WS บทที่ 89 บรรดาศักดิ์ของขุนนาง PART 2
“ข้าเป็นตาแก่ที่ใกล้จะตายดังนั้นข้าไม่ต้องการคาถาอะไรอีกแล้ว” พ่อมดฮิลล์ตอบพลางส่ายหัวเล็กน้อย เมอร์ลินได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเศร้าใจ จากนั้นชายชราก็ยิ้มและพูดต่อ “ข้ากำลังตายในไม่ช้าก็เร็ว แม้ว่าจะไม่ใช่เร็วนี้ ๆ นี้ แต่ชีวิตนี้ของข้าไม่มีหวังที่จะก้าวต่อในฐานะพ่อมดอีกแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องการโครงสร้างเวทมนต์ใด ๆ อีก พ่อมดเมอร์ลินไม่จำเป็นต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน ข้าสามารถมอบคาถาโล่ปฐพีเป็นของขวัญให้เจ้าได้”
เมอร์ลินตกใจมากที่ได้ยินอย่างนั้น เขามองไปที่กระดาษสีขาวสองสามแผ่นที่พ่อมดฮิลล์ส่งมาให้เขา มันเป็นคาถาโล่ปฐพี มันเป็นคาถาป้องกันที่ค่อนข้างธรรมดาในหมู่คาถาธาตุดินด้วยกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นคาถาอันเดียวกันที่เมอแรงค์ใช้งาน
บางทีคาถาโล่ปฐพีที่เมอแรงค์ได้มาอาจมาจากหอคอยอเวจีดังนั้นมันจึงมีความทนทานมากกว่าของพ่อมดฮิลล์
นอกจากที่พ่อมดฮิลล์จะส่งคาถาโล่ปฐพีให้เมอร์ลิน เขายังไม่ลืมที่จะเตือนเมอร์ลินว่า
“พ่อมดเมอร์ลินคาถาโล่ปฐพีนี้เป็นคาถาที่ข้าได้มาจากกองทัพซึ่งมันไม่ค่อยจะเสถียร หากเจ้าต้องการใช้มันเพื่อป้องกันภัย เจ้าควรจะปรับปรุงมันเสียก่อน”
เมอร์ลินพยักหน้าตอบรับ ตัวเขานั้นไม่กังวลในเรื่องนี้เพราะเขามีตัวช่วยสุดล้ำเดอะเมททริกซ์ที่สามารถวิเคราะห์โครงสร้างเวทมนต์ได้มากกว่าหมื่นแบบ
“ขอบคุณสำหรับที่ทุกอย่างนะขอรับ ขอให้พ่อมดฮิลล์พักก่อนให้เต็มที่” เมอร์ลินลุกยืนขึ้นและกล่าวอำลาชายชรา จากนั้นสาวใช้ก็นำทางเขาไปส่งที่ประตู
“มอสส์กลับปราสาท”
เมอร์ลินที่นั่งอยู่ในรถม้า เขากางโครงสร้างเวทมนต์ของคาถาโล่ปฐพีออก เขาลากนิ้วพร้อมมองอย่างพอใจ ตอนนี้เขาบรรลุจุดประสงค์หนึ่งอย่างแล้ว
เมอร์ลินได้คิดเกี่ยวข้อมูลขององค์กรนักเวทย์ที่พ่อมดฮิลล์ให้มา ดูเหมือนว่าหากต้องการจะแข็งแกร่งขึ้นในฐานะพ่อมด เขาจำเป็นต้องเข้าร่วมองค์กรที่ไหนสักที่ไม่อย่างนั้นเขาก็จะติดอยู่ในระดับเริ่มต้นตลอดไป
...
เมื่อถึงที่หมาย เมอร์ลินจากรถม้า เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เขาสังเกตเห็นอัศวินหลายนายเฝ้าอยู่ด้านนอกปราสาท เมื่อดูจะชุดเกราะของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นอัศวินของ” เคานต์เซลิน
เขาได้มองผ่านอย่างเร็วและเดินตรงเข้าไปในห้องโถงใหญ่
“คุณชายเมอร์ลิน ในที่สุดท่านก็กลับมา ตอนนี้ท่านผู้บัญชาการมารอคุณชายมาพักหนึ่งแล้วขอรับ”พ่อบ้านรีบตรงเข้ามากระซิบพลางรับเสื้อคลุมกับหมวกทรงสูงของเมอร์ลิน
เมอร์ลินพอจะเดาได้ว่าคนที่อยู่ในห้องโถงที่กำลังพูดคุยกัยเลห์แมนกับบารอนวิลสันนั้นคือคูก ลูกชายของเคานต์เซลิน
แม้เขาจะรู้ว่ามีคนของเคานต์เซลินมาหาเขาแต่เขาไม่คิดว่าคูกจะมาหาเขาด้วยตัวเอง ตัวเขานั้นค่อนข้างเย่อหยิ่งและดูเหมือนจะไม่ชอบเมอร์ลินกับพ่อมดฮิลล์เป็นพิเศษ
“ยินดีต้อนรับ ท่านผู้บํญชาการคูก”
“อ้าว สวัสดี ท่านพ่อมดเมอร์ลิน”
เมอร์ลินสังเกตเห็นท่าทีที่ซํบซ้อนของคูก เขาจึงถามออกไปตรงโดยให้เขาไม่ทันตั้งตัว
“ผู้บัญชาการคูกมาเยือนแบบนี้ แสดงว่าท่านเคานต์มีปัญหาอะไรหรือเปล่าขอรับ?”
คูกได้กลับมาเป็นปกติแต่ถึงอย่างนั้นเมอร์ลินสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขา ดูเหมือนว่ามันจะเปลี่ยนไปภายหลังจากที่เขาต่อสู้กับเมอแรงค์
ด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ของลูกไฟยักษ์ทั้งแปด จึงไม่แปลกเลยที่เขาจะมีท่าทีอย่างนี้
“พ่อมดเมอร์ลิน ท่านพ่อต้องการพบท่าน”
“ท่านเคานต์ต้องการพบฉัน?”
เลห์แมนได้ปรากฏขึ้นมาและหัวเราะเสียงดังกับท่าทีงงงวยของเมอร์ลิน
“เมอร์ลินรีบไปกับผู้บัญชาการคูกซะสิ ท่านเคานต์ต้องการจะมอบตำแหน่งบารอนให้ลูก”
ดูเหมือนว่าคูกจะบอกเรื่องนี้ให้เลห์แมนทราบแล้ว
“ตำแหน่งบารอน?”
เมอร์ลินรู้สึกประหลาดใจ แม้เขาจะรู้ว่าเคานต์เซลินจะมอบรางวัลให้เขาเพื่อแสดงความขอบคุณที่ผู้คนในปราสาทไว้แต่การมอบตำแหน่งให้แบบนี้ มันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะคาดคิดได้
ตำแหน่งขุนนางในโลกนี่นั้นเป็นอะไรที่พิเศษมาก ไม่ว่าจะอยู่ในอาณาจักรแห่งแสงหรืออาณาจักรแบล็กมูน มันก็มีช่องว่างมากมายที่สามัญชนจะกลายเป็นขุนนางได้
ที่เลห์แมนได้รับตำแหน่งนี้ ภายหลังจากผ่านการต่อที่อันตายนับไม่ถ้วนตลอดระยะเวลา 20ปี นั่นแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งนี้มันยากที่ได้รับมัน
เมอร์ลินที่เพิ่งจะมาถึงเมืองปรากาซและได้รับตำแหน่งบารอนอย่างรวดเร็ว มันจึงไม่แปลกที่เลห์แมนจะรู้สึกยินดีขนาดนี้ มันถึงเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับระกูลวิลสันอย่างมาก
เมอร์ลินพยักหน้าตอบรับและรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นเขาก็ตามคูกไปที่ปราสาทของเคานต์เซลิน
“ฮ่า ๆ พ่อมดเมอร์ลินมาได้จังหวะพอดีเลย ข้ากำลังตัดสินใจที่จะเลือกดินแดนให้กับท่าน”
เคานต์เซลินดูมีความสุขมาก ภายหลังจะที่ผ่านวิกฤติมาได้แล้ว ใบหน้าของเขามีชีวิตชีวามาก
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งขอรับ ท่านเคานต์” เมอร์ลินโค้งคำนับ
สำหรับเมอร์ลิน เขาไม่สนใจเกี่ยวของดินแดนมากนักแต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ขุนนางต้องมีเพราะในอนาคตดินแดนแห่งนั้นจะกำลังสำคัญของตระกูลวิลสัน เขาต้องระมัดระวังในการตัดสินใจ
พ่อมดเมอร์ลินนี่คือแผนที่ในอาณาเขตของข้า มีที่ไหนที่ท่านสนใจหรือไม่?”เคานต์เซลินดึงมือของเมอร์ลินอย่างอบอุ่น ขณะชี้ไปที่แผนที่ขนาดใหญ่
การอนุญาตให้เมอร์ลินเลือกดินแดนด้วยตัวเองนั้น แสดงให้เห็นถึงความเคารพที่สูงมากของเคานต์เซลิน
เมอร์ลินได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ภายหลังจากไตร่ตรองอย่างดีแล้ว เขาได้เลือกดินแดนที่อยู่ใกล้เมืองปรากาซมากที่สุด
เคานต์เซลินพยักหน้าเบา ๆ “เมืองคอนซิออน เป็นเป็นตัดสินใจที่เยี่ยมมากพ่อมดเมอร์ลิน ที่นั่นเป็นประชากรค่อนข้างหนาแน่น มีที่ดินอุดมสมบูรณ์และมีแหล่งแร่เหล็กทำให้สามารถเก็บภาษีได้เป็นจำนวนมากทุกปี”
หลังจากที่ได้ฟังข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับดินแดนแห่งนี้ มันก็ทำให้เมอร์ลินรู้ดีที่เลือกได้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเขาเห็นใบหน้าของเคานต์เซลินและคูกที่เผยรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา ราวกับว่ามีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับดินแดนนี้ที่เมอร์ลินยังไม่รับรู้
เมอร์ลินถามไปตรง ๆ ว่า “ที่ดินแดนแห่งนี้มีอะไรผิดปกติหรือขอรับ?”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ดินแดงแห่งนี้เคยเป็นดินแดนของบารอนเบลสัน” เคานต์เซลินได้เปิดเผยออกมาภายหลังจากที่ลังเลชั่วครู่
เมอร์ลินดูประหลาดใจ บารอนเนลสันเป็นพ่อของเมอแรงค์ซึ่งถูกเคานต์เซลินสั่งประหาร เขาไม่คาดคิดว่า ตัวเองจะเลือกดินแดนของตระกูลเนลสัน
อย่างไรก็ตามนี่เป็นดินแดนที่ดีที่สุด ในบรรดาทั้งหมดดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ใจในเรื่องนี้มาก เพราะอย่างไรตอนนี้สมาชิกตระกูลเนลสันได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว
ตอนนี้ตระกูลเนลสันหายไปจากประวัติศาสตร์แล้วและนับจากนี้ไป เมอร์ลิน วิลสัน จะเป็นนายคนใหม่ของดินแดงแห่งนี้