Ep.976 - ผู้รับใช้ของเทพแห่งความมืด
Ep.976 - ผู้รับใช้ของเทพแห่งความมืด
ฉินเฟิงตอบสนองทันที
นี่นับเป็นครั้งที่สามที่เขาได้เผชิญหน้ากับสัตว์ยักษ์แห่งความมืด ฉินเฟิงรวบรวมกลิ่นอายของเขากลับคืน ไม่ดึงดูดเงาแห่งความตายอีกต่อไป ปลดปล่อยพลังสมาธิเข้าตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
แต่เมื่อฉินเฟิงเห็นแหล่งที่มาของเสียงคำราม ต้องตะลึงงันไปชั่วขณะ เพราะนี่ไม่ใช่สัตว์ยักษ์แห่งความมืดอย่างที่เขาคิดซะทีเดียว แต่มันคือเงาแห่งความตายเวอร์ชั่นขยายใหญ่
เงาแห่งความตายตัวนี้มีความสูงกว่า 20 เมตร ไม่มีความว่องไวหรืออบิลิตี้ที่แปลกประหลาดอันใด แต่กลับสามารถปลดปล่อยเงาแห่งความตายตัวเล็กออกมาได้ เวลานี้ผู้ใช้พลังเลเวล SS คนหนึ่งกำลังสู้กับมันอยู่ ส่วนเลเวล S ที่เหลือในกลุ่มคอยหลอกล่อเงาแห่งความตายตัวเล็กมาทางตน แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ยังคงสงวนพลังเอาไว้
“เงาแห่งความตายเวอร์ชั่นขยายร่างตัวนี้ สมควรครอบครองสมบัติอะไรบางอย่างเช่นเลือดมังกร มิฉะนั้นเลเวล SS ที่ไม่ใช่ผู้ใช้พลังธาตุมืดคนนี้ คงไม่ได้กำไรอะไรจากการสังหารมัน”
แต่เหตุผลในการต่อสู้ก็ใช่ว่าจะเถรตรงเช่นนั้นซะทีเดียว ยังมีในกรณีอื่นอีก อย่างเช่นหลังจากได้สินสงครามมาแล้ว ยังสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเงินตราที่มีมูลค่าเท่าเทียมกับผู้อื่นได้
ฉินเฟิงรู้ดี ว่าในพันธมิตรมนุษย์ แม้เหรียญพลังงานจะถูกใช้เป็นสกุลเงินสากล แต่ในในระดับสูงยิ่งกว่า ยังมีสกุลเงินอื่นที่ใช้แลกเปลี่ยนกันอีก มันคือศิลาศักดิ์สิทธิ์!
คราวก่อนฉินเฟิงได้รับศิลาศักดิ์สิทธิ์มากว่า 3,000 ก้อน กล่าวได้ว่าเขากลายเป็นเศรษฐีในระดับสูง แต่เจ้าตัวไม่ได้ใช้แลกเปลี่ยนอะไร เพราะทักษะลับกลืนดาราของตน เป็นกระบวนท่าวรยุทธชั้นเลิศอยู่แล้ว
ดังนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาสำรวจ อาจกำลังมองหาศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดอยู่ก็ได้ แต่ขึ้นชื่อว่าหุบเขาไขกระดูกมังกร ย่อมบ่งบอกว่าอาจมีเลือดมังกรหรือสมบัติอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับมังกรอยู่เช่นกัน
ที่คิดว่ามากที่สุดก็สมชื่อ คงเป็นไขกระดูกมังกร แต่ฉินเฟิงยังหามันไม่เจอเลย
“ในเมื่อพบพาน ก็ถือว่ามีโชคชะตาต่อกัน ฉันจะขอมอบของขวัญให้พวกคุณเอง!” จิตใจของฉินเฟิงเริ่มคิดหาแผนการ ดูท่าว่าคนกลุ่มนี้จะตกอยู่ในสภาวะชะงักงันเช่นนี้ไปอีกสักพัก ในระยะเวลาอันสั้นคงไม่สามารถทำอะไรกับเงาแห่งความตายตัวใหญ่ได้
ฉินเฟิงถอยออกมา หยิบผลึกโลหิต และพุ่งตรงเข้าไปอีกครั้ง
ไม่นาน รอบกายฉินเฟิงก็ถูกห้อมล้อมโดยฝูงเงาแห่งความตาย
“”
ปริมาณน่าจะสัก 300 ตัว แต่สำหรับกลุ่มนี้ มันน่าจะเพียงพอให้สะบั้นฟางเส้นสุดท้ายที่พวกเขาเหลืออยู่!
ฉินเฟิงพุ่งไปยังตำแหน่งของเงาแห่งความตายตัวยักษ์
“ไป๋หลี ออกมาช่วยฉันที”
“รับทราบ!” ในจิตสำนึก ไป๋หลีส่งเสียงตอบกลับมา
แผนการนี้ของฉินเฟิง ยังคงมีความเสี่ยงอยู่เล็กน้อย แต่หลังจากครึ่งชั่วโมงที่คอยวิ่งล่อและสำรวจไปพลางๆ ฉินเฟิงก็สามารถรู้จักหุบเขาไขกระดูกมังกรได้ระดับหนึ่ง สำหรับคนอื่นๆมันคือสถานที่อันตราย แต่สำหรับฉินเฟิงนี่ไม่ต่างจากมัจฉาได้น้ำ
“ทักษะก้าวทะลวงมิติ!” ฉินเฟิงทะยานออกจากที่ซ่อนของเขา
“ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ ..”
กลิ่นอายจากการถ่ายทอดพลังสมาธิของเงาแห่งความตาย ทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกตัวทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
“อา! เงาแห่งความตายพวกนี้มาจากที่ไหนกัน? เร็วเข้า! รีบสกัดไว้ อย่าให้พวกมันเข้ามา!”
“จะบ้ารึไง? จำนวนมากขนาดนี้ ไม่วิ่งหนีก็ได้แต่รอความตายแล้ว บิดาเลิก! ช่างหัวมัน ไม่สู้แล้ว!”
เลเวล S กลุ่มนี้ไม่ได้สามัคคีกันตั้งแต่แรก เป็นธรรมดาเมื่อยามเภทภัยมาถึง พวกเขาจะไม่ยอมเผชิญกับปัญหา กระเจิงหลบลี้ไปคนละทิศทาง
ณ ขณะนี้เงาแห่งความตายขนาดยักษ์เริ่มพร่าเลือน อักษรรูนมืดบนตัวมันคล้ายล่มสลายออกจากกัน ฉินเฟิงระเบิดอบิลิตี้ทรงพลังออกมาทันที
“เสียงเพรียกแห่งความตาย!”
ฉินเฟิงชี้นิ้วออกไป จี้ลงตรงตำแหน่งที่เลเวล SS กำลังต่อสู้กับเงาแห่งความตายขนาดยักษ์
ทั้งเนื้อทั้งตัวของเลเวล SS ปรากฏชั้นน้ำแข็งบางๆเข้าเกาะกุม แต่ในพริบตาเดียว มันก็ละลายหายไป ราวกับว่ามีเปลวเพลิงร้อนแรงลุกโชนบนร่างเขา
และแน่นอน ว่ามีเปลวไฟลุกโชนจริงๆ(หมายถึงเริ่มมีน้ำโห) เวลานี้เกรงว่าอีกฝ่ายคงโกรธแทบจนแทบระเบิดออกมา
“กล้าดียังไง!”
ด้วยระดับที่สูงกว่าถึงหนึ่งช่วงชั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากลับไม่อาจข่มขวัญผู้ลงมือได้ ไม่ต้องบรรยายว่าเลเวล SS โกรธมากแค่ไหน
ฉินเฟิงไม่ตอบอีกฝ่าย ช่วงเวลาต่อมา มีดกษัตริย์ครามถูกชักขึ้นมาในกุมมือเขา
“กระบวนท่าวิญญาณสะบั้น : ล้านสับสังหาร!”
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉินเฟิงสำแดงล้านสับสังหารหลังจากที่เขาอัพเกรดมีดกษัตริย์คราม ดวงดาราทั้งเก้าปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขา รำแพนอยู่บนอากาศ กำลังภายในท่วมท้นใบมีด เจาะทะลุเงาแห่งความตายที่สูงกว่า 20 เมตรในพริบตา
ในเสี้ยวพริบตา เงาแห่งความมืดกลายเป็นบิดเบี้ยว จากนั้นพังครืน แตกสลายในฉับพลัน
อักษรรูนมืดนับไม่ถ้วนกระจายไปทุกทิศทาง ในตำแหน่งที่เงายักษ์เคยยืนอยู่ ปรากฏศิลานรกขนาดเท่ากำปั้น
ผู้ใช้พลังเลเวล SS สลัดหลุดอบิลิตี้เสียงเพรียกแห่งความตาย เตรียมเข้าคว้าศิลานรก แต่ทันใดนั้นเอง ในอากาศที่ว่างเปล่าเบื้องหน้าเขาเกิดการบิดเบือน แสงสีเงินสาดไสวออกมา แบ่งแยกมิติฝั่งเขากับเบื้องหน้าออกจากกัน
“เทคนิคเขตแดนมิติ : ผนึกลูกบาศก์!”
โดยปกติแล้วผนึกลูกบาศก์นี้ย่อมไม่สามารถกักขังเลเวล SS เอาไว้ได้ แต่มันสามารถกักขังเงาขนาดใหญ่พร้อมกับฉินเฟิงได้
“พลังพิเศษดูดกลืน!”
ฉินเฟิงเร่งมือโดยเร็วที่สุด กระแสวังวนก่อตัวขึ้นระหว่างคิ้วของเขา สูบเอาสินสงครามจากเงาแห่งความตายขนาดยักษ์เข้าสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึก
ทันใดนั้นเอง ฉินเฟิงสัมผัสได้ว่า เขาเกิดความรู้แจ้งในอบิลิตี้แห่งความมืดเพิ่มขึ้นอีกเทคนิคหนึ่งแล้ว
“เทคนิคผู้รับใช้เทพแห่งความมืด?”
ฉินเฟิงรู้สึกได้ ว่าหากอบิลิตี้นี้ถูกปลดปล่อยออกมา เขาจะสามารถสร้างผู้รับใช้เทพแห่งความมืดตามความแข็งแกร่งของตนเอง นี่ให้อารมณ์ประมาณเดียวกับสัตว์ร้ายพันธสัญญาสามารถสั่งการให้พวกมันทำบางสิ่งบางอย่างได้ และด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง เขาสามารถสร้างผู้รับใช้ได้เจ็ดคน!
จริงอยู่ ว่ามันง่ายที่จะใช้งาน แต่เห็นได้ชัดว่าผู้รับใช้เทพแห่งความมืดนี้มิใช่อบิลิตี้เลเวล SS อาจเป็นแค่เลเวล S
ฉินเฟิงไม่มีเวลาศึกษามัน เขาดูดซับพลังสมาธิ และศิลานรกขนาดเท่ากำปั้นเข้าสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึก
เปรี้ยงงงง! ผนึกลูกบาศก์ถูกทำลายอย่างรุนแรง ผู้ใช้พลังเลเวล SS สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะสับฉินเฟิงเป็นชิ้นๆ
ทว่าที่ประจักษ์สู่สายตาเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นเงาแห่งความตายขนาดยักษ์ หรือสมบัติที่แฝงอยู่ข้างในมัน ทั้งหมดล้วนหายไป
“กล้าดียังไงมาปล้นของจากฉัน! อยากไปเยี่ยมยมบาลแล้วใช่ไหม!!”
เลเวล SS ตวาดลั่น ง้างแขนเตรียมโจมตี
แต่ในจังหวะนั้นเอง ฉินเฟิงที่อยู่เบื้องหน้า แยกตัวเป็นร่างเงานับไม่ถ้วน
“ทักษะหมื่นภูติ!”
เงาเสมือนนับพันหมื่นกระเจิงหลบหนีไปทุกทิศทาง
“แกคิดหรือว่าแค่ใช้วิธีนี้แล้วจะสามารถหลบหนีไปจากบิดา? ตายซะ!!!”
เลเวล SS ฟาดโจมตี เสมือนดั่งขุนเขาไท่ซาน ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นจากกำลังภายใน บดขยี้ลง
บรึ้มมมมมม!
พื้นดินสั่นสะเทือน ทว่าสีหน้าของผู้ใช้พลังเลเวล SS กลับเปลี่ยนไป เขายกฝ่ามือขึ้น และพบว่าตำแหน่งที่บดขยี้ลง เหลือทิ้งไว้เพียงอักษรรูนแห่งความืด ไม่มีร่างของฉินเฟิงรวมอยู่ด้วย
เขากระจายพลังการรับรู้ทันที และค้นพบว่าสามารถตรวจจับฉินเฟิงได้ถึงหกคน แยกย้ายไปในทิศทางที่ต่างกัน
บนใบหน้าของตัวตนทรงอำนาจผู้นี้ ดำคล้ำแทบจะกลายเป็นสีเดียวกันกับถ้ำไขกระดูกมังกร
…
ฉินเฟิงสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างง่ายดาย “อบิลิตี้ใหม่มีประโยชน์มากทีเดียว!”
อบิลิตี้นี้ไม่เพียงปลดปล่อยผู้รับใช้แห่งความมืดออกมา แต่เจ้าของมันยังสามารถประสานกลิ่นอายลงบนตัวผู้รับใช้ได้ ส่งผลให้ยากนักที่จะแยกแยะระหว่างผู้รับใช้แห่งความมืด กับตัวเจ้าของมันจริงๆ นอกจากนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่คุกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของจ้าวเหนือหัว หากหายไปไกลแล้ว โอกาสหาพบแทบไม่มี
เป็นความสามารถที่เยี่ยมไปเลย!
“ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเจ้าสิ่งนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถสำรวจสถานการณ์รอบๆหุบเขาไขกระดูกมังกรนี้ได้ง่ายขึ้น!”
เมื่อคิดได้ ฉินเฟิงก็เรียกผู้รับใช้แห่งความมืดที่เหลือกลับมา จากนั้นปลดปล่อยผู้รับใช้แห่งความมืดตนที่เจ็ดอีกครั้ง เขามอบผลึกโลหิตแก่พวกมัน สั่งให้แยกย้ายไปคนละทิศทาง
ถึงจุดนี้ ฉินเฟิงไม่ต้องล่อเหยื่อด้วยตนเองอีกต่อไป ไม่เพียงแค่นั้น แต่ผู้รับใช้แห่งความมืดทั้งเจ็ดยังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ต่างกัน ใช้เวลาไม่ถึง 2 - 5 นาที พวกมันก็ส่งข่าวกลับมา ว่าค้นพบการดำรงอยู่คล้ายสัตว์ยักษ์แห่งความมืดอีกตัว
“นี่มันเหมือนกับการมีเพื่อนร่วมทีมที่พร้อมยอมโดนฆ่า สามารถเป็นตัวรับกระสุนได้ทุกเมื่อเลย!” ฉินเฟิงยิ้มกว้าง ก้าวเดินไปยังทิศทางที่ได้รับทราบข่าวสาร