ตอนที่ 86 โลกตกตะลึง (อีกแล้ว)
"ติ้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เย่เฉิน ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพผิงเป่ยแห่งอาณาจักรฮั่นอย่างเป็นทางการยกย่องเป็นข้าราชการระดับที่สาม!"
"ติ้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เย่เฉิน ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพผิงเป่ยแห่งอาณาจักรฮั่นอย่างเป็นทางการยกย่องเป็นข้าราชการระดับที่สาม!"
"ติ้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เย่เฉิน ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพผิงเป่ยแห่งอาณาจักรฮั่นอย่างเป็นทางการยกย่องเป็นข้าราชการระดับที่สาม!"
เสียงประกาศทั่วโลกเงียบไปชั่วคืน กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง
แต่การประกาศโลกครั้งนี้แตกต่างออกไป เหมือนหยดน้ำที่หยดลงในกระทะช่องแชทโลกก็ระเบิดขึ้นทันที
"เชี่ย! บอสเย่เฉินสุดยอดมาก บอสเย่เฉินทรงพลังและมีอำนาจเหนือกว่าใคร บอสเย่เฉินผู้ไม่แพ้ใคร!"
“ฮ่าฮ่าฮ่า ... รู้ไว้ว่าลูกพี่ลูกน้องของข้าน่าทึ่งมาก บอกเลยลูกพี่ลูกน้องของข้า เย่เฉินยังเป็นคนทรีน่ากลัวกว่านี้อีก!”
"เป็นอะไรไป ยังไม่รีบก้มกราบลูกพี่ลูกน้องของข้าเย่เฉินอีก ลูกพี่ลูกน้องของข้านั่นเป็นคนที่เก่งที่สุดหรือเจ้าไม่อาจยอมรับได้!"
“ไอ้พวกงี่เง่า เย่เฉินมีสัมพันธ์กับเจ้า? นั่นคือพี่ชายของข้า! พวกเจ้าเห็นแล้วหรือไม่ หลังจากนี้ข้าจะขอให้พี่ชายพาข้าไปที่บ้านของอ่องอุ้นเพื่อพบเตียวเซี่ยน!”
“ทำไมพวกเจ้าไม่เลิกโกหก หยุดทำตัวงี่เง่าได้ไหม เย่เฉินมีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้า?”
"พวกนี้ตลกจริงๆ กลับบ้านไปนอนเถอะไอ้พวกโง่! ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ข้ายังไม่เคยรู้จักแม่ทัพผิงเป่ย แต่นี้เป็นนายทหารระดับสามเลยนะ!"
“ข้าไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ ตอนนี้มีใครรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการไหม ไม่! นั่นเป็นสาเหตุที่เย่เฉินกลายเป็นแม่ทัพผิงเป่ยอันดับสามคนแรก!”
“มารดาเถอะ เจ้านั้นมีบุญอะไรขนาดนี้ นั้นคือตำแหน่งทางทหาร อะไรที่ทำให้เย่เฉินได้รับมันมา นี้มันไม่ยุติธรรมเลย เกมนี้มันยังมีความยุติธรรมไหม?”
"ถูกต้อง นี้มันทำให้ผู้คนเล่นเกมส์อย่างไม่มีความสุข โดยเฉพาะการเลื่อนขั้นเป็นระดับสาม ระดับสามในครั้งเดียว!"
“ใช่ ข้าต้องการคำอธิบาย หากไม่อธิบายให้ข้าฟัง ข้าจะไม่เล่นเกมนี้อีกแล้ว!”
"ใช่! ต้องให้คำอธิบายกับเราถ้าไม่ให้คำอธิบายเราจะไม่เล่นอีกต่อไป!"
"เลิกเล่นไปเลย +1"
"เลิกเล่นไปซะ +10086"
"ข้าดูเหมือนคนโง่เหรอ อย่าพูดเล่นนะ เรียกร้องความสนใจหรือเปล่า อย่าลืมว่าโลกนี้กลายเป็นอย่างไรไปแล้ว และอย่าลืมว่าทุกสิ่งในความเป็นจริงนั้นเปลี่ยนไปขนาดนั้น พวกเจ้ายังจะเลิกเล่นหรือเปล่า หรือพวกเจ้าอยากให้ข้าหัวเราะจนตาย เพื่อที่เจ้าจะได้รับมรดก? "
"คนงี่เง่าพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่ พวกเจ้าคิดว่าเพียงพูดว่าไม่อยากเล่นแล้วระบบจะอธิบายแก่พวกเจ้า?แล้วพวกเจ้าจะขอค่าชดเชย? น่าเสียดายข้าคิดว่าสมองของพวกเจ้าถูกทำลายไปแล้วเป็นแน่ "
“คงจะดีถ้าระบบสนใจเรื่องนี้น่าเสียดายที่ระบบไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย แต่สรุปแล้วสาเหตุที่เย่เฉินมาที่ลกเอี๋ยงก็เพื่อรับตำแหน่งแม่ทัพผิงเป่ยระดับสามใช่ไหม?”
"ข้าแค่อยากรู้ว่าเย่เฉินได้รับตำแหน่งแม่ทัพผิงเป่ยระดับสามได้อย่างไร!"
"ข้าอยากรู้จริงๆว่า เมื่อได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว จะต้องเจอกับการสู้รบที่ไม่สิ้นสุดหรือไม่หากนำทหารออกไปก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกวาดล้างโจรอีก"
"ผายลมเถอะ เจ้าแค่อยากได้ตำแหน่งอย่างเป็นทางการเพื่อใช้กำลังทางทหาร?"
"เย่เฉิน! ตอนนี้ฉัน XXX มาถึงลกเอี๋ยงและพักอยู่ในโรงเตี๊ยมหยูเหล่ย มาหาฉันถ้าคุณไม่มาฉันคงต้องทำด้วยตัวเอง!"
"เย่เฉิน, กองกำลังทรราชขอเชิญคุณเข้าร่วมกับเราด้วยความจริงใจและตำแหน่งของผู้นำของเรานั้นยังว่างอยู่! ตราบใดที่คุณเต็มใจมาเราจะมอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ อีกอย่างเรามีคลังเกมรู้หรือไม่ว่าตราบใดที่คุณเต็มใจที่จะมาแล้วคลังเกมของกองกำลังทรราชจะเป็นของคุณ! "
"บลัทโรแมน ขอเชิญพี่ชายเย่เฉินมาร่วมงานกับเรา เรามีดอกไม้งามนางแบบดาราและทุกอย่างอยู่ที่นี้ตราบใดที่พี่ชายเย่ เต็มใจที่จะมาท่านก็จะได้เป็นเจ้านายของพวกเรา!"
“กลุ่มผู้กล้าเลือดเหล็กขอเชิญพี่เย่เข้าร่วมด้วยความจริงใจ ตราบใดที่คุณเต็มใจมา พี่ชายสามารถพูดคุยเกี่ยวกับอะไรก็ได้!”
ช่องโลกวุ้นวายเป็นอย่างมาก บางคนแอบอ้างว่าเป็นญาติของเย่เฉิน บางคนอิจฉาบางคนเกลียดชังบางคนพยายามอย่างหนักเพื่อดึงดูดเย่เฉิน แต่พวกเขาก็แอบคุกคามเย่เฉิน
เนื่องจากร่างกายของเย่เฉิน ยังคงอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกค้นพบในโลกแห่งความเป็นจริง
และนี่เป็นวิธีที่กองกำลังบางส่วนตามหาอยู่และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะเจอเย่เฉินอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามกองกำลังเหล่านี้ไม่รู้ว่าเย่เฉินไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยที่ถูกสร้างขึ้นโดยผานกู่
ลกเอี๋ยงพระราชวังที่ประทับ
หลังจากที่เย่เฉินได้ยินคำเตือนของระบบทันใดนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น
บ้าเอ้ย! เพิ่มขึ้นสามระดับในครั้งเดียว!
เย่เฉินคิดว่าพระเจ้าฮ่นเลนเต้จะมอบตำแหน่งแม่ทัพเจิ้ยเว่ยที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
แต่กลับเป็นข้าราชการระดับสามแม่ทัพผิงเป่ย!
สำหรับระดับสามมีขีดจำกัดสูงสุดของกองกำลังคือ 300,000 นาย สำหรับเย่เฉินมันเพียงพอแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยตำแหน่งอย่างเป็นทางการนี้ เย่เฉินอยู่ในเมืองอิวจิ๋วเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับกองซุนจ้านอีก
เดิมทีเย่เฉินวางแผนที่จะมอบให้กองซุนจ้าน แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว แม้ว่ากองซุนจ้านจะประสบความสำเร็จในการปราบกบฏตามประวัติศาสตร์ แต่การได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการของกองซุนจ้านก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเย่เฉินแม้แต่น้อย
เพราะนั่นคือแม่ทัพจงหลางอันดับสี่ถึงแม้แต่แม่ทัพเบ็ดตเล็ดระดับสี่ก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้
ให้เปรียบเทียบกับเย่เฉินแม่ทัพผิงเป่ยระดับสาม
“แม่ทัพผิงเป่ยไม่ยังขอบคุณฝ่าบาทอีก” เตียวเหยียงมองไปที่เย่เฉินด้วยดวงตาที่สดใสและพูดด้วยรอยยิ้ม
"ฝ่าบาท,ขุนพลผิงเป่ย, เย่เฉิน, ขอขอบคุณในความเมตตาขององค์จักรพรรดิ ขอให้พระองค์มีอายุยืนหมื่นหมื่นปี!" เย่เฉินกลับมามีสติและรีบโค้งคำนับด้วยความ"ตื่นเต้น"
"แม่ทัพผิงเป่ย อิวจิ๋วข้าจะฝากไว้กับเจ้า จำไว้ว่าเจ้าต้องปราบกบฏให้หมดสิ้น ข้าให้อำนาจเจ้าตัดสินโทษทุกอย่าง!" พระเจ้าฮั่นเลนเต้หัวเราะแล้วพูด
พระเจ้าฮั่นเลนเต้พอใจกับ "ความตื่นเต้น" ของเย่เฉินมาก
เดิมทีพระเจ้าฮั่นเลนเต้ตั้งใจจะให้เย่เฉินเป็นแม่ทัพเบ็ดเตล็ดระดับสี่ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาถูกขัดขวางเขาก็โกรธมากเช่นกัน แต่เขาพอใจอย่างยิ่งกับสมบัติที่เย่เฉินส่งมอบให้เขา เขาจึงตัดสินใจมอบตำแหน่งแม่ทัพผิงเป่ยข้าราชการระดับสามให้แก่เย่เฉิน
ดวงตาของเย่เฉินสว่างขึ้นเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้
การแต่ตั้งไม่ใช่รางวัลใหญ่สำหรับเย่เฉินแต่คำพูดของจักรพรรดิมีค่าดั่งทางคำด้วยคำพูดนี้
เย่เฉินจะสามารถส่งกองกำลังไปไหนก็ได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องบอกกล่าวกับใครตราบใดที่เขาต้องการปราบกบฏ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เย่เฉินก็รีบโค้งคำนับและกล่าวว่า "ผู้น้อยจะปฏิบัติตามคำสั่ง!"
"ดีมาก! ข้าจะให้เวลาเจ้าสามเดือนอย่าลืมจับกบฏอิวจิ๋วให้ได้ในคราวเดียว!" พระเจ้าฮั่นเลนเต้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจจากนั้นกล่าวออกมา
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของพระเจ้าฮั่นเลนเต้ขุนนางฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหารต่างก็ผงะและจากนั้นสายตาของเย่เฉินก็รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง