ตอนที่ 27 ศิลปะการต่อสู้
ด้วยการที่มิซากินั้นอยากจะดูชิชิโอะฝึกศิลปะการต่อสู้มาก ดังนั้นเธอจึงรีบกลับไปเอาอะไรบางอย่างที่ห้องมาที่นี่
“อย่าพึ่งรีบเริ่มฝึกนะ!! รอฉันก่อนน!!!”
หลังจากพูดทิ้งท้ายไว้ มิซากิก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ทางชิชิโอะนั้นก็จ้องมองแผ่นหลังของมิซากิแล้วสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการทำอะไรกันแน่ แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวแล้วเดินไปยืนอยู่กลางสวน จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตั่งท่า ‘ท่ายืนขี่ม้า (Horse stance)’
สิ่งแรกที่เขาลองก็คือ ‘มวยปาจี๋(มวยแปด)’เพราะมันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ต้องใช้อาวุธไม่เหมือนกับ ‘วิชาปราณอัสนี’ที่ต้องใช้อาวุธในการออกระบวนท่าเพราะมันเป็นวิชาดาบนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ความตริงแล้ว แม้ไม่มีดาบ เขาก็อาจจะสามารถใช้ ‘วิชาปราณอัสนีได้’เพราะวิชาดาบอันนี้มันเกี่ยวพันกับความเร็วและโดยเฉพาะกับกระบวนท่าแรกของวิชาปราณอัสนีซึ่งเขาสามารถใช้วิชานี้มาเป็นวิชาเคลื่อนที่ได้
แต่แล้วชิชิโอะก็โยนความคิดพวกนี้ทิ้งไปก่อนแล้วหันมาสนใจกับการใช้ ‘วิชามวยปาจี๋(มวยแปด)’ที่เขากดรับมาตั้งนานแล้ว
วิชามวยปาจี๋(มวยแปด)นั้นเป็นศิลปะการต่อสู้จีนที่เป็นลักษณะการระเบิดพลังออกไปในระยะการโจมตีใกล้ๆและมันยังมีชื่อเสียงในด้านการโจมตีโดยใช้ข้อศอกกับไหล่ด้วย ชื่อเต็มของมันก็คือ Kai Men Bajiquan (開門八極拳) หรือก็คือ ฝ่ามือแปดทิศ
เดิมทีวิชามวยปาจี๋(ปาจี๋ฉวน=Bajiquan)นั้นเดิมทีเรียกว่า ‘bazi quan=กวาดกำปั้น’เพราะการกำหมัดหลวมๆนี้ได้ถูกใช้ในการโจมตีเคลื่อนลงข้างล่างราวกับกวาดหมัด ซึ่งในภาษาพื้นเมืองนั้น ชื่อของมันจึงถือได้ว่าค่อนข้างหยาบมากๆ ดังนั้นมันจึงถูกเปลี่ยนเป็น ปาจี๋ฉวน=Bajiquan คำว่า ปาจี๋(Baji)มาจากภาษาจีนซึ่งหมายความว่า ‘แผ่ขยายไปทั่วทุกทิศทาง’ ในความหมายนี้ยังหมายถึง ‘รวมทุกอย่าง’หรือก็คือ ‘เอกภพ(จักวาล)’
วิชามวยปาจี๋(มวยแปด)นั้นเป็นวิชาที่จะบังคับให้คู่ต่อสู้เปิดช่องว่างแขเนเพื่อให้ผู้ใช้วิชาสามารถระดมโจมตีส่วนสูง ส่วนกลาง ส่วนต่ำของร่างกายของอีกฝ่าย มันเป็นวิชาการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการต่อสู้ระยประชิตซึ่งมันเป็นวิชาที่เน้นโจมตีโดยใช้ข้อศอก เข่า ไหล่และก้น ในขณะป้องกันการโจมตีหรืออยู่ประชิตตัวอีกฝ่าย วิชาปาจี๋(มวยแปด)นั้นจะเป็นการเน้นโจมตีไปที่จุดอ่อนของร่างกายเป็นหลักซึ่งก็คือทรวงอก ขาและคอของคู่ต่อสู้
นอกจากหมัดแล้ว ในวิชาปาจี๋(มวยแปด)นั้นยังมีกระบวนท่าที่ใช้กับกระบี่และหอกได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ชิชิโอะก็ไม่คิดจะใช้ในตอนนี้เนื่องจากเขาอยากจะใช้ศิปละการต่อสู้นี้ให้คุ้นชินกับร่างกายของเขาเสียก่อน
ฟิ้ววว!!! ฟิ้ววว!!!
การออกหมัดแต่ละครั้งของเขานั้นรวดเร็วดเป็นอย่างจนทำให้เกิดภาพลวงตาที่เป็นหมัดนับถ้วนปรากฏขึ้นตามแถมยังมีเสียงหมัดแหวกอากาศดังขึ้นด้วยซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าแต่ละหมัดที่เขาปล่อยออกมานั้นมันทรงพลังแค่ใหน
ทางชิชิโอะก็ยอมรับว่าศิลปะการต่อสู้อันนี้ช่างอันตรายมากเนื่องจากการโจมตีของมันทั้หงมดนั้นมักจะพุ่งใส่จุดสำคัญบนร่างกายด้วยความเร็วสูงแถมมันยังเป็นวิชาต่อสู้ที่สร้างขึ้นมาเพื่อจัดการศัตรูในหนึ่งกระบวนท่าด้วย
ชิชิโอะนั้นก็ตระหนักได้ว่าความพิเศษของศิลปะการต่อสู้นี้ก็คือการปล่อยหมัดออกไปแต่ละครั้ง แม้ว่าระยะทางที่เขาปล่อยหมัดออกไปจะสั้นมากๆ แต่ด้วยพลังของข้อมือและเท้า ก็จะช่วยเพิ่มพลังหมัดแต่ละหมัดที่เขาออกไปซึ่งมันทำให้หมัดแต่ละหมัดนั้นทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม
นั่นก็คือเหตุผลที่การฝึกหมวยปาจี๋(มวยแปด)เป็นการฝึกที่เน้นไปที่ส่วนล่าง
ในขณะที่ชิชิโอะกำลังเพ่งความสนใจกับการฝึกอยู่นั้น มีก็มีหญิงสาวนางหนึ่งที่จ้องมองชิชิโอะด้วยความประหลาดใจ
คนๆนั้นก็คือ คาวาอิ ริทสึ(Kawai ritsu)!!
คาวาอิ ริทสึ(Kawai ritsu)นั้นตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือของเธออย่างเงียบแต่เธอไม่คิดว่าเธอจะได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากมิซากิและชิชิโอะที่กำลังทะเลาะกัน ตอนแรกเธอนั้นคิดว่าจะกลับไปอ่านหนังสือที่ห้องแต่เมื่อเธอได้ยินว่าเขากำลังจะฝึกศิลปะการต่อสู้ เธอก็เดินมานั่งลงที่ห้องนั่งเล่นทันทีเนื่องจากหนังสือที่เธออ่านในตอนนี้ก็คือหนังสือที่เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้
ริทสึที่อยู่ด้านข้างนั้นก็เฝ้าดูชิชิโอะที่กำลังฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยความประหลาดใจเนื่องจากหมัดที่ชิชิโอะปล่อยออกมาแต่ละหมัดนั้นช่างทรงพลังรวดเร็วมาก มันเร็วมากจนเธอไม่สามารถมองเห็นการปล่อยหมัดได้อย่างชัดเจนเลย
จากนั้นแล้วริทสึก็ได้ยินเสียงขูดขีดอะไรสักอย่าง เธอจึงหันหน้าไปมองและเห็นมิซากิที่กำลังวาดอะไรบางอย่างลงในสมุดของเธอ เธอจึงได้ชะเง้อมองดูมิซากิที่แสดงสีหน้าจริงจังออกมาแต่สุดท้ายแล้วเธอก็ส่ายหัวแล้วหันไปอ่านหนังสือของเธอต่อ แต่ทว่าพอผ่านไปไม่นานเธอก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และตัดสินใจว่าจะแวะไปร้านหนังสือสักหน่อยเนื่องจากเธอจำได้ว่ามีหนังสือใหม่พึ่งออกวางขาย
ส่วนอีกด้านนั้น มิซากินั้นกำลังวาดรูปขอิงชิชิโอะที่กำลังฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง
ชิชิโอะนั้นได้ใช้วิชามวยปาจี๋ไปหลายกระบวนท่าไม่ว่าจะเป็นหมัก ศอก ไหล่ เข่า เท้าและอื่นไปๆ เขานั้นยอมรับเลยว่านอกจากพลัง ศิปละการต่อสู้นี้ก็เร็วมากๆด้วย และเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมกล่าวอันโด่งดังของปรมาจารย์หลี่ซูเหวินจึงเป็น ‘ฉันก็ไม่รู้ว่าการโจมตีสองครั้งมันเป็นอย่างไร’เนื่องจากจากคำกล่าวนี้ ตราบใดที่คู่ต่อสู้โดนวิชามวยปาจี๋เข้าไป โอกาสที่เขาจะลุกขึ้นมาได้นั้นก็เกือบจะไม่มีเลย
จากนั้นแล้วชิชิโอะก็ได้พักสักครู่และถอนหายใจออกมาอย่างสงบ ตอนนี้เขานั้นรู้สึกดีเอามากๆแถม ‘ความเชี่ยวชาญมวยปาจี๋(มวยแปด)’นั้นก็ได้ผสานเข้ากับร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ทว่าเขาไม่มั่นใจว่าเขาจะใช้วิชานี้ออกมาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่าสเพราะเขาไม่คิดว่าเขาจะมีโอกาสได้สู้กับคนอื่น
โลกนี้สงบสุขเอามากๆแถมชิชิโอะก็ไม่ได้ชอบไปหาเรื่องใครด้วย
สุดท้ายแล้ว ในฐานะคนฉลาด เขาก็ควรจะใช้สมองแก้แค้นมากกว่าใช้กำลัง
เมื่อชิชิโอะหยุดลง เขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง
“รีบหยุดทำไมหล่ะ ชิชิโอะคุง?”มิซากิก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัยเนื่องจากเธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชิชิโอะนั้นไม่ได้เหนื่อยล้าอะไรเลยซึ่งเธอเองนั้นก็อยากจะดูกระบวนท่าของวิชานี้มากกว่านี้
“รุ่นพี่ พอจะมีดาบไม้ใหมครับ?”ชิชิโอะถาม
“ดาบไม้หรอ? เธอฝึกเคนโด้ด้วยหรอ?”มิซากิก็ถามออกมาอย่างสงสัย
“ก็นิดหน่อยนครับ แล้วพอจะมีใหม?”
“รอเดี๋ยวนะ!! เดี๋ยวฉันไปหยิบให้!!”มิซากิก็ลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งตัวออกไปใหนก็ไม่รู้
ชิชิโอะนั้นก็สงสัยว่ามิซากิจะไปเอาดาบไม้มาให้เขาหรือเปล่ากันแต่ผ่านไปไม่นาน เธอก็กลับมาพร้อมกับดาบไม้ในมือ
“เอ้านี่”
มิซากิก็ส่งดาบไม้ให้กับชิชิโอะ
ทางชิชิโอะที่ได้รับดาบไม้นั้นก็ตกตะลึงแล้วถามออกมาว่า “แล้วคุณไปเอาดาบไม้มาจากใหนเนี่ย?”
“จากโถงทางเดินหน่ะ”มิซากิพูด
“โถงทางเดิน?”
“อืม”มิซากิก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “มันอยู่ตรงระเบียงทางเดินของฝั่งผู้หญิงหน่ะสิ มันเอาไว้ใช้ฟาดผู้ชายที่คิดจะเข้าเขตผู้หญิงอะ”
“….”
ชิชิโอะก็พยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา “เอ่อ รุ่นพี่ ช่วยถอยไปห่างๆผมสักสองสามเมตรที”
“หืม? ทำไมอะ?”
“ก็เพราะมันอันตรายหน่ะ เอาน่าเชื่อผมก่อน”ชิชิโอะนั้นรู้ดีว่า ‘วิชาปราณอัสนี’นั้นมันทรงพลังมาก ดังนั้นเขาจึงอยากจะระมัดระวังไว้ก่อน
“อืมๆ!!”
มิซากิก็ตื่นเต้นมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของชิชิโอะและเธอก็สงสัยว่าชิชิโอะกำลังจะทำอะไรออกมาให้เธอเห็นกัน
จากนั้นชิชิโอะก้าวถอยหลังแล้วจึงเริ่มใช้ ‘วิชาปราณอัสนี’
ตามความเข้าใจของเขา ‘วิชาปราณ’นั้นเป็นวิชาดาบที่ถูกสอนโดยหน่วยนักล่าอสูร วิชาปราณนั้นจะใช้รูปแบบการหายใจอย่างเฉพาะเจาะจงและอย่างใจจดใจจ่อซึ่งมันจะช่วยเพิ่มปริมาณความจุของปอดและปริมาณออกซิเจนในเลือด การเพิ่มออกซิเจนในเลือดนั้นจะทำให้ผู้ใช้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของตัวเองและรวมถึงยังเพิ่มสมาธิให้กับผู้ใช้ด้วยซึ่งนั่นทำให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับอสูรที่มีพละกำลังกายภาพสูงกว่ามนุษย์ทั่วไปทัดเทียม
ด้วยวิชาปราณนี้ ก็จะทำให้ร่างกายราวกับเป็นนักกีฬาโอลิมปิกของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
จากนั้นชิชิโอะจึงเริ่มสูดหายใจซึ่งการสูดหายใจของเขานั้นทรงพลังมากจนมิซากิและริทสึที่อยู่ด้านข้างได้ยินเลย
ส่วนท่าทางที่ชิชิโอะกำลังถือดาบอยู่นั้นก็ดูราวกับเป็นกระบวนท่าดาบอิไอ
ชิชิโอะก็ได้ส่งแรงไปที่ขาพร้อมกับที่ใช้พลังจากกล้ามเนื้อและหลอดเลือดในขาทุกส่วนอย่างเต็มกำลัง
จากนั้น…
“ปราณอัสนี กระบวนที่ 1 สายฟ้าฟาด”
ชิ้ง!!!
ชิชิโอะก็ได้ชักด่าบไม้ออกมาพร้อมทั้งพุ่งตัวออกไปข้างด้วยความเร็วสูงราวกับเป็นสายฟ้าพุ่งแหวกอากาศแล้วบั่นคอคู่ต่อสู้(อากาศ)
จากนั้นแล้วชิชิโอะก็ได้ไปปรากฏตัวขึ้นอีกด้านซึ่งห่างจากจุดเดิมที่เขาอยู่ 5 เมตร ต่อมาเขาก็ก้มลงมองดาบไม้ในมือแล้วถอนหายใจออกมาทันทีเนื่องจากเขาสัมผัสได้ว่าหลังจากเขาใช้กระบวนท่านั้น ดาบไม้อันนี้ก็เกือบจะถูกทำลายลงเลยแต่ในเวลาดียวกัน เขากลับรู้สึกเจ็บปวดขาขึ้นมาซึ่งนั่นทำให้เขาสงสัยว่าร่างกายของเขายังแข็งแกร่งไม่พอจะใช้ ‘วิชาปราณอัสนี’เลยหรอ
“…”
อีกด้าน ริทสึและมิซากิก็ดวงตาเบิกกว้างและอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงเนื่องจากชิชิโอะนั้นช่างรวดเร็วมาก!!
‘นั่นมันความเร็วของมนุษย์หรอ?’2x
นี่ก็คือความคิดของพวกเธอในขณะนี้
ในขณะที่ชิชิโอะกำลังจะลองใช้ ‘วิชาปราณอัสนี’อีกครั้ง แต่ทันใดนั้น….
“ชิชิโอะ มากับฉันก่อนสิ?”
ชิชิโอะที่ได้ยินเสียงจิฮิโระก็หันหน้าไปถามว่า “มีอะไรหรอครับ พี่จิฮิโระ?”
“ผลการสอบของเธอประกาศแล้วนะ มากับฉันเร็วเลย”จิฮิโระก็พูดออกมา
“ครับ พี่จิฮิโระ”
จากนั้นชิชิโอะก็ออกจากสวนหย่อมแล้วเดินไปที่โถงทางแล้วจึงตามจิฮิโระไปที่ห้องของเธอ
ริทสึและมิซากินั้นก็กระพริบตาอย่างมึนงงก่อนที่จะขยี้ตาหลายครั้งเนื่องจากพวกเธอตระหนักได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นก็คือความจริง
“เดี๋ยวรอด้วย ชิชิโอะคุง อาจารย์จิฮิโระ!! หนูก็อยากรู้ผลสอบของชิชิโอะคุงด้วย!!!”
จากนั้นแล้วมิซากิก็วิ่งไล่ตามชิชิโอะและจิฮิโระไป
“…”
ซึ่งนั่นทำให้ริทสึต้องอยู่คนเดียวภายในห้องและจากนั้นแล้วเธอก็ยืนขึ้นแล้วตัดสินใจไปร้านหนังสือเนื่องจากเธออยากจะรู้ว่าที่ร้านจะมีหนังสือเกี่ยวกับวิชาดาบ เคนโด้หรือซามูไรหรือเปล่าเพราะเธอรู้สึกสงสัยในวิชาดาบของชิชิโอะมาก