ตอนที่แล้วEp.977 - กระแสน้ำในหุบเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.979 - ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง

Ep.978 - การต่อสู้บนธารน้ำ


Ep.978 - การต่อสู้บนธารน้ำ

อย่างไรก็ตาม ความลึกของน้ำที่ปัจจุบันสูงแค่ข้อเท้า เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของฉินเฟิง เขาก้าวต่อไปข้างหน้า มุ่งสู่ตำแหน่งที่ลึกกว่า

ยิ่งไกล น้ำก็ยิ่งท่วมฉินเฟิง เวลานี้มันลึกจนไม่เห็นต้นขาอีกต่อไป สักพักเริ่มสูงขึ้นถึงเอว รอบๆอุดมไปด้วยพลังงานอันท่วมท้น แต่ขณะเดียวกัน แรงกดดันก็มากเป็นเงาตามตัว

ธารน้ำสายนี้ กำลังขับไล่ฉินเฟิง มันพยายามที่จะผลักฉินเฟิงออกไป

แน่นอนฉินเฟิงไม่ยอมละทิ้งโอกาสดีๆในการยกระดับเช่นนี้ สองขาของเขาดั่งศิลา ปักหลักนิ่งอย่างมั่นคง

เงาแห่งความตายที่อยู่รอบๆ เมื่อเห็นฉินเฟิง ทั้งหมดกระโจนเข้าโจมตี แม้ฉินเฟิงห่อหุ้มตัวเองด้วยอักษรรูนมืด แต่ตอนนี้กลับใช้งานไม่ได้ผล

ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิด กลิ่นอายแห่งชีวิตเพียงหนึ่งเดียวย่อมสะดุดตา  สามารถค้นพบได้โดยง่าย

“ก๊าซซซ!”

เงาแห่งความตายขนาดยักษ์ แหกปากร้องคำรามเกรี้ยวกราด พุ่งเข้าโจมตีฉินเฟิง ท่าทีราวกับว่าฉินเฟิงได้ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของมัน

“ล้านสับสังหาร!”

ฉินเฟิงยืนหยัดอยู่ในจุดเดิม กวาดฟันออกไปด้วยมีดเดียว เงาแห่งความตายขนาดยักษ์ถูกสังหารลงทันที! เบื้องหลังของเขาลอยล่องไปด้วยเก้าดารา บ่งบอกชัดว่าเอาจริงเต็มที่ นั่นเพราะฉินเฟิงทราบดี ว่ามิได้มีศัตรูแค่ตัวเดียวที่เข้ามา

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แทบจะในทันที เงาแห่งความตายอีกตัวตรงเข้ามา

ฉินเฟิงยืนหยัดต่อกรอยู่ในสายธาร เข่นฆ่าศัตรูจากทั้งหน้าหลัง

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงจำไม่ได้แล้วว่าสังหารเงาแห่งความตายไปกี่ตัว แต่เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายเลยกับการได้ดูดซับพลังงานจากพวกมัน หากยังเป็นเช่นนี้ต่อๆไปเรื่อยๆ น่าจะอีกสักราวๆ 10 วัน พลังสมาธิฉินเฟิงก็จะก้าวขึ้นสู่เลเวล A9 ได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ดื่มด่ำไปกับพลังงาน ตัดผ่านสู่เลเวล S

“นี่ขนาดแค่พลังสมาธินะ ถ้าเป็นร่างกายแล้วล่ะก็ ..”

ฉินเฟิงหัวเราะขมขื่น แม้พลังสมาธิของเขาจะยกระดับได้ง่ายกว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพ แต่พลังงานที่ต้องการไม่ถือว่าน้อยอย่างแน่นอน

“ไป๋หลี!” ฉินเฟิงเรียกคำหนึ่ง ท่ามกลางความมืดมิด ไป๋หลีปรากฏตัวข้างกายฉินเฟิง

หลังจากต่อสู้มาทั้งคืน ฉินเฟิงหมดแรง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ศัตรูไม่มีร่างกายเป็นตัวเป็นตน มันไม่มีพลังงานใดๆ ดังนั้นการสังหารนี้ไม่สามารถเติมเต็มกำลังภายใน หรือฟื้นฟูความความเหนื่อล้าของร่างกายได้

ฉินเฟิงต้องการพักผ่อน

ฉินเฟิงเข้าไปในมิติส่วนตัวของไป๋หลี ภายในมิติที่กระแสเวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึง

เมื่อฉินเฟิงปรากฏกายขึ้นอีกที เขาก็ยังอยู่ในน้ำ และมีเงาแห่งความตายสองตัวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

แต่เงาแห่งความตายเหล่านี้ยังไม่ทันได้โจมตีฉินเฟิง ก็เกิดการเปลี่ยนที่ผิดปกติขึ้น

ซ่าาาา!

กระแสน้ำเริ่มไหลย้อนกลับ จากเดิมที่มันเคยมีความสูงในระดับเอวของฉินเฟิง ไม่นานก็ลดลงมาถึงตำแหน่งต้นขา ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ถดถอย

เงาแห่งความตายเหล่านั้นคล้ายต้องการแช่อยู่ในน้ำตลอดเวลา พวกมันจากไปพร้อมกระแสน้ำที่ลดลง เหลือทิ้งไว้เพียงฉินเฟิง

‘ฉันควรจะตามพวกมันไปดีไหมนะ?’ ฉินเฟิงเกิดความลังเล แต่ไม่นานก็ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว พลังงานเช่นนี้ ใครจะรู้ มันอาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็ได้ หากไม่พบต้นกำเนิดของมัน บางทีอาจพลัดพรากจากกันไปตลอดกาล

ฉินเฟิงเริ่มวิ่งไปข้างหน้า

เขาเปิดใช้งานวิชาตัวเบา ความเร็วของเขาไวกว่าพวกเงาแห่งความมืด แต่ก็พบเรื่องน่าประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือไม่ว่าจะทำยังไง ฉินเฟิงก็ไม่สามารถไล่ตามกระแสน้ำได้ ไม่ช้ากระแสน้ำก็ลดลงจนไม่เหลือร่องรอย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กระแสน้ำแห้งขอด ฉินเฟิงกลับหยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน รู้สึกตะลึงลาน ก้มหน้ามองภาพบนพื้นด้วยความตกใจ

“เจ้าพวกนี้ … อย่าบอกนะว่าทั้งหมดเป็นศิลานรก?” ฉินเฟิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น

ที่เอ่ยว่าทั้งหมดก็ดูจะเกินจริงไปหน่อย แต่ในพลังสมาธิของฉินเฟิง ภายในรัศมี 100 เมตร มีศิลานรกอยู่อย่างน้อยก็ 100 ก้อน

ศิลานรกเหล่านี้ ก็เหมือนกับหินใต้ลำธาร กระจายตัวกันอยู่ใต้น้ำ ตอนนี้เมื่อกระแสน้ำหายไป หินก็เลยถูกเปิดเผยออกมา

เพียงแต่ว่า หากฉินเฟิงเห็น หมายความว่าเงาแห่งความตายตัวอื่นๆก็ต้องเห็นเช่นกัน พวกมันกระโจนเข้าฉกชิงอย่างบ้าคลั่ง

เปิดศึกครั้งใหญ่อีกคราว ฉินเฟิงไม่คิดเกรงใจ รวบเอาศิลานรกทั้งหมดมาไว้ในอ้อมแขน

คราวนี้รับทรัพย์ ร่ำรวยเงินทองอย่างแท้จริง!

“อยากจะรู้จังว่ากระแสน้ำจะพัดมาอีกครั้งเมื่อไหร่”

ฉินเฟิงตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วยความคาดหวัง

แต่เมื่อเขามุ่งต่อไปข้างหน้า กลับยังไม่เห็นแม้วี่แววของกระแสน้ำ แต่สามารถขุดศิลานรกได้เป็นจำนวนมาก

ในตอนนั้นเอง เบื้องหน้าของฉินเฟิง กลิ่นอายบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้านก็ปะทะเข้ามา

ไป๋หลีปรากฏกายออกจากพื้นที่มิติทันใด เอ่ยด้วยความประหวั่นว่า “อย่าเข้าไปลึกเกินกว่านี้ มีรูปแบบชีวิตที่น่าหวาดกลัวบางอย่างอยู่ ความแข็งแกร่งของมันส่งผลต่อพิกัดมิติ ทำให้ฉันไม่สามารถเปิดพื้นที่มิติได้”

ไม่สามารถเปิดพื้นที่มิติได้ ก็หมายความว่าไป๋หลีไม่อาจออกจากพื้นที่มิติ และไม่สามารถดึงฉินเฟิงเข้าไปในพื้นที่มิติเพื่อช่วยเขาจากภยันตรายเช่นกัน

สถานการณ์เช่นนั้น เท่ากับเป็นการทิ้งไพ่ใบใหญ่ในมือฉินเฟิง

ฉินเฟิงมองเข้าไปในความมืดมิด ที่ซึ่งมีสัตว์ร้ายไม่ทราบชนิดดักรออยู่ ความปรารถนาที่จะสำรวจพ่ายแพ้ต่อหลักเหตุและผล

“ก็ได้ ลองไปทางอื่นกันเถอะ”

“อื้ม!”

ไป๋หลีก็ไม่ต้องการให้ฉินเฟิงเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นเห็นด้วยกับคำพูดของเขา

ฉินเฟิงพยายามหาสถานที่อื่นดู แต่ทุกครั้งที่เขามุ่งหน้าลึกเข้าไปได้ไม่ไกล ก็มักจะพบสัตว์ร้ายทรงพลังตัวนี้ดักรออยู่เสมอ

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สามารถเดินเตร่ได้แค่บริเวณรอบนอกเท่านั้น

แม้พลังสมาธิจะไม่สามารถครอบคลุมทั้งทวีปได้ แต่ฉินเฟิงมีไป๋หลี เขาสามารถบอกให้ไป๋หลีใช้ท่ามิติข้ามชั้นดินเหนือหัว ขึ้นไปตรวจสอบเบื้องบน เพื่อบอกทิศทางแก่ตัวเองได้ สำหรับไป๋หลี นี่เป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง

“ตำแหน่งที่พวกเราอยู่กันตอนนี้คือภาคกลางของแผ่นดินใหญ่” ไป๋หลีบอกกล่าว

แน่นอน ว่าเป็นใต้ดินของภาคกลาง

ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงเคยคาดเดาที่มาของหุบเขาไขกระดูกมังกร ปรากฏว่าเขาเดาถูกจริงๆ แต่ภายในหุบเขาไม่ได้มีไขกระดูกมังกร สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงพลังงานแห่งความมืด ซึ่งเกรงว่านี่อาจมีค่ายิ่งกว่าไขกระดูกซะอีก

“ดูเหมือนความแข็งแกร่งของฉัน จะสามารถสำรวจได้แค่รอบๆเท่านั้น การได้รับเทคนิคจ้าวมังกรคำรนก่อนหน้านี้ เป็นเพราะโชคช่วย สัตว์ยักษ์ตัวนั้นไม่ได้เคลื่อนไหว แต่เจ้าสัตว์ยักษ์ตัวนี้คงไม่ใช่ ดังนั้นไม่ง่ายเลยที่จะต่อกร”

อย่าลืมนะว่า สัตว์ยักษ์พวกนี้ ทั้งหมดมีความแข็งแกร่งในเลเวล SS!

แม้กำลังภายในของฉินเฟิงจะอยู่ในเลเวล S อาจเรียกได้ว่าคงกระพันในกลุ่มเลเวล S ด้วยกัน ดังนั้นจึงสามารถสังหารผู้ใช้วรยุทธโบราณในระดับเดียวกันได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที

ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ใช้พลังเลเวล S ฉินเฟิงทำได้เพียงป้องกันตัวเท่านั้น ไม่สามารถต่อกรตรงๆได้

ความแข็งแกร่งทางกายภาพในเลเวล A4 และพลังสมาธิในเลเวล A8 ถือเป็นตะกั่วหนักที่คอยถ่วงขาฉินเฟิงเอาไว้

ความแข็งแกร่งระดับนี้ ในสายตาของผู้ใช้พลังเลเวล SS มันเต็มไปด้วยช่องโหว่ เป็นเรื่องง่ายที่จะจับจุดอ่อนแล้วสังหารเสีย

อย่างไรก็ตาม รอให้ฉินเฟิงสามารถไปถึงเลเวล S ได้อย่างเต็มรูปแบบก่อนเถอะ ถึงจุดนั้นต่อให้ศัตรูเป็นเลเวล SS ก็เกรงว่าจะไม่สามารถทำอะไรฉินเฟิงได้ และผู้ที่มีความแข็งแกร่งในระดับสามัญ อาจถูกสังหารโดยฉินเฟิง

“พอแค่นี้เถอะ ถอยกลับไปล่าเงาแห่งความตาย เพิ่มพูนพลังสมาธิของคุณก่อนดีกว่า แต่น่าเสียดายจริงๆ ที่ที่นี่ไม่มีไขกระดูกมังกร!”

“บางทีทวีปแห่งความตายนี้ อาจไม่มีสิ่งนั้นอยู่ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ คราวหน้าพวกเราค่อยเปลี่ยนไปบุกมิติที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งกว่านี้เถอะ” ไป๋หลีปลอมประโลม

“ถูกของเธอ”

ไป๋หลีเชิดคางขึ้น กล่าวว่า “พูดก็พูดเถอะ ฉันเติบโตถึงขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่เคยเดินทางท่องมิติเลย พฤติกรรมที่สัตว์ยักษ์มิติควรทำคือการเดินทางข้ามมิติ นั่นแหละถึงสามารถใช้ชื่อสัตว์ยักษ์มิติได้อย่างเต็มภาคภูมิ”

สายตาของฉินเฟิงอ่อนโยนลง เขารู้ดี ที่ไป๋หลียอมรั้งอยู่ที่นี่ ก็เพราะเขา

“ก็เอาสิ งั้นฉันจะไปกับเธอด้วย”

มุมปากของไป๋หลีปรากฏรอยยิ้ม “แน่นอน ฉันต้องพาคุณไปด้วยอยู่แล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด