ตอนที่ 559 ทายาทคนเดียวของตระกูลกง
“งั้นเหรอ” เซินโย่วหมุนของเหลวสีฟ้าในแก้วของเธอแล้วยิ้มเยาะ
“ฉันแค่อยากเมา ถ้าเมาแล้ว...ฉันจะได้ไม่รู้สึกแย่อีกยังไงล่ะ ขอเพิ่มอีกสองแก้ว”
เธอดื่มเครื่องดื่มอึกเดียวจนหมดแก้วและยกแก้วเปล่าขึ้น เพื่อขอเพิ่ม
บาร์เทนเดอร์ลังเล
คุณหญิงเซินคนนี้ไม่ใช่แค่คนทั่วไป
หากเธอเมาและประสบปัญหาบางอย่าง บาร์ของพวกเขาไม่สามารถแบกรับความผิดชอบแบบนั้นได้
อย่าว่าแต่บาร์เทนเดอร์อย่างเขาเลย
ขณะที่เขากำลังไตร่ตรอง เซินโย่วตะโกนออกมา “เครื่องล่ะ ขอเพิ่มอีกแก้ว รออะไร คุณคิดว่าฉันไม่มีเงินพอจะจ่ายหรือไง”
เธอหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋าถือข้างตัวของเธอ แล้วดึงการ์ดสีทองออกมา กระแทกที่เคาน์เตอร์
“การ์ดใบนี้เต็มไปด้วยเงิน เอาเครื่องดื่มมาให้ฉัน!”
ดูเหมือนว่าบาร์เทนเดอร์จะดูออกแล้ว “คุณเซิน คุณเมาจริง ๆ แล้วนะครับ”
บาร์เทนเดอร์กังวลว่าเธอจะมีปัญหา
แต่เขาก็กลัวที่จะทำให้คุณหญิงเซินขุ่นเคืองเช่นกัน
ขณะที่บาร์เทนเดอร์กำลังตัดสินใจว่าจะเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เธออีกหรือไม่ เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคย เขามีความสุขมากขึ้น พร้อมกับทักทายเขา “คุณชายกง”
“โย่วโย่ว ทำอะไรน่ะ”
กงเซลีสวมเสื้อสีดำและกางเกงสีดำ กระดุมสองสามเม็ดบนของเขาถูกปลดออก เขาอยู่ในท่าเอามือลวงกระเป๋า
ภายใต้แสงไฟที่สาดส่องมาที่เขา
เขาดูสบาย ๆ และมีเสน่ห์ภายใต้แสงสลัวนั้น
ไม่ว่าเขาจะยืนอยู่ที่ใดและยืนอย่างไร เขาก็ทำให้หัวใจของผู้คนเต้นรัว
รูปร่างหน้าตาของเขาทำให้ผู้หญิงหลายคนหันกลับมามองเขา พวกเขามองด้วยความตื่นเต้น
“ว้าว นั่นคุณชายกงนี่”
“คุณชายกงหล่อจังเลย ดูหุ่นเขาสิ ดีกว่าดาราดังเสียด้วยซ้ำ”
“ที่สำคัญเขายังรวยมากเลยล่ะ! เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลกง และบริษัทกง ก็ต้องเป็นของเขาต่อไปในอนาคต เธอรู้ไหมว่าตระกูลกงร่ำรวยแค่ไหน เงินเดือนของดาราดังรวมกันถึง 10คน ยังไม่เท่ากับเงินที่เขาได้รับในแต่ละเดือนเลยด้วยซ้ำ”
“ใครจะได้แต่งงานกับคนที่ร่ำรวยและหล่ออย่างคุณชายกง ต้องเป็นคนที่เคยเป็นนักบุญในชาติก่อนสะสมกรรมดีมามากอย่างแน่นอน”
“นั่นอาจไม่เป็นความจริง ฉันได้ยินมาว่าคุณชายกงอารมณ์ฉุนเฉียว และเขาไม่ได้อ่อนโยนกับผู้หญิงด้วย นอกจากนี้...” ผู้หญิงคนหนึ่งลดเสียงของเธอลง “ฉันได้ยินมาว่าเขาเกือบจะตี เพื่อนร่วมชั้นตายตั้งแต่ยังเด็ก ถ้าไม่ใช่เพราะภูมิหลังครอบครัวและอายุยังน้อยในตอนนั้น เขาคงถูกส่งเข้าคุกไปแล้วล่ะ เพื่อร่วมชั้นของเขาตอนนี้กลายเป็นคนพิการและยังไม่ได้สติตั้งแต่นั้นมา”
“จริงเหรอ อารมณ์ของเขาฉุนเฉียวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“จริงสิ เพื่อนของฉันเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับเขามาก่อน เขาบอกว่าตอนนั้นแทบบ้า อีกฝ่ายเลือดออกมาแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมปล่อยผู้ชายคนนั้น ถ้าครูไม่เข้ามานะ ได้ตายแน่” เขาคงได้ฆ่าคนอื่นไปแล้วแน่ ถ้าไม่มีคนเข้ามาหยุดเขา
“เพื่อนของฉันคนนั้นบอกว่าเขามีความบกพร่องเรื่องควบคุมอารมณ์ แม้เขาจะหล่อและรวยก็เถอะ กับคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้น่ะ เธอไม่รู้สึกกลัวบ้างเหรอ”