซียงได้เข้าพิธีแต่งงานกันเสียที อันที่จริงวันนี้นับว่าเป็นวันดีเช่นกัน ศิษย์น้องของข้าจะได้ไม่รอคอยคืนเข้าหอนานเกินควร!”
“อืม...เช่นนั้นข้าจะเชื่อฟังการตัดสินใจของสามี!” โท่วป่าเซียงเนียวมีท่าทีคล้อยตามและว่าง่าย ทว่าใบหน้าของนางกลับขึงขังดุร้ายไม่สอดคล้องกับบุคลิก เสียงของนางแหบห้าวและดังเหมือนคำรามจนดูมีอำนาจเหนือกว่าอีกฝ่าย
‘เจ้าถูกบิดาเลี้ยงดูมาแบบใดกัน?!’ จินหัวทั้งโกรธและตกใจในสรรพนามที่อีกฝ่ายเรียกขาน จิตใจของเขาร่ำไห้คร่ำครวญไม่หยุดหย่อน...นึกอยากต่อต้านและหนีไปจากสำนักให้เป็นอิสระเสียเต็มประดา ทว่ายังถูกมือที่รุ่มร่ามราวปลาหมึกของโท่วป่าเซียงเนียวกอดรัดแน่นไม่ยอมปล่อย!
“ยินดีด้วยขอรับท่านเจ้าสำนัก!”
“ยินดีด้วยขอรับศิษย์พี่จินหัว!”
บรรดาศิษย์ทยอยเรียงแถวแล้วก้าวไปด้านหน้าเพื่อแสดงความยินดีต่อพวกเขา แต่ว่าที่เจ้าบ่าวเช่นจินหัวกลับรู้สึกโศกเศร้าประหนึ่งใจจะขาด หากสายตาของเขาสามารถฆ่าคนได้เพียงจ้องมอง...เยี่ยฉวนจอมเจ้าเล่ห์ที่ยืนอยู่อีกฝั่งคงถูกฆ่านับร้อยครั้ง!
“หึๆ คอยดูเถิด...นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!”
เยี่ยฉวนหัวเราะเยือกเย็นพลางมองจินหัวที่กำลังเคียดแค้น เขาทำเสียงจึกจักอย่างพึงใจ...นานมากแล้วที่ไม่ได้ปั่นหัวศัตรูเช่นนี้ รสชาติของมันช่างน่าลิ้มลองมากกว่าการเข้าไปชกใบหน้าของคนผู้นั้นโดยตรงเสียอีก!
ทั้งเจ้าและบิดาร่วมกันวางแผนทำลายข้างั้นหรือ?!
เช่นนั้นข้าจะทำลายเจ้าให้ป่นปี้!
“เยี่ยฉวน...ครู่นี้เจ้าว่าอย่างไรนะ?” จูซือเจียหันมองเขาอย่างสงสัย เสียงในห้องโถงดังเกินไปจนนางได้ยินไม่ถนัด...
เยี่ยฉวนหัวเราะ “เปล่า...ข้าคงอิจฉาศิษย์น้องจินหัวเกินไปจึงเผลอพึมพำออกมา คืนนี้เขาจะแต่งงานและเข้าหอกับนางนกน้อยแล้ว!”
สตรีร่างคล้ายบุรุษนางนั้นน่ะหรือ? เห็นทีจะเรียกว่านางนกน้อยไม่เหมาะกระมัง?! ครั้นมองไปยังจินหัวและโท่วป่าเซียง จูซือเจียพลันหัวเราะ ดวงตาคู่งามฉายแววขบขัน
“ฮ่าๆๆ ข้าเห็นดีด้วย! เช่นนั้นคืนนี้จะเป็นคืนเข้าหอของเจ้าทั้งสอง!”
โท่วป่าเซียงพอใจในตัวว่าที่ลูกเขยยิ่งกว่าเก่า เขาหัวเราะชอบใจพลางโบกมือ “ท่านอาวุโสสูงสุด...เช่นนั้นข้าคงต้องขอพาตัวบุตรสาวกลับไปยังสำนักเครื่องนิลก่อน ภายในไม่กี่ชั่วยามข้าจะส่งตัวนางกลับมา ท่านควรเร่งเตรียมการเรื่องสินสอดทองหมั้นและพิธีการต่างๆ เสียตั้งแต่เวลานี้”
“นะ...นี่ไม่เร็วเกินไปหรือ?!” อาวุโสสูงสุดตกตะลึง
“ไม่เร็วไปหรอกขอรับ! ท่านอาวุโสสูงสุดอย่าเสียเวลาเลย...เร่งเตรียมการเถิด! ท่านเห็นหรือไม่?! ศิษย์น้องจินหัวทนรอจนถึงพลบค่ำไม่ไหวแล้ว!” เยี่ยฉวนกล่าวเสริม จินหัวที่ได้ยินเช่นนั้นพลันรู้สึกอยากกระอักเลือดอีกครั้ง!
ฝ่ายจินจื่อคุนที่เห็นบุตรชายกำลังจะแต่งงานกับนางนกอินทรียักษ์อย่างไม่ยินดี ด้วยความเป็นบิดาเขาไม่อาจเมินเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจึงก้าวออกไปด้านหน้าหมายจะคัดค้าน ทว่าอาวุโสลำดับสามส่ายหน้าเป็นเชิงปรามทำให้เขากล่าวคำใดไม่ออกและตกอยู่ในสภาวะจำยอม
ผลประโยชน์ภายภาคหน้าสำคัญกว่าความอัปลักษณ์ของโท่วป่าเซียงเนียวมากนัก!
“ถูกต้องที่สุด! ไม่เร็วเกินไปหรอก! เหล็กที่ดีจะต้องตีขณะที่ยังร้อน! เร่งเตรียมการเถิดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ท่านอาวุโสสูงสุด...ข้าขอลา! ฮ่าๆๆ!”
โท่วป่าเซียงไม่วายหัวเราะลั่นขณะกล่าวลา โท่วป่าเซียงเนียวจึงปล่อยวงแขนที่รัดแน่นราวปลาหมึกออกจากร่างจินหัวทำให้เขาหายใจโล่งขึ้นและเป็นอิสระอีกครั้ง ท่านเจ้าสำนัก บุตรสาวและศิษย์ผู้ติดตามยกขบวนเดินทางกลับสำนักเครื่องนิลเพื่อเตรียมการให้พร้อมสำหรับพิธีแต่งงานค่ำคืนนี้!
“เจ้าหอแปรธาตุ...ท่านมีความเห็นอย่างไร?” อาวุโสสูงสุดเอ่ยถามจินจื่อคุนพลางขมวดคิ้ว การแต่งงานและการตัดสินใจต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินควรจนเขารู้สึกถึงความผิดปกติ
“ข้าเห็นควรและยอมรับการตัดสินใจของท่านอาวุโสสูงสุดขอรับ!”
จินจื่อคุนหันไปสบตาอาวุโสลำดับสามก่อนเอ่ยตอบอย่างระมัดระวัง จินหัวได้ยินเช่นนั้นจึงอ้าปากหมายจะประท้วง ทว่าถูกบิดาส่งสายตาเป็นเชิงปรามเสียก่อน...
“ท่านล่ะ...อาวุโสลำดับสาม?” อาวุโสสูงสุดหันไปถามความเห็นอีกคน
“ข้าเห็นควรทุกประการ...การแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างสำนักไม่ใช่เรื่องเสียหาย” ชายชราหรี่ตาขณะตอบ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ความคิดของเขา
“หากไม่มีผู้ใดขัดข้อง พิธีแต่งงานและส่งตัวเจ้าสาวจะเกิดขึ้นภายในค่ำคืนนี้!”
อาวุโสสูงสุดยืนขึ้นเพื่อสั่งการก่อนเดินออกจากห้องโถง...
“ยินดีด้วยขอรับ! ขอแสดงความยินดี!”
บรรดาศิษย์ต่างยิ้มแย้มและเข้ามาแสดงความยินดีก่อนแยกย้ายไปทำหน้าที่ตามเดิม ส่วนจินหัวกำลังร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา...
หลังโท่วป่าเซียงเนียวติดตามบิดากลับไปยังสำนัก ท่านอาวุโสสูงสุด อาวุโสลำดับสามรวมถึงบิดาของเขาต่างพูดคุยกันถึงเรื่องการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ทว่าไม่มีผู้ใดถามความคิดเห็นและความยินยอมจากเขาแม้แต่คำเดียว ทุกคนปฏิบัติต่อเขาราวธาตุอากาศ ก่อนหน้านี้เขามัวริษยาเยี่ยฉวนที่ได้รับแต่สิ่งดีๆ ตอนนี้เขาได้รับสิ่งนั้นทว่าทุกอย่างกลับกลายเป็นเลวร้าย...ทั้งยังไม่มีหนทางปฏิเสธอีกด้วย!
“ยินดีด้วย! ศิษย์น้องจินหัว…ศิษย์พี่ใหญ่รอคอยพิธีแต่งงานของเจ้าในค่ำคืนนี้อย่างจดจ่อ!”
เยี่ยฉวนเข้าหาจินหัวพร้อมแสดงความยินดี จากนั้นจึงเรียกหาจ้าวต้าจื่อและจูซือเจียให้ออกไปพร้อมกัน ระหว่างนั้นเขาได้กระซิบบางอย่างกับจ้าวต้าจื่อ ครั้นเจ้าอ้วนได้ยินครบถ้วนจึงเหลือบมองไปทางจูซือเจียพลางเผยสีหน้าลังเล ก่อนเดินแยกไปเพียงลำพัง...