ตอนที่แล้วบทที่ 89 ทุกหนทางเพื่อให้แกร่งขึ้น (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 91 ทุกหนทางเพื่อให้แกร่งขึ้น (3)

บทที่ 90 ทุกหนทางเพื่อให้แกร่งขึ้น (2)


มีปฏิกิริยาทันทีหลังจากที่เลือดของเฟรย์หยดลงบนพื้น

ฟู่

พลังปีศาจพัดหมุ่นอย่างรุนแรงในที่โล่ง

สโนว์เดินถอยหลังไปสองสามก้าวและขมวดคิ้ว

‘พลังงานที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้’

เอลฟ์โดยเฉพาะไฮเอลฟ์นั้นอ่อนไหวต่อพลังงานเป็นพิเศษและมักจะมีปัญหาในการต้านพลังงานดังกล่าว

ในฐานะไอซ์เอลฟ์ สโนว์สามารถจัดการกับมันได้นิดหน่อยแต่ก็ยังทำให้เธออึดอัดอยู่ดี

กระทืบ!

อาชูร่าปรากฏตัวจากวงอัญเชิญ

เขาตัวเล็กกว่าตอนที่โอดินเรียกตัวเขาออกมาในครั้งแรกโดยมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์เพียงสองเท่า

อย่างไรก็ตามออร่าที่เขาเปล่งออกมานั้นทรงพลังเหมือนเดิม

เฟรย์เงยหน้าขึ้นมองเขา

“อาชูร่าฉันเรียกคุณมาเพื่อเซ็นสัญญา”

[ใช่ นายเรียกฉันเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้]

อาชูร่าพยักหน้าก่อนจะขมวดคิ้วทันที

[…พลังศักดิ์สิทธิ์เข้มข้นเช่นนี้ มีเดมิก็อดอยู่ใกล้ๆ หรือ?]

เฟรย์รู้สึกประหลาดใจ

ขณะนี้ริกิอยู่ในกระท่อมของเขาและเนื่องจากพื้นที่ภายในกระท่อมถูกบิดเบือนโดยความสามารถของริกิจึงอาจกล่าวได้ว่ามันอยู่ในส่วนของมิติที่แยกออกจากป่า

เฟรย์ซึ่งอ่อนไหวต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ยังไม่สามารถแม้แต่จะรู้สึกถึงมันได้จนกระทั่งริกิเปิดประตูและก้าวออกมา

อย่างไรก็ตามอาชูร่าตระหนักได้ทันทีว่ามีเดมิก็อดอยู่ใกล้ๆ

‘เป็นเพราะเขาเป็นอาร์ชดยุกหรือเปล่า?’

อาร์ชดยุกแห่งโลกปีศาจและผู้ปกครองนรกแห่งการสังหาร

ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเดมิก็อดเมื่อพูดในแง่ของความสามารถ

"ใช่แล้ว มีเดมิก็อดอยู่ใกล้ๆ ”

[อืม...แสดงว่านายต้องการเซ็นสัญญากับฉันตอนนี้เพื่อที่นายจะได้ต่อสู้กับเขา?]

“ไม่ใช่ สำหรับตอนนี้จะไม่มีการต่อสู้ใดๆกับเดมิก็อด”

[อืม..]

เขาไม่จำเป็นต้องบอกเขาเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรของริกิและอาชูร่าเองก็ไม่ได้ถามคำถามเพิ่มเติม

ท่าทีของอาชูร่าแสดงให้เห็นว่าเขาไม่สนใจว่าเฟรย์จะต้องต่อสู้หรือไม่

ร่างที่ถูกอัญเชิญมายังมิดเดิลเอิร์ธเป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น

แม้ว่ามันจะมาพร้อมกับพลังที่จำกัดแต่การตายหรือการบาดเจ็บของร่างอวตารก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อร่างกายที่แท้จริงของเขา

ถ้าเฟรย์ขอให้เขาสู้กับริกิเขาก็จะทำมันอย่างสุดความสามารถ

แม้ว่าปีศาจแต่เดิมจะไม่เคยมีความอาฆาตกับเดมิก็อด

[การทำสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว]

"เสร็จแล้ว?"

[ใช่ เลือดของนายถูกถ่ายโอนไปยังร่างหลักของฉันในโลกปีศาจโดยวงอัญเชิญ]

“…”

เขาเซ็นสัญญากับจอมปีศาจแต่เขากลับรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ขณะที่เฟรย์กำลังตรวจสอบตัวเองอาชูร่าก็กล่าวเสริม

[นายจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเนื่องจากสัญญาที่ฉันเซ็นกับนายมันเป็นลักษณะแบบพิเศษใส่ไข่]

“…เป็นเพราะฉันขาดพรสวรรค์หรือเปล่า?”

[อันที่จริงคนที่ไร้พรสวรรค์ (ด้านอัญเชิญ) อย่างนายจะไม่สามารถกลายมาเป็นผู้อัญเชิญของฉันได้]

เฟรย์เข้าใจสิ่งนี่ดี

"พรสวรรค์" ที่ปีศาจพูดถึงนั้นเป็นส่วนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเวทมนตร์ที่เขาถนัด

และปีศาจเองก็สามารถมองเห็นพรสวรรค์ของผู้อัญเชิญได้เพียงแค่เหลือบมอง

เขาไม่รู้หลักการของมันแต่เฟรย์เชื่อว่าความสามารถของเขานั้นยัง ‘ด้อยคุณสมบัติ’ ในสายตาของอาร์ชดยุกอาชูร่า

[อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าสัญญาจะไม่มีวันสิ้นสุดเว้นเสียแต่นายจะทำให้มันจบลงเอง]

[ฉันรอคอยครั้งต่อไปตอนที่นายเรียกฉัน แน่นอนนายจะต้องใช้มานา]

เขายิ้มด้วยความสดใสอย่างประหลาด

[นายไร้พรสวรรค์อย่างแน่นอน แต่มานาของนายนั้นยอดเยี่ยมมาก ความหนาแน่นและความบริสุทธิ์ของมานาของนายไม่ได้มีให้เห็นมานานกว่าพันปีแล้ว…ถ้าหากลิลิธได้รู้เกี่ยวกับนาย เธอคงอิจฉาแน่ๆ]

“ลิลิธ …คุณหมายถึงราชินีซัคคิวบัสใช่ไหม?”

[ใช่ ฮึ่ม…นางร่านนั่นแหละ!]

เสียงของอาชูร่าเต็มไปด้วยการดูถูก

เฟรย์รู้ว่าลิลิธก็เป็นอาร์ชดยุกแห่งโลกปีศาจเช่นเดียวกับอาชูร่าแต่เฟรย์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอ

“ถ้าจำเป็นต้องใช้มานาเป็นแหล่งพลังงานสำหรับอัญเชิญคุณ แล้วโอดินเรียกคุณมาได้อย่างไร?”

จากนั้นอาชูร่าก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

[พลังศักดิ์สิทธิ์และมานาเป็นเหมือนพลังงานก้อนเดียวกันสำหรับฉัน เมื่อพวกมันถูกส่งไปยังโลกปีศาจทุกอย่างจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานปีศาจ]

“…”

[ถ้านายไม่มีอะไรจะถามต่อฉันขอตัวก่อน]

ร่างของอาชูร่าถูกดูดเข้าไปในวงอัญเชิญและหายไปพร้อมกับพลังปีศาจ

จากนั้นเฟรย์ก็เข้าไปหาสโนว์ซึ่งยืนอยู่ห่างออกไป

“…มันไม่เพียงพอที่จะเรียกนายว่าน่าทึ่งอีกต่อไป ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านายเพิ่งจะเซ็นสัญญากับอาร์ชดยุกแห่งโลกปีศาจด้วยเพียงคำพูดไม่กี่คำ”

ไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกแบบนั้น

สำหรับเฟรย์การเซ็นสัญญากับอาชูร่าเกิดจากข้อตกลงที่พวกเขาทำไว้เมื่อ 4,000 ปีก่อน แต่ในสายตาของสโนว์ที่เป็นบุคคลที่สามมองเฟรย์เป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่เซ็นสัญญากับอาร์ชดยุกแห่งโลกปีศาจโดยไม่ได้คุยกันมากเลย

เฟรย์ไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดของเธอ

เขาเริ่มเตรียมตัวที่จะค้างคืนใกล้ๆกระท่อม

เขาพบที่ที่ค่อนข้างแบนราบก่อนจะก่อกองไฟและหยิบถุงนอนออกมา

สโนว์สังเกตเห็นสิ่งนี้และเดินเข้ามาที่กองไฟ

เฟรย์ยื่นเนื้อตากแห้งในกระเป๋าให้เธอ สโนว์กล่าวขอบคุณก่อนที่จะกัดมันเข้าไป

เธอเหมือนกับไซแอ็กซ์ เธอไม่ได้ทำตัวเหมือนเอลฟ์ทั่วๆไป

พวกเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

เฟรย์หลับไปพร้อมขณะที่กำลังมองท้องฟ้า

* * *

"ฉันทำมันเสร็จแล้ว!"

เฟรย์รับขวดแก้วมาจากริกิด้วยสีหน้าแปลกๆ

“พลังงานอาจจะสูญหายไปบ้างในกระบวนการปรับแต่งของยาอายุวัฒนะ แต่ก็นะ ไม่มีความแตกต่างกันมากนักไม่แง่ของพลังงานบริสุทธิ์”

“นายทำคนเดียวเลยเหรอ?”

"ถูกตัอง"

“…”

“ถ้านายหมดธุระแล้วก็ออกไปได้เลย ฉันมีงานต้องทำ”

เฟรย์ออกจากกระท่อมตามการบ่นของริกิ

สโนว์ยืดตัวและพูดว่า

“เรากลับบ้านกันเลยไหม?”

เฟรย์ใช้วาร์ปอีกครั้งเพื่อพาพวกเขาไปที่ทางเข้าของป่าใหญ่

จากนั้นเขาก็เดินตามสโนว์เข้าไปยังลิลันด์และตรงไปที่ชั้นใต้ดินด้านล่างของฮรูฮิราล

ใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการกลับมาและภาพที่เขาเห็นนั่นมันก็เหมือนกับตอนที่พวกเขาจากไป

อีวานยังคงมีเหงื่อท่วมตัวและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดขณะที่มานากำลังกระจายไปรอบๆตัวเขา

โดยปกติแล้วนักรบเวทย์จะไม่มีความรู้ขั้นสูงเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนมานาของพวกเขาและดูเหมือนว่าอีวานก็ไม่ต่างกัน

เฟรย์เดินเข้าไปหาเขาและวางฝ่ามือไว้บนหลังของเขา

ซู่

“…หืม!”

อีวานตัวแข็งขึ้นชั่วขณะก่อนที่เขาจะผ่อนคลายเมื่อเขารู้ว่านั่นคือเฟรย์

เฟรย์ถ่ายมานาเข้าไปในตัวเขาและช่วยให้มานาที่ปั่นป่วนสงบลง นั้นทำให้การแสดงออกของอีวานผ่อนคลายมากขึ้น

เฟรย์ถอนฝ่ามือออกแล้วหันไปหาสโนว์

“ฉันจะใช้ยาอายุวัฒนะที่ริกิสร้างให้ฉันตอนนี้ ฉันจะใช้เวลาสามวันถึงหนึ่งสัปดาห์ในการซึมซับพลังงานทั้งหมด สถานที่แห่งนี้โดดเดี่ยวมากดังนั้นฉันต้องการดูดซับมานาที่นี่”

“นายจะทำอะไรก็ได้ที่นี่ ฉันจะไปเตรียมอาหารและน้ำสำหรับนายและอีวาน”

ของกิน

เฟรย์หันไปมองอีวานและพบว่ามีสลัดอยู่ข้างๆ

สโนว์ส่งเสียงหัวเราะ

“มันช่างเป็นการเอาคืนที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนป่าเถื่อนอย่างเขา”

“ถ้าอีวานเห็นอย่างนั้นเขาอาจจะเป็นลมไปเลยก็ได้”

“อ่าฮะ แผนนี่ฟังดูดีมาก”

สโนว์โบกมืออย่างสนุกสนานก่อนจะจากไป

จากนั้นเฟรย์ก็เลือกจุดใกล้ๆกับอีวานและนั่งลงก่อนที่จะหยิบยาอายุวัฒนะที่เขาได้รับจากริกิ

‘ฉันจะเก็บผลไม้ของฮรูฮิราลไว้ก่อน’

ยาอายุวัฒนะเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะให้เขาไปถึงระดับ 8 ดาวดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ใช้ผลไม้โดยเปล่าประโยชน์

การแสดงออกของเฟรย์ดูแปลกไปเล็กน้อย

เพียงแค่มองไปที่ยาอายุวัฒนะเขาก็สามารถบอกได้เลยว่ามีพลังงานมานาเท่าใด

‘ถ้าฉันวัดแค่ปริมาณมานาของฉัน ฉันจะแซงตัวฉันในชาติก่อนในไม่ช้า’

โฟรเซินริฟเวอะหัวใจของทอร์กุนทาและตอนนี้เป็นคริสตัลของอินดรา

เป็นเรื่องธรรมดาที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเขาบริโภคสิ่งของทั้งสามชิ้นที่มีมูลค่ามากกว่าทองคำ

แต่จริงๆแล้วปัญหาของเขาจะเริ่มขึ้นในตอนนี้เนื่องจากเขาจะไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อีกต่อไปด้วยความช่วยเหลือของยาวิเศษ

มันต้องใช้กระบวนการที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงสำหรับเขาที่จะไปถึงระดับ 9 ดาว ไม่ใช่โดยการเพิ่มการควบคุมมานาหรือความจุมานาของเขา

เฟรย์ส่ายหัว

“นั่นคือสิ่งที่ต้องคิดในภายหลัง”

เขาดื่มยาอายุวัฒนะ

* * *

“คุณเรียกหาฉันหรือพระราชินี?”

ไซแอ็กซ์ก้มศีรษะของเธอ มันเป็นคำทักทายที่ถ่อมตัวและสุภาพมาก

สโนว์ยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยความรู้สึกเศร้าใจกับท่าทีของเธอ

“ฉันเรียกหาคุณเพราะฉันอยากจะถามอะไรบางอย่าง”

“ถามอะไรบางอย่าง?”

ราชินีแห่งป่าใหญ่แบ่งปันจิตสำนึกของเธอกับฮรูฮิราลและความรู้ของราชินีในทุกๆรุ้นจะถูกเก็บไว้กับฮรูฮิราลเพื่อแบ่งปันให้กับราชินีรุ่นต่อๆไป

ในฐานะราชินีสโนว์กลายเป็นหนึ่งในเอลฟ์ที่มีความรู้มากที่สุดในป่า

"ใช่ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เวทย์มนต์คุณเป็นวิซาร์ดที่เก่งที่สุดในลิลันด์”

"ฉันเข้าใจละ"

ไซแอ็กซ์พยักหน้า แน่นอนว่าถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเวทมนตร์ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่พระราชินีจะไม่รู้เรื่องนี้

“คุณรู้ไหมว่าเฟรย์เป็นวิซาร์ดระดับ 7 ดาว?”

"ฉันรู้"

“ขอถามแบบโง่ๆได้มั้ยว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน?”

ไซแอ็กซ์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆอ้าปาก

“…ฉันท่องไปทั่วทวีปมาหลายทศวรรษแล้ว”

เมื่อไม่นานมานี้เธออยู่ที่เมืองพิลเล็ตก็จริงแต่ความจริงแล้วเธอออกเดินทางไปทั่วทั้งทวีป

ความทรงจำเกี่ยวกับการเดินทางของเธอยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอ

“มันเป็นโอกาสที่จะเปิดโลกทัศน์ของฉันให้กว้างขึ้น ฉันเคยไปเกือบทุกภูมิภาคและได้พบกับผู้คนมากมาย ในบรรดาพวกเขามีวิซาร์ดระดับ 7 ดาวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอาร์ชเมจที่ยอดเยี่ยม”

ไซแอ็กซ์จำภาพที่เฟรย์ต่อสู้กับมังกรกระดูกได้

ในตอนนั้นไซแอ็กซ์น่าจะเป็นคนเดียวที่เข้าใจพลังที่เฟรย์แสดงอย่างแม่นยำ

“พวกเขาเป็นวิซาร์ดระดับ 7 ดาวเหมือนเฟรย์ แต่ทักษะของพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน เฟรย์เก่งกว่าอาร์ชเมจทุกๆคนเท่าที่ฉันเคยพบมา”

“…เก่งกว่าในบางแง่มุมใช่มั้ย?”

"ไม่ใช่เฟรย์นั่นเก่งกว่าในทุกๆด้าน"

ไซแอ็กซ์มั่นใจมาก

“ความจุมานาของเขา ความเร็วในการร่ายเวทย์ ความแข็งแกร่งของคาถาความสามารถทางจิตใจและการรับรู้สถานการณ์ของเขานั้นสมบูรณ์แบบ พูดตามตรงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาไม่ใช่สิ่งที่ฉันคาดเดาได้ เฟรย์เป็นวิซาร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา”

“อืม…”

สโนว์รู้สึกว่าเธอต้องเห็นด้วยกับคำพูดของไซแอ็กซ์

พลังที่เขาแสดงในการต่อสู้กับมังกรนั้นยอดเยี่ยมมาก

เขาใช้การร่ายติดต่อกันสามครั้งเหมือนมันง่ายพอๆกับการหายใจและการรับรู้สถานการณ์ของเขาทำให้ใครๆก็ต่างสงสัยว่าเขาอาจจะมีดวงตาที่สามอยู่บนท้องฟ้า

"ระดับของเขาเข้าขั้นเทพทรู"

สโนว์มีความรู้เพียงผิวเผินเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เวทย์มนต์อย่างไรก็ตามเธอสามารถเห็นได้ว่าเขามีทักษะในการต่อสู้ที่สูงมาก

‘ฉันไม่เห็นขีดจำกัดในพลังของเขาเลย’

หลังจากคิดสักพักในที่สุดสโนว์ก็พูด

“วิซาร์ดระดับ 7 ดาวกับระดับ 8 ดาวนั่นแตกต่างกันอย่างไร?”

“พลังในการควบคุมพื้นที่”

"ฮะ?"

“…”

มีความเงียบอยู่ครู่หนึ่งขณะที่ไซแอ็กซ์พยายามจัดระเบียบความคิดของเธอก่อนที่จะพูด

“วิซาร์ดระดับ 8 ดาวสามารถย้ายห้องมานาของพวกเขาออกไปในพื้นที่รอบๆตัวได้”

“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร?”

มันเป็นทฤษฎีลึกลับเล็กน้อยที่จะอธิบายให้กับคนที่ไม่ใช่วิซาร์ดฟัง แต่ไซแอ็กซ์พยายามอธิบายให้สโนว์ที่มีสีหน้าสับสนอย่างช้าๆ

“วิซาร์ดทุกคนมีห้องมานาและพวกเขาสามารถควบคุมมานาที่เก็บไว้ที่นั่นได้ตามที่ต้องการ”

“…แล้วถ้าพวกเขาสามารถย้ายมันออกมาได้ละ…”

“แน่นอน แม้ว่าขอบเขตจะถูกจำกัดแต่พวกเขาก็สามารถควบคุมพื้นที่มีมานาของเขาได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง…”

ดวงตาของไซแอ็กซ์เปล่งประกาย

“ในพื้นที่ที่เขาควบคุมอยู่นั้นจะไม่มีใครสามารถใช้มานาได้เลย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด